สมาชิก

บุษบาเร่ฝัน

ตอนที่ 12

อัลบั้ม: "ไม้-วฤษฐิ์" ประกบ "มาร์กี้ ราศรี" ในละครคอมมาดี้ "บุษบาเร่ฝัน"

รังสิตประคองกระเช้าเข้าไปเยี่ยมซุ่ย พอหลิวเห็นรังสิตก็ปากไวถามว่านี่หรือคนที่เจ๊ซุ่ยเคยกรี๊ดเหมือนกรี๊ดดารา เพิ่งมาพักหลังนี่แหละชอบทำตัวแปลกเพราะเพิ่งเจ๊กับเฮียป้อง

ซุ่ยปรามหลิวว่าอย่าพูดอย่างนี้เพระทำให้เจ๊ซุ่ยขายหน้า รังสิตแก้ให้ว่าหลิวพูดเล่น เพราะซุ่ยไม่เคยสนใจตน วันๆแทบไม่ได้เจอกัน ยิ่งเรื่องพูดคุยกันนี่ น้อยมาก พอดีป้องปกมา รังสิตชี้แจงว่าตนกับซุ่ยไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนี้เลย ป้องปกเข้าใจและขอบคุณที่มาเยี่ยมซุ่ย

“ที่บริษัท ทุกคนเป็นห่วงซุ่ยมากครับ ทางผู้บริหารบอกว่า ถ้ามีอะไรที่ทางเราจะช่วยได้ให้บอกได้ทุกเมื่อนะครับ”

ป้องปกขอบคุณแทนซุ่ย ซุ่ยในร่างกอหญ้าทนไม่ได้ถามว่าทำไมต้องขอบคุณแทนซุ่ยในเมื่อญาติพี่น้องซุ่ยก็อยู่ตรงนี้

“ผมขอบคุณได้สิกอหญ้า เพราะผมกำลังจะแต่งงานกับซุ่ยนี่นา”

รังสิตเลยแสดงความยินดีกับป้องปก แม่เลยถือโอกาสเชิญเพื่อนๆซุ่ยที่บริษัทมาร่วมงานด้วย ซุ่ยในร่างกอหญ้าถามขวางๆว่าถ้าซุ่ยไม่หายล่ะ ป้องปกจับมือกอหญ้าในร่างซุ่ยอย่างทะนุถนอม มองหน้าเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า

“ไม่ว่าซุ่ยจะหายหรือไม่หาย ยังไงผมก็จะแต่งกับซุ่ย ไม่ว่าทุกข์สุข สบายดีหรือเจ็บป่วย ซุ่ยจะดีหรือร้ายกับผม หรือซุ่ยจะเคยรักใคร แต่มันไม่มีความหมายหรอกครับ ผมรักซุ่ย ผมจะดูแลซุ่ยเอง”

ทุกคนในครอบครัวซุ่ยชื่นชมตื้นตันมาก ในขณะที่ป้องปกสบตากับซุ่ยในร่างกอหญ้าอย่างท้าทาย ซุ่ยเจ็บปวดใจอย่างที่สุด ทนไม่ได้ออกจากห้องน้ำตาไหล เดินอย่างหมดอาลัยตายอยากกับเรื่องราวที่พยายามต่อสู้เพื่อหัวใจของตัวเอง แต่ผลที่ได้รับกลับยิ่งเจ็บปวด เจ็บปวด...อยากจะแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำ แต่ทำไม่ได้!

ooooooo

เพราะซุ่ยหลับไม่ตื่น แม่จึงคุยกับป้องปกให้คิดอีกทีรอให้ซุ่ยตื่นแข็งแรงก่อนค่อยแต่งงานดีไหม ป้องปกเสนอว่าถ้าซุ่ยยังไม่แข็งแรงพอก็จดทะเบียนกันก่อนก็ได้ตนจะได้เบิกค่ารักษาพยาบาลได้แม้จะไม่ทั้งหมดก็แบ่งเบาได้ส่วนหนึ่ง

แม่พึมพำอย่างซึ้งใจว่าเฮียป้องคิดถึงแต่ซุ่ย เขาตอบไม่ลังเลว่า “เพราะมันเป็นความสุขของผมนี่ครับ”

ฝ่ายซุ่ยในร่างกอหญ้าเฝ้าคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม คิดจนนอนไม่หลับ แม่ถามว่ายังตัดใจไม่ขาดจากหนุ่มคนนั้นหรือ ซุ่ยปดแม่ว่าไม่ใช่ ตนลืมเขาแล้วแต่คิดว่าจะไปเข้าห้องน้ำดีไหม แต่ง่วงแล้วนอนดีกว่า

