icon member

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 108

ตอนที่ 108 อ่อนแอบอบบาง

คุณย่าหยางทำอาหารอยู่ในห้องครัว พอเห็นเด็กๆ มาที่บ้านเยอะแยะขนาดนี้ เธอก็ตกใจ แต่เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว เธอก็ยิ้มอย่างเข้าใจ มีเด็กหญิงหน้าตาสะสวยนี่ดีจังเลย ดูเด็กหนุ่มซื่อบื้อพวกนี้สิ คึกคักกันเสียจริงๆ!

“หมิงซุ่นช่วยล้างแผลให้เหมยเหมยนะ ตรงนี้ย่ากำลังยุ่งอยู่น่ะ!”

คุณย่าหยางกวาดตามองแล้วกลับเข้าไปในครัว คุณย่าหยางบอกให้เหยียนหมิงซุ่นช่วยล้างแผลให้อู่เหมย เหยียนหมิงซุ่นมองย่าของตัวเองด้วยความงุนงง แต่หญิงชรากลับเข้าไปในครัวเรียบร้อยแล้ว ไม่สนใจเขาเลยสักนิด

“ล้างแผลมันจะเจ็บนิดนึง เธออดทนหน่อยนะ”

เหยียนหมิงซุ่นหยิบยาล้างแผลออกมาจากกล่องยาและใช้แหนบคีบก้อนสำลี แล้วเขาก็กระซิบบอกกับอู่เหมยที่มีสีหน้าหวาดกลัว อู่เหมยขดตัวพลางมองยาล้างแผลสีน้ำตาล เธอไม่พอใจมากที่เหยียนหมิงซุ่นพูดจาหลอกลวง

มันเจ็บมากชัดๆ จะแค่เจ็บนิดหน่อยได้อย่างไร 

“พี่หมิงซุ่นเบามือหน่อยนะคะ” อู่เหมยขอร้องเสียงเบา ดูท่าทางน่าสงสาร

เหยียนหมิงซุ่นมองทะลุความคิดของเด็กคนนี้ทันที เขายิ้มเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ใช้แหนบคีบก้อนสำลีจุ่มยาล้างแผลจนชุ่ม แล้วทาลงบนบาดแผลที่ขาของอู่เหมย เขาพยายามเบามือให้มากที่สุด แต่ฤทธิ์ของยาล้างแผลนี้ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการเบาไม่เบามือสักเท่าไร แค่เพียงสัมผัสโดนบาดแผล จะต้องทำให้คุณเจ็บแสบจะเป็นจะตายแน่นอน

“โอ๊ย เจ็บ!”

อู่เหมยหดขากลับอย่างรวดเร็ว เธอมองดูก้อนสำลีก้อนนั้นด้วยความหวาดกลัว เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วชี้ไปที่ขาเธอพลางพูดว่า “ยังไม่ได้เริ่มล้างแผลเลย!”

“เธอนี่ขี้ขลาดจริงๆ แค่ล้างแผลนิดหน่อยเองไม่ใช่เหรอ หลับตากัดฟันเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว ไม่ได้ตัดหัวเธอสักหน่อย” สยงมู่มู่พูดจาดูถูกอย่างยิ่ง

อู่เหมยโมโหจนตาลุกโพลง “ใครทำให้ฉันได้แผลล่ะ แล้วตอนนี้ยังจะมาพูดกระทบกระเทียบอีก!”

สยงมู่มู่ร้อนตัวทันที แล้วไม่กล้าพูดอีกเลย

เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองสยงมู่มู่แวบหนึ่ง แล้วถามเสียงเบาว่า “แผลนี้เขาเป็นคนทำเหรอ?”

อู่เหมยพยักหน้า “เขาขี่จักรยานไม่เป็น แล้วเผลอขี่ชนฉัน โอ๊ย...”

ระหว่างที่อู่เหมยกำลังพูด เหยียนหมิงซุ่นก็ฉวยโอกาสลงมืออย่างรวดเร็ว เขาคีบก้อนสำลีที่จุ่มน้ำยาเช็ดที่บาดแผลเธออย่างรวดเร็ว อู่เหมยเจ็บจนน้ำตาคลอ เธอชักขากลับสุดแรง แต่มือใหญ่ๆ ของเหยียนหมิงซุ่นจับขาเธอไว้แน่น เธอก็เลยชักขากลับมาไม่ได้

เหมยซูหานเห็นแล้วก็เจ็บปวดใจ เขาอดพูดไม่ได้ว่า “หมิงซุ่น นายเบามือหน่อย”

เหยียนหมิงซุ่นไม่แม้แต่จะหันมา แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “เบากว่านี้ก็เจ็บอยู่ดี ใกล้จะเสร็จแล้วละ”

แม้จะพูดแบบนี้ แต่เมื่อเห็นท่าทางของอู่เหมยเจ้าเด็กน่าสงสารคนนี้ เขาเองก็ลนลานเล็กน้อย แล้วเขาก็เร่งมือขึ้น อยากจะล้างแผลให้เสร็จไวๆ

ล้างแผลใช้เวลาแค่สองสามนาทีเท่านั้น แต่อู่เหมยกลับรู้สึกว่าผ่านไปเป็นศตวรรษ เธอสะกดกลั้นไม่ส่งเสียงร้อง พอเหยียนหมิงซุ่นล้างเอาเศษดินเศษทรายออกจนสะอาดแล้ว เธอถึงค่อยถอนหายใจโล่งอก แล้วใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตา

เหยียนหมิงซุ่นเห็นแล้วขำ แค่ล้างแผลก็ร้องห่มร้องไห้เป็นเด็กขี้แย เจ็บขนาดนั้นซะที่ไหนกัน

ช่างอ่อนแอบอบบางเสียจริงๆ!

ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อก่อนตอนที่เหอปี้อวิ๋นตีเธอ เธอเจ็บขนาดไหนนะ

ภาพเหตุการณ์คืนนั้นที่เหอปี้อวิ๋นหวดตีอู่เหมยฉายแวบขึ้นมาในหัว เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกกังวลใจ แล้วเขาก็เบามือลงอีก จากนั้นไม่นานเขาก็ทายาแดงเสร็จเรียบร้อย

“ไม่เป็นไรแล้ว กลับไปก็พยายามอย่าให้โดนน้ำ อีกไม่กี่วันก็หายแล้วล่ะ” เหยียนหมิงซุ่นบอกเสียงเบา

“อืม ขอบคุณค่ะพี่หมิงซุ่น”

อู่เหมยก้มหน้าก้มตาอย่างอายๆ เมื่อกี้นี้เธอช่างน่าขายหน้าจริงๆ แต่ยาล้างแผลนี่เจ็บแสบจริงๆ เธอถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“กูกู”

เงาสีขาวกระโจนเข้าใส่อู่เหมย แล้วขดตัวอยู่ในอ้อมแขนเธอ มันก็คือเจ้ากระรอกขาวที่อู่เหมยได้ช่วยชีวิตไว้ก่อนหน้านี้ที่ภูเขาเฟิ่งหวงซาน อู่เหมยกอดเจ้ากระรอกน้อยด้วยความดีอกดีใจ ท่าทางร่าเริงมีชีวิตชีวาแบบนี้ เจ้าตัวน้อยต้องหายดีแล้วแน่นอน

“เมี้ยว”

เงาสีเทาขนาดใหญ่เงาหนึ่งวิ่งเข้ามา เป็นแมวพันธุ์ดราก้อนหลี่ตัวอ้วนใหญ่ตัวหนึ่ง เจ้าแมวจ้องกระรอกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนอู่เหมยแบบไม่วางตา

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด