ตอนที่ 10
บทที่ 10 เกือบน่าเกลียดไปตลอดชีวิตแล้ว
ดังนั้น การที่เธอทรมานตัวเองมาหลายปี ผลสุดท้ายคือทรมานเสียเปล่าหมดน่ะหรือ?
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกอยากตายเลยทีเดียว!
ยังดีที่ครั้งนี้เธอรู้ตัวทันเวลา ไม่เช่นนั้นต้องน่าเกลียดไปตลอดชีวิตแน่
“ทำไม? มีปัญหาอะไร?”
“ไม่มีอะไร” เยี่ยหวันหวั่นตอบด้วยสีหน้าน้อยใจ
“ฮะ…” มีเสียงหัวเราะเบาๆ ของชายหนุ่มแว่วเข้าหู
เยี่ยหวันหวั่นพลันหันมองเขาด้วยความหวาดหวั่น
ซือเยี่ยหานใบหน้าสดใสดึงดูดสายตากว่าปกติ ไม่ได้เย็นชาน่าหวาดกลัว ไม่ได้ดุร้ายโหดเหี้ยม ว่างเปล่าเฉยเย็น...ซือเยี่ยหานกลับยิ้มอยู่...
เมื่อครู่เธอเห็นแล้ว ดูเหมือนวันนี้ผู้ชายคนนี้จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ?
หรือเพราะเมื่อวานนอนหลับสนิทดี?
ความจริงแล้วนิสัยฉุนเฉียวโมโหง่ายของซือเยี่ยหานสัมพันธ์อย่างมากกับภาวะนอนไม่หลับ ไม่มีใครทนรับการอดนอนเป็นเวลานานแบบนี้ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นเริ่มคิดได้
เธอควรจะอาศัยโอกาสที่วันนี้ซือเยี่ยหานอารมณ์ดี ขอให้เขายกเลิกคำสั่งห้ามดีไหม?
ซือเยี่ยหานโกรธมากเนื่องจากเธอเกือบหนีไปได้ เขาจึงสั่งขังเธอไว้ในบ้าน แม้แต่โรงเรียนก็ไม่ยอมให้ไป
เมื่อครู่ก่อนจะลงมา เธอได้รับข้อความจากครูประจำชั้นเรียน แจ้งให้เธอมาโรงเรียน ไม่เช่นนั้นหากยังโดดเรียนต่อไป อาจจะถูกหักคะแนนถึงขั้นไล่ออกได้
ก่อนหน้านี้เธอทำคะแนนแย่มาก ซ้ำชั้นมาถึงสองปี อายุยี่สิบแล้วแต่ก็ยังอยู่แค่มอหก
เธอจำได้ว่าเมื่อชาติก่อนตัวเองหมกหมุ่นอยู่เพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือกู้เยว่เจ๋อ
ก่อนจะรู้จักซือเยี่ยหานก็หลงใหลกู้เยว่เจ๋อ หลังจากได้รู้จักซือเยี่ยหานก็คิดแต่จะหนีกลับไปอยู่ข้างกายกู้เยว่เจ๋อ ไม่มีจิตใจเล่าเรียน ต่อมาเธอก็ไม่ไปเรียนอีก การสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็พลาดไป
ครั้งนี้ เธอจะทอดทิ้งตัวเองเหมือนชาติก่อนไม่ได้อีก จะทรมานร่างกายตัวเอง แล้วมองดูเยี่ยอีอีกับกู้เยว่เจ๋อครอบครองทุกอย่างของตระกูลเยี่ยไปไม่ได้
คราวนี้แม้ว่าการหลบหนีจะยั่วโมโหซือเยี่ยหานเข้าแล้ว แต่ตอนหลังเธอก็ไม่ได้หนีไปกับกู้เยว่เจ๋อ ดังนั้นความสัมพันธ์ของเธอกับเขาจึงยังไม่ถึงขั้นกู้กลับคืนมาไม่ได้ เธอควรจะฮึดสู้ดูสักหน่อย
เยี่ยหวันหวั่นสูดลมหายใจลึก เอ่ยหยั่งเชิง “คือว่า ซือเยี่ยหาน ใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ฉันต้องรีบเรียนหนังสือ ฉัน...กลับไปโรงเรียนได้ไหม?”
วินาทีที่คำพูดเธอจบลง บรรยากาศในห้องแทบจะถูกกดต่ำลงไปทันใด สีหน้าของชายหนุ่มกลับมาเคร่งขรึมเย็นชาเหมือนเคย
เยี่ยหวันหวั่นใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ไม่ได้จริงๆ ด้วย?
แต่ก็ไม่น่าแปลกอะไร ซือเยี่ยหานจะเชื่อว่าเธอทำไปเพื่อเรื่องเรียนจริงๆ ได้อย่างไร? เกรงว่าคงยังคิดว่าเธออยากหนีไปใจจะขาดล่ะสิไม่ว่า!
แม้ว่าจะทำใจมาแล้วว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น แต่เยี่ยหวันหวั่นก็ยังผิดหวังอยู่ไม่น้อย สีหน้าหมองหม่นลงไป มองเสี่ยวหลงเปาที่เธอชอบกินที่สุด ทว่าไม่มีความรู้สึกอยากกินเลย พร้อมเอ่ยพึมพำว่า “ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
แต่ว่า สีหน้าของซือเยี่ยหานไม่เพียงไม่ดีขึ้น ตรงข้ามกลับดูบูดบึ้งยิ่งขึ้นไปอีก
แน่นอนว่าเยี่ยหวันหวั่นไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้ไม่ง่ายและทำให้เขาโมโหอีก จึงรีบเอ่ย “ฉันก็แค่ถามเฉยๆ”
ซือเยี่ยหานไม่พูดอะไร เพียงมองดวงตาของหญิงสาวที่หม่นหมองลงและการประนีประนอมด้วยสีหน้าหวาดหวั่น เมื่อเห็นท่าทีของเธอซึ่งเดิมทีมีชีวิตชีวากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ก็พลันหงุดหงิดใจอย่างควบคุมไม่ได้...
เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี ผู้ชายคนนี้เอาใจยากจริงๆ เธอก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร ทำไมยังทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าคนอยู่อีก?