ตอนที่ 25
บทที่ 25 น้ำตาลที่โปรยวันนี้ ทุกคนต่างกินอย่างมีความสุข
นะ...นี่เป็นไปได้อย่างไร!
สวี่อี้จ้องข้อความนั้น สีหน้าท่าทางตกใจราวกับเห็นผี
ในสมองของเขามีกลอนรักเลี่ยนจนอยากอ้วกพวกนั้นย้อนซ้ำไปซ้ำมา
“นี่มัน...” สวี่อี้ตกใจจนพูดไม่ออก
อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ทำให้คนเชื่อได้ยากจริงๆ!
จดหมายรักของเยี่ยหวันหวั่นฉบับนี้ ไม่ได้เขียนให้คนอื่น แต่เขียนให้กับเจ้านายของเขา?
ความผิดปกติของสวี่อี้ดึงความสนใจของซือเยี่ยหาน น้ำเสียงทุ้มต่ำแหบแห้งเอ่ยสั่ง “หยิบมา”
สายตาเย็นเยือกของซือเยี่ยหานมองมา สวี่อี้ไม่กล้าชักช้า สองมือประคองโทรศัพท์รีบยื่นส่งให้
นิ้วมือชายหนุ่มที่จับโทรศัพท์กระชับขึ้น หยุดชะงักครู่หนึ่ง ก่อนที่ในที่สุดจะอ่านข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอแตกยับ
ในข้อความมีภาพถ่ายรูปหนึ่ง ภาพที่ถ่ายมาคือจดหมายรักฉบับเมื่อครู่ที่เผาทำลายอวัยวะภายในของเขาจนเป็นเถ้าถ่าน
ดวงตาของชายหนุ่มหรี่เล็กลงอย่างอันตราย และเวลานี้เอง หางตาของเขาบังเอิญกวาดไปเห็นชื่อด้านบนเข้า...หวันหวั่น!
หวัน...หวั่น...
นี่เป็นข้อความของเยี่ยหวันหวั่น?
จิตใต้สำนึกสั่งให้เลื่อนนิ้วไถหน้าจอลงอีก พบว่าไม่ใช่เพียงจดหมายรักเท่านั้น ด้านล่างของจดหมายรักยังมีอีโมจิหัวใจหวานซึ้งอีกหนึ่งดวง
หลักฐานฉบับนั้นที่ประกาศว่าเธอทรยศหักหลังตนอีกครั้ง จดหมายรักที่เขียนให้กับกู้เยว่เจ๋อ...
คือ...จดหมายที่เขียนให้เขา!
ยอมเป็นคอเสื้อของคุณ จะได้ห้อมล้อมอยู่กับกลิ่นหอมที่คอ ยอมเป็นเข็มขัดประดับบนเสื้อ จะได้โอบรัดเอวไว้แน่น ยอมเป็นน้ำมันชุ่มชื้นบนเส้นผม แปรงเส้นผมสลวยสยายลงปลายไหล่...
ในขณะที่สีหน้าของชายหนุ่มว่างเปล่า ก็มีข้อความอีกฉบับส่งต่อมา [คุณชายเก้าคะ~ ทำไมไม่ตอบฉันเลย? ฉันเขียนได้ดีไหม~ ให้รางวัลหน่อย ชมหน่อย ส่งจุ๊บหน่อย~]
เหล่าคนใช้เดิมทีพากันแอบหลบมุมตัวสั่นเทา เวลานี้ต่างมองหน้ากันไปมา ไม่เข้าใจว่าทำไมวินาทีก่อนหน้านี้นายท่านของพวกเขายังมีท่าทีโกรธเหมือนอยากทำลายโลกให้สิ้น แต่วินาทีถัดมากลับสงบนิ่งลงได้ หนำซ้ำยังจ้องมองโทรศัพท์ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ราวกับว่ามันจะออกดอกผลิใบได้
สวี่อี้ก็เดาไม่ถูกว่าท่าทางแบบนี้ของซือเยี่ยหานคืออะไรกันแน่ จึงถามหยั่งเชิงไปอย่างระแวดระวัง “คุณชายเก้าครับ คุณ...”
ซือเยี่ยหาน “เงียบ”
สวี่อี้พลันไม่กล้าพูดอะไรอีก
แต่หลังจากซือเยี่ยหานพูดจบ ก็จ้องโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าจริงจัง นิ้วมือเรียวยาวจิ้มไปบนหน้าจอ
คงเป็นเพราะหน้าจอแตก การรับรู้สัมผัสจึงไม่ไวเท่าไร ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย
สวี่อี้อยากรู้เหลือเกิน จึงอดไม่ได้แอบชำเลืองมองไป
จากนั้น ดวงตาสุนับรับใช้ของเขาแทบบอด...
เยี่ยหวันหวั่นส่งข้อความหวานหยาดเยิ้มจนไม่อาจทนอ่านต่อได้มาอีก และนายท่านของเขากลับใช้หน้าจอแตกยับพิมพ์ตอบไปว่า [ดี]
สวี่อี้จ้องคำว่า ‘ดี’ นั่นอย่างตกตะลึง
ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า นายท่านรู้สึกว่ากลอนบทนั้นของเยี่ยหวันหวั่นเขียนได้ดีจริงเหรอ?
ขณะกำลังอึ้ง ข้างหูมีเสียงของชายหนุ่มดังขึ้น เป็นน้ำเสียงที่กลับมาชัดเจนและเย็นชาเช่นเดิม “ให้พวกเขากลับมา”
สีหน้าของเขาอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิกลับมาเยือนในพริบตา สายตาจดจ้องกลอนบทนั้น มองทุกตัวอักษรซ้ำไปมา อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด
“อ่า..ครับ!” สวี่อี้รีบรับคำ โทรศัพท์เรียกคนที่ส่งไปจับตัวเยี่ยหวันหวั่นที่โรงเรียนเมื่อครู่กลับมาให้หมด
พายุโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง สลายหายไปแบบนี้จริงๆ เหรอ!?