คืนเดียวกัน โรสอยู่ที่คอนโด แม้จะว่างงานแต่โรสก็อดที่จะเปิดโน้ตบุ๊กดูสินค้ามากมายของเฟลอร์ไม่ได้ คลิกไปเปิดโฟลเดอร์งานที่ทำให้มีปัญหาก็ลบทิ้ง พอปิดโน้ตบุ๊กก็เห็นรูปในกรอบที่ตนได้รับรางวัลมากมายตั้งอยู่ เธอถอนใจเหงาๆ รำพึง

“นี่ชีวิตฉันมีแต่งานจริงๆเหรอเนี่ย” แล้วพิงพนักนั่งในความมืดสลัวอย่างอ้างว้าง...

รังสิตคุยกับป้องปกวันนี้ เขาเห็นถึงความรักความเสียสละของป้องปกที่มีต่อซุ่ย ทำให้คิดได้ว่า ที่แท้โรสชื่นชมป้องปกเพราะอย่างนี้เอง พึมพำ “คุณต้องการผู้ชายแบบที่ไม่เคยมีจริงในโลกแบบนั้นใช่ไหม”

จนวันต่อมารังสิตไปที่บ้านซุ่ยอีก เห็นป้ายประกาศขายบ้านและสวน เขาถามป้องปกว่าจะขายทำไมเพราะมันเป็นธุรกิจเป็นความสุขของเขาไม่เสียดายหรือ

“ผมอยากได้เงินก้อนเอาไปรักษาซุ่ยครับ ถึงร้านนี้จะเป็นความสุขของผม แต่ผมก็ชอบเห็นซุ่ย แม่ ม่า แล้วก็หลิวมีความสุขมากกว่า”

รังสิตพูดทีเล่นทีจริงว่าเขาทำตัวเหมือนคำขวัญวันเด็กเลยนะ เสียสละ ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัย คิดว่าคนอย่างนี้ไม่น่ามีอยู่จริง ป้องปกหัวเราะบอกว่าตนก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเขา แต่คำขวัญวันเด็กเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ รังสิตบอกว่าตนไม่แน่ใจว่าตัวเองทำได้หรือเปล่า

“อย่าดูถูกตัวเองสิครับ คุณทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ อยู่ที่ว่าคุณจะทำหรือเปล่า หรือมีใครสำคัญมากพอที่จะทำให้คุณยอมทุกอย่างเพื่อเขาหรือเปล่า”

“มีใครที่สำคัญมากพอ ที่จะทำให้ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อเขาหรือเปล่า?” รังสิตทวนคำแล้วหัวเราะ “แปลกนะป้องปก ผมเอาแต่เซ็ง ที่โรสชอบมาหาคุณ แล้วดูตัวผมสิ ผมว่าตอนนี้ผมก็ชอบมาหาคุณ เพื่อมาฟังคุณพูดอะไรแบบนี้นี่แหละ”

รังสิตมองป้องปกอย่างยอมแพ้และยอมรับ...

ooooooo

วันต่อมา ซุ่ยไปหากอหญ้าที่โรงพยาบาล พูดประชดประชันเรียกให้ตื่นอย่าทำตัวให้เป็นภาระของคนอื่น เพราะค่าโรงพยาบาลแพง แม่กับม่าไม่มีเงินจ่าย เขย่าตัวกอหญ้าให้รีบตื่นและกลับบ้านเสียที ขู่ว่าถ้าไม่ตื่นจะตบ!

ราวกับปาฏิหาริย์ กอหญ้าลืมตาขึ้นเหมือนตื่นจากนอนหลับ ถามซุ่ยว่าตนขี้เซาขนาดนี้เลยหรือ แล้วทำท่าจะหลับอีก ซุ่ยเขย่าตัวไม่ให้หลับให้รอเจอทุกคนก่อน พอดีแม่เข้ามา พอเห็นว่ากอหญ้าในร่างซุ่ยตื่นแล้วก็ดีใจ ม่าบอกให้รีบโทร.บอกเฮียป้อง แม่นึกได้ว่าต้องบอกเฮียป้องให้พานายทะเบียนมาด้วย เพราะไม่รู้ว่าซุ่ยจะตื่นนานแค่ไหน ถ้าเฮียป้องอยากจดทะเบียนสมรสไว้ก่อนก็ต้องรีบมาตอนนี้เลย

ซุ่ยได้ยินว่าจะจดทะเบียนก็ตกใจ รับอาสาจะโทร.บอกเฮียป้องให้ บอกแม่กับม่าให้ช่วยกันคุยอย่าให้ซุ่ยหลับ

แต่พอออกจากห้อง ซุ่ยคิดเครียดว่าถ้านายทะเบียนมา เฮียป้องก็ต้องจดทะเบียนกับกอหญ้า ปฏิเสธลนลานว่าไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด คิดจะทำให้กอหญ้าหลับไปอีกรอบดีกว่า แต่สำนึกดีค้านว่าถ้าทำอย่างนั้นแม่กับม่าก็ต้องทุกข์ใจอีก

พอดีป้องปกมา พยาบาลมาแสดงความยินดีที่ซุ่ยตื่นแล้ว ป้องปกดีใจมากรีบวิ่งเข้าไปในห้อง ม่ากับแม่ชมซุ่ยในร่างกอหญ้าว่าตามเฮียป้องมาได้เร็วราวกับติดจรวด ถามว่าแล้วนายทะเบียนล่ะ? ขณะนั้นเห็นกอหญ้าในร่างซุ่ยทำท่าจะหลับอีก ม่าเลยชูถุงผ้าใส่ของกินชวนตั้งวงกินกัน ทุกคนกระวีกระวาดจัดโต๊ะ ซุ่ยจะเข้าไปช่วยก็ไม่ทันกลายเป็นส่วนเกินไปโดยปริยาย

แม่กับม่าด้านหนึ่งพยายามทำไม่ให้ซุ่ยหลับ อีกด้านก็จะรีบไปตามนายทะเบียนมา ซุ่ยร้อนใจขวางแม่กับม่าไว้ทักท้วงว่าของแบบนี้จะจดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เราควรปรึกษาพระ หาฤกษ์หายามที่เป็นมงคล ซุ่ยหาทางถ่วงเวลาไว้เต็มที่

ทันใดนั้น คมน์ที่ได้กลับไปเล่นละครอีกเพราะแวนด้ามีข่าวฉาวเรื่องขายตัวและเสี่ยเลี้ยง ซ้ำยังมายุ่งกับผู้จัดต้นด้วย เมียผู้จัดต้นที่เป็นผู้กุมกระเป๋าเงินของกองถ่ายจึงสั่งปลดกลางอากาศ และคมน์ก็ตาสว่างเลิกคบแวนด้าและสำนึกในคำเตือนของป้องปกจึงไปหาที่บ้าน รู้ว่าเขาอยู่โรงพยาบาลและได้ยินแม่กับม่าคุยกันเรื่องนายทะเบียนจึงไปพามาด้วย

เพราะมัววุ่นวายกับคำทักท้วงของซุ่ยและพูดคุยกับคมน์ พอจะให้กอหญ้าเซ็นชื่อในทะเบียนสมรส หันไปดูปรากฏว่าหลับไปแล้ว!

ooooooo

ซุ่ยเดินยิ้มโล่งใจออกมา แต่ก็ยังอดกังวลไม่ได้ว่าป้องปกไม่ได้จดทะเบียนวันนี้เขาก็จะต้องจดในวันอื่นอีกจนได้ เดินไม่ดูทางจนชนเข้ากับรถเข็น ซุ่ยเสียหลักเซไปนั่งรถพอดี ซุ่ยหันไปจะโวยใส่ก็ต้องชะงักตะลึงเมื่อคนที่เข็นรถคือ ดร.ถ้วยทอง!

ซุ่ยต่อว่า ดร.ถ้วยทองว่า ทีเวลาต้องการล่ะไม่มาทีงี้อยู่ๆ ก็โผล่มา ดร.ถ้วยทองถามว่าเธอยังไม่ชินหรือ อะไรที่เธออยากได้มันมักไม่ได้มาง่ายๆหรอก ซุ่ยถามว่าที่มานี่ต้องการมาดูน้ำหน้าคนที่โดนสาปให้เป็นคนอื่นใช่ไหม เชิญดูเสียให้พอ!

