ตอนที่ 28
บทที่ 28 ถ้าเกิดฉันสอบได้ที่หนึ่ง
หลังจากการสอบเสร็จสิ้นลง เหล่าอาจารย์ตรวจข้อสอบตลอดทั้งคืน
เนื่องจากเป็นการทดสอบก่อนสอบจริง ดังนั้นกระบวนการตรวจจึงยึดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นพื้นฐาน เวลาตรวจข้อสอบชื่อของนักเรียนจะถูกปิดผนึกไว้ ข้อสอบที่อาจารย์ได้ตรวจก็ไม่ใช่ข้อสอบของนักเรียนห้องตนเอง ต้องรอจนกว่าการตรวจข้อสอบจะแล้วเสร็จ จึงจะแกะเส้นปิดผนึกเพื่อรวมคะแนนและจัดอันดับ
คืนนี้ถูกกำหนดให้เป็นคืนที่นอนไม่หลับ ทุกคนต่างกำลังเครียดกับคำตอบ และการคำนวณคะแนน
ส่วนเยี่ยหวันหวั่น เมื่อส่งกระดาษคำตอบแล้วก็เดินกระง่อนกระแง่นกลับหอพักไปหลับชดเชย
เช้าวันถัดมา
เหลียงลี่หวาเดินยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าห้องเรียนมา
เมื่อเช้าเธอยังไม่ทันดูผลคะแนนของนักเรียน ก็รีบไปที่ฝ่ายปกครองทันที หนังสือเชิญออกของเยี่ยหวันหวั่นในที่สุดก็ออกมาแล้ว
“ทุกคนเงียบหน่อย! ตอนนี้คะแนนสอบและอันดับรายชื่อออกมาแล้ว แต่ว่าก่อนจะประกาศผลคะแนน อาจารย์ต้องจัดการเรื่องหนึ่งก่อน”
พอได้ยินคำพูดนี้ สายตาของนักเรียนทั้งห้องต่างหันมองไปทางแถวหลังสุดด้วยความตื่นเต้น
เป็นอย่างที่คิด เหลียงลี่หวาพูดพลางหยิบหนังสือแจ้งฉบับหนึ่งออกมากางบนแท่นโพเดียม “อาจารย์คิดว่าหลายคนคงจะทราบเรื่องนี้แล้ว เยี่ยหวันหวั่นนักเรียนของห้องเรา เนื่องจากทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียนหลายครั้ง ความประพฤติไม่ดี ถูกอบรมหลายครั้งก็ยังไม่ปรับปรุงแก้ไข สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียนมัธยมชิงเหออย่างร้ายแรง จากการพิจารณาของโรงเรียน จึงจัดการโดยขอเชิญให้ออก”
นักเรียนด้านล่างแท่นส่งเสียงร้องยินดีขึ้นมาทันที โดยเฉพาะพวกนักเรียนหญิง
“ฮ่าๆๆ ฉันบอกแล้ว! ไม่ต้องรอให้คะแนนออกมา ยัยตัวประหลาดนั่นจะต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนแน่”
“ในที่สุดก็ไม่ต้องเห็นใบหน้าน่ากลัวนั่นอีกแล้ว!”
เหลียงลี่หวาเหล่มองไปยังเยี่ยหวันหวั่นด้วยความหงุดหงิด “มีผลบังคับใช้วันนี้ ตอนนี้เชิญเธอเก็บข้าวของออกไปได้แล้ว”
ภายใต้สายตามีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นของทุกคน เยี่ยหวันหวั่นยังคงนิ่งไม่ขยับ ไม่มีทีท่าจะออกไปแต่อย่างใด เพียงหยักมุมปากขึ้นเบาๆ เหลือบมองคนตรงแท่นพูดด้วยสีหน้าเกียจคร้าน
สายตาเย้ยหยันและสีหน้านิ่งจนแทบจะเป็นการยั่วยุของเธอ ทำให้เหลียงลี่หวาโมโหมาก “เยี่ยหวันหวั่น! ตอนนี้เธอยังมีปัญหาอะไร? ไม่ได้ต้องการเห็นหนังสือแจ้งพร้อมประทับตราจากทางโรงเรียนเหรอ? มีหนังสือแจ้งมาให้เธอแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบของทางโรงเรียน เดี๋ยวเธอจะมาหาว่าทั้งโรงเรียนมีฉันออกความเห็นได้คนเดียว”
นัยน์ตาเย็นชาของเยี่ยหวันหวั่นกระตุกเล็กน้อย ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แล้วพูด “ค่ะ ในเมื่ออาจารย์พูดเรื่องกฎระเบียบกับหนู ถ้างั้นหนูก็ขอพูดเรื่องกฎระเบียบกับอาจารย์เหมือนกัน เหมือนหนูจะจำได้ว่า ในกฎระเบียบมีหมายเหตุอยู่ข้อหนึ่ง หากมีการสำนึกผิดอย่างมีนัยสำคัญ สามารถได้รับการยกเว้นจากการลงโทษอย่างเหมาะสม ให้โอกาสนักเรียนแก้ตัวใหม่อีกครั้ง”
เหลียงลี่หวาหัวเราะเสียงเย็นชา “มีหมายเหตุข้อนี้แล้วยังไงเหรอ? ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเธอเลย เธอดูสภาพตัวเองเหมือนคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิงก่อนเถอะ ดูเหมือนคนที่มีท่าทีสำนึกผิดสักครึ่งหนึ่งไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นคิ้วกระตุก กล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ค่ะ หนูหน้าตาอัปลักษณ์แล้วทำไม? หรือว่าการที่มีหน้าตาอัปลักษณ์เป็นความผิดของหนู? การตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งที่คนเป็นอาจารย์ควรทำอย่างนั้นเหรอคะ? ดังนั้นหนูคิดว่า ขอให้อาจารย์ดูคะแนนของหนูก่อนแล้วค่อยพูดจะดีกว่า ถ้าเกิดครั้งนี้หนูสอบได้ที่หนึ่งของชั้นเรียนขึ้นมาล่ะ?”
เหลียงลี่หวาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความโมโห นักเรียนคนอื่นๆ ก็หัวเราะอย่างครื้นเครง
“ฮ่ะๆๆ สุดยอด! เยี่ยหวันหวั่นยัยตัวประหลาดนั่น เมื่อกี้นี้พูดว่าอะไรนะ? เธอสอบได้ที่หนึ่งของชั้นเรียนเหรอ? ใครเอาความกล้าให้เธอถึงพูดแบบนี้ออกมาได้”
“เธออย่าโง่ไปหน่อยเลย! หากเธอสอบได้ที่หนึ่งของชั้นเรียนจริง ฉันจะไปกินขี้ให้ดู!”
“ฮ่าๆ ถ้างั้นเกรงว่านายคงต้องไปกินขี้แล้วละ เพราะอันดับสุดท้ายก็คือที่หนึ่งของที่โหล่ไง!”