ตอนที่ 11
อัลบั้ม: 'มาร์กี้' ฮอต! 2 เรื่องในล็อตเดียว! 'ใต้เงาจันทร์' พุธ-พฤหัส ประกบ 'เกรท'
ธราดลตกใจเมื่อได้ยินคนร้ายพูดว่าเมฆพัดเป็นคนสั่งทำร้ายตน คนร้ายกำลังจะฉีดยาใส่จึงฉวยโอกาสแย่งเข็มมาปักใส่คนร้ายแทนแล้วผลักล้มวิ่งหนี คนร้ายโกรธมากชักปืนวิ่งไล่ตามออกมาจากห้องพัก ธราดลวิ่งหนีมาตามถนนหน้าตาบอบช้ำจากการถูกซ้อม
คนร้ายตะโกนลั่นให้หยุดไม่หยุดจะยิง ธราดลยังคงวิ่งต่อในใจคิดว่าตัวเองไม่รอดแน่ วินาทีนั้นศตายุกระโดดเข้ากอดเอาตัวบังรับกระสุนแทนน้อง แล้วพากันล้มไปทั้งคู่ คนร้ายตกใจ พบูฉวยโอกาสคว้าท่อนไม้ฟาดหัวคนร้ายล้มลง คนของศตายุสองคนเข้าจับคนร้ายไว้ได้
ธราดลนอนรักษาตัวในคลินิกแห่งหนึ่ง เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาเห็นเก็ทนั่งเฝ้าอยู่ก็แปลกใจว่าที่นี่ที่ไหน เก็ทเล่าว่าเป็นคลินิกเพื่อนของศตายุ ธราดลนึกได้รีบถามว่าพี่มาช่วยตนได้อย่างไร
“ลูกน้องของพี่นายโทร.บอก ทุกคนเลยมาช่วยนายได้ทันน่ะสิ” ธราดลทำหน้างง “ตั้งแต่นายออกจากบ้าน พี่นายเขาก็จ้างลูกน้องมาคอยดูแลนายอยู่ห่างๆ” เก็ทเล่าเรื่องทั้งหมด
ธราดลเพิ่งเข้าใจว่าที่คิดว่ามีคนคอยตามคือคนของศตายุนี่เอง เก็ทย้ำว่าศตายุเป็นห่วงเขามาก คอยแอบช่วยเหลือทุกอย่างตั้งแต่เขาหนีออกจากบ้าน ธราดลถึงรู้ว่าเงินที่ต้นให้มาจากศตายุ
เก็ทย้ำ “พี่เขาไม่เคยทิ้งเราเลยนะ เขาเป็นห่วงนายและรักนายมาก เฟลอร์เล่าว่า ตอนคุณโตกระโดดไปช่วยนาย เขาก็รู้เลยว่าพี่นายรักนายมากกว่าชีวิตตัวเองซะอีก นายควรจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อพี่ชายนายซะใหม่ได้แล้ว”
ธราดลใจแป้วถามอย่างห่วงใยว่าศตายุเป็นอย่างไรบ้างตนเห็นเขาถูกยิง...ขณะนั้นศตายุกำลังคาดคั้นความจริงจากคนร้ายจนรู้ว่าเมฆพัดเป็นคนจ้างให้ทำร้ายธราดล แต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาสั่งให้ทำให้เด็กคนนี้พูดไม่ได้อีก พบูได้ยินก็ตกใจเล่าให้ศตายุฟังเรื่องที่ธราดลไปหาที่ร้านและบอกเรื่องเมฆพัด แต่ตนไม่เชื่อ พบูเสียใจถ้าฟังน้องสักนิด เรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
“ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้หรอก” ศตายุปลอบ
“โชคดีที่คุณรอบคอบให้คนคอยดูแลทำให้ช่วยดลได้ทัน ไม่งั้นอาจเสียดลไปแล้วก็ได้”
