ตอนที่ 52
บทที่ 52 เจอผู้ใหญ่ครั้งแรกจะทำตัวตามสบายได้อย่างไร
“ฮะ? คุณย่า...” เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้น พลันอึ้งไปนิดหน่อย
ขณะเดียวกัน เธอก็ย้อนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนจะเกิดใหม่ทันที
ก่อนจะเกิดใหม่ ซือเยี่ยหานก็เคยพาเธอไปพบคุณย่าของเขาเช่นเดียวกัน
ที่ตระกูลซือ คนที่ใกล้ชิดซือเยี่ยหานที่สุดก็คือคุณย่า คุณหญิงย่าเลือดเหล็กกับประวัติตระกูลอันโชกโชนค่อนชีวิตท่านนี้มีฐานะในตระกูลซือสูงมาก เนื่องจากพ่อของซือเยี่ยหานอายุสั้น คนที่เธอรักและเอ็นดูที่สุดก็คือหลานชายคนนี้ซือเยี่ยหาน ขอแค่เป็นของที่ซือเยี่ยหานชอบ เธอล้วนสนับสนุนเต็มที่อย่างไม่มีข้อแม้
ในชาติก่อน เธอกลับผิดใจคุณหญิงย่าท่านนี้อย่างหมดสิ้น
ชาติก่อนเรื่องที่คุณย่าของซือเยี่ยหานอยากพบเธอ เรื่องใหญ่อย่างนี้มีหรือที่เธอจะไม่ปรึกษาเฉินเมิ่งฉี?
เฉินเมิ่งฉีก็นับว่างัดอุบายมาจนหมดเปลือก สอนให้เธอยั่วโมโหคุณหญิงย่าด้วยวิธีต่างๆ นานา ส่วนเธอในเวลานั้นย่อมทำตามทุกอย่าง
ไม่เพียงแต่งตัวจัดจ้านอย่างนั้นไปพบผู้ใหญ่ ซ้ำยังทำหน้าตายตั้งแต่ต้นจนจบ พูดจาไร้สัมมาคารวะ
คุณหญิงย่าเพราะรักหลานชายจับใจ เยี่ยหวันหวั่นทำตัวราวกับผีไปพบเธอ ซ้ำยังทำตัวไร้การอบรมสั่งสอนอย่างนี้แล้ว คุณหญิงย่ากลับยังคงไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
จนกระทั่ง เยี่ยหวันหวั่นไปแตะเกล็ดคอมังกรของคุณหญิงย่าเข้า ซึ่งนั่นก็คือซือเยี่ยหาน
ในขณะที่เธอกำลังอยู่ที่คฤหาสน์ เฉินเมิ่งฉีโทรหาเธออย่างกะทันหัน บอกว่ากู้เยว่เจ๋อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เป็นตายเท่ากัน
ซือเยี่ยหานจะยอมปล่อยให้เธอไปหากู้เยว่เจ๋อได้อย่างไร?
แค่คิดก็รู้ได้ว่า เวลานั้นทั้งสองทะเลาะกันใหญ่โตเพียงไร เธอด่าทอกัดทึ้งเขาราวกับคนบ้า แช่งให้เขาไปตายเดี๋ยวนี้
คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเธอสาปแช่งให้ซือเยี่ยหานให้ไปตาย คุณหญิงย่าถูกเธอยั่วโมโหเสียจนเป็นลมไป ณ ตรงนั้น ด้วยเหตุนี้คุณหญิงย่าจึงเกลียดเธอถึงขีดสุด
และเป้าหมายของเธอก็นับว่าทำสำเร็จแล้ว คุณหญิงย่าพยายามโน้มน้าวซือเยี่ยหานไม่ให้เขาอยู่กับเธออยู่ตลอด
ทว่า ต่อให้คุณหญิงย่าเป็นคนเอ่ยปาก ซือเยี่ยหานยังคงไม่ยอมปล่อยเธอไป
สุดท้าย ความกังวลของคุณหญิงย่ากลายเป็นอาการป่วย ไม่นานก็เสียชีวิตไป จนกระทั่งก่อนตาย สิ่งที่เธอเป็นห่วงกังวลก็ยังเป็นอาการป่วยของหลานชายและมะเร็งร้ายที่ฝังอยู่ข้างตัวหลานชายอย่างเธอ...
คิดถึงเรื่องพวกนี้ ใจของเยี่ยหวันหวั่นพลันรู้สึกเสียใจ
แม้ว่าเธอจะเกลียดซือเยี่ยหาน แต่เธอมองออกว่า ทีแรกคุณหญิงย่าปฏิบัติต่อเธออย่างจริงใจ ต่อให้เธอจะเสียมารยาทขนาดนี้ก็ยังไม่ใส่ใจ และไม่สนใจพื้นหลังชาติตระกูลของเธอ...
ปลายสายโทรศัพท์ฝั่งนั้นไม่มีเสียงตอบรับอยู่นาน น้ำเสียงซือเยี่ยหานเย็นเยียบอย่างที่สุด “ช่างเถอะ”
ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ได้สติ รีบเอ่ยขึ้นว่า “คุณย่าอยากพบฉันเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปสิคะ! เพียงแต่ฉันค่อนข้างตื่นเต้น ก็เป็นครั้งแรกที่ได้พบคุณย่านี่นา ท่านชอบอะไรเหรอคะ? มีงานอดิเรกอะไรหรือเปล่า? ฉันใส่ชุดอะไรไปดี? ฉันต้องเตรียมของขวัญหรือเปล่า?”
ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นถามยืดยาวเช่นนี้อย่างกะทันหัน ปลายสายโทรศัพท์เงียบอยู่นาน
เยี่ยหวันหวั่นร้อนใจแล้ว “ฮัลโหล? ฮัลโหล? คุณยังอยู่ในสายหรือเปล่าคะ?”
“อยู่” เสียงชายหนุ่มแหบเล็กน้อย “เธอ...จะไปเหรอ?”
“ทำไมจะไม่ไปล่ะคะ? คุณยังไม่ตอบคำถามของฉันเลยนะ” เยี่ยหวันหวั่นซักไซ้
“ไม่ต้องเตรียม รอฉันไปรับ” ซือเยี่ยหานตอบ
“ได้ยังไง นี่เป็นการเจอผู้ใหญ่ครั้งแรก ความประทับใจแรกเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คุณทำตัวตามสบายเกินไปแล้ว” ใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ “เอาอย่างนี้ละกัน วันเสาร์คุณมารับฉันเร็วหน่อย ไปเดินซื้อของเป็นเพื่อนฉัน”
ไม่ว่าจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดในชาติก่อน หรือเพราะคุณหญิงย่าเป็นคนเพียงคนเดียวที่ห้ามปรามซือเยี่ยหานได้ เธอล้วนควรที่จะสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคุณหญิงย่า