ตอนที่ 79
บทที่ 79 พลิกหน้ามือเป็นหลังเท้า
หลิงตงยืนกรานว่าจะไปส่งเยี่ยหวันหวั่นกลับหอพักด้วยตัวเอง แค่นึกก็เห็นภาพเหตุการณ์ตลอดทางนั้นแล้ว
ฝูงชนที่มุงดูอยู่รอบๆ เห็นชายหนุ่มสูงหล่อมาดเท่ สวมชุดนักบาสเกตบอล เดินเร็วบ้างช้าบ้างตามจังหวะของหญิงสาวข้างกาย ท่าทางราวกับทูตพิทักษ์ดอกไม้ ช่างเป็นภาพที่สาวน้อยทุกคนฝันถึง
แต่ หญิงสาวที่ถูกเขาเดินไปส่ง กลับทำให้ภาพนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ทรงผมแอฟโฟรอันน่ากลัว อายแชโดว์ที่เข้มจัด ริมฝีปากหนาเตอะสีแดงสด ช่างเป็นภาพที่น่าหวาดผวาเกินกว่าจะทนดูได้
“พระเจ้า! ยัยตัวประหลาดเยี่ยหวันหวั่นมีคนตามจีบด้วยเหรอเนี่ย!”
“ประเด็นสำคัญคือ คนที่จีบเธอคือลูกพี่ใหญ่โรงเรียนชิงเหอของพวกเราซะด้วย”
“ฉันหลงคิดว่าเป็นข่าวที่ลือกันผิดๆ ซะอีก! นี่มันน่าตกใจเกินไปแล้ว!”
ในฝูงชนที่ล้อมวงมุงอยู่ เฉินเมิ่งฉียืนมองทั้งสองคนอยู่ไกลๆ มองดูท่าทางบุคคลที่ทรงอิทธิพลในชิงเหอของพวกเขาต้อนรับเยี่ยหวันหวั่นอย่างอบอุ่น ใบหน้าพลันแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัดทันที
เธอหลงคิดว่าวันนี้จะได้เห็นเยี่ยหวันหวั่นร้องไห้ขี้มูกโป่ง ใครจะรู้ว่าเธอไม่เพียงสบายดีแบบที่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ซ้ำยังสุขสบาย มีหน้ามีตาขึ้นมาอีก
ณ ประตูหอพักหญิง
หลังจากหลิงตงจากไปแล้ว เฉินเมิ่งฉีวิ่งไปหาเยี่ยหวันหวั่นทันที ทำท่าทางเป็นห่วงมองไปยังทิศทางที่หลิงตงเดินจากไป แล้วเอ่ยถามหยั่งเชิง “หวันหวั่น เธอกับหลิงตงนี่มันยังไงกัน?”
เวลานี้มีผู้หญิงสองคนเดินตามหลังของเฉินเมิ่งฉีมาด้วย ผู้หญิงด้านซ้ายสวมชุดเดรสเรียบๆ สีขาวแบรนด์ชาแนล ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง ปรายตามองเหยียดเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยขึ้น “คิดจะจับซือเซี่ยไปด้วย อ่อยหลิงตงไปด้วย เยี่ยหวันหวั่น เธอนี่หน้าด้านขึ้นทุกวันจริงๆ”
ได้ยินคำของเจียงเยียนหราน เฉินเมิ่งฉีพลันรู้สึกดีขึ้นมา ทว่าก็รีบกลบสีหน้ามีความสุขลงทันที คล้องแขนเจียงเยียนหรานอย่างสนิทสนมพลางเอ่ยกล่อมว่า “เยียนหราน เธออย่าพูดกับเยี่ยหวันหวั่นแบบนี้สิ หวันหวั่นไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะ อาจจะเป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆ ก็ได้เนอะ!”
เจียงเยียนหรานได้ยินดังนั้น ใบหน้าสวยหมดจดเปี่ยมไปด้วยความดูถูกและเหยียดหยาม “เพื่อนธรรมดาอะไร จะมาสารภาพรักกันต่อหน้าสาธารณชน แล้วยังตามตูดเธออย่างกับทูตพิทักษ์ดอกไม้ นี่น่ะเหรอเพื่อนธรรมดา?”
ผู้หญิงหน้าตาธรรมดาสวมชุดนักเรียนทางด้านขวามือเฉินเมิ่งฉีพูดจาถากถางขึ้นว่า “ก็ไม่รู้นะว่ายัยตัวประหลาดนั่นหน้าตาน่าเกลียดขนาดนี้ยังอ่อยผู้ชายได้ ใช้วิธีไหนกันแน่?”
การกระทำของพวกเฉินเมิ่งฉีดึงดูดพวกผู้หญิงที่จับกลุ่มอยู่ใกล้ๆ จำนวนไม่น้อยให้ล้อมวงทำท่าทางซุบซิบนินทา
ฝูงชนที่ล้อมวงมุงดูอยู่เมื่อได้ยินคำพูดของฟางฉิน ต่างมองหน้ากันไปมาอย่างรู้กันโดยไม่ต้องพูด “สุดยอด คงไม่ใช่ฝีมือบนเตียงหรอกนะ...”
เฉินเมิ่งฉีทำท่าทางร้อนใจรีบออกโรงปกป้อง “เรื่องนี้ต้องมีการเข้าใจผิดอะไรกันแน่ๆ”
แขนสองข้างของเจียงเยียนหรานยกขึ้นกอดอก เห็นว่าเฉินเมิ่งฉีเอาแต่ช่วยพูดแก้ต่างให้เยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “เมิ่งฉี ทำไมจนตอนนี้เธอยังไม่ตัดความสัมพันธ์กับคนแบบนี้ให้ชัดเจน ไม่กลัวติดเสนียดหรือไง”
นัยน์ตาเฉินเมิ่งฉีเต็มไปด้วยความสุขที่ได้เห็นความทุกข์ของผู้อื่น แต่บนใบหน้าดูลำบากใจที่อยู่ตรงกลางระหว่างเยี่ยหวันหวั่นกับเจียงเยียนหราน “เยียนหราน เธออย่าพูดแบบนี้ ที่จริงแล้วหวันหวั่นน่าสงสารมาก ที่บ้านกลายเป็นแบบนั้นไป ฉันจะทิ้งเธอในเวลาที่เธอลำบากที่สุดไม่ได้หรอกนะ”
เจียงเยียนหรานส่งเสียงหึมอย่างไม่พอใจ “เมิ่งฉี เธอน่ะใจดีเกินไป ใจอ่อนเกินไป คำโบราณกล่าวว่าคนน่าสงสารจะต้องมีสิ่งที่น่าเกลียดอยู่แน่ๆ ที่บ้านเขาเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าพ่อเขาไร้ศีลธรรม และตัวเขาเองที่ไม่มีคุณธรรม ใช้ชีวิตเละเทะ คนแบบนี้มีดีอะไรให้เธอสงสารเหรอ? คนเขาเก่งกาจออก โกงข้อสอบจนได้นั่งข้างซือเซี่ย และยังแย่งบทแสดงละครของเฉิงเสวี่ย แม้แต่ลูกพี่ใหญ่ของชิงเหอของพวกเรายังอยู่ในกำมือเขาเลย!”
ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มุงดูอยู่ได้ยินดังนั้น พากันพยักหน้าสนับสนุน แสดงว่าคิดอย่างเดียวกัน