icon member

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 112

ตอนที่ 112 ความคิดเปลี่ยน

เหอปี้อวิ๋นถึงกับตะลึงงัน เธอค่อนข้างตื่นตกใจที่เห็นอู่เจิ้งซือเปลี่ยนไป เมื่อก่อนใช่ว่าเธอจะไม่เคยเรียกว่าเจ้าเด็กบ้า อู่เจิ้งซือถึงจะได้ยินแต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ทว่าตอนนี้กลับต่อว่าเธอเสียแล้ว?

ดูท่าอู่เจิ้งซือเริ่มจะใส่ใจเจ้าเด็กบ้าแล้ว!

ในใจเหอปี้อวิ๋นรู้สึกโมโห มีความรู้สึกขุ่นเคืองที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เธอไม่รู้ว่าตัวเองโมโหอะไรนักหนา

เมื่อได้ยินที่อู่เจิ้งซือพูด อู่เยวี่ยก็ไม่สบายใจเช่นกัน แต่ยังคงยิ้มพลางพูดว่า “คุณแม่แค่ร้อนใจไปหน่อยค่ะ อย่างว่ายิ่งรักมาก ก็ยิ่งดุว่ารุนแรง แม่ดุว่าเหมยเหมยก็เพราะแบบนี้แหละค่ะ”

เหอปี้อวิ๋นรีบพยักหน้า “ใช่ๆๆ เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ พอฉันเห็นผลสอบของเหมยเหมย ฉันก็ควบคุมความโมโหไว้ไม่อยู่”

“ต่อให้ร้อนใจแค่ไหนก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเอง อย่าเอะอะก็เอาแต่ตีลูก คราวก่อนอาจารย์หญิงหยางช่วยรักษาหน้าแทนคุณ ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็ไม่แน่ ถึงตอนนั้นผมยังจะมีหน้ามองใครที่อี้จงอีก” อู่เจิ้งซือพูดเสียงเข้ม

เหอปี้อวิ๋นรู้สึกห่อเหี่ยว เธอรู้ว่าอู่เจิ้งซือกำลังคิดบัญชีย้อนหลัง เธอรีบพูดว่า “คราวก่อนฉันใจร้อนเกินไป ต่อไปฉันจะระมัดระวังค่ะ”

เมื่อก่อนเธอสอนหนังสือที่ชานเมือง ทุกวันเวลาไปทำงานจะต้องต่อรถหลายต่อ เหนื่อยสายตัวแทบขาด หลังจากแต่งงานกับอู่เจิ้งซือ ทางตระกูลอู่ถึงได้คิดหาวิธีโยกย้ายไปอยู่ในเมือง แม้จะไม่ใช่ใจกลางเมือง แต่เธอก็พอใจมากแล้ว

นอกจากนี้เธอยังอยากให้อู่เจิ้งซือช่วยย้ายเธอไปอยู่โรงเรียนประถมทดลองในเมือง แต่อู่เจิ้งซือพูดตลอดว่าระดับความสามารถของเธอไม่ถึง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เหอปี้อวิ๋นเดาความคิดอู่เจิ้งซือไม่ถูก แล้วก็ยิ่งไม่กล้าโต้เถียงเขา

ไม่ว่าครอบครัวเล็กหรือครอบครัวใหญ่ ใครที่สามารถตัดสินชี้เป็นชี้ตายอีกฝ่ายได้ คนนั้นก็เป็นหัวหน้าครอบครัว

อู่เยวี่ยรีบผสมโรง “พ่อคะ ที่จริงแม่เค้าเป็นห่วงเหมยเหมยมากค่ะ แม่กำลังเตรียมจะตัดชุดใหม่ให้เหมยเหมยอยู่ เป็นกางเกงเอี๊ยมที่ฮิตที่สุดเลย หนูละอิจฉาจริงๆ”