ศตายุเองก็ใจหาย ครุ่นคิดจะทำอย่างไรต่อไปดี ...สุดท้ายศตายุก็ให้คนร้ายโทร.ไปบอกเมฆพัดว่า ธราดลแพ้ยาที่ฉีดช็อกตาย จะให้ทำอย่างไรกับศพ เมฆพัดตกใจไม่คิดจะทำให้ถึงตาย ลูกตาลจึงดึงโทรศัพท์มาสั่งการแทน ให้ทำลายศพอย่าให้เหลือหลักฐาน จัดการเสร็จค่อยติดต่อมารับเงิน จากนั้นลูกตาลก็หันมาปลอบเมฆพัดที่ดูจะเสียใจอยู่ไม่น้อย
พบูได้อัดคลิปคำสารภาพของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน ศตายุยังไม่ส่งตัวคนร้ายให้ตำรวจเพราะกลัวเมฆพัดจะไหวตัวทัน...เขากลับมาหาธราดลที่คลินิก เห็นยังหลับอยู่ก็เข้าไปลูบหัวอย่างห่วงใย ถามเพื่อนถึงอาการของน้อง เมื่อรู้ว่าแค่บอบช้ำไม่เป็นอะไรมากก็โล่งอก
“พี่ขอโทษนะ พี่เป็นพี่ที่แย่มาก แค่นี้ก็ดูแลปกป้องดลไม่ได้ พี่ขอโทษ” ศตายุน้ำตาคลอ
พบูกับเก็ทมองอย่างสงสาร ธราดลเองไม่ได้หลับจริง เขาได้ยินคำพูดของพี่ชายทุกคำ ทำทีเป็นเพิ่งตื่นขึ้นมา ศตายุรีบถามเจ็บมากไหม เขาส่ายหน้าแล้วมองแผลที่แขนศตายุอย่างห่วงๆ
หลังจากนั้นธราดลก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ทุกคนไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือเมฆพัดทั้งหมด ศตายุเสียใจถึงอย่างไรเมฆพัดก็เป็นคนในครอบครัว ไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจ คิดจะเจรจาให้กลับตัวใหม่ แต่ตอนนี้ต้องให้คนอื่นๆเข้าใจว่าธราดลตายก่อน เก็ทเสนอให้ธราดลไปพักที่บ้านพักตากอากาศของตน
ทุกคนมาที่บ้านพักบนเกาะ พบูไม่เคยรู้มาก่อนว่าเพื่อนมีบ้านแบบนี้ เก็ทบอกว่าเป็นมรดกจากปู่ พบูเห็นรูปปู่ที่แขวนอยู่จึงยกมือไหว้อย่างกลัวๆ เก็ทมองธราดลทำท่าเหมือนไม่อยากอยู่ จึงเอ่ยปากชวนทั้งศตายุและพบูพักที่นี่ด้วยกันให้ธราดลอุ่นใจก่อน ทั้งสองเห็นดี
ศตายุโทร.สั่งงานพิมพ์พรรณว่าให้บอกใครๆว่าตนบินไปดูงานกะทันหันหนึ่งอาทิตย์ ส่วนพบูก็โทร.บอกไมเคิลบอกว่ามีธุระด่วนต่างจังหวัด ฝากดูแลร้านด้วย
คืนนั้นเมฆพัดพยายามโทร.กลับไปหาคนร้าย แปลกใจที่ปิดเครื่อง งามยิ่งเดินเข้ามาถามว่าศตายุกลับมาหรือยัง เขาส่ายหน้า เธอบ่นสงสัยไปตามหาธราดล เมฆพัดได้ยินชื่อหลานก็สะดุ้งนิดๆ งามยิ่งหันไปถามแม่บ้าน เธอรายงานว่าศตายุโทร.มาบอก
วันนี้ไม่กลับติดงานด่วน...งามยิ่งอยากรู้งานอะไร เมฆพัดส่ายหน้าอยากรู้เหมือนกัน
ooooooo
ริมทะเล พบูนั่งคิดถึงภาพศตายุกระโดดเข้ากอดธราดลรับกระสุนแทน เลือดที่แขนเขาไหลออกมาก แต่ยังบอกให้เธอไปดูธราดล เธอร้องไห้กอดเขาด้วยความรู้สึกว่าจะเสียเขาไปไม่ได้
เก็ทเข้ามาถามเป็นอะไร พบูเล่าให้เพื่อนฟังถึงความรู้สึกที่มีต่อศตายุ เก็ทยิ้ม “ก็ดีนะ ดลก็ได้รู้ซะทีว่าพี่ชายรักเขามากขนาดไหน ส่วนคุณโตก็ได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณเมฆพัด ส่วนแกเองก็จะได้รู้ใจตัวเองด้วย”
พบูเขินเปลี่ยนมาบ่นว่าสงสารศตายุ เก็ทเสริม “อีกฝ่ายก็น้อง อีกฝ่ายก็อา ไหนจะปู่อีก คุณโตคงลำบากใจ” พบูยิ่งเศร้าเป็นห่วง เก็ทแอบขำเพื่อนที่แสดงออกว่าห่วงใยศตายุมาก
ศตายุทำแผลให้ธราดลอย่างอ่อนโยน ถามไถ่ถึงความลำบากที่ต้องอยู่เองข้างนอก
“ก็นิดหน่อยแต่ก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ เพราะพี่คอยแอบช่วยผมอยู่ไม่ใช่เหรอ...พี่เก็ทเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว เงินที่ต้นเอามาให้ผมก็เงินพี่ใช่ไหม”
ศตายุพยักหน้า “ที่ผ่านมาพี่ขอโทษนะ ที่ไม่เคยฟังเราเลย ถ้าพี่เป็นพี่ที่ดี นายก็คงจะกล้าเล่าเรื่องอาเมฆให้พี่ฟัง ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้”
ธราดลไม่ติดใจเรื่องนี้อีกแล้ว ศตายุถามว่ากลัวมากใช่ไหม เขารับว่ากลัวไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง ศตายุวางมือบนไหล่น้องบอกว่าต่อไปไม่ต้องกลัวอีกแล้ว ตนจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดแล้วจะได้กลับบ้านกัน ธราดลมองพี่ชายด้วยความซาบซึ้งใจ
ถึงเวลาเข้านอน พบูบ่นอุบที่บ้านนี้มีห้องนอนเพียงห้องเดียว ทุกคนจึงต้องนอนรวมกัน พบูขอนอนกลางอ้างกลัวผี ธราดลจะนอนริม ศตายุเห็นว่าเก็ทเป็นผู้ชายไม่ควรนอนติดกับพบู แต่เก็ทก็อ้างเหตุผลเดียวกันแถมเขาก็ไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆกับเธอ พบูเซ็งตกลงจะทำอย่างไร
สุดท้ายก็ลงตัว พบูนอนหน้ามุ่ยเพราะตัวเธอต้องแยกมานอนปลายเท้าของทุกคน เก็ทแอบขำ แต่แล้วตัวเองก็เจอปัญหาหนักต้องนอนกลางไม่รู้จะหันหน้าไปเผชิญกับใครใจเต้นรัว มีเพียงศตายุที่ตื่นเต้นได้นอนห้องเดียวกับพบู
รุ่งเช้า เก็ทลุกขึ้นมาจัดอาหารเช้าให้ทุกคน ศตายุเดินมาสีหน้าอิดโรยเพราะนอนไม่ค่อยหลับ เก็ทจะปลุกพบูกับธราดล แต่พอเปิดประตูห้องเข้าไปเห็นธราดลนอนหน้าซีดเป็นศพก็ตกใจรีบเขย่าตัวให้ฟื้น พยายามปั๊มหัวใจก็ไม่รู้สึกตัว จึงก้มลงจะทำการผายปอด ธราดลหรี่ตามองทะลึ่งพรวดลุกขึ้นหัวโขกกันอย่างแรง เสียงพบูหัวเราะลั่น เก็ทจึงรู้ว่าโดนหลอก
