ตอนที่ 28
ตอนที่ 28 หลอกลวง
คุณย่าหยางอายุราวหกสิบกว่าๆ แต่ผมยังคงดำเงาวับไม่เห็นผมหงอกแม้แต่เส้นเดียว หน้าตาสดชื่นดูมีชีวิตชีวา ไม่เหมือนคนอายุหกสิบเลย
เธอให้อู่เจิ้งซืออุ้มอู่เหมยเข้าไปในบ้าน ท่านผู้เฒ่าเหยียนล้างมือออกมาพอดีก็ตกใจถามว่าเป็นอะไรไป เหยียนหมิงต๋าปากไวรีบอธิบายให้ฟัง ท่านผู้เฒ่าเหยียนปรายตามองมาที่อู่เหมยด้วยแววตาคมเฉี่ยวจนอู่เหมยไม่กล้าเงยหน้า
ท่านผู้เฒ่าผู้นี้ถือว่าเป็นผู้อาวุโสของโรงเรียนอี้จงอย่างแท้จริง เข้ามาสอนตั้งแต่เพิ่งเริ่มก่อสร้างโรงเรียนจึงได้ทุ่มเทกว่าครึ่งชีวิตให้กับโรงเรียนนี้ ทำให้เขามีตำแหน่งที่ค่อนข้างสูงพอสมควร แม้แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนยังต้องให้ความเคารพนับถือ
เพราะผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของเขา จะไม่ให้ความเคารพได้อย่างไรเล่า!
“อาจารย์แม่หยาง เหมยเหมยของฉันบอกว่าปวดท้อง ช่วยเอายาเตตราไซคลีนให้สักหน่อยก็พอ” เหอปี้อวิ๋นยิ้มกล่าว
คุณย่าหยางกล่าวอย่างไม่พอใจ “เจ็บท้องก็แบ่งได้หลายสาเหตุ จะทานยาเตตราไซคลีนมั่วๆ ได้ยังไง ถ้ากินยามั่วๆ อย่างพวกเธอจะมีคุณหมออย่างเราไว้ทำไม!”
โดนฮูหยินผู้เฒ่าตำหนิใส่รอบหนึ่ง เหอปี้อวิ๋นจึงไม่กล้าพูดอะไรตามใจปากอีกแล้ว หวังแค่ฮูหยินผู้เฒ่าอย่าเห็นแผลบนตัวยายคนนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องอับอายขายหน้าแน่ๆ!
สมองของอู่เจิ้งซือหมุนอย่างรวดเร็ว แค่ในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งนาทีเขาได้คาดคิดถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน สุดท้ายตัดสินใจว่าไม่ว่าอย่างไรเขาจะเสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด หากหลบหนีไม่พ้นก็จำต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อรักษาหน้าตอนนี้ไว้ก่อน
“อาจารย์แม่หยาง รบกวนช่วยดูทีว่าเป็นยังไงบ้าง เหมยเหมยร้องปวดท้องตั้งแต่ออกจากบ้าน ไม่รู้ว่าเธอปวดตรงไหน” อู่เจิ้งซือพร่ำร้องอย่างร้อนใจ
อู่เหมยมองอู่เจิ้งซืออย่างผิดหวัง จนถึงตอนนี้เธอเพิ่งเคยเห็นความหลอกลวงจากคุณพ่อตัวเอง ทั้งที่ก่อนออกจากบ้านเธอได้เปิดแผลให้อู่เจิ้งซือดูแล้วแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับแสร้งทำเป็นไม่รู้ เหอะๆ มิน่าอู่เยวี่ยถึงเสแสร้งเก่งนัก ที่แท้ก็ถ่ายทอดจากอู่เจิ้งซือมาทั้งหมด!
เดิมทีอู่เหมยยังคาดหวังในตัวอู่เจิ้งซืออยู่หน่อยๆ แต่ตอนนี้หมดสิ้นทุกความรู้สึกต่อคุณพ่อคนนี้แล้ว!
ในเมื่อพวกเขาใจร้ายกับเธอ อย่าหาว่าเธอใจร้ายบ้างแล้วกัน!
อู่เหมยกัดฟัน ตัดสินใจบีบน้ำตาให้ดวงตากลมโตปริ่มด้วยน้ำใส เรียกสายตาเห็นใจจากคนพบเห็น
“คุณย่าหยาง หนูเจ็บจังเลย เจ็บตรงนี้ เจ็บตรงนั้นด้วย เจ็บไปหมด”
อู่เหมยชี้ไปตามร่างกายไม่ว่าจะหน้าอกด้านหน้าหรือแผ่นหลังไปจนถึงแขนและไหล่ เหอปี้อวิ๋นสูญเสียความใจเย็นเพราะลน รีบกล่าว “เมื่อวานแกกลิ้งตกจากเตียงไม่ใช่หรือไง ตอนนั้นบอกไม่เจ็บ ทำไมตอนนี้มาเจ็บอีกแล้วล่ะ?”
อู่เยวี่ยสมกับที่เป็นลูกสาวที่กระแสจิตเชื่อมต่อกับเหอปี้อวิ๋น ไม่จำเป็นต้องคุยกันไว้ก็กล่าวต่อทันที “นั่นสิ เมื่อคืนทำเอาพี่ตกใจหมดเลย เหมยเหมยเธอนอนดิ้นจะตาย กลิ้งตกจากเตียงตั้งหลายรอบจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”
อู่เหมยไม่อยากฟังเรื่องราวที่สองแม่ลูกนี่แต่งขึ้นมา เธอรีบทำหน้ามุ่ยใช้ดวงตาปริ่มน้ำตามองคุณย่าหยางอย่างน่าสงสาร
“คุณย่าหยางคะ หนูเจ็บ!”
เสียงโอดครวญเสียงเล็กเสียงน้อยราวกับเสียงแมวนั่นเหมือนขนนกเกลี่ยตรงหูเบาๆ ให้ความรู้สึกจักจี้ปนขนลุก
คุณย่าหยางจับความผิดปกติได้ เธอจูงมืออู่เหมยเข้าไปในห้องที่มีเพียงพวกเธอสองคน
“หนูถอดเสื้อผ้าออกให้ย่าดูหน่อย”
คุณย่าหยางมองเธออย่างรักใคร่ อู่เหมยที่แต่งตัวสดใสเช่นนี้ทำให้คนแก่อย่างเธอยิ่งเห็นยิ่งชอบใจ เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาดีนะ เสียดายแค่ว่าโง่ไปหน่อย
อู่เหมยค่อยๆ รูดซิปกระโปรงด้านหลังลงช้าๆ และถอดกระโปรงออก เผยให้เห็นแผลช้ำเต็มแผ่นหลังที่เริ่มสีคล้ำ ต่อให้คุณย่าหยางจะเห็นรอยแผลจนเคยชินแต่ก็ตกใจกับภาพที่เห็น