ตอนที่ 30
ตอนที่ 30 ไม่ใช่คนดีสักคน
คุณย่าหยางพูดเสียงดังและจริงจัง เหอปี้อวิ๋นทำหน้าไม่ถูกได้แต่ฝืนยิ้มตอบ “อาจารย์แม่หยางพูดถูก เด็กผู้หญิงจะต้องเลี้ยงดูอย่างเอาอกเอาใจ ฉันจะระวังให้มากกว่านี้ค่ะ”
“อืม เด็กเป็นลูกแท้ๆ ของพวกเธอ ถ้าเป็นอะไรไปสุดท้ายคนที่เสียใจก็พวกเธอไม่ใช่หรือไง?”
คุณย่าหยางเห็นแก่เหอปี้อวิ๋นเลยไม่ได้พูดเปิดโปงคำโกหกของเธอซึ่งๆ หน้า เหอปี้อวิ๋นถึงได้รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยพลางคิดในใจว่าจะกลับไปสั่งสอนอู่เหมยที่บ้าน
เด็กผู้หญิงต้องเลี้ยงดูอย่างเอาอกเอาใจ?
อย่างอู่เหมยต้องตีแรงๆ เจ้าลูกทรพีที่เลี้ยงเสียข้าวสุก เกิดมาเพื่อทวงหนี้ชัดๆ ทำเอาเธอเสียหน้าที่สุด!
อู่เจิ้งซืออุ้มอู่เหมยก่อนจะขอตัวลากับคนตระกูลเหยียน เหมยซูหานขอตัวกลับไปตั้งแต่อู่เหมยเข้าไปทายาในห้องแล้ว ท้องฟ้าเปลี่ยนสีมืดลงเรื่อยๆ ดวงจันทร์สีนวลเคลื่อนตัวมาอยู่เหนือต้นไม้ราวกับมีผ้าผืนบางปกคลุมบนนั้น
สองพี่น้องตระกูลเหยียนอาบน้ำเสร็จออกมา เหยียนหมิงต๋าเห็นว่าคนที่แอบชอบกลับไปแล้วเลยถาม “คุณย่า พวกคุณครูอู่กลับไปแล้วเหรอ?”
“อืม ทายาเสร็จก็ไปแล้ว รีบมาทานข้าวเร็วๆ ฉันไปอุ่นน้ำซุปแตงซี่โครงนี่ก่อน”
คุณย่าหยางยกถ้วยน้ำซุปถ้วยใหญ่เข้าห้องครัวไปไม่นานก็ออกมา คนทั้งครอบครัวเดินมานั่งล้อมวงทานข้าวรอบโต๊ะ
เหยียนหมิงต๋าถามด้วยความสงสัย “คุณย่า เหมยเหมยไส้ติ่งอักเสบหรือเปล่า? เธอบอกปวดท้องตั้งแต่หลังเลิกเรียนแล้ว”
เหยียนหมิงซุ่นที่กำลังแทะเนื้อซี่โครงอย่างเงียบๆ อยู่นั้นชะงักกึก ราวกับมีเสียงอ่อนหวานของเด็กสาวดังขึ้นข้างหู ‘พี่หมิงซุ่น พี่แบกหนูได้มั้ย?’
หรือเพราะตอนนั้นเขาไม่ได้แบกอู่เหมยเลยเป็นเหตุให้อาการปวดท้องทวีความรุนแรงมากขึ้น?
ฮูหยินผู้เฒ่าหยางแค่นเสียง “ปวดท้องอะไรกันล่ะ ยายเด็กคนนั้นถูกแม่เธอตี เหอปี้อวิ๋นนี่ใจดำจริงๆ บนตัวยายนั่นไม่มีที่ว่างเหลือเลย บวมฉึ่งแล้วยังไม่ทายาให้ลูกอีก แม่เลี้ยงยังไม่ใจร้ายเท่าเธอเลย!” เธอจิปาก พร้อมพูดไปด้วย
“พรวด!”
เหยียนหมิงต๋าพ่นข้าวในปากออกมาแต่โชคดีที่มีถ้วยรองรับอยู่ ท่านผู้เฒ่าถลึงตามองเขาอย่างไม่พอใจแต่เหยียนหมิงต๋าไม่รู้ตัวสักนิด ร้องเสียงหลงด้วยความตกตะลึง “คุณน้าเหอตีเหมยเหมย? เป็นไปได้ยังไง? คุณน้าเหออ่อนโยนขนาดนั้น เยวี่ยเยวี่ยบอกว่าคุณแม่เธอไม่เคยพูดแรงๆ กับเยวี่ยเยวี่ยด้วยซ้ำ!”
เหยียนหมิงซุ่นสับสนหน่อยๆ ที่แท้ก็ไม่ได้ปวดท้องแต่ถูกตี?
ได้ยินถ้อยคำของน้องชายเขาก็เกิดหงุดหงิดอย่างประหลาด ผู้หญิงอ่อนโยนจะตีคนไม่เป็นหรือ?
ผู้หญิงบางคนเสแสร้งเก่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอย่างเช่นแม่เลี้ยงของเขา ตอนเด็กตีเขาลับหลังผู้คนมาไม่น้อยเลยเชียว
“สิ่งที่เห็นกับตาเป็นเรื่องจริงแต่ที่ได้ยินน่ะไม่จริง แกไม่เคยใช้ชีวิตที่บ้านตระกูลอู่มาก่อนแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคุณน้าเหอเป็นคนแบบไหน?” เหยียนหมิงซุ่นอดเถียงกลับไปไม่ได้
“เยวี่ยเยวี่ยเป็นคนบอก เยวี่ยเยวี่ยบอกว่า...”
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเสียงเย็น “อู่เยวี่ยพูดอะไรแกก็เชื่อหมดนั่นแหละ ก่อนหน้าอู่เยวี่ยบอกว่าน้องสาวของเธอไม่สวย ยังให้แกเป็นแพะรับบาปแทนอีก”
“เกิดอะไรขึ้น? แพะรับบาปอะไร?” คุณย่าหยางถาม
เหยียนหมิงซุ่นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้สั้นๆ คุณย่าหยางสีหน้าไม่ดีเท่าไรพลางกล่าวต่อหลานชาย “จากนี้ไปอยู่กับอู่เยวี่ยให้น้อย ยายเด็กคนนี้จิตใจไม่ซื่อตรงแถมวาจายังเชื่อถือไม่ได้”
“คุณย่า เยวี่ยเยวี่ยทั้งอ่อนโยนทั้งใจดี ไม่ดีตรงไหนล่ะ?” เหยียนหมิงต๋าโวยวายอย่างไม่พอใจ
ท่านผู้เฒ่าพูดเสียงนิ่ง “ไม่ใช่แค่อู่เยวี่ยจิตใจไม่ซื่อตรง ฉันว่าอู่เหมยก็ไม่เบา สองพี่น้องคู่นี้ไม่ใช่คนดีสักคน ต่อจากนี้อย่าไปเข้าใกล้ให้มาก”
แผนเล็กน้อยของอู่เหมยปิดท่านผู้เฒ่าไม่พ้น แค่มองปราดเดียวก็รู้ทันทะลุปรุโปร่ง แม้จะเห็นใจกับสิ่งที่อู่เหมยได้ประสบพบเจอแต่ท่านผู้เฒ่าเป็นคนไม่ชอบเด็กที่เจ้าแผนการอยู่แล้ว ย่อมรู้สึกไม่ดีต่ออู่เหมยเช่นกัน