“ดลไม่ได้เป็นอะไรหรอก ฉันแค่ทดสอบการแต่งหน้าเอฟเฟกต์ของฉัน ฝีมือฉันก็ขั้นเทพเหมือนกันนะเนี่ย หลอกแกสนิทเลย”
ธราดลเสริมว่าพบูจะส่งรูปไปหลอกเมฆพัด...ขณะนั่งทานอาหาร พบูเห็นหน้าศตายุอิดโรยก็คิดว่านอนไม่หลับเพราะเคยนอนแต่เตียงใหญ่สบายๆ เขาแก้ตัวว่าไม่ใช่ ตนแค่คิดเรื่องเมฆพัดไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี พบูเลยบอกให้เลิกคิดและพักผ่อนบ้าง
“ใช่ ที่ผ่านมาพี่มัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาพักเลย” ธราดลเสริมอย่างห่วงใย
ศตายุปลื้มใจกับความเป็นห่วงของน้อง พบูแซวหายเครียดขึ้นบ้างไหม เก็ทตัดบทชวนไปซื้ออาหารทะเลมาทำกินกัน พบูเสนอจะไปกับศตายุให้ เก็ทรู้ทันว่าเพื่อนอยากอยู่กับศตายุลำพัง จึงเออออและว่าตนจะเตรียมเครื่องครัวรอ...พบูรีบมาสูบยางจักรยาน เก็ทตามมาช่วยแต่พบูกลับบอกว่า ไม่เป็นไรตนยอมเหนื่อยเพื่อความรักแล้วเธอก็มโนภาพโรแมนติกไปด้วย
เป็นภาพริมหาด พบูซ้อนท้ายจักรยานศตายุ แล้วบอกให้เขาสอนตนขี่บ้าง ศตายุหยุดรถลงมาประคองจักรยานให้พบูขี่ สีหน้าเธอฟินสุดๆ...ทันใดมีเสียงดังขึ้น ยิ้มอะไรจะไปกันหรือยัง
พบูลืมตามาเห็นศตายุยืนมอง เธอกะพริบตาถี่ๆ ตื่นจากมโน รีบพยักหน้ารับ ศตายุกลับบอกว่า “คุณขี่นะ ผมขี่จักรยานไม่เป็น”
พบูหน้าเจื่อนสมัยนี้ยังมีคนขี่จักรยานไม่เป็นอีกหรือ เขาสาธยายว่า กิจจากลัวอุบัติเหตุ จึงไม่ให้หัด พบูฝันสลายต้องเป็นคนขี่ให้เขาซ้อน อดบ่นไม่ได้ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย...พอมาถึงตลาดประมง พบูก็ลืมตัวบ่นคิดถึงบุรี ถ้ามาด้วยคงเลือกของสดได้ดี ศตายุเคืองถือของเดินปึ่งๆมาใส่ตะกร้าจักรยาน พบูงงแขวะขี่กลับเองได้ก็กลับไปเลย แล้วเธอก็ต้องตะลึงที่ศตายุขี่จักรยานตัวปลิว จึงวิ่งตามโวยวายไหนว่าขี่ไม่เป็น
“ผมก็แค่อยากให้คุณออกกำลังกายบ้าง”
พบูงอนยืนนิ่งไม่ขึ้นรถ ศตายุบอกถ้างอนก็ต้องเดินกลับเอง แล้วทำท่าจะขี่ออกไป พบูตกใจรีบขึ้นซ้อนท้ายพึมพำค่อยกลับไปงอนต่อที่บ้านก็ได้ ศตายุแอบขำมีความสุขที่ได้แกล้งเธอ
ทางบ้าน งามยิ่งอยากรู้มากว่าศตายุไปไหนทำทีถือแฟ้มงานมาจะให้ศตายุเซ็นด่วน แต่ก็ไม่ได้ความอะไรจากพิมพ์พรรณเลย จึงโวยว่าเป็นเลขาอะไรไม่รู้เรื่องเจ้านายบ้าง...เมฆพัดกำลังคุยโทรศัพท์สั่งลูกน้องให้ทำตามที่สั่งไม่ต้องมาสนใจว่าของจะตรงตามสเปกหรือไม่