“เธอเป็นคนที่เข้าใจยากจริงๆนะบุษบา ฉันพยายามบอกใบ้เธอไปตั้งหลายครั้ง ส่งตัวช่วยไปเตือนเธอก็ทำมาแล้ว นี่เธอไม่เก็ตอะไรบ้างเลยเหรอ” ซุ่ยบอกว่าตนไม่เห็นรู้เรื่อง “ลองใช้ปัญญาของเธอให้มากกว่าอารมณ์ดูสิ ฉันไม่ได้ทำเพราะอยากแกล้งเธอสักหน่อย ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันมีเหตุและผลเสมอแหละ...มันไม่ยากเกินกว่าที่เธอจะเข้าใจหรอก ถ้าเธอคิดเองได้ เธอจะภูมิใจกว่ามีคนมาบอกนะบุษบา แต่คิดเร็วๆหน่อยก็ดีนะ”

ขณะพูด ดร.ถ้วยทองเดินวนไปด้านหลังของซุ่ย พอซุ่ยหันดู ปรากฏว่า ดร.ถ้วยทองหายไปแล้ว! ซุ่ยวิ่งตามหาก็ไม่เจอ คิดถึงคำพูดที่ ดร.ถ้วยทองบอก “ใช้ปัญญาให้มากกว่าอารมณ์ ใช้เหตุและผล” ซุ่ยกุมขมับบ่นอย่างหงุดหงิด

“โอ๊ย!! คิดไม่ออกเว้ย!!”

ooooooo

วันนี้ชฎาเรียกโรสและรังสิตมาพบที่ห้อง แจ้งแก่โรสว่า รังสิตมีไพรเวทมีตติ้งกับบิ๊กบอสขอสละตำแหน่งและให้โรสเป็นแทน โรสพูดเยาะว่านี่ไม่ใช่ตำแหน่งนางงามจะมายกให้กันได้ยังไง แล้วขอคุยส่วนตัวกับรังสิต

รังสิตให้เหตุผลว่าเพราะเธอเหมาะสมกับตำแหน่งนี้กว่า โรสเสียงแข็งไม่รับ และยังบอกว่าการกระทำของเขายิ่งเป็นการตอกย้ำว่าตนแพ้ มันเหมือนการเยาะเย้ยกันทางอ้อม

รังสิตผิดหวังกลับไปปรับทุกข์กับซุ่ย ซุ่ยบอกว่าการให้ครั้งนี้ของเขาอาจจะไม่ถูกจริตโรส เพราะโรสคือมนุษย์สมบูรณ์แบบ ยิ่งเขารู้สึกว่าเขาไม่เป๊ะ ทำงานบกพร่อง แล้วมีคนมาเสียสละอะไรให้แบบนี้ เขาก็เลยยิ่งไม่พอใจ รังสิตยอมรับว่าตนโง่ทำอะไรที่โรสไม่ยอมให้อภัยแบบนั้น ซุ่ยให้กำลังใจอย่ายอมแพ้เพราะเขารักโรสและโรสก็รักเขา แค่เขาต้องอึด อดทน ทำผิดทำใหม่ทำดีไปเรื่อยๆ เหมือนเฮียป้องที่ไม่เคยท้อเลยที่จะทำเพื่อซุ่ย พูดแล้วตัวเองก็น้ำตาไหล

“ผมคงต้องหาวิธีใหม่ ต้องมีสักเรื่องที่จะโดนใจโรสบ้าง...ขอให้เราได้ครองบอลไปเตะหน้าประตูให้มากที่สุด ได้เตะสักสิบลูกมันก็ควรจะได้เข้าสักลูกล่ะวะ” รังสิตมุ่งมั่น สองคนจับมืออย่างให้กำลังใจกัน

แต่โรสที่แอบดูอยู่ เข้าใจผิด พึมพำเครียด “ในที่สุด คุณก็จบลงที่กอหญ้างั้นเหรอ คุณมันมั่วอย่างทั่วถึงจริงๆ”

ooooooo

ซุ่ยไปที่โรงพยาบาล เห็นหลิวซื้อกาแฟหลายถุงถือมาเต็มสองมือ ตามไปดูเห็นหลิวเอาไปให้พี่พยาบาลและพี่พยาบาลก็เอาซีรีส์เกาหลีให้ ซุ่ยคิดว่าหลิวรับจ้างซื้อกาแฟแลกกับซีรีส์ ไปตำหนิหลิวจึงรู้ว่าหลิวจะเอาซีรีส์ไปให้กอหญ้าดูจะได้ไม่หลับ

ซุ่ยเสียใจขอโทษหลิวที่เข้าใจผิด กอดหลิวให้กำลังใจว่า

“ไม่ต้องกลัวนะหลิว เจ๊ซุ่ย...เขารู้ว่าหลิวเป็นห่วง เขาจะต้องกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้”

ooooooo

ซุ่ยตัดสินใจไปบอกคุณหยกว่าตนจะไม่ไปเรียน คุณหยกตำหนิว่ากอหญ้าเป็นคนโลเล ปัญหาเยอะตั้งแต่เมื่อไหร่

