icon member

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 22

ตอนที่ 22 เทพบุตรทั้งสอง

หากจะออกจากประตูโรงเรียนก็ต้องเดินผ่านสนามบาสเกตบอลของโรงเรียนที่ตอนนี้มีนักเรียนทั้งชายและหญิงจำนวนไม่น้อยยืนอยู่ตรงอัฒจรรย์ แต่ละคนโบกมือตะโกนเชียร์กันอย่างขันแข็ง บรรยากาศครึกครื้นอย่างมาก

“เหยียนหมิงซุ่น สู้ๆ!”

“เหมยซูหาน สู้ๆ!”

“ลูกสามแต้ม ว้าว! เหยียนหมิงซุ่นเก่งจังเลย!”

“เหมยซูหานก็เก่ง เมื่อกี้เขาโยนลูกเข้าตั้งสองลูกแหนะ!”

“แค่ลูกหนึ่งแต้มสองลูกเอง เหยียนหมิงซุ่นลูกเดียวได้ตั้งสามแต้ม เชอะ!”

……หญิงสาววัยกำลังเติบโตฮอร์โมนกำลังพลุกพล่าน เริ่มมีปากเสียงเพื่อไอดอลของตัวเองจนดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเห็นว่าทั้งสองฝ่ายใกล้ลงมือเต็มที

“ถ้าเสียงดังกันอีกก็เชิญออกไป!” เสียงเย็นชาดังขึ้น แม้ไม่ดังนักแต่กลับได้ผลอย่างดี เรียกให้หญิงสาวทั้งหลายเงียบกริบในพริบตาเดียว ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

“ดูเงียบๆ ได้มั้ย? ฉันเชื่อว่าพวกเธอทุกคนทำได้แน่!” เสียงอ่อนโยนที่ติดระอาหน่อยๆ ดังตามหลังมา

“ขอโทษ เราจะไม่เสียงดังแล้ว!” หญิงสาวทั้งหลายรีบกล่าวขอโทษตามๆ กันโดยแต่ละคนทำหน้าเขินอาย ใช้สายตาที่เคลิบเคลิ้มมองเทพบุตรสองคนประจำโรงเรียน

อู่เหมยสังเกตเห็นดาวเด่นประจำโรงเรียนที่ยืนอยู่สนามบาสเกตบอลตั้งนานแล้ว เหยียนหมิงซุ่นกับเหมยซูหาน

เธอเพิ่งนึกออกว่าเหยียนหมิงซุ่นกับเหมยซูหานเป็นเพื่อนร่วมห้อง ทั้งคู่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีสองห้องสามและเป็นบุคคลมีชื่อเสียงของโรงเรียน

เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนเก่งด้านกีฬา หน้าตาคมเข้มติดเย็นชามักทำสีหน้าที่บอกเป็นนัยว่าไม่ให้คนนอกเข้าใกล้ แม้ผลการเรียนจะสู้เหมยซูหานไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แย่ นักเรียนหญิงที่แอบชอบเขามีนับไม่ถ้วน ไม่ได้น้อยไปกว่าเหมยซูหานเลย

เหมยซูหานมีรูปร่างผอมกว่า สุภาพบุรุษเรียบร้อย สถานะทางบ้านค่อนไปทางลำบากเลยมักใส่เสื้อตัวเก่าที่มีรอยซ่อมแซม เรียกให้คนรู้สึกสงสารปนเสียดาย อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ได้อันดับหนึ่งที่ได้รับทุนการศึกษาเข้ามาในศึกษาต่อโรงเรียนอี้จง ผลการเรียนอันดับหนึ่งทุกเทอม ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้จนถึงทุกวันนี้

นอกจากความมุ่งมั่นเข้มแข็งนี้ สิ่งที่ทำให้หญิงสาวทั้งหลายหวั่นไหวมากที่สุดคือถึงฐานะทางบ้านไม่ได้ดีนัก แต่เขาไม่เคยกล่าวโทษใคร ใบหน้ามีรอยยิ้มเสมอและชอบช่วยเหลือผู้อื่น มักให้ความช่วยเหลือนักเรียนที่ผลการเรียนแย่ จนเหล่าหญิงสาวต่างถูกรอยยิ้มอบอุ่นของเขาดึงดูดให้ตกหลุมพราง

เหยียนหมิงซุ่น หรือ เหมยซูหาน

นิสัยทั้งคู่ คนหนึ่งเย็นชาอีกคนอบอุ่น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแต่กลับมีอออร่าที่ไม่เหมือนกัน ล้วนเป็นเป้าหมายในการแอบชอบของหญิงสาวประจำโรงเรียนอี้จง บางคนชอบทั้งสองคนก็มี

ใครใช้ให้ผู้ชายสองคนนี้มีเสน่ห์เกินไปกันล่ะ!

คนหนึ่งเป็นประเภทดุดัน อีกคนประเภทอบอุ่น ไม่ว่าใครล้วนทำเอาพวกเธอใจสั่นเป็นแถว!

เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองเหมยซูหานแวบหนึ่งถาม “เล่นต่อมั้ย?”

เหมยซูหานส่ายหัวยิ้มๆ “ไม่ล่ะ ฉันต้องกลับไปทำกับข้าว ไว้นัดคราวหน้าแล้วกัน”

เหยียนหมิงซุ่นตอบรับก่อนจะกอดลูกบาสเกตบอลตะโกนเรียกเหยียนหมิงต๋ากลับบ้าน นักเรียนที่ยืนล้อมดูเห็นว่าเลิกเล่นกันแล้วจึงสลายตัว มีเพียงกลุ่มนักเรียนหญิงที่ยังติดอยู่ในห้วงอารมณ์คอยมองจากอัฒจรรย์ มองเจ้าชายขี่ม้าขาวในใจพวกเธอจากที่ไกลๆ แค่นี้ก็สุขใจแล้ว!

“เยวี่ยเยวี่ย เราชนะพวกเอ้อร์ปิ่งแล้ว!”

เหยียนหมิงต๋าตาไวเห็นอู่เยวี่ยที่กำลังเดินอยู่ตรงถนนอย่างรวดเร็ว วิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจพร้อมทั้งฉีกยิ้มกว้าง

อู่เยวี่ยย่นจมูกน้อยๆ เพราะมีกลิ่นเหงื่อจากตัวชายหนุ่มหลังเล่นกีฬาโชยมาเตะจมูกเธอ

“พี่หมิงต๋าเก่งจังเลย เสียดายที่ฉันไม่ได้ดู” อู่เยวี่ยยิ้มหวาน

“อีกสองวันเราจะแข่งกับซันจงล่ะ เยวี่ยเยวี่ยมาดูได้นะ”

เหยียนหมิงต๋าเข้าไปใกล้อีกนิดทำให้อู่เยวี่ยต้องรีบถอยห่างสองก้าว แกล้งทำเป็นไอก่อนจะยกมือปิดจมูกถึงรู้สึกหายใจสะดวกหน่อย

เหมยซูหานกับเหยียนหมิงซุ่นเดินเข้ามาทักทายอย่างมีมารยาท “สวัสดีครับอาจารย์อู่ สวัสดีครับอาจารย์แม่”

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด