ตอนที่ 53
บทที่ 53 แต่งภรรยาต้องเลือกที่เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม
ช่วงสายวันเสาร์
ประตูทางเหนือโรงเรียนมัธยมปลายชิงเหอที่เงียบสงัด มีรถเบนท์ลีย์สุดหรูคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างกำแพงลายพร้อยและถนนดินโคลนที่เละเทะอย่างไม่เข้ากัน
ด้านนอกของตัวรถมีสีดำดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่การตกแต่งภายในกลับหรูหราถึงขีดสุด ที่นั่งหนังแท้ ผ้าห่มกำมะหยี่ชั้นยอดราคาแพง ระบบปรับอุณหภูมิอากาศอัตโนมัติ มีน้ำหอมที่มีสรรพคุณช่วยเรื่องการนอนหลับล่องลอยบางเบาอยู่ในอากาศ ทั้งหมดล้วนจัดการให้สะดวกสบายเป็นพิเศษ
ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำเข้มเข้ารูป นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ปูด้วยผ้าห่มกำมะหยี่สีขาวหิมะ ใบหน้าหล่อเหลาเยียบเย็นเหมือนที่ผ่านมา รังสีบางเบาจากการที่อดนอนมาเป็นเวลานานทำให้เขายิ่งดูดุดัน ใครเห็นเป็นต้องกลัว
เวลานี้ สายตาของชายหนุ่มไม่ได้โฟกัสที่ความว่างเปล่าด้านนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่
บนที่นั่งคนขับรถ สวี่อี้มีใต้ตาดำคล้ำอย่างหนักสองอัน ใบหน้ามืดครึ้มอึมครึม เห็นได้ชัดว่าไม่ได้นอนมาทั้งคืน
อย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่า นายท่านจะพายัยเยี่ยหวันหวั่นนั่นไปพบคุณหญิงย่า นับแต่ที่ได้รู้ข่าวนี้ เขาก็ร้อนใจดั่งไฟสุม
หรือว่านายท่านไม่กลัวว่าสภาพผู้หญิงคนนั้นจะทำให้คุณหญิงย่าตกใจจนเป็นอะไรขึ้นมา?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนิสัยชอบสร้างปัญหาของผู้หญิงคนนั้น
คุณหญิงย่ามีฐานะอะไร? นั่นเป็นผู้ช่วยและแรงสนับสนุนใหญ่ในการสืบทอดตระกูลของนายท่าน หากก่อเรื่องอะไรที่บ้านใหญ่ขึ้นมา ร้ายแรงกว่าที่สวนจิ่นหยวนมากนัก
เดิมทีเขายังกอดความหวังเส้นหนึ่ง หลงคิดว่านายท่านจะแค่เล่นๆ เพราะว่าไม่ได้ครอบครองจึงไม่ยอมปล่อยมือ ไหนเลยจะคิดว่านายท่านจะพาคนไปพบคุณหญิงย่า
สวี่อี้ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว จึงอดไม่ได้เอ่ยโน้มน้าว “นายท่าน มีคำบางคำที่คุณอาจจะไม่ชอบฟัง แต่ต่อให้ต้องตายผมก็ขอเอ่ยเตือนคุณประโยคหนึ่ง คิดให้ดีก่อนจะทำอะไร คุณหญิงย่าเป็นทั้งญาติที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ และเป็นคนที่มีอำนาจในการพูดที่สุดในตระกูลซือ ถ้าหากทำร้ายหรือผิดใจกับคุณหญิงย่าเข้า นึกถึงผลที่จะตามมาไม่ออกเลยนะครับ
ถ้าหากแอบเลี้ยงไว้ที่สวนจิ่นหยวนก็ช่างเถอะ แต่ผู้หญิงที่ทำให้คุณพามาพบคุณหญิงย่าได้ นั่นแสดงว่าในอนาคตเธออาจจะกลายเป็นนายหญิงแห่งตระกูลซือ จากลักษณะนิสัยของคุณเยี่ย ออกจะ...”
สวี่อี้ไม่ทันได้พูดต่อ เสียงเยียบเย็นไม่เจือความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อยดังขึ้นจากที่นั่งด้านหลัง ห่อหุ้มด้วยความรู้สึกกดดันขนาดใหญ่ “เมื่อไรกันที่ฉันทำอะไร แล้วต้องให้นายเสนอความคิดเห็น?”
สวี่อี้ถูกความเย็นชากะทันหันจนเสียวหลังวาบ ไม่กล้าพูดอะไรอีกทันที “ผมสำนึกผิดแล้วครับ!”
วินาทีถัดมา น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นชาขึ้นอีก ริมฝีปากบางเอ่ยคำพูดสองคำที่ราวกับหลุดออกมาจากน้ำแข็ง “ห้ามมีครั้งหน้า”
บรรยากาศภายในรถเปลี่ยนไปราวกับน้ำแข็ง
เวลานี้เอง เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากที่ไม่ไกล
สวี่อี้เหลือบสายตาขึ้นมองไปทางที่เสียงเท้าดังขึ้น เห็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดโรงเรียนชิงเหอกำลังเดินจากประตูหลังมาทางพวกเขา
หญิงสาวยังไม่ได้แต่งหน้า ด้านหลังสะพายกระเป๋าหนังสือสีฟ้าอ่อน ผมดำสนิทราวกับหมึกมัดเป็นผมหางม้าอย่างเรียบร้อย สวมชุดนักเรียนสีขาวฟ้า แขนยาวขายาวเทอะทะและไม่มีความสวยเลย ทว่าภายใต้ผิวขาวเนียนสว่างราวหยกขาว เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา
ไม่เหมือนพวกคุณหนูสูงศักดิ์ที่แต่งตัวอย่างปราณีตอย่างที่เห็นจนชินตา ทว่ากลับทำให้ตาเป็นประกาย ราวกับสายน้ำที่ใสสะอาด
หลังจากที่เห็นชัดเจนว่าคนที่กำลังเดินเข้ามาคือใคร สวี่อี้ก็นิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ
นั่น...นั่นมัน...เยี่ยหวันหวั่น!