เหอปี้อวิ๋นงุนงง เธอจะตัดกางเกงเอี๊ยมให้เจ้าเด็กบ้านั่นตั้งแต่เมื่อไรกัน

แต่พอเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของอู่เจิ้งซือ เธอก็ได้สติกลับมาทันที เธอยิ้มพลางพูดว่า “คราวก่อนคุณบอกไม่ใช่เหรอคะว่าฉันไม่ตัดชุดใหม่ให้เหมยเหมย เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันฉีกผ้ามาสามสี่ฟุต ถือโอกาสช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ตัดกางเกงเอี๊ยมให้เหมยเหมย อากาศเย็นลงแล้วจะได้เอาไปใส่พอดีเลย”

“ดีแล้ว ไหนๆ จะตัดแล้วก็ตัดให้เยวี่ยเยวี่ยด้วยสิ ครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวชนบทที่ไม่มีรายได้สักหน่อย แบบที่ลูกคนโตสวมแล้ว ก็ส่งต่อให้ลูกคนรอง แล้วก็ต้องให้ลูกคนที่สามที่สี่สวมต่อ  เราไม่จำเป็นต้องประหยัดเงินกับเรื่องนี้”

ตระกูลอู่เป็นตระกูลที่มีการศึกษามาโดยตลอด แล้วก็เป็นตระกูลเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคสมัยสาธารณรัฐจีน แต่ไหนแต่ไรสภาพทางการเงินดีพอสมควร ตั้งแต่เด็กอู่เจิ้งซือไม่เคยมีชีวิตที่ยากลำบากเลย เว้นแต่ช่วงสามสี่ปีที่อยู่ชนบทนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เคยเงินขาดมือเลย อู่เจิ้งซือไม่คิดอะไรเรื่องเงินทอง อีกทั้งไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไรด้วย

เหอปี้อวิ๋นโอดครวญอยู่ในใจ แต่ก็ได้แต่กัดฟันตอบตกลง ไม่กล้ายั่วโมโหอู่เจิ้งซืออีก อย่างไรเสียอู่เจิ้งซือก็เป็นเสาหลักของครอบครัว!

“ทำไมเหมยเหมยยังไม่กลับมาอีกนะ คงจะไม่ได้เกิดเรื่องหรอกนะ”

อู่เจิ้งซือมองดูท้องฟ้าแล้วรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาเตรียมจะออกไปตามหาเหมยเหมย เดี๋ยวนี้ลูกสาวคนเล็กหน้าตาสะสวยขนาดนั้น ถ้าเกิดเจอคนไม่ดีเข้าละก็ไม่ดีแน่ แต่ขณะที่เขากำลังจะเปิดประตู ประตูก็ถูกผลักเปิดออก อู่เหมยปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบ้าน

“พ่อคะ หนูกลับมาแล้วค่ะ”

“แกรู้จักกลับบ้านกลับช่องด้วยเหรอ แต่ไม่รู้จักกลับมาช่วยฉันทำงาน ไหนแก...”

พอเห็นหน้าอู่เหมย เหอปี้อวิ๋นก็โมโหทันที เธอลืมที่อู่เยวี่ยพูดเตือนไปจนหมดสิ้น เธอด่าทอเสียงแหลมสูง แต่ด่าไปได้แค่ครึ่งทางก็หยุดชะงักลง สีหน้าเธอเหยเกขึ้นมาทันที

“สวัสดีครับอาจารย์อู่ สวัสดีครับคุณป้า!”

สยงมู่มู่โผล่ออกมาจากข้างหลังอู่เหมย เขายิ้มแป้นพลางกล่าวทักทาย ในใจเขาไม่ชอบเหอปี้อวิ๋นที่แยกเขี้ยวยิงฟันเลยแม้แต่น้อย สวยไม่เท่าแม่เขา อ่อนโยนไม่เท่าแม่เขา ไร้ซึ่งคุณสมบัติใดๆ ทั้งสิ้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด