ตอนที่ 65
ตอนที่ 65 สุดที่รักของเธอ ศัตรูหัวใจของเขา (5)
คนจิตปกติดีเช่นเขากลับต้องมาอยู่ร่วมกับกลุ่มคนวิกลจริต ในเวลานั้น เขาคิดจริงๆ ว่าตัวเองจะต้องบ้าตามไปด้วยแน่ๆ ยามที่มารดามาเยี่ยม เขาวิงวอนขอร้องให้เธอพากลับบ้านด้วย บอกว่าเขาปกติดีทุกอย่างและทุกเรื่องที่เอ่ยออกมานั้น เขาได้ยินมาจากข้างในจิตใจของคนพวกนั้นเองจริงๆ... แต่คำอธิบายของเขากลับทำให้สถานการณ์แย่ลง...
ภายในสถานพยาบาลพักฟื้นผู้ป่วยโรคจิต มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง คอยดูแลเอาใจใส่เขา เธอมักมองเขาด้วยสายตารักใคร่เอ็นดูอย่างเต็มเปี่ยม ในระหว่างที่เขาถูกกักตัวในสถานพักฟื้นนั้น เขาเริ่มไว้วางใจและเชื่อใจหญิงคนนั้นอย่างแท้จริง ทว่าทุกอย่างพลันแตกสลายลงในค่ำคืนหนึ่ง
เธอปีนขึ้นเตียงของเขา ฉีกทึ้งเสื้อผ้าแล้วเข้ามากอดเข้ามาจูบเขา... เขาอ่านความคิดที่แท้จริงของเธอผ่านการสัมผัสได้
เขาดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดกำลัง แต่เด็กแปดขวบเช่นเขาจะสู้ผู้ใหญ่เช่นเธอได้อย่างไรกัน ในตอนนั้นเองที่เขาค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษควบคุมจิตใจคนอื่นได้ เขาสั่งให้เธอออกห่างจากตัวเขา แต่ก็ยังควบคุมได้ไม่นานพอ ไม่ถึงนาทีผู้หญิงคนนั้นก็หลุดจากการควบคุม แล้วโผเข้าใส่เขาอีกครั้ง เขารวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายบังคับสั่งการให้ผู้หญิงคนนั้นหันเปลี่ยนทิศไปพุ่งเข้าใส่กำแพงแทน เธอชนกำแพงอย่างแรง หลังจากนั้นทั้งเขาและเธอพากันสลบไป
ตั้งแต่นั้นมาผู้หญิงคนนั้นก็มิได้ดูแลเขาด้วยความเมตตาอย่างเคย แต่กลับมาข่มเหงรังแก พูดจาหยาบคายใส่เขาวันแล้ววันเล่า...
นับจากนั้นเขาจึงเริ่มเกลียดและโกรธโลกใบนี้ เลิกเชื่อใจผู้คน เขาเก็บตัวสันโดษ ถอยออกห่างจากผู้คน รังเกียจการสัมผัสจากเพศหญิง คลั่งไคล้ความสะอาดอย่างบ้าคลั่ง... และรอยยิ้มของเขาได้เลือนหายไปนับแต่วันนั้น
จากนั้นมาความจริงที่ว่าเขามีพลังวิเศษก็กลายเป็นความลับสุดยอดสำหรับเขา
หลังจากออกจากสถานพักฟื้นมาได้สองเดือน เขาก็ได้พบเธอ ในตอนนั้น เธอมีอายุเพียงแค่ห้าขวบ สวมชุดกระโปรงแบบเจ้าหญิง ยืนดูดอมยิ้มขนาดใหญ่กว่าใบหน้าตัวเอง และพูดคุยอยู่กับผู้ชายสวมหมวก ตรงหน้าปากซอยแคบๆ
คนที่เด็กหญิงสังเกตเห็นก่อนไม่ใช่เขา แต่กลับเป็นชายสวมหมวก และก่อนที่ชายคนนั้นจะเดินเข้าไปหาเธอ เขาบังเอิญเดินชนซูจือเนี่ยน และหลังจากโดนชนแล้ว เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้เป็นพวกค้ามนุษย์
ถึงแม้ซูจือเนี่ยนจะอยู่ในระยะห่างจากทั้งคู่พอสมควร แต่เขาก็ยังได้ยินบทสนทนาของทั้งสองอย่างชัดเจน ชายคนนั้นบอกให้เด็กหญิงตามเขาไป เขาจะซื้อขนมให้ เด็กหญิงพยักหน้าอย่างงงๆ ทั้งที่ยังมีอมยิ้มอยู่ในปาก
ในตอนนั้น เขาเลิกสนใจไยดีโลกใบนี้ไปเสียแล้ว ถึงเขาจะรู้ว่าเด็กหญิงคนนั้นกำลังจะถูกลักพาตัว เขาก็เดินหนีอย่างไม่สนใจไยดี
พอเดินห่างมาไม่กี่ก้าว เขาได้ยินเสียงใครบางคนเรียกเขา “พี่คะ...”
เขาหันกลับไปมอง ถึงได้รู้ว่าเป็นเด็กหญิงคนนั้นนั่นเอง เธอชี้ไปที่พื้นไม่ไกลจากตัวเขา แล้วกล่าวว่า “พี่ชาย พี่ลืมของค่ะ” ของที่ว่านั้นเป็นกระเป๋าเงินของเขาเอง เขาหยิบขึ้นมาแล้วมองเธอ เพราะไม่อยากติดหนี้บุญคุณอะไรกับเด็กหญิง เขาจึงเอนตัวเข้าไปกระซิบบอกว่า “ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ร้าย ถ้าตามเขาไป เธอจะถูกทำร้ายเอานะ”
ขณะที่เอนตัวเข้าไปใกล้ เขามีโอกาสได้มองหน้าเธออย่างใกล้ชิด เด็กหญิงคนนี้ดูเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ที่มีชีวิต ช่างน่ารักน่าชังอย่างเหลือเชื่อ ดวงตาเจิดจ้าของเธอจ้องมองตรงมาที่เขาขณะดูดอมยิ้ม สีหน้าสับสนงงงวยของเธอทำให้เขาดูไม่ออกว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่เขาบอกไปหรือไม่
เอาเถอะ อะไรที่ควรทำเขาก็ทำหมดแล้ว อะไรที่ต้องบอกก็บอกไปหมดแล้ว หมดเรื่องของเขาแล้ว และเมื่อเขากำลังจะเดินจากมา เขาได้ยินเสียงเด็กหญิงพูดกับชายคนนั้นอย่างไร้เดียงสาว่า “พี่ชายคนนี้บอกว่าลุงเป็นผู้ร้าย งั้นหนูไม่ไปกับลุงหรอก”