ตอนที่ 10
ตอนที่ 10 ไม่สวย?
เมื่ออู่เหมยได้รับการตอบรับจากเหยียนหมิงซุ่น อารมณ์ที่เศร้าโศกพลันสดใสขึ้นมาทันตา เจ้าหมอนี่ยิ้มให้เธอล่ะ บ่งบอกว่าเขาน่าจะไม่ได้เกลียดเธอสินะ?
“บ๊ายบายพี่หมิงซุ่น!” อู่เหมยปล่อยผมลงมาอีกครั้งพลางโบกมือลาเหยียนหมิงซุ่นก่อนจะเดินไปที่อาคารบ้านพัก
วันแรกของการเกิดใหม่เธอก็ได้เจอบุคคลเก่งกาจแบบนี้แถมยังมีปฏิสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดี บิงโก! อนาคตต้องดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกแน่ๆ สู้!
เหยียนหมิงซุ่นได้ยินเสียงหวานราวกับขนมบัวลอยจากดอกกุ้ยฮวาของสาวน้อย ก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ เหยียนหมิงต๋าที่ยืนข้างๆ กลับทำหน้าสงสัย “พี่ พี่สนิทกับเหมยเหมยตั้งแต่เมื่อไหร่? เมื่อก่อนเหมยเหมยเห็นพี่เหมือนหนูเห็นแมวอ่ะ!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ชอบการเปรียบเปรยนี้เท่าไร จึงถลึงตาใส่เหยียนหมิงต๋าอย่างไม่พอใจไปหนึ่งที เหยียนหมิงต๋าหัวเราะคิกคัก “ผมไม่ได้พูดผิดสักหน่อย เยวี่ยเยวี่ยบอกว่าน้องสาวเธอไม่ค่อยกล้าเจอคนแปลกหน้าเพราะไม่สวย นิสัยแปลกประหลาดเลยชอบประมาณตัวเองต่ำ”
“อู่เหมยไม่สวยเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามย้อน
“ใช่สิ เยวี่ยเยวี่ยเป็นคนบอกเอง ผมว่าก็น่าจะใช่ ถ้าสวยจริงทำไมอู่เหมยถึงต้องปล่อยผมสยายทุกวัน ทำเอาเด็กผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งเหมือนผีไปเลย” เหยียนหมิงต๋าพูดถึงเยวี่ยเยวี่ยแทบทุกประโยคทำเอาเหยียนหมิงซุ่นอดมุ่นคิ้วไม่ได้
ทั้งที่อู่เหมยสวยกว่าอู่เยวี่ยหลายสิบเท่า ทำไมอู่เยวี่ยถึงว่าน้องสาวตัวเองอย่างนั้นล่ะ?
อีกอย่างดูจากการกระทำของอู่เหมยเมื่อสักครู่ ก็ไม่เห็นว่านิสัยแปลกประหลาดตรงไหน แต่เรื่องขี้กลัวนี่ท่าจะจริง แต่จุดนี้ไม่ได้แปลกสักหน่อย ปล่อยให้ผมยาวสยายปรกใบหน้านานนับปีและไม่มีทีท่าว่าจะใจกล้าขึ้นมา สามีภรรยาอู่เจิ่งซือเหมือนจะไม่ชอบใจต่อลูกสาวคนเล็กคนนี้จริงๆ ด้วย!
“แกชอบอู่เยวี่ยเหรอ?” จู่ๆ เหยียนหมิงซุ่นก็ถามขึ้น
ใบหน้าของเหยียนหมิงต๋าแดงปลั่งราวกับลูกตำลึงก็ไม่ปาน แม้จะเป็นเพียงเด็กชายอายุสิบสี่ปีแต่ก็เข้าใจเรื่องระหว่างชายหญิงพอสมควรจึงไม่คุ้นชินกับคำถามตรงไปตรงมาของเหยียนหมิงซุ่น
“อู่เยวี่ยไม่เหมาะกับแก ทางที่ดีอย่าไปชอบเลย” เหยียนหมิงซุ่นกล่าวอีกประโยค เหยียนหมิงต๋าแย้งทันที
“พี่ไม่รู้จริงก็อย่าพูดมั่ว ผมกับเยวี่ยเยวี่ยโตมาด้วยกัน ทำไมถึงไม่เหมาะ?”
“เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กต้องเหมาะสมกันเหรอ? งั้นแกก็เหมาะสมกับอาฮวาที่คุณปู่เลี้ยงมามากกว่าน่ะสิ อาฮวาเป็นเพื่อนกับแกตั้งแปดปี ตระกูลอู่เพิ่งย้ายมาไม่กี่ปีนี้เอง” เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับอย่างใจเย็น
เหยียนหมิงต๋าโกรธจนทำแก้มพองลม คำรามเสียงต่ำ “พี่พูดบ้าอะไรเนี่ย อาฮวาเป็นแมว ผมเป็นคน คนกับแมวอยู่ด้วยกันได้เหรอ? ผมชอบเยวี่ยเยวี่ย และต้องแต่งงานกับเธอเท่านั้น”
“แล้วแต่ การแต่งงานของแกไม่ได้เกี่ยวกับฉัน”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้สนใจจะพูดคุยถกเถียงเรื่องความรักของน้องชายนัก อีกอย่างเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เขากังวล ถานซูฟางระแวงเขายิ่งกว่าโจร คิดแต่อยากจะให้ลูกชายตัวเองได้ดิบได้ดี อู่เยวี่ยเป็นลูกสาวของคุณครูธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีทางเข้าตาถานซูฟางอยู่แล้ว
อู่เยวี่ยรีบเดินตามอู่เหมยให้ทัน เธอรู้สึกว่าวันนี้น้องสาวตัวเองแปลกไปอย่างมากเหมือนมีตรงไหนที่ไม่เหมือนเดิม แต่จะให้บอกว่าแปลกไปตรงไหนเธอก็อธิบายไม่ถูก “เหมยเหมย ยังปวดท้องอยู่หรือเปล่า?” อู่เยวี่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยน
“ดีขึ้นเยอะแล้ว” อู่เหมยก้มหน้าตอบเสียงนิ่ง
“ไม่ปวดก็ดีแล้ว”
อู่เยวี่ยเห็นว่ารอบข้างไร้ผู้คนเลยหุบรอยยิ้มเดินไปเองเพียงลำพังโดยไม่คิดจะสนใจน้องสาวด้านหลังอีก ตระกูลอู่พักอยู่ชั้นสองห้องขวาสุด ระเบียงยาวเต็มไปด้วยโต๊ะเรียนเรียงเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ บนโต๊ะเรียนมีทั้งเตาและเขียง เนื่องด้วยกลิ่นควันจากกระทะที่เผาไหม้รุนแรงเกินไป ทุกคนจึงต่างย้ายห้องครัวไปที่ระเบียงกันโดยมิได้นัดหมายเพราะทั้งสะอาดทั้งประหยัดพื้นที่