พอเห็นงามยิ่งเดินมาก็รีบวางสาย ถามพี่สาวหงุดหงิดอะไรมา เธอบ่นเรื่องศตายุ เมฆพัดยิ้มกริ่มบอกดีแล้วที่ไม่อยู่ ตอนนี้เราจะทำอะไรก็สะดวก งามยิ่งมองอย่างสงสัยจะทำอะไร เขายักไหล่ไม่ตอบ งามยิ่งนึกได้เปลี่ยนเรื่อง “วันนี้เจมี่จะมาทำงานกับแกวันแรกใช่ไหม ใช้โอกาสนี้ทำคะแนนให้ดีล่ะอย่ามัวชักช้า หนูเจมี่ทั้งน่ารักทั้งรวย หนุ่มๆที่ไหนก็อยากได้เป็นแฟนทั้งนั้น”
เมฆพัดพยักหน้ารับเซ็งๆ พอเจมี่มาถึงเขาก็เอาอกเอาใจสารพัด มีกระเป๋าแบรนด์เนมและช่อดอกไม้เป็นของขวัญให้ ก่อนจะเลียบเคียงถามถึงศตายุ แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเลย
พักเที่ยง เจมี่เลี่ยงมาทานกลางวันกับบุรี เขาเหน็บคงทำงานสบายขึ้น เธอรับว่าใช่ไม่โหดเหมือนทำกับเขา บุรีค้อนงอนๆ “ก็เจ้านายคนใหม่ของคุณ เขาคิดไม่ซื่อกับคุณนี่ เขาจะจีบคุณก็ต้องเอาใจคุณเป็นธรรมดา”
เจมี่หน้างิกใส่ บ่นไม่รู้ศตายุหายไปไหน บุรีเอะใจเพราะพบูก็หายไปเช่นกัน แล้วทั้งสองก็ร้อนใจว่าสองคนนั้นไปด้วยกันหรือเปล่า
ooooooo
ในขณะที่ต้นพยายามติดต่อธราดลเท่าไหร่ก็ไม่ได้ จึงแวะมาหาที่บ้าน มธุรสตกใจปนแปลกใจเมื่อรู้ว่าธราดลกลับจากบ้านต้นตั้งแต่เมื่อวานแต่ยังไม่ถึงบ้าน
กิจจา เจริญรุ่งและงามยิ่งต่างตกใจเมื่อรู้ว่าธราดลหายตัวไป เมฆพัดนั่งร้อนตัวนิดๆที่ต้นมาเปิดประเด็นเรื่องธราดล ต้นยังเล่าอีกว่าธราดลบ่นว่าเหมือนมีคนคอยตามทำให้กลัว เจริญรุ่งพาลโทษเป็นเพราะกิจจาที่ไล่หลานออกจากบ้าน มธุรสชวนไปแจ้งความ เมฆพัดรีบห้ามอ้างจะเสียชื่อบริษัท เจริญรุ่งโวยอะไรจะสำคัญเท่าคนในครอบครัว
งามยิ่งช่วยเมฆพัดเถียง “ถ้าหายตัวไปทำเรื่องเลวๆ แน่ใจว่าจะไม่เสียชื่อเหรอคะ ทำยังกะตัวสนใจไยดีนิสัยลูกตัวนักหนา”
เจริญรุ่งหน้าเสีย เมฆพัดหาข้ออ้าง จะให้เพื่อนที่เป็นนักสืบตามเรื่องให้จะได้ไม่เอิกเกริก มธุรสนึกทบทวนว่าก่อนธราดลจะออกจากบ้านเหมือนมีเรื่องในใจ กิจจาถามช่วงนี้ไปมีเรื่องกับใครบ้างไหม ต้นเหล่มองเมฆพัดแต่ไม่กล้าพูดกลัวตัวเองเดือดร้อน เมฆพัดโล่งอกแต่ก็หงุดหงิดที่ต้นทำเสียแผน พอดีเจมี่โทร.เข้ามาถามถึงเอกสารโครงการพ่อ จะเตรียมไว้เข้าประชุม
“อาเก็บไว้ที่บริษัท ที่ตู้ข้างโต๊ะทำงานน่ะ ถ้าเจมี่อยากได้ข้อมูลอะไรก็ไปหาได้เลยนะ”
