ตอนที่ 48
ตอนที่ 48 ร้อยวันของการอยู่ด้วยกัน (8)
ตลอดมื้อเย็นนั้น ซ่งชิงชุนยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารประหนึ่งแม่บ้านผู้นอบน้อมต่ำต้อยพร้อมให้บริการ เมื่อซูจือเนี่ยนกินข้าวหรือซุปหมดชาม เธอก็จะคอยเติมให้
ระหว่างมื้อเย็นนั้น ซูจือเนี่ยนเหลือบมองซ่งชิงชุนอยู่หนหนึ่ง แต่เมื่อประสานสายตากับเขา หญิงสาวก็รีบก้มหน้าหลบทันที เขาจ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรออกมาแต่แล้วเปลี่ยนใจกลับไปกินข้าวตามเดิม ปล่อยให้เธอยืนดูเขากินอยู่แบบนั้น
ซูจือเนี่ยนไม่นั่งเอ้อระเหยต่อหลังกินข้าวเสร็จ เขาลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำข้างๆ ห้องอาหาร เมื่อแปรงฟันเสร็จแล้วเดินออกมา เขาก็เหลือบมองไปที่ห้องอาหาร และเห็นซ่งชิงชุนนั่งอยู่อย่างเดียวดายที่โต๊ะอาหารตัวใหญ่ กินอาหารเหลือจากเขา ศีรษะของเธอก้มต่ำมากจนเขามองเห็นเพียงกระหม่อมของเธอเท่านั้น
ปกติแล้วเขาจะกินมื้อเย็นตามลำพังที่โต๊ะตัวนั้น แต่เขาไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวอะไร บางทีอาจเป็นเพราะรูปร่างที่เล็กกว่าของเธอก็เป็นได้ เธอเลยดูเก้ๆ กังๆ ที่โต๊ะตัวนั้น และด้วยเหตุใดบางอย่าง เขากลับรู้สึกเห็นใจเธอ
ซูจือเนี่ยนยืนมองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนหันหลังเดินจากไป
หลังจากทานอาหารเสร็จ ซ่งชิงชุนก็ล้างจานชามแล้วเก็บทุกอย่างเข้าที่จนเรียบร้อย จากนั้นเธอก็ถือจานผลไม้ที่เตรียมเอาไว้ เดินอย่างระมัดระวังไปที่ห้องนั่งเล่น
โทรศัพท์ยังคงเปิดอยู่ แต่เสียงถูกลดเบาลง อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงพักโฆษณา เอกสารต่างๆ กลับมาอยู่ในมือของซูจือเนี่ยนอีกครั้ง แต่เขาไม่ได้กำลังอ่านมัน สายตาของเขาจ้องมองไปยังหน้าต่าง คิ้วขมวดจนเป็นร่องลึกราวกับมีบางอย่างรบกวนจิตใจเขา
ซ่งชิงชุนวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะกาแฟ แล้วพูดเบาๆ “คุณซูคะ ผลไม้ค่ะ”
ขนตายาวๆ ของซูจือเนี่ยนกะพริบทีหนึ่งก่อนเขาจะหันมาพยักหน้าให้ซ่งชิงชุนเล็กน้อย ท่าทางของเขากลับไปเป็นเหมือนเดิมเมื่อหันกลับมาสนใจเอกสารในมือ
นอกจากโทรทัศน์ที่เปิดไว้เพื่อเป็นเสียงประกอบแล้ว ทั้งห้องกลับเงียบสนิท มีเพียงเสียงซูจือเนี่ยนพลิกหน้ากระดาษในมือเป็นบางครั้งเท่านั้น ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจเอกสารเท่าไร เพราะไม่นานเขาก็หันกลับไปมองหน้าต่างอีกครั้ง
แสงไฟในห้องส่องสว่าง ในขณะที่ด้านนอกมืดสนิท หน้าต่างวาววับจึงกลายเป็นกระจกใส สะท้อนภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องได้อย่างชัดเจน เขาเห็นซ่งชิงชุนยืนพิงกำแพงด้านที่ไกลจากเขามากที่สุด กำลังจ้องมองโทรศัพท์ในมืออย่างสนอกสนใจ
ดูเหมือนเธอกำลังส่งข้อความหาใครบางคน นิ้วของเธอง่วนอยู่กับการกดและปัดหน้าจอมือถือ ในขณะที่บางครั้งริมฝีปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างไม่ตั้งใจ
อาจเป็นเพราะยืนท่าเดิมจนเมื่อย ซ่งชิงชุนจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมถ่ายน้ำหนักลงขาอีกข้าง แล้วสายตาของเธอก็บังเอิญเหลือบมองที่หน้าต่าง ซูจือเนี่ยนรีบหันหน้ากลับมาก่อนเธอเพียงเสี้ยววินาที แล้วทำเป็นพลิกกระดาษในมือเบาๆ เขาจ้องมองบรรทัดของตัวหนังสือสีดำ ก่อนพูดขึ้นปุบปับด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ชงกาแฟให้ผมสักแก้วสิ”
คำสั่งที่มาอย่างฉับพลันประกอบกับความเงียบที่มีเป็นระยะเวลานาน ทำให้ซ่งชิงชุนสะดุ้งตกใจ เธอจ้องมองเขาอย่างงุนงงชั่วครู่ และเมื่อรับรู้ถึงสถานการณ์ตรงหน้า เธอก็ก่อนตอบกลับไปว่า “ออ... ค่ะ” หญิงสาวสอดโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าแล้วเดินไปที่ห้องอาหาร
จากนั้นซ่งชิงชุนก็เสิร์ฟกาแฟให้ซูจือเนี่ยน เธอโน้มตัวลงมาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะในจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มยื่นมือออกมา ซ่งชิงชุนจึงรีบวางแก้วกาแฟลงบนมือของเขา
ตอนที่ซูจือเนี่ยนรับแก้วไป นิ้วของเขาบังเอิญปัดเข้ากับนิ้วของเธอ ซ่งชิงชุนสะดุ้งเฮือก ทำให้กาแฟกระฉอกจากแก้วแล้วหกเลอะกางเกงของเขา
“ฉันขอโทษค่ะคุณซู” ซ่งชิงชุนรีบวางแก้วลงบนโต๊ะ คว้ากระดาษเช็ดปากมาได้ก็ซับลงบนกางเกงที่เปื้อนทันที