ตอนที่ 30
ตอนที่ 30 เมื่อรักแรกหวนคืน (10)
ซ่งชิงชุนหยิกอุ้งมือตัวเองราวกับจะใช้ความเจ็บปวดนั้นมาช่วยให้เธอกล้าเอ่ยการตัดสินใจออกมา เธอพยักหน้าตอบรับอย่างเงียบๆ แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ด้วยกังวลว่าเขาอาจจะไม่เข้าใจความหมาย เธอจึงตอบอย่างรวบรัดว่า “ตัดสินใจแล้วค่ะ”
ทั้งหมดนี้เป็นเงื่อนไขที่ซูจือเนี่ยนกำหนดขึ้น และเขาก็เป็นฝ่ายได้เปรียบในการเจรจาครั้งนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ พอเขาได้ยินคำตอบของเธอ สายตาที่เย็นชาอยู่เป็นนิจของเขากลับแปรเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าขึ้นมาทันที เขาตกตะลึงอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก นั่งนิ่งงันอยู่แบบนั้นสักพักหนึ่ง
ความเงียบของเขาทำให้ซ่งชิงชุนกระวนกระวายใจอย่างมาก กลัวเหลือเกินว่าเขาจะกลับคำ เธอจึงอดที่จะเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “ฉันตกลงทำตามเงื่อนไขของคุณทุกข้อค่ะ ทีนี้คุณจะมอบเอกสารที่เซ็นแล้วให้ฉันได้ไหมคะ”
ซูจือเนี่ยนไม่ตอบ เขากดปุ่มบนคีย์บอร์ด แล้วเครื่องปรินเตอร์ก็เริ่มพิมพ์เอกสารออกมา
ซ่งชิงชุนถามขึ้นอย่างตกประหม่า “ตกลงตามเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว คุณคงจะไม่กลับคำพูดใช่ไหมคะ”
ซูจือเนี่ยนยังนิ่งเงียบ เขาเดินไปที่เครื่องปรินเตอร์ หยิบกระดาษสองแผ่นที่เพิ่งพิมพ์เสร็จขึ้นมาวางลงตรงหน้าซ่งชิงชุน “เซ็นซะสิ”
“อะไรคะ” ซ่งชิงชุนมองซูจือเนี่ยนด้วยสายตาสับสน เมื่อเห็นว่าเขาไม่คิดจะตอบคำถาม เธอจึงหยิบกระดาษสองแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน เป็นสัญญาที่ร่างขึ้นมาโดยซูจือเนี่ยน
ในสัญญาระบุไว้อย่างชัดเจนว่าตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2015 ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2016 เป็นระยะเวลาหนึ่งร้อยวัน เวลาของนางสาวซ่งชิงชุน ตั้งแต่ 19.00 น. ถึง 07.00 น. ของวันถัดไป ต้องเป็นของนายซูจือเนี่ยนทั้งหมด ตลอดสิบสองชั่วโมงของหนึ่งร้อยวันนี้ นางสาวซ่งชิงชุนต้องพร้อมรับใช้นายซูจือเนี่ยนทุกอย่าง และเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวก ตลอดหนึ่งร้อยวันนี้ นางสาวซ่งชิงชุนจะต้องย้ายเข้ามาอยู่บ้านของนายซูจือเนี่ยน เธอจะต้องรับผิดชอบดูแลความเป็นอยู่ของเขา ตั้งแต่ทำความสะอาด ทำอาหาร ดูแลเรื่องเสื้อผ้า และเพื่อเป็นการตอบแทน นายซูจือเนี่ยนจะช่วยนางสาวซ่งชิงชุนฟื้นฟูกิจการซ่งเอ็มไพร์ตลอดระยะหนึ่งร้อยวันนี้
เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่าวันหนึ่งเธอจะกลายเป็นสินค้าแลกเปลี่ยนในสัญญาธุรกิจ ในสัญญานี้ได้ระบุชัดเจนว่าหากเธอไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซ่งเอ็มไพร์จะต้องล้มละลาย อีกทั้งเธอยังต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนมากให้กับเขา
ซ่งชิงชุนอ่านสัญญาฉบับนั้นราวหนึ่งนาที ก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาจากโต๊ะแล้วเซ็นสัญญาขายชีวิตตัวเอง
ซูจือเนี่ยนนั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้เช่นเคย สายตาเขามองตามปากกา และเมื่อเขาเห็นชื่อ “ซ่งชิงชุน” ปรากฏบนกระดาษแผ่นนั้น เขาพลันรู้สึกโหวงเหวงในใจพิกล จากนั้นราวกับทนมองต่อไปไม่ได้ จึงเบือนหน้าหนีมองออกไปที่นอกหน้าต่างแทน
เมื่อซ่งชิงชุนเซ็นสัญญาเสร็จก็แจ้งซูจือเนี่ยน แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ เธอจึงเงยหน้าขึ้น เห็นเขามองออกไปที่นอกหน้าต่างประหนึ่งว่ากำลังสนใจบางสิ่งบางอย่างภายนอกอย่างเต็มที่
บางทีเธออาจจะตาฝาดไปเอง แต่เธอสาบานว่าเธอเห็นร่องรอยความอ้างว้างปรากฎบนใบหน้าอันไร้ที่ติของเขา
ทว่าก่อนซ่งชิงชุนจะยืนยันอะไรได้ ซูจือเนี่ยนก็หันขวับมา สายตาของเขากลับไปไร้ความรู้สึกและแข็งกร้าว จึงทำให้ซ่งชิงชุนยิ่งมั่นใจว่าเมื่อกี้คงละเมอเพ้อจินตนาการไปเอง
ซูจือเนี่ยนดึงกระดาษทั้งสองแผ่นออกไป เขาเซ็นชื่อตัวเองลงไป แล้วเก็บไว้กับตัวหนึ่งฉบับ ส่งอีกฉบับพร้อมเอกสารเปล่าใบนั้นคืนให้ซ่งชิงชุน ขณะที่เอกสารสองฉบับตกลงสู่มือของซ่งชิงชุน ซูจือเนี่ยนก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป