ตอนที่ 35
ตอนที่ 35 ไม่มีใครออกตัวให้ความช่วยเหลือ
ตี๋ชิวเยวี่ยตั้งใจเดินรั้งท้าย ความจริงเธอไม่เห็นด้วยกับถ้อยคำของอู่เจิ้งต้าวเมื่อสักครู่อย่างมาก เด็กผู้หญิงรักสวยรักงามเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิด ทำไมต้องไม่เห็นดีเห็นงามด้วยขนาดนั้น?
เธอที่เป็นเพียงลูกสะใภ้คนหนึ่งและอุปนิสัยของเธอที่ไม่แข็งกร้าว ต่อให้เห็นใจอู่เหมยมากเพียงใดก็ไม่อาจออกหน้าช่วยเธอได้ ปีหน้าจะมีการสอบเลื่อนขั้นเป็นศาตราจารย์แล้ว เธอยังต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าสองอีกต่างหาก!
“เหมยเหมย มัวยืนอยู่ทำไม? รีบเข้าบ้านเร็ว!”
ตี๋ชิวเยวี่ยปรายตามองอู่เหมยด้วยความเห็นใจแวบหนึ่งพลางโบกมือให้เธอหน่อยๆ อู่เหมยมองเธออย่างขอบคุณ ตอนนี้เธอต้องการความรักอันน้อยนิดนี้มาช่วยให้หัวใจเธออบอุ่นอย่างมากทีเดียว
พอกุมมือหนาอุ่นร้อนของตี๋ชิวเยวี่ยจนอู่เหมยใจนิ่งขึ้น เดินตามตี๋ชิวเยวี่ยเข้าไปในบ้านช้าๆ หากแหงนหน้ามองจากมุมนี้จะเห็นคางเป็นชั้นๆ ที่อุดมสมบูรณ์ของตี๋ชิวเยวี่ยก็ยิ่งรู้สึกอุ่นใจ
อู่เหมยอดไม่ได้ที่อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่เก็บไว้ในใจออกมา ตั้งแต่เกิดใหม่ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เธอพูด ล้วนแต่เชื่ออู่เจิ้งซือกับเหอปี้อวิ๋น คุณป้าจะเป็นเหมือนคนอื่นหรือไม่?
“คุณป้าคะ หนูไม่มีตุ่ม ไม่ได้ไม่อยากไปโรงเรียนด้วย!” อู่เหมยพูดเสียงเบา
ตี๋ชิวเยวี่ยชะงัก ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ถึงเข้าใจในสิ่งที่อู่เหมยกล่าว พลางมองใบหน้าสวยงามของสาวน้อยอย่างตกตะลึง เมื่อได้เห็นสีหน้าจริงจังที่มองมาด้วยสายตาคาดหวังปนหยดน้ำตา
ไม่รู้ทำไม ตี๋ชิวเยวี่ยไม่นึกสงสัยเลยว่าอู่เหมยกำลังโกหก เธอเชื่อหลานสาวคนเล็กคนนี้
แต่ต่อให้เธอเชื่อแล้วอย่างไรล่ะ อู่เหมยไม่ใช่ลูกสาวของเธอแถมคุณพ่อคุณแม่ยังอยู่ทั้งคู่ คุณป้าอย่างเธอเกรงว่าจะไม่เหมาะหากยื่นมือเข้าไปยุ่งถึงแม้ว่าเธอจะเห็นใจหลานสาวคนเล็กคนนี้มากแค่ไหนก็ตาม
“ตอนนั้นเธออายุเท่าไหร่เองจำอะไรได้บ้าง? อีกอย่างคุณพ่อคุณแม่เธอจะพูดผิดได้ยังไงล่ะ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าคิดอะไรเหลวไหล มา วันนี้เป็นวันสำคัญมีของอร่อยๆ เต็มเลย ดูสิเธอผอมขนาดไหน เดี๋ยวทานให้เยอะๆ เลยนะ!”
อู่เหมยลอบถอนหายใจเสียงเบา เธอรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรคาดหวัง ในครอบครัวนี้ไม่มีใครช่วยเธอได้ ไม่มีแม้แต่คนเดียว ต่อให้เป็นคุณป้าที่แสดงท่าทีเป็นมิตรกับเธอเพียงคนเดียวคนนี้ก็ตาม
ตี๋ชิวเยวี่ยชะงักฝีเท้ากึก เสียงถอนหายใจของอู่เหมยแผ่วนักแต่เธอก็ได้ยินอยู่ดีจนเริ่มหวั่นไหว เด็กผู้หญิงอายุสิบสองควรมีชีวิตร่าเริงแจ่มใสไม่ต้องคิดมากอะไรแท้ๆ อู่เหมยกลับทำท่าคล้ายคุณยายแก่ๆ เธอมีชีวิตอย่างไรในบ้านกันแน่?
อดใจอ่อนลงไม่น้อย แตะศีรษะอู่เหมยเบาๆ พูดเสียงอ่อน “เหมยเหมย บางเรื่องอย่าคิดมาก ยิ่งคิดมากก็ยิ่งเหนื่อยนะ!”
อู่เหมยเงยหน้ามองตี๋ชิวเยวี่ย เผยยิ้มอ่อนๆ “หนูรู้แล้วค่ะ คุณป้า”
ในเมื่อไม่มีใครยอมช่วยเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องพึ่งตัวเองเสียแล้ว!
ทุกคนรวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงในห้องโถงขนาดไม่ใหญ่นัก ท่านผู้เฒ่าอู่กำลังตำหนิอู่เจิ้งซือเสียงดุดันโดยอู่เจิ้งซือโค้งตัวลงไม่กล้าโต้กลับแม้แต่ประโยคเดียว เช่นเดียวกับเหอปี้อวิ๋น อู่เยวี่ยกลับถูกฮูหยินผู้เฒ่าอู่ดึงตัวไปปลอบโยนข้างๆ สนิทสนมเสียเหลือเกิน
บนโซฟามีเด็กหนุ่มสามคนกับเด็กสาวคนหนึ่งกำลังแย่งเปิดช่องโทรทัศน์อย่างออกรส ดูแล้วความสัมพันธ์ดีไม่เลว คนโตสองคนคือลูกชายของอู่เจิ้งต้าว หรืออู่เจี๋ยอายุสิบเจ็ดกับอู่เชาอายุสิบสอง อู่เชาเป็นเพื่อนร่วมห้องของอู่เหมย ส่วนพี่น้องอีกคู่คือลูกของอู่เจิ้งหง ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลอู่ จี้เหวินเฟิงอายุสิบห้ากับจี้เหวินฮุ่ยอายุสิบสอง
จี้เหวินฮุ่ยกับอู่เชาแม้จะอยู่คนละห้องแต่ผลการเรียนไม่แย่ ถึงจะไม่ดีเทียบเท่าอู่เยวี่ยแต่ก็นับได้ว่าเป็นเซียนแห่งการเรียนแล้ว จี้เหวินฮุ่ยพ่ายแพ้ในการแย่งชิงดูช่องที่เธออยากดูเลยหันไปอ้อนชายที่นั่งข้างๆ แทน
อู่เหมยเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนี้ก็เบิกตากว้าง หัวใจเต้นรัวจนแทบเด้งถึงคอหอย