ตอนที่ 10
ตอนที่ 10 ร่วมชายคาเดียวกัน (10)
“เธอเป็นน้องสาวของซ่งเฉิง” ถังนั่วผู้ซึ่งนั่งเงียบมาโดยตลอด พลันประกาศออกมา
“ซ่งเฉิงงั้นรึ ประธานซ่งเอ็มไพร์ คนที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายเมื่อสามเดือนก่อนคนนั้นน่ะหรือ งั้นนั่นก็เป็นน้องสาวของเขา ลูกสาวของตระกูลซ่งสินะ”
“ถึงว่าหน้าตาดูคุ้นๆ เป็นนักข่าวของสถานีโทรทัศน์ทีดับเบิลยูถูกไหม เคยเห็นรายงานข่าวมาก่อน เอ… ชื่ออะไรนะ”
“ซ่งชิงชุน...” ถังนั่วตอบ เขาหยิบไพ่ขึ้นมาโดยไม่มอง แต่กลับหลุบสายตาลงแทน นิ้วลูบไล้ด้านหลังไพ่อย่างเหม่อลอยคล้ายกับกำลังรำลึกถึงอดีต ผ่านไปครู่ใหญ่เขากล่าวต่อด้วยเสียงแผ่วว่า “เมื่อกี้ ถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซูจือเนี่ยนใช่ไหม”
ถังนั่วหงายไพ่แล้วพูดเสียงเบาว่า “อันที่จริง พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันหรอก แต่ถ้าจะให้พูดถึงความเกี่ยวข้องของทั้งคู่แล้วละก็ ตั้งแต่ซูจือเนี่ยนเกิดมาจนถึงวันนี้ ซ่งชิงชุนอาจเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถแทรกตัวเข้าสู่โลกส่วนตัวของเขาได้”
ซูจือเนี่ยนออกมาจากห้อง แล้วปิดประตูลงตามหลัง เขาก้าวยาวๆ ไปตามพรมที่ทอดลึกเข้าไปในร้านเอลโดราโด้โดยไม่มองซ่งชิงชุนที่เดินตามหลังมา
ระเบียงทางเดินเงียบเชียบ นอกจากเสียงเซ็งแซ่ที่ดังลอดออกมาเป็นครั้งคราวจากห้องต่างๆ แล้ว ไม่มีเสียงอื่นใด หรืออีกนัยก็คือทั้งคู่ไม่มีการสนทนากันในขณะที่เดิน
ในที่สุดซูจือเนี่ยนก็หยุดเดินเมื่อมาถึงสุดทางเดิน เขาหยิบการ์ดออกจากกระเป๋าแล้วรูดตรงช่องข้างประตูเพื่อเปิด จากนั้นเดินเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่ง โดยไม่สนใจซ่งชิงชุนที่ตามหลังมา
ส่วนซ่งชิงชุนยืนอยู่นอกห้อง มองซูจือเนี่ยนรินน้ำเปล่าใส่แก้วบนเคาน์เตอร์ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาพร้อมถือแก้วน้ำไว้ในมือ เธอไม่ได้เดินตามเข้าไป ส่วนเขาก็ไม่ได้เชื้อเชิญให้เธอเข้าไปเช่นกัน เขาทำราวกับมีเวลาเหลือเฟือให้ทิ้งขว้าง เอาแต่นั่งตรงนั้น จิบน้ำอย่างช้าๆ
ถึงซูจือเนี่ยนจะนิ่งเฉยไม่เอ่ยอะไร แต่ซ่งชิงชุนก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา แรงนั้นช่างบีบหัวใจเธอ ทำเอาใจเธอสั่นระรัว ขาทั้งสองข้างแข็งทื่ออยู่หน้าประตู เธอก้าวขาไม่ออก ทุกอณูในกายกรีดร้องให้เธอวิ่งหนีไป
ซ่งชิงชุนมองซูจือเนี่ยน หลังจากลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ตัดสินใจก้าวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู จากนั้นค่อยๆ เดินอย่างระมัดระวังไปหาซูจือเนี่ยน หัวใจเธอสั่นรัว ซึ่งตรงข้ามกับย่างก้าวของเธอ เธอรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะหยุดเต้นอย่างไรอย่างนั้น
เธอไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจะต้องพบกับเรื่องเลวร้ายอะไรบ้าง แต่ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ หรือปีนภูเขาที่เต็มไปด้วยขวากหนาม เธอจะต้องฝ่าฟันไปให้ได้
ซ่งชิงชุนหยุดห่างจากซูจือเนี่ยนราวหนึ่งเมตร กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว ตามองจ้องไปที่ใบหน้าเขาแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยอะไรออกมา พลันฉุกคิดบางอย่างได้ จึงเปลี่ยนจากชื่อซูจือเนี่ยนที่เกือบจะหลุดจากริมฝีปากเป็น “ท่านประธานซูคะ”
ซูจือเนี่ยนหลุบสายตาลง ทันใดนั้นแก้วน้ำในมือของเขาก็พุ่งปลิวมาตกตรงข้างเท้าของซ่งชิงชุน แก้วใบนั้นแตกละเอียด น้ำเย็นเยียบเปียกชุ่มเท้าเธอ เสียงเยือกเย็นของซูจือเนี่ยนดังตามหลังเสียงแก้วแตกมาติดๆ
“ซ่งชิงชุน… คุณแน่มาก!”