ตอนที่ 43
ตอนที่ 43 ร้อยวันของการอยู่ด้วยกัน (3)
เมื่อซ่งชิงชุนมาถึงบ้านของซูจือเนี่ยนตอนหนึ่งทุ่มตรง ชายหนุ่มก็ออกไปแล้ว ห้องอาหารที่เคยเลอะเทอะตอนเธอจากไปได้รับการทำความสะอาดเรียบร้อย แม้แต่จานชามที่ใส่อาหารเช้าก็ถูกล้าง เช็ดจนแห้ง และเก็บเข้าชั้นวางตามเดิม
ซ่งชิงชุนเตร่อยู่ในห้องนั่งเล่นจนถึงสี่ทุ่ม ก็ยังไม่มีวี่แววว่าซูจือเนี่ยนจะกลับมา เธอจึงเดินเตาะแตะขึ้นชั้นบนไปยังห้องนอนที่เขาอนุญาตให้ใช้ อาจเป็นเพราะว่าเมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับ ดังนั้นหลังจากอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ซ่งชิงชุนก็คลานขึ้นไปซุกตัวบนเตียง แล้วหลับสนิทในเวลาเพียงไม่นาน
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าของวันถัดไปแล้ว มีข้อความหนึ่งส่งเข้ามาตอนที่เธอแปรงฟัน เป็นข้อความจากฉินอี่หนานว่า
[ซ่งซ่ง เที่ยวบินของพี่กำลังจะออกแล้ว จะถึงปักกิ่งในอีกสองชั่วโมงครึ่งนะ]
ซ่งชิงชุนคาบแปรงสีฟันแล้วกดข้อความตอบกลับไป
[พี่จะออกมาเกตไหนคะ เดี๋ยวฉันไปรับ]
อาจเป็นเพราะฉินอี่หนานต้องเปลี่ยนไปใช้โหมดบนเครื่องบิน เขาจึงพิมพ์เพียงตัวเลขกลับมา
[3]
ซ่งชิงชุนรู้ว่าเขาหมายถึงเกตสาม และแม้ข้อความทั้งหมดที่ส่งมาจะมีแค่สามข้อความ แต่ซ่งชิงชุนก็เอาแต่อ่านมันซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ดวงตาของเธอประกายเมื่ออ่าน ริมฝีปากก็แย้มยิ้ม อีกแค่สองชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เธอก็จะได้เจอพี่อี่หนานแล้ว...
ซ่งชิงชุนพบฉินอี่หนานที่สนามบินตอนบ่ายโมงครึ่ง ถนนเข้าเมืองรถค่อนข้างติด ดังนั้นเมื่อพวกเขามาถึงในเมืองก็เป็นเวลาบ่ายสองแล้ว ร้านรวงส่วนใหญ่ก็ปิดหลังจากต้อนรับลูกค้ามากมายตอนเที่ยง สุดท้ายแล้วซ่งชิงชุนกับฉินอี่หนานจึงเลือกเข้าร้านอาหารตะวันตกเพื่อดื่มชายามบ่ายแทน
...
มีประชุมบริษัทตอนบ่ายสาม แต่ตอนนี้บ่ายสามสิบนาทีแล้ว คนตรงเวลาอย่างซูจือเนี่ยนยังไม่ออกมาจากออฟฟิศส่วนตัวเลย
เมื่อถึงเวลาบ่ายสามสิบห้านาที เลขาของเขาก็พูดเตือนเขาผ่านทางประตู แต่ประตูออฟฟิศก็ยังคงปิดอยู่อย่างนั้น
เหล่าผู้จัดการที่รออยู่ให้ห้องประชุมจะเข้ามาเร่งเลขาอยู่บ่อยๆ จนในที่สุดเลขาของเขาก็พ่ายแพ้ต่อแรงกดดัน จนต้องมายืนเคาะประตูออฟฟิศเขาอีกครั้ง
เมื่อเคาะแล้วแต่ไม่มีเสียงตอบรับ เธอจึงรวบรวมความกล้าผลักประตูเข้าไป และได้เห็นซูจือเนี่ยนกำลังยืนนิ่งอยู่ริมหน้าต่างที่เป็นกระจกทั้งบาน เธออาจคิดไปเองก็ได้ แต่สาบานได้เลยว่าเธอเห็นร่องรอยความเศร้าโศกห่อเหี่ยวบนใบหน้านายใหญ่ผู้มักเย็นชาเสมอนี้
เลขาสั่นศีรษะเร็วๆ ไล่ภาพนั้นออกไป เธอแน่ใจว่าตนแค่คิดไปเอง ก่อนเอ่ยปากเรียกเบาๆ “ประธานซูคะ” แต่เขายังคงนิ่งเฉย เธอไม่มีทางเลือกนอกจากค่อยๆ เดินเข้าไปในออฟฟิศของเขา
นายใหญ่ของเธอซึ่งปกติเป็นคนระมัดระวังตัวมาก กลับไม่รับรู้ถึงการมาของเธอเลย กระทั่งเธอไปหยุดอยู่ขวามือเขานั่นแหละถึงได้รู้ เมื่อเข้าไปใกล้ เลขาจึงได้เห็นสีหน้าของซูจือเนี่ยนอย่างชัดเจน ชายหนุ่มกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่สายตาของเขาเหม่อมองไร้จุดหมาย เธอสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เพราะมองเห็นร่องรอยความเศร้าบนใบหน้าอันสมบูรณ์แบบของเขา
เลขารู้สึกตกใจที่สุดในชีวิต จนต้องกะพริบตาถี่ๆ ราวกับจะเช็กให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เธอพยายามทำใจให้สงบแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “ท่านประธานซู”
ซูจือเนี่ยนยังคงไม่ตอบรับใดๆ เลขาจึงยืนรอร่วมนาที และเมื่อเธออ้าปากจะพูดขึ้นอีกครั้ง ซูจือเนี่ยนก็ค่อยๆ หันมา คลายความสงสัยของเธอลง “มีอะไร”
"ประธานซูคะ คุณมีประชุมตอนบ่ายสาม ตอนนี้บ่ายสามครึ่งแล้วค่ะ” เลขาพูดเตือนเขา พร้อมทั้งงุนงงกับพฤติกรรมที่แปลกไปของเขาด้วย
ซูจือเนี่ยนทำเสียงพึมพำในลำคอ และยืนอยู่ที่เดิมหาได้ขยับไปไหน