ตอนที่ 26
ตอนที่ 26 เมื่อรักแรกหวนคืน (6)
ทั่วทั้งห้องพลันเงียบกริบราวกับป่าช้า ซูจือเนี่ยนยืนนิ่งไม่ได้ขยับตัวไปจากประตูห้องทำงาน แขนและมือของเขาที่จับคางของซ่งชิงชุนเมื่อกี้ยังยกค้างอยู่ในท่าเดิม
เขายืนอยู่ในท่านั้นเป็นเวลานาน ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องทำงาน จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์ ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สีหน้าเขายังนิ่งสนิทเช่นเดิม นิ้วมือของเขาคลิกเมาส์เป็นครั้งคราว บางครั้งก็พิมพ์ข้อความยาวๆ แต่จู่ๆ เขาพลันหยุดมือโดยไม่ทราบสาเหตุ หันมองไปที่นอกหน้าต่าง จากนั้นเลื่อนสายตามาหยุดมองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา รู้สึกราวกับว่าเอกสารที่อ่านมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมากำลังตัดสินเขาอยู่อย่างเงียบๆ เขายังจำคำถามของถังนั่วเมื่อวันก่อนได้ นั่นเอกสารอะไรน่ะ ฉันเห็นนายอ่านมาหลายวันแล้ว...
เอกสารพวกนี้เป็นข้อมูลการพัฒนาเติบโตของซ่งเอ็มไพร์ตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ก่อนถังนั่วจะมาหานั้น เขาทำการรวบรวมข้อมูลด้วยตัวเองไว้แล้ว หรือจะพูดให้ถูกก็คือ เขารวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ก่อนซ่งชิงชุนจะมาหาเขาซะอีก
ถังนั่วถามเขาว่าทำไมเขาถึงไม่ช่วยเธอ
ใช่... ทำไมเขาถึงไม่ช่วยเธอล่ะ
นั่นเพราะเขากลัว... กลัวว่าหากช่วยเธอสำเร็จแล้ว เขาจะไม่ได้เห็นเธออีก แต่ตอนนี้ แม้เขาจะตัดสินใจไม่ยอมช่วยเธอ เขาก็คงจะไม่ได้เจอเธออีกต่อไปเช่นกัน
เพราะเมื่อกี้ก่อนเธอจากไป เขาได้ยินความคิดในใจเธอชัดเจน เธอยอมแพ้แล้ว ล้มเลิกที่จะขอร้องให้เขามาช่วยซ่งเอ็มไพร์อีกต่อไป เพื่อขอให้เขาช่วย เธอติดตามเขามาเกือบหนึ่งเดือน... ท่ามกลางอากาศที่เหน็บหนาว เธอเฝ้ารอเขาอยู่ตรงหน้าบริษัทมาตลอดทั้งเดือน
ระหว่างที่เขาทำงานอยู่นั้น ทุกครั้งที่มองออกนอกหน้าต่างห้องทำงานลงมา เขาจะเห็นเงาของเธออยู่ทุกหนแห่ง ทว่านับจากนี้คงไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป
ความคิดเหล่านี้คอยวนเวียนอยู่ในหัวของซูจือเนี่ยน ทำให้เขารู้สึกอึดอัดคับข้องใจ เขาปิดคอมพิวเตอร์ด้วยความหงุดหงิดแล้วลุกออกจากห้องทำงาน
เมื่อก้าวเข้าห้องนอนก็เห็นเสื้อคลุมกับกระเป๋าของเธอวางกระจัดกระจายอยู่บนพื้น โทรศัพท์เธอยังคงอยู่บนเตียงของเขา.. ด้วยความโมโห เขาทำการรวบรวมข้าวของของเธอขึ้นมา แล้วโยนลงจากระเบียงโดยไม่ยั้งคิด
อาจเป็นเพราะเธอเมื่อคืน มีเธอนอนร่วมชายคาเดียวกันกับเขา เขาจึงนอนไม่ค่อยหลับนักในห้องพักแขก ซูจือเนี่ยนขึ้นนอนบนเตียง พยายามหลับชดเชยเมื่อคืน แต่กลิ่นอายเธอยังคงติดอยู่บนที่นอนของเขา คอยวนเวียนโชยเข้าจมูก รบกวนการนอนของเขาจนทนไม่ได้ เขาลุกจากที่นอนแล้วเดินพรวดพราดลงไปชั้นล่างอย่างฉุนเฉียว
พอออกมายืนนอกบ้าน สายตาของเขาถูกดึงดูดไปยังข้าวของของซ่งชิงชุนที่เขาเพิ่งโยนลงมา เขาเม้มปาก ก่อนจะเดินไปก้มลงเก็บขึ้นมาทีละชิ้น
...
ซ่งชิงชุนเดินมาสักพักก่อนจะสงบสติอารมณ์ลงได้ ตอนนี้เองที่เธอเพิ่งรู้ตัวว่า ผู้คนบนถนนพากันเหลือบมองเธอ เธอรู้สึกหนาวสั่น จึงตระหนักว่าตัวเองไม่ได้สวมเสื้อกันหนาวแถมยังเท้าเปล่าอีก เท้าเธอโดนหิมะกัดจนด้านชาไร้ความรู้สึกไปแล้ว
ซ่งชิงชุนหยุดที่ข้างถนน คิดจะเรียกแท็กซี่ก็สำนึกได้ว่าทิ้งกระเป๋าและโทรศัพท์ของตัวเองไว้ที่บ้านของซูจือเนี่ยน เธอหันกลับไปมองบ้านของเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป แต่ไม่คิดจะเดินกลับไป อารมณ์ที่ดีขึ้นของเธอเปลี่ยนไปซึมเศร้าอีกครั้ง
แล้วนี่เธอจะอธิบายกับบิดาและพี่สะใภ้ของเธออย่างไรดี เรื่องที่เธอชักชวนซูจือเนี่ยนไม่สำเร็จ
บิดาของเธอคงต้องโศกเศร้าเสียใจกับข่าวนี้... เพราะถึงอย่างไรซ่งเอ็มไพร์ก็คือสมบัติที่ทำมาทั้งชีวิตของท่าน...