ตอนที่ 21
บทที่ 21 แค่ผ่านตาก็จำได้ไม่ลืม
เยี่ยหวันหวั่นยืนนิ่งอยู่กับที่ ดูไปแล้วใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกใดๆ
มีเพียงซือเซี่ยที่อยู่ใกล้เธอที่สุดสังเกตได้ พริบตาที่เหลียงลี่หวากล่าวถึงพ่อแม่ของเยี่ยหวันหวั่น นัยน์ตาที่ขลาดกลัวมึนงงมาตลอดคู่นั้นเหมือนกับน้ำแข็งถูกทลาย แผ่รังสีเยียบเย็นที่น่ากลัวออกมา
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว สายตาฉายประกายสงสัย ภาพลวงตาเหรอ? ยัยตัวประหลาดจะมีสายตาแบบนี้ได้อย่างไร...
หลังจากเงียบอยู่ชั่วครู่ เยี่ยหวันหวั่นก็พูดอย่างไม่รีบร้อน “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง พ่อแม่เป็นแบบไหนก็จะสั่งสอนลูกออกมาให้เป็นแบบนั้น...ถ้าอย่างนั้นหนูพูดได้เหมือนกันไหมคะ อาจารย์เป็นแบบไหนก็จะสั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นแบบนั้น? ห้อง F เป็นห้องที่คะแนนแย่ที่สุดของทั้งโรงเรียน ไม่ทราบว่าอาจารย์เหลียงมีความคิดเห็นยังไงคะ?”
“เธอ...เธอกล้านักนะ!” เหลียงลี่หวาโกรธจนน้ำเสียงแตกพร่า
ยัยเด็กสมควรตายนี่ กล้าพูดกระทบกระเทียบระดับการสอนของเธอ!
เรื่องที่ห้อง F ทำคะแนนได้แย่ที่สุดท่ามกลางหลายๆ ชั้นเรียน เป็นเรื่องที่ทิ่มแทงใจเธอมาตลอด
ในห้องเรียน นักเรียนทุกคนต่างตะลึงไปตามๆ กัน
แม่เจ้า...
เยี่ยหวันหวั่นคนนี้ กล้าเถียงกับอาจารย์ประจำชั้นครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้เลย...
นี่ยังใช่เยี่ยหวันหวั่นคนที่ไม่ว่าโดนด่าอย่างไร ก็ไม่โต้ตอบสักคำคนนั้นอยู่หรือเปล่า?
เหลียงลี่หวาแค่นหัวเราะ “เยี่ยหวันหวั่น เธอคิดว่าฉันทำอะไรเธอไม่ได้จริงๆ อย่างนั้นเหรอ? ฉันทำให้เธอออกไปจากประตูโรงเรียนมัธยมปลายชิงเหอตอนนี้ได้เลย!”
เยี่ยหวันหวั่นมองเหลียงลี่หวาด้วยท่าทางเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “จะได้ยังไงล่ะคะ อาจารย์เหลียงเก่งกาจขนาดนี้ จะทำอะไรนักเรียนอย่างหนูไม่ได้ได้ยังไงกัน?”
เยี่ยหวันหวั่นตั้งใจเน้นเสียงที่คำว่า ‘เก่งกาจขนาดนี้’ เพื่อย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่างเหลียงลี่หวากับผู้บริหารโรงเรียน
เป็นไปตามคาด สีหน้าเหลียงลี่หวาเปลี่ยนไปโดยพลัน
แม้ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะไม่มีหลักฐาน และก็ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ แต่หากปล่อยให้พูดจาเหลวไหลต่อหน้าสาธารณชน ถ้ามีคนสนใจไปสืบหาความจริงคงเป็นเรื่องเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อภรรยาของคนคนนั้นก็เป็นอาจารย์ที่โรงเรียนด้วย...
ยัยเด็กสมควรตายนี่ กล้าขู่เธออย่างนั้นเหรอ!
“กริ๊ง~!”
เวลานี้เอง เสียงออดเข้าเรียนอย่างเป็นทางการดังขึ้นมา ทำลายสถานการณ์ที่ไม่มีใครยอมใครลง
เหลียงลี่หวาทำหน้านิ่งพลางกล่าวอย่างโมโห “อีกหนึ่งอาทิตย์จะมีการสอบแล้ว เพราะเธอคนเดียว เกือบทำให้เพื่อนทั้งห้องต้องเข้าเรียนช้า! เยี่ยหวันหวั่น แล้วฉันจะกลับมาคิดบัญชีกับเธอ”
ช่างเถอะ อย่างไรอีกไม่กี่วันยัยเด็กสมควรตายนี่ก็จะไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเถียงกับเธอให้เรื่องราวใหญ่โต
“ทุกคนเปิดหนังสือเรียนไปที่หน้าเจ็ดสิบสอง”
เมื่อไม่มีละครสนุกๆ ให้ดูแล้ว บรรดานักเรียนด้านล่างต่างถอนหายใจผิดหวัง
วันเวลาของชั้นมัธยมปีที่หกถูกใช้ไปในการสอบย่อยการสอบใหญ่อย่างไม่รู้จบ การสอบเสมือนจริงครั้งนี้ถือเป็นการสอบที่สำคัญครั้งหนึ่ง และจะมีการจัดอันดับที่นั่งใหม่ตามอันดับรายชื่อของคะแนนด้วย
เยี่ยหวันหวั่นกวาดตาอ่านเนื้อหาของหนังสือเรียนคร่าวๆ จากนั้นก็หลับตาลง
วินาทีต่อมา เหมือนกับว่าเนื้อหาที่เธออ่านผ่านประทับอยู่หัวอย่างชัดเจน
ความจริงแล้ว เธอมีความจำที่ดีมาก
ความรู้ในตำราเรียน ขอแค่เธออ่านเพียงรอบเดียว แม้จะไม่ได้ผ่านสมองทั้งหมด เธอก็จดจำได้ไม่ตกหล่นแม้เพียงตัวเดียว
น่าเสียดาย ชาติที่แล้วเรื่องคะแนนและอันดับไม่ได้มีความหมายใดๆ กับเยี่ยหวันหวั่นเลย ความสนใจของเธอไม่เคยอยู่กับการเรียน
หากอยากให้ทางโรงเรียนยกเลิกการตัดสินใจเรื่องไล่ออก การสอบครั้งนี้คือเรื่องสำคัญ
เวลาทบทวนบทเรียนหนึ่งสัปดาห์ แม้ว่าเร่งรีบไปหน่อย แต่ก็เพียงพอจะรับมือกับการทดสอบครั้งนี้แล้ว