ตอนที่ 37
ตอนที่ 37 อดีตที่เราเคยมี (7)
ในตอนนั้น ซ่งเฉิงไปต่างประเทศแล้ว ส่วนฉินอี่หนานก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่อยู่ทางตอนใต้ ดังนั้นคนในบ้านที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอจึงเหลือเพียงซูจือเนี่ยน ซ่งชิงชุนที่ลืมความขุ่นเคืองใจเล็กน้อยไปแล้ว จึงเริ่มหันมาพูดคุยกับซูจือเนี่ยน
ตอนนั้นเองที่เธอรู้ว่าซูจือเนี่ยนไม่ใช่คนช่างพูดเอาเสียเลย เขามักจะตอบกลับมาสักประโยคหลังจากที่เธอถามจ้อไปเป็นสิบประโยคได้ บ่อยครั้งที่เขาทำเพียงเสียงพึมพำรับรู้ในลำคอ ไม่นานหลังจากนั้น ความประทับใจที่ซ่งชิงชุนมีต่อซูจือเนี่ยนก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง อีกไม่นานก็จะเป็นวันเกิดของฉินอี่หนาน สำหรับซ่งชิงชุนแล้ว ไม่มีวันไหนจะสำคัญไปกว่าวันเกิดของเขาอีกแล้ว เธอมักจะเตรียมของขวัญวันเกิดให้เขาล่วงหน้าหนึ่งเดือนเป็นอย่างต่ำ
ปกติซ่งชิงชุนจะลากซ่งเฉิงไปซื้อของขวัญให้ฉินอี่หนานด้วย แต่ตอนนี้ซ่งเฉิงไม่ได้อยู่ปักกิ่ง และซ่งชิงชุนก็ต้องการความเห็นของผู้ชาย เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปขอให้ซูจือเนี่ยนช่วย
พูดตามจริงซ่งชิงชุนไม่คิดว่าซูจือเนี่ยนจะยอมไปเป็นเพื่อนเธอ แต่เธอก็ลองถามดูเพราะไม่มีอะไรจะเสีย ใครจะไปคิดว่าเด็กหนุ่มที่ทำตัวห่างเหินเสมอจะพยักหน้าตอบตกลง
บรรยากาศเริ่มแรกก็ถือว่าเป็นไปด้วยดี เพื่อตอบแทนที่ซูจือเนี่ยนช่วยเหลือ ซ่งชิงชุนถึงกับเลี้ยงชานมเขาหนึ่งแก้วด้วย ยามท้องฟ้ามืดลง ซ่งชิงชุนก็เหน็ดเหนื่อยจากการซื้อของ ซูจือเนี่ยนถึงขนาดเสนอตัวถือกระเป๋าให้เธอ
ซ่งชิงชุนไม่ใช่คนโลเลเปลี่ยนใจไปมา แต่เป็นเพราะเธอแคร์ฉินอี่หนานมาก เธอจึงอยากเลือกของขวัญให้เขาอย่างพิถีพิถัน ทุกครั้งที่เธอหยิบของขึ้นมาสักชิ้น เธอก็จะถามความคิดเห็นของซูจือเนี่ยน แรกๆ เด็กหนุ่มจะพูดด้วยเสียงห่างเหินว่า “ก็ไม่เลว” แต่หลังๆ เขาจะแค่พยักหน้าอย่างขอไปที หรือไม่ก็บ่นงึมงำอย่างหมดความอดทน
จนถึงตอนนี้ซ่งชิงชุนก็ยังไม่รู้เลยว่าเธอไปทำอะไรให้ซูจือเนี่ยนขุ่นเคืองใจนัก เธอเลือกของขวัญให้ฉินอี่หนานอย่างมีความสุขต่อไป แต่เมื่อเธอขอให้เขาลองสวมนาฬิกาข้อมือให้ดู เด็กหนุ่มกลับผลักมือเธอที่ยื่นไปหาเขาออกอย่างแรง ก่อนเดินกระแทกเท้าตึงตังออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เขาไม่ได้คืนกระเป๋าให้เธอ เธอจึงไม่มีทั้งเงินทั้งโทรศัพท์ติดตัว ซ่งชิงชุนค้นตามเสื้อผ้าพบเงินเพียงสองดอลลาร์ ที่ไม่พอแม้แต่จะใช้ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินกลับบ้าน อย่าว่าแต่นั่งแท็กซี่เลย ในที่สุดเธอก็ไม่มีทางเลือก นอกจากจำต้องเดินกลับบ้าน
ห้างอยู่ห่างจากบ้านเธอไปสิบกิโลเมตร เธอออกบ้านมาตั้งแต่ฟ้ายังสว่าง แต่จนฟ้ามืดแล้วเธอก็ยังไม่ถึงบ้านเลย วันนี้เธอสวมรองเท้าคู่ใหม่มาด้วย มันมีขนาดเล็กว่าเท้าของเธอหนึ่งไซซ์ จึงกัดเท้าเธอจนเจ็บไปหมด
ตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยถูกลงโทษหนักขนาดนี้มาก่อนเลย เธอร้องไห้เสียจนตาแดงก่ำ ซ่งชิงชุนใช้เวลาเดินไปตั้งเจ็ดชั่วโมง กว่าจะถึงบ้านก็ตอนสี่ทุ่มแล้ว
เธอกลับเข้าห้องของตัวเองแล้วถอดรองเท้าออก เห็นเท้าตัวเองเป็นแผลพองไปหมด และมีบางจุดเลือดไหลออกมาด้วย
เธอสาปส่งซูจือเนี่ยนระหว่างใช้สำลีทำความสะอาดเท้า ขณะเดียวกันท้องของเธอก็ร้องโครกครากด้วยความหิว
ในตอนนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นคนที่โชคร้ายเหลือเกิน ทั้งหมดเป็นเพราะซูจือเนี่ยนคนเดียวเลย ตั้งแต่นั้นมา ความเกลียดชังที่เธอมีต่อเขาก็ฝังรากลึกกว่าเดิม เธอสาบานในใจว่าจะไม่สนใจผู้ชายคนนั้นอีกตราบที่ยังมีลมหายใจ
คราวนี้ซ่งชิงชุนผูกใจเจ็บจริงๆ จนเธอไม่พูดกับซูจือเนี่ยนเลยแม้แต่ประโยคเดียวเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม แม้ว่าทั้งสองจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันก็ตาม