ตอนที่ 45
ตอนที่ 45 ร้อยวันของการอยู่ด้วยกัน (5)
น้ำเสียงนั้นมีความอ่อนโยนแบบที่เธอไม่เคยใช้พูดกับเขาเลยสักครั้งเดียว แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย แต่ก็นึกภาพออกเลยว่าใบหน้าของเธอกำลังเปื้อนยิ้ม ในตอนนั้น เขารู้สึกราวกับมีคนหล่อเขาไว้ในซีเมนต์ จนได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ให้แดดส่องต้องอยู่เช่นนั้น จนเมื่อเลขาเข้ามาใกล้ในระยะประชิดนั่นเอง เขาถึงได้หลุดออกจากภวังค์
ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์จบการบรรยายแล้ว ทุกคนในห้องต่างปรบมือให้แก่เขา ยกเว้นซูจือเนี่ยนที่นั่งทำหน้าไร้อารมณ์ เขารู้สึกแค่ว่าเสียงปรบมือเหล่านั้นช่างน่ารำคาญเหลือทน จนอดยกมือขึ้นนวดขมับไม่ได้ แล้วคำพูดเมื่อครู่ของซ่งชิงชุนก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง ฉันก็คิดถึงพี่ค่ะ พี่อี่หนาน
อารมณ์เบื้องลึกลุกโชนอยู่ในดวงตาของซูจือเนี่ยน หน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อยจากการหายใจด้วยความโกรธ โดยไม่บอกไม่กล่าว ชายหนุ่มก็กระแทกเอกสารในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง
เสียงปังดังลั่นนี้ทำให้เสียงปรบมือเงียบกริบลงทันใด ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่เมื่อครู่ยังยิ้มแย้ม กลับตัวสั่นเทาเพราะการกระทำปุบปับของซูจือเนี่ยน เขาย้อนทบทวนการบรรยายทันทีเพื่อหาว่ามีจุดไหนที่ทำให้ซูจือเนี่ยนโกรธขึ้นมา
โทสะอันเย็นเยียบดุจน้ำแข็งแพร่กระจายไปทั่วห้อง ราวกับกำลังเค้นเอาชีวิตออกจากทุกผู้คนที่อยู่ที่นั่น ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์พยายามเค้นสมอง แต่ก็หาไม่เจอว่าเขาทำผิดพลาดเรื่องใด จึงรวบรวมความกล้าแล้วถามออกไปว่า “ประธานซูครับ มีจุดไหนไม่ถูกต้องหรือครับ”
ซูจือเนี่ยนจ้องมองแจกันที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะประชุม ราวกับมันเป็นสิ่งน่าสนใจที่สุดในโลก
หลังจากรออยู่นานแต่ไร้ซึ่งคำตอบ ทุกคนก็หันไปมองแจกันบ้าง ในแจกันมีดอกทิวลิปธรรมดาปักอยู่หนึ่งดอก ดอกไม้นั้นเริ่มเหี่ยวเฉาแล้ว กลีบดอกมีรอยย่นเพราะมันถูกนำมาใส่ไว้เมื่อสองวันก่อน เป็นดอกไม้ที่ไม่มีอะไรให้ชื่นชมเลย แล้วทำไมเจ้านายใหญ่ถึงได้สนใจมันนัก
ในดวงตาของทุกคนมีความสับสนปรากฏขึ้นมา พวกเขาต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น จนในที่สุดสายตาทุกคู่ก็เปลี่ยนไปจับจ้องเลขาที่นั่งอยู่ข้างๆ ซูจือเนี่ยน เธอรู้สึกอึดอัดอยู่ชั่วครู่จากสายตาของทุกคน ก่อนเอนเข้าหาซูจือเนี่ยนแล้วกระซิบถามว่า “ประธานซูคะ ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์ถามว่ามีปัญหาอะไรที่คุณอยากยกขึ้นมาพูดหรือเปล่าคะ...”
“ซ่งซ่ง พี่ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าซ่งเฉิงจะเลือกจบชีวิตของตัวเองแบบนี้ พี่ขอโทษนะ ตอนที่เกิดเรื่องขึ้น พี่เข้ากรม เลยกลับมาหาเธอที่ปักกิ่งไม่ได้ เธอไม่รู้หรอกว่าพี่เป็นห่วงมากแค่ไหน...”
ซูจือเนี่ยนที่ฟังทั้งสองคุยกันจนถึงตรงนี้ ถูกเสียงกระซิบถามของเลขาดึงกลับเข้าไปในห้องประชุม ชายหนุ่มมองไปรอบห้อง แล้วจึงเห็นว่าทุกคนกำลังเครียดราวกับนักกายกรรมไต่เชือก เขาขมวดคิ้วให้กับสถานการณ์แปลกประหลาดนี้แล้วถามขึ้นว่า “จบแล้วใช่ไหม”
เมื่อถามเช่นนั้นออกไป ซูจือเนี่ยนก็สังเกตเห็นว่าทุกคนกลับทำหน้าแปลกๆ จากนั้นจึงเห็นเอกสารที่ก่อนหน้านี้อยู่ในมือของเขา แต่ตอนนี้กลับไปอยู่กลางโต๊ะประชุมแล้ว ตอนนั้นเองเขาจึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดไป เขาเหลือบมองผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์ที่ยังคงยืนยิ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าคุณยังรายงานไม่จบ ก็เชิญพูดต่อเลย”
ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์จึงรายงานต่อจากจุดที่เขาหยุดไป แต่ซูจือเนี่ยนบังคับตัวเองให้จดจ่ออยู่ได้แค่สิบคำ ก่อนที่ใจเขาจะหวนกลับไปยังการสนทนาของฉินอี่หนานและซ่งชิงชุนอีกครั้ง
“ซ่งซ่ง อย่ารู้สึกแย่เกินไปเลยนะ ถึงซ่งเฉิงจะไม่อยู่กับพวกเราแล้ว แต่พี่ก็ยังอยู่ตรงนี้นะ สิ่งที่ซ่งเฉินตั้งใจไว้ว่าจะทำให้เธอ พี่จะเป็นคนสานต่อเอง”