“ก็นี่ไงคะ คูณผู้หญิงควรรอให้...กอหญ้าหายโลเลปัญหาเยอะ กลับมาเป็นคนดีเหมือนเดิมก่อน”

น้ำเสียงและท่าทีซุ่ยแข็งกร้าวจนคุณหยกรู้สึกกลัวจึงเงียบไป

หลังจากนั้น ซุ่ยไปที่บ้านตัวเอง มองตัวเองในกระจกปรากฏเงาของกอหญ้าซ้อนอยู่ คุยกันในกระจกว่า

“เมื่อ ดร.ถ้วยทองต้องการให้เราหาคำตอบเอาเอง เราก็ต้องมั่วๆไป ความผิดของเราคือ การไม่พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ต้องการเป็นคนอื่น ความถูกต้องมันก็น่าจะเป็นตรงกันข้าม คือต้องอยากกลับไปเป็นตัวเองไม่ใช่เหรอ ฉันก็อยากกลับมาเป็นซุ่ยตั้งนานแล้ว ทำไมมันถึงยังใช้ไม่ได้อีก ฉันก็ต้องหาทางทำความดีอะไรที่สร้างสรรค์หน่อยเผื่อจะได้ผล และฉันคำนวณแล้วว่า มันน่าจะเป็นการช่วยกอหญ้า เอ๊ย...ช่วยซุ่ยให้หายจากโรคหลับ นี่คือแผนครองบอลให้ได้มากที่สุด ยิงประตูให้มากที่สุด มันต้องมีเข้าโกลสักลูกสิวะ”

เมื่อเดินไปที่ห้อง ซุ่ยชะงักเพราะเห็นกระถางต้นไม้ที่ออกดอกสะพรั่งวางประดับไว้อย่างสวยงามเต็มไปหมด ซุ่ยเดาได้ว่าต้องเป็นฝีมือเฮียป้อง เห็นกอหญ้านอนหลับอยู่ท่ามกลางดอกไม้ก็พึมพำ

“เหมือนเจ้าหญิงนิทราในสวนดอกไม้เลย”

ooooooo

ซุ่ยเข้าไปหากอหญ้าที่นอนหลับอยู่ ทาครีมบำรุงผิว หวีผม ทาแป้ง ทาลิปกลอสให้ จังหวะนั้นกอหญ้าลืมตาขึ้นทักว่า ตนตื่นมาเจอเธอทุกทีเลย รักและห่วงตนขนาดนี้เลยหรือ ทำไมดีอย่างนี้

ซุ่ยบอกว่าตนหากิจกรรมสนุกๆมาให้ทำ แล้วเอากระดาษมาให้กอหญ้าพับรูปสัตว์ต่างๆ จากง่ายไปสู่ยาก กอหญ้าค่อยๆพับจนพับได้สัตว์หลายชนิดจนตัวเองก็งงว่าทำได้ขนาดนี้เลยหรือ

“ก็รู้ไว้ เธอน่ะพับได้ทั้งสวนสัตว์แหละ”

ซุ่ยนั่งใกล้ๆ แนะนำและดูกอหญ้าพับ เธอพับได้อย่างสวยงามและรวดเร็วจนซุ่ยมองอึ้ง แต่กอหญ้าพับไปไม่นานก็ง่วงนอน ซุ่ยต้องคอยกระตุ้นให้พับและหาเรื่องคุยไม่ให้กอหญ้าหลับ

ป้องปกกลับจากทำงานในชุดเชิ้ตขาว ผูกไท ใส่แสล็กดูดีมาก ซุ่ยมองตะลึง ป้องปกทักกอหญ้าว่าอารมณ์ดีจังและขอโทษที่เมื่อเช้ามีสอน กอหญ้าในร่างซุ่ยบอกว่า กอหญ้าสอนตนพับกระดาษเล่น ตนเพิ่งรู้ว่าตัวเองพับได้ตั้งเยอะ พลางหยิบขึ้นมาอวด ป้องปกชมว่าเก่ง ดูสัตว์ที่กอหญ้าพับอย่างชื่นชม

ความสนิทสนมเอาอกเอาใจกอหญ้าของป้องปกและทำเหมือนไม่มีตนอยู่ในสายตานี้ ทำให้ซุ่ยยิ่งเจ็บปวด

ooooooo

หลังจากคลิปฉาวของแวนด้าว่อนเน็ตแล้ว แวนด้าตกอับ นอกจากถูกปลดจากละครกลางอากาศแล้ว งานอีเวนต์ต่างๆ ก็พากันแคนเซิลหมด ไปไหนก็ถูกด่า แม้แต่แม่ค้าก็ไม่ขายของให้กิน แวนด้ากลับโรงแรมที่พักเหมือนคนฝันร้าย

พอจะเข้าโรงแรมก็ถูกลินดาอดีตเพื่อนพริตตี้ด้วยกันเมียของเสี่ยคนหนึ่งที่เธอไปมั่วด้วยตามตบด้วยความแค้น แวนด้าหนีออกมา เจอรถคันหนึ่งแล่นมาพอดี เธอเปิดประตูรถเข้าไปนั่งบอกหนุ่มคนขับว่าไปไหนก็ได้ให้รีบไปเลย

หนุ่มคนขับในมาดหนุ่มออฟฟิศพาแวนด้าไปที่สตูดิโอของเขาบอกว่าถ้าไม่รีบไปไหนเชิญเข้าไปดื่มอะไรกันก่อน แวนด้ากำลังสับสนว้าวุ่นเข้าไปในสตูดิโอ เขาแนะนำให้รู้จักกับก๊องและโหน่ง ก๊องมีรอยสักเต็มแขนส่วนโหน่งนอนเล่นกีตาร์ผมยาวไม่ใส่เสื้อดูร็อกๆกำลังเสพย์อะไรอยู่ ทั้งสองมองแวนด้าหื่นๆ

แวนด้าดื่มกับหนุ่มมาดออฟฟิศ เพียงครู่เดียวแวนด้าก็ชวนเปิดเพลงเต้นกันทั้งเมาและมันโดยมีก๊องกับโหน่งมาร่วมแจม ด้วยหื่นๆ

คมน์ได้กลับไปเล่นละครตามเดิม นักข่าวมาถามเรื่องคลิปของแวนด้าและจะเอาให้ดู คมน์บอกว่าไม่คิดว่ามันน่าดูตรงไหน ถามนักข่าวคนนั้นว่าถ้าคนถูกถ่ายเป็นเพื่อนเป็นพี่สาวน้องสาวหรือแม่ของเขา พวกเขาอยากดูไหม?

นักข่าวอึ้ง คมน์บอกว่าเวลานั้นแวนด้าอาจคึกคะนองเพราะอายุยังน้อย เธอได้รับบทเรียนจากความผิดพลาดนั้นแล้ว ผู้ชายที่ถ่ายเธอไว้คือคนทีน่าอายมากกว่า เพราะเมื่อเขาเอาคลิปนั้นมาปล่อยเพื่อความสะใจส่วนตัวหรือทำร้ายเธอ แต่คนที่เอามาดูแล้วดูอีกคิดว่าตัวเองดีกว่าเหนือกว่าเธอ ซ้ำชักชวนให้คนอื่นดูวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากเพื่อเหยียดหยามย่ำยีศักดิ์ศรีของผู้หญิงตัวคนเดียวที่ไม่มีทางสู้คนหนึ่ง เหมือนจะให้เธอจมดินไปต่อหน้า ถามนักข่าวว่า “พวกพี่มีความเห็นว่าไงล่ะครับ”

คมน์ขอร้องนักข่าวคนนั้นอย่าทำข่าวแวนด้าอีกเลย หนังสือพิมพ์อาจขายได้แต่ถ้าไม่ช่วยกันหยุด สังคมนี้จะเป็นยังไง เด็กๆก็พากันดูคลิปโป๊ คมน์ชี้ว่า

“ข่าวดาราเรียนเก่ง เรียนจบรับปริญญา หรือทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมก็มี ช่วยกันเสนอภาพดีๆ ให้ประชาชนเห็นเถอะครับ อย่าเอาเรื่องเมื่อ 6-7 ปีก่อนและจบไปแล้วมาทำลายชีวิตเขาเลย ผมขอร้องนะครับ” คมน์ยกมือไหว้

ขณะนั้นเอง ช่างแต่งหน้าหยิบโทรศัพท์คมน์มาให้ดูบอกว่าไลน์เรียกไม่หยุดเลยดูหน่อยไหม คมน์รับไปดู เป็นภาพแวนด้ากำลังถูกสามหนุ่มหื่นรุมกันเข้ามาหมายรุมโทรม แวนด้าร้องอย่างตระหนกตะโกนสุดเสียง

“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ทำไมไม่มีใครมาช่วยเลย พี่คมน์ คุณรังสิต คุณป้องปก ทุกคนไม่สงสารแวนด้าแล้วใช่ไหม”

แวนด้าพยายามต่อสู้สุดชีวิตแต่ถูกสามหนุ่มหื่นรุมจนเธอหมดแรง ทันใดนั้นเสียงประตูถูกถีบโครมคมน์วิ่งเข้ามาตะโกน

“แวนด้า แวนด้า...พี่มาแล้ว”

วายร้ายทั้งสามชะงัก จำได้ว่าคมน์เป็นพระเอกละคร มันหัวเราะเยาะถามว่าอยากเป็นพระเอกในชีวิตจริงรึไง ย่างสามขุมเข้าหาตะคอก “แต่ชีวิตจริงพระเอกตายนะโว้ย”

“พระเอกอาจตายก็ได้ แต่พวกผู้ร้ายปล้ำนางเอกต้องตายก่อน” คมน์ยิ้มควักปืนออกมา พวกมันเลยแตกกันกระเจิง

คมน์พาแวนด้าไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอกินอย่างหิวโหยแล้วจึงขอบคุณที่คมน์ใช้ปืนปลอมที่เล่นละครขู่จนพวกวายร้ายแตกกระเจิง คมน์บอกว่าตนทำตามหน้าที่พลเมืองดีเท่านั้นไม่ต้องขอบคุณ

แวนด้าขอโทษที่ตนพยายามสลัดจากเขาไปหาต้น ตนทำไม่ดีกับเขาทั้งๆ ที่เขาดีกับตน ยอมรับว่าเขาคือผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตตน ด่าตัวเองว่าโง่และขอโทษคมน์อย่างจริงใจ คมน์ยอมรับว่าตนเสียใจและโกรธมากแต่ก็ให้อภัยเธอ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตนถึงให้อภัยเธอง่าย ทำไมถึงโกรธเธอไม่ลง ทำไมยังสนใจ ยังห่วง ยังคิดถึงเธออยู่ พลางขยับเข้าใกล้

แวนด้าอึ้งทั้งดีใจและละอายใจ บอกคมน์ว่า อย่าเลยตนเป็นผู้หญิงไม่ดี ไม่อยากทำให้เขาต้องเสียใจอีกจึงทำเพียงแค่นั่งกุมมือกันต่างคนต่างเงียบงัน...

ooooooo

เพราะโรสตกงาน บริษัทคู่แข่งจึงนัดคุยหมายซื้อตัวโรสไปทำงาน รังสิตรู้ตามไปขัดขวาง โรสโมโห ถามว่าเขาคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาทำลายอนาคตตน ตนต้องการไปมีชีวิตใหม่ที่ไม่ใช่ออฟฟิศที่ถูกจับจ้องไปทุกวินาที!

โรสเยาะเย้ยตัวเองว่าชีวิตตนเคยเป็นผู้ชนะมาตลอด แต่ต้องมาพ่ายแพ้ยับเยินเพราะโง่ไปรักผู้ชายที่เห็นแก่ตัว

“คุณไม่รักผมผมไม่ว่า แต่คุณไม่รักงานที่ทำแล้วเหรอ ไม่รักเฟลอร์แล้วเหรอ คุณเคยเป็นคนที่ยอมตายได้เพื่อให้บริษัทเราเหนือกว่าใครไม่ใช่เหรอ”

“ฉันรักเฟลอร์ แล้วเฟลอร์รักฉันไหมล่ะ ชีวิตทั้งชีวิตฉันก็โยนทิ้งได้เพื่อเฟลอร์ ความรัก ผู้ชาย ฉันก็สละได้เพื่อเฟลอร์แล้วสิ่งที่ฉันได้จากเฟลอร์คืออะไร”

“ถ้าคุณเกลียดเฟลอร์ แล้วผมล่ะ คุณเกลียดผมหรือเปล่า” รังสิตถามอ้อนๆ ถูกโรสจ้องหน้าพูดอย่างเจ็บปวด

“ไปให้พ้น รังสิต ไปตายที่ไหนก็ไป ไปหายัยกอหญ้าน่าจะเหมาะกับคุณมากกว่าฉันมั้ง...ไป๊!!”

รังสิตผงะหน้าเหวอ โรสลุกขึ้นเดินคอแข็งหน้าเชิดเฉียดเขาออกไปเรียกแท็กซี่ไปเลย

ooooooo

ป้องปกเข้าครัวไปทำอาหารเสร็จแล้วออกมาร้องเรียกให้กอหญ้ากับซุ่ยมากินกัน ปรากฏว่ากอหญ้าหลับปุ๋ยไปแล้ว พอเข้ามาในห้องปรากฏว่าซุ่ยก็หายไปแล้ว บ่นๆ ว่าไม่ไหวเลย ไปไม่ลามาไม่ไหว้

ป้องปกไปยกกระถางต้นไม้ที่จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกเพราะค่ำแล้ว เห็นกระดาษที่พับเป็นรูปต่างๆ แขวนและเสียบไว้ตามต้นไม้ ด้านหลังมีข้อความ จึงหยิบ มาดูทีละใบ...ทีละใบ แต่ละใบข้อความแตกต่างกันเช่น...

ขอบคุณที่ป้อนข้าว...ขอบคุณสำหรับต้นไม้... ขอบคุณที่ดูแลตอนไม่สบาย...ขอบคุณสำหรับว่านหางจระเข้และพลาสเตอร์ผ้า...ขอบคุณที่มาทุกครั้งที่ต้องการ...ขอบคุณที่ดูแลตลอด...ขอบคุณที่ห่วงใยทุกเรื่อง... ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี...และ...ขอโทษที่ไม่เคยขอโทษเลย...

ป้องปกนิ่งอึ้ง มองไปที่เตียงแล้วค่อยๆ เดินไปหา กอหญ้าในร่างซุ่ยที่หลับอยู่ ซุ่ยแอบดูตลอดเวลา ป้องปกรำพึงว่าใครจะเขียนข้อความแบบนี้ถ้าไม่ใช่ซุ่ย ปัดปอยผมที่ปรกหน้า พูดอย่างอ่อนโยนว่า

“ทีหลังอย่าทำเหมือนเราไม่ได้เจอกันอีกนะ พี่อยู่ตรงนี้ พูดกับพี่ก็ได้” แล้วป้องปกก็ก้มลงบรรจงจูบที่หน้าผากกอหญ้า ซุ่ยตกใจมากพึมพำในคอแทบไม่เป็นภาษาว่า เฮียป้อง...จูบเราเหรอ?...แต่พอนึกได้ว่าที่นอนอยู่และป้องปกจูบคือกอหญ้า ก็เจ็บปวด น้ำตารื้น แบมือดูสิ่งที่ตัวเองเขียนค้างไว้ เป็นกระดาษพับเป็นรูปคิงคอง ซุ่ยพลิกดูข้อความที่เขียนไว้ว่า...

“ขอโทษที่ไม่เคยบอกเฮียป้อง...ว่ารัก”

ซุ่ยเก็บกระดาษพับรูปคิงคองใส่กระเป๋า ปาดน้ำตา แล้วปีนหนีไปทางระเบียง หนีให้พ้นจากความเป็นจริงที่เจ็บปวด

กลับถึงบ้านคุณหยกแล้ว ซุ่ยตั้งสติถามตัวเองว่า “ถ้าฉันอิจฉาผู้หญิงที่ชื่อซุ่ย...งั้นฉันจะได้เป็นซุ่ยไหม? ฉันก็ยังเป็น กอหญ้า ฉันไม่มีทางกลับไปเป็นซุ่ยจริงๆ”

ซุ่ยร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ครู่หนึ่งมือแม่แก้วมาแตะที่ไหล่พูดอย่างอ่อนโยน อบอุ่นว่า

“อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะลูก ร้องกับแม่ ไม่เป็นไรหรอก”

ซุ่ยหันไปกอดแม่แก้วร้องไห้สะอึกสะอื้น ถามแม่แก้วว่า ความสุขคืออะไร ทำไมตนไม่เคยเจอความสุขเลยเล่าว่า

“หนูเคยคิดว่าถ้าได้เป็นคนอื่นหนูจะมีความสุข แต่มันก็ไม่ใช่ สุดท้ายหนูก็ต้องกลับมาร้องไห้ตลอด ทำไมมันยากจังคะ หรือหนูนิสัยไม่ดี เลยมีความสุขเหมือนคนอื่นไม่ได้”

“ความสุขของหนูคืออะไรกอหญ้า มีเงิน มีบ้าน มีรถหรือว่ามีแฟน...ถ้าความสุขของหนูขึ้นอยู่กับของภายนอกหนูก็ต้องวิ่งหา หาไม่เจอก็ไม่มีความสุข แต่ถ้าหาเจอแล้วมันหายไปหนูจะทุกข์ไหม ทุกข์แล้วต้องหาใหม่ หาไปเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยตายเลยเหรอลูก”

ooooooo

บุษบาเร่ฝัน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด