ตอนที่ 5
ตอนที่ 5 ร่วมชายคาเดียวกัน (5)
“เธอคงจะไม่มองดูบริษัทที่พ่อกับพี่ชายเธอสร้างขึ้นมาหลายปีพังครืนลงเฉยๆ หรอกใช่ไหม”
ซ่งชิงชุนเงียบไปพักใหญ่หลังฟังคำถามของฟางโหรว สุดท้ายก็ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องพูด “ซูจือเนี่ยนอาจเคยอยู่กับเรามาก่อน แต่จริงๆ เขาก็ไม่ได้ติดค้างอะไรเราสักนิด อีกอย่างบริษัทเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ดังนั้นหนูไม่คิดว่าเขาจะเต็มใจมาโอบอุ้มธุรกิจที่กำลังจะตายอย่างธุรกิจตระกูลซ่งหรอกค่ะ”
“เขาต้องช่วยเราแน่” ฟางโหรวเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ
ซ่งชิงชุนนิ่วหน้าแล้วถามต่อ “ทำไมคะ”
ฟางโหรวที่อยู่ปลายสาย ตอบหลังจากอึ้งไปครู่หนึ่ง “เพราะว่าเธอไงล่ะ”
ซ่งชิงชุนสะดุ้ง เมื่อเสียงนุ่มนวลของฟางโหรวค่อยๆ ลอยผ่านโทรศัพท์มาเข้าหู “ก็นะ เขาเป็นคนแรกของเธอไง”
การที่เรื่องในอดีตถูกโพล่งออกมาโต้งๆ เช่นนี้ทำให้ซ่งชิงชุนอึ้งตกใจ หน้าเธอพลันซีดเผือด “ก็นะ เขาเป็นคนแรกของเธอไง... ” ใช่ พี่สะใภ้พูดถูกต้องแล้ว ตอนที่เขาอยู่ร่วมบ้านกับพวกเรา เขาได้พรากความบริสุทธิ์ของฉันไป...
คืนนั้นเป็นฝันร้ายตลอดกาลของเธอ เป็นฝันร้ายที่เธอใช้เวลาชั่วชีวิตเพื่อลืมเลือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ
ถ้าไม่เป็นเพราะพี่ชายเธอฆ่าตัวตายเมื่อสามเดือนก่อน และข่าวร้ายนี้ทำให้บิดาเธอต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นเหตุให้ซ่งเอ็มไพร์ขาดผู้นำจนเข้าขั้นวิกฤตถึงกับจวนล้มละลายแล้วละก็ ในชีวิตนี้ไม่มีวันที่เธอจะมาบรรจบพบซูจือเนี่ยนอีกเป็นแน่
เหตุการณ์ในคืนนั้นได้ถูกปิดตายไปแล้วในหัวใจเธอ เธอไม่คิดจะไปรื้อฟื้นอีกต่อไป และจะแสร้งทำเสมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
หากเป็นไปได้ เธอไม่อยากข้องแวะติดต่ออะไรกับซูจือเนี่ยนอีกเลย ทว่าพี่สะใภ้เธอพูดถูก เธอจะปล่อยให้ความทุ่มเททั้งชีวิตของบิดาและพี่ชายเธอล่มสลายไปไม่ได้ เธอจะปล่อยให้พ่อของเธอมากังวลเรื่องธุรกิจที่บ้านระหว่างอยู่โรงพยาบาล หรือทำให้พี่ชายผู้ล่วงลับของเธอผิดหวังไม่ได้
ใช่... ซูจือเนี่ยนเหมาะกับตำแหน่งประธานบริหารธุรกิจตระกูลซ่งที่สุด เขาคือตำนานแห่งโลกธุรกิจ ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนฟื้นฟูบริษัทที่กำลังจะปิดกิจการ ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลก ดังนั้นเธอต้องขอร้องให้เขาช่วยให้จงได้
เธอรู้ดีว่าซูจือเนี่ยนไม่พอใจกับการกระทำในอดีตของเธอเป็นอย่างมาก และรู้อีกด้วยว่าคงเป็นเรื่องสาหัสสากรรจ์ทีเดียวที่จะทำให้เขายอมมาช่วยเหลือ แต่เธอจะไม่มีวันยอมแพ้ เพราะเธอยอมแพ้ไม่ได้
…
สองสามวันต่อมา ซ่งชิงชุนมาคอยซูจือเนี่ยนที่นอกบ้านเขา แต่เขาไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ที่บริษัทเธอก็ไปรอ แต่เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อคราวก่อน ยามจึงไม่กล้าปล่อยให้เธอเข้าไปในล็อบบี้อีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจรอเขาอยู่หน้าประตูทางเข้าแทน แต่เธอก็ไม่เคยพบเขาเลยสักครั้ง
จะว่าไปทั้งหมดนั่นก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะเธอเคยได้เห็นเขาแวบหนึ่งตอนรถของเขาแล่นผ่านไป โอกาสเจอยังไม่มี ไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้คุยกับเขาเรื่องบริหารบริษัท เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น สุดท้ายซ่งชิงชุนจึงตัดสินใจไปเยี่ยมมารดาของซูจือเนี่ยน
มารดาของเขาเป็นสมาชิกครอบครัวคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ของซูจือเนี่ยน บิดาเขาเสียไปนานแล้ว มารดาเลี้ยงดูเขามาตามลำพัง เขาปรนนิบัติมารดาอย่างดีมาก ซื้อบ้านย่านหรูให้เธออยู่และไปเยี่ยมทุกวันเสาร์
มารดาของซูจือเนี่ยนและบิดาของซ่งชิงชุนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัย ตอนที่ซูจือเนี่ยนเรียนมัธยม มารดาเขาป่วยหนักถึงขั้นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และเมื่อไม่มีใครดูแลเขา เขาจึงเข้ามาพักอยู่กับบ้านตระกูลซ่ง มารดาเขาขอให้บิดาเธอรับเขามาอยู่ด้วยราวหนึ่งปี