“ค่ะขอบคุณค่ะ...เอ่อ พี่โตกลับมาถึงบ้านรึยังคะ” เจมี่ลังเลที่จะถาม
เมฆพัดได้ทีใส่ไฟว่าศตายุยังไม่กลับบ้านทั้งที่ที่บ้านมีเรื่องวุ่นวาย ธราดลหายตัวไป เจมี่ตกใจคงไม่คิดฆ่าตัวตาย เมฆพัดแปลกใจทำไมคิดอย่างนั้น
“ก็วันก่อนเจมี่เห็นดลโพสต์เฟซบุ๊กดราม่าตัดพ้อทุกคนเต็มไปหมดเลยค่ะ”
เป็นข้อมูลใหม่ที่เมฆพัดเพิ่งรู้ จึงฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง...จากนั้นเจมี่ก็รีบโทร.ตามบุรีมาพบที่ร้านลามูน เพื่อช่วยกันสืบหาว่าศตายุหายไปกับพบูหรือเปล่า ทั้งสองซักถามจอร์จ จอร์จพาซื่อเล่าว่าได้ยินไมเคิลคุยโทรศัพท์กับพบูแล้วว่าได้ยินเหมือนมีเสียงทะเล บูรณาเข้ามาขัดจังหวะเรียกให้จอร์จไปช่วยไมเคิลในครัว เจมี่กับบุรีเซ็งที่ยังไม่ทันได้เรื่องอะไร
ค่ำนั้น พวกพบูตั้งโต๊ะปิ้งกุ้งริมหาด ศตายุแกะกุ้งเต็มจาน พบูยิ้มกริ่มรอรับ แต่แล้วเขากลับส่งผ่านหน้าเธอไปให้ธราดล “เราชอบกินกุ้งใช่ไหม พี่จำได้”
พบูจ๋อยแกล้งบ่นว่าตนก็ชอบกินกุ้ง เก็ทส่งของตัวเองให้ขำๆ...ศตายุบอกธราดลว่ากลับไปคราวนี้ ถ้าอยากทำอะไรหรืออยากเรียนอะไร ตนจะไม่บังคับแล้ว อยากไปต่างประเทศก็จะให้พิมพ์พรรณจัดการให้ ธราดลซาบซึ้งขอบคุณ แต่ตัวเองตั้งใจจะสอบชิงทุนแบบที่เก็ทแนะนำ
“ที่ผ่านมาผมทำตัวแย่อย่างที่พี่ว่าจริงๆ ผมเลยอยากลองทำอะไรด้วยตัวเองดูบ้าง”
ศตายุปลื้มปริ่มพูดอย่างเปิดใจ “ความจริงถ้าเราได้คุยกัน ให้เวลากัน พยายามทำความเข้าใจกันมากขึ้น บ้านเราก็อาจจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ก็ได้”
พบูปิ๊งไอเดียขึ้นมาจะจัดโปรโมชั่นลด 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับคนที่มากินข้าวกับครอบครัว เก็ทเห็นดีด้วยจะได้เป็นเวลาที่ครอบครัวได้คุยกัน ศตายุเศร้าลงเพราะไม่เคยใช้เวลากับครอบครัว
พบูรู้ซึ้ง “ฉันเองก็เคยเข้าใจแม่ผิด คิดว่าแม่ทิ้งฉัน ไม่รักฉัน เพราะว่าแม่ไม่เคยพูด ไม่เคยแสดงออกอะไรเหมือนกันค่ะ”
เวลาผ่านไป เก็ทเดินคุยกับธราดลไปตามชายหาด ไม่คิดว่าศตายุจะรักน้องมากขนาดยอมทิ้งงานอยู่ที่นี่ด้วย ธราดลเศร้าลงไม่เคยคิดเช่นกัน เก็ทชี้ “ก็งี้แหละ บางคนกว่าเราจะรู้ว่าใครรักเรามากที่สุด ใครหวังผลประโยชน์จากเราก็สายไปซะแล้ว นายยังโชคดีกว่าคนอื่นตั้งเยอะ”
ธราดลขอบคุณที่เก็ทชี้แนะและเตือนสติ เวลาคุยกับเขารู้สึกสบายใจ เก็ทเขินบอกให้ไปขอบคุณศตายุจะดีกว่า ธราดลเก็บไปคิด
ooooooo
เช้าวันใหม่ ศตายุนั่งคิดเรื่องเมฆพัด ธราดลบอกพบูขนาดตนไม่สนใจใครในบ้าน พอรู้ความเลวของเมฆพัดยังเครียด แล้วศตายุจะไม่แย่หรือให้เธอช่วยหาทางให้กำลังใจเขามากๆ
พบูวางแผนโทร.เรียกศตายุให้เดินออกมาชายหาด แล้วก้มมองพื้นทราย มีข้อความให้กำลังใจว่า “ฉันรู้นะว่าคุณเครียด...แต่คุณยังมีดลกับฉันอยู่...ทุกปัญหามีทางแก้ อย่าท้อ”
ศตายุเดินอ่านจนมาถึงข้อความสุดท้าย “ถึงแล้วเงยหน้าสิคะ...” เขาชะงักเงยหน้ามอง เห็นชิงช้าไม้ผูกกับต้นไม้ตกแต่งน่ารักๆ มีข้อความว่า...เชิญนั่ง...ศตายุยืนอึ้ง
พบูเดินเข้ามากล่าว “เวลาฉันมีเรื่องเครียดๆเศร้าๆ คุณย่าจะแกว่งชิงช้าให้ฉัน คราวที่แล้วคุณแกว่งชิงช้าให้ฉัน ครั้งนี้ฉันเลยโปรโมชั่นให้คุณนั่งพร้อมร้องเพลงให้ฟังค่ะ”
ศตายุสวนว่าร้องเพลงไม่เอาได้ไหม พบูยิ้มแหะๆ บอกตนปากไวไปนิด แล้วให้เขานั่งลง แกว่งชิงช้าและพูดให้กำลังใจ “สู้ๆนะคะคุณโต ฉันกับดลเป็นกำลังใจให้คุณเสมอนะคะ”
ศตายุแทรกห้ามเธอร้องเพลง เพราะเห็นอินโทร เสียยาวกลัวจะเข้าเพลง พบูค้อนขวับถาม แขวะได้ขนาดนี้แสดงว่าอารมณ์ดีแล้วใช่ไหม เขาหัวเราะ “ใครได้อยู่ใกล้คุณก็อารมณ์ดีทั้งนั้นนี่”
“คนมีเสน่ห์ก็ยังงี้แหละ” พบูไม่คิดถ่อมตัวสักนิด
ศตายุรู้สึกอบอุ่นใจเอื้อมไปจับมือเธอที่แกว่งชิงช้าให้ พบูเขินหน้าแดงจะดึงออกแต่เขาจับไว้แน่น จึงยอมปล่อยให้เขาจับแล้วแกว่งชิงช้าให้เขาต่อ เป็นการเปิดใจยอมรับซึ่งกันและกัน
วันนี้ศยายุตั้งใจจะกลับ ธราดลหน้าเสียกลัวถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เก็ทสงสารจึงอาสาอยู่เป็นเพื่อน พบูถามศตายุจะจัดการเมฆพัดอย่างไร เขาคิดว่าต้องหาหลักฐานให้ได้ก่อนเพราะเพียงคำพูดธราดลอย่างเดียวไม่พอ พบูพยักหน้าเข้าใจ แต่หวั่นใจกลัวเมฆพัดรู้ความจริงขึ้นมาแล้วจะทำอะไรรุนแรงกว่านี้ ไม่ทันไรมธุรสโทร.เข้ามาหาศตายุ ร้องไห้โฮบอกว่าธราดลตายแล้ว...
ศตายุกับพบูรีบมาที่โฮมสเตย์ริมทะเลแห่งหนึ่ง มธุรสกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น เมฆพัดยืนอยู่ข้างๆ พอเห็นทั้งสองมามธุรสก็รีบเล่าว่า ต้นมาบอกว่าธราดลหายตัวไป ทุกคนจึงออกตามหา เมฆพัดช่วยเล่าต่อ “เมื่อวานอาเข้าไปดูเฟซบุ๊กดล เผื่อว่าดลหรือเพื่อนดลจะโพสต์อะไรไว้บ้าง ปรากฏว่าเมื่อคืนดลโพสต์ภาพว่าอยู่ที่นี่ พวกเราก็เลยตามมาแล้วก็เจอนี่....”
เมฆพัดส่งจดหมายลาตายของธราดลให้ศตายุและบอกอีกว่า เจ้าของบ้านเล่าว่ามีชาวบ้านเห็นธราดลเดินลงทะเล ทุกคนเลยรีบตามลงไปช่วย แต่ก็ไม่เจอดล ตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่พอกลับมาที่ห้องก็เจอจดหมายฉบับนี้วางอยู่...ศตายุกับพบูทำทีตกใจ ศตายุอยากเจอชาวบ้านที่เล่าเรื่องนี้ เมฆพัดอึกอักก่อนจะตามชาวบ้านคนนั้นมา
ป้าเจ้าของบ้านเล่าว่า ธราดลมาเช่าบ้านท่าทางดูเศร้าไม่พูดไม่จา ตกดึกก็ออกไปเล่นน้ำทะเล ตนเห็นไม่ขึ้นมาเสียทีจึงลงไปตามแต่ไม่เจอ พอเข้ามาในห้องก็พบจดหมายนั่น...พบูหมั่นไส้เมฆพัดมากที่สร้างเรื่อง แกล้งทำเป็นเสียใจเข้าทุบตีเขา ศตายุเหล่มอง พบูทุบจนสะใจแล้วหยุดหันมาถามทำไมไม่แจ้งความปล่อยไว้แบบนี้ทำไม ป้าอ้างว่าไม่กล้าแจ้งกลัวคนไม่มาพัก มธุรสร้องไห้โฮ พบูต้องเข้ากอดปลอบอย่างรู้สึกผิดที่ปิดบังความจริง
ศตายุยังยืนยันกับเมฆพัดว่าน่าจะแจ้งความเผื่อธราดลยังไม่ตาย เมฆพัดปัดว่าแค่จ้างชาวบ้านตามหาก็พอ เกรงเสียชื่อบริษัท ศตายุย้อน “ความเป็นความตายของธราดล ผมไม่มานั่งห่วงชื่อเสียงบริษัทหรอกครับ”
แต่เมฆพัดยังอ้างว่าบริษัทมีเรื่องเยอะอยู่แล้ว ตนจะจ้างทีมงานมืออาชีพออกตามหาธราดลเอง ศตายุจึงให้เวลาหนึ่งอาทิตย์ ถ้าไม่เจอจะแจ้งความ...หลังจากนั้น พบูต้องคอยปลอบมธุรสอยู่ที่บ้านศตายุด้วย พยายามบอกแม่ให้เข้มแข็ง น้องอาจจะยังไม่ตาย เจริญรุ่งพอเห็นจดหมายลาตายของธราดลก็สติแตกร้องไห้ ต่อว่าศตายุบีบบังคับน้องจนต้องออกจากบ้าน
กิจจาเอ็ด “เลิกโทษคนอื่นได้แล้ว แกเองก็เป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องเหมือนกันนั่นแหละ”
งามยิ่งเห็นความวุ่นวายก็โทษศตายุเป็นต้นเหตุเช่นกัน ศตายุเสียใจ พบูมองอย่างเห็นใจ...กิจจาหลบมานั่งเสียใจคิดถึงวันสุดท้ายที่ตนด่าว่าธราดล รู้สึกเสียใจที่รุนแรงกับหลานมากไป ไม่ต่างกันเจริญรุ่งคิดถึงวันที่
ธราดลมาหาอยากคุยด้วยแต่ตนไม่สนใจ จนเขาขึ้นเสียงหาว่าพ่อไม่เคยช่วยอะไรเขาได้ ไม่เคยฟังไม่เคยสนใจเขาเลย...น้ำตาเจริญรุ่งไหลอาบแก้ม
“พ่อผิดเองที่ไล่ดลไปตาย พ่อขอโทษ...”
เมฆพัดเดินมาเห็นเข้าปลอบพี่ชาย “อย่าเสียใจเลยนะครับพี่รุ่ง คิดว่าทำบุญกันมาแค่นี้”
งามยิ่งเหน็บ คนในบ้านตายทั้งคนจะไม่ให้เสียใจได้อย่างไร จะมีก็แต่กิจจาที่ดูไม่เสียใจแต่ถ้าเป็นหลานรักอย่างศตายุคงร้องไห้ฟูมฟายออกตามหา เจริญรุ่งรำพัน
“ฉันมีลูกแค่คนเดียวคือดล ดลต้องไม่ตาย คนที่ควรตายควรจะเป็นไอ้โตตะหาก”
ทั้งงามยิ่งและเมฆพัดมองหน้ากันงงๆกับคำพูดของเจริญรุ่ง...เจริญรุ่งเข้ามาในห้องนอนธราดลเห็นศตายุยืนอยู่ก็ยิ่งโมโหโวยวายยังมีหน้าเข้ามา ถ้าเขาไม่เผด็จการกับน้องมาก น้องก็คงไม่คิดสั้น ศตายุเสียใจย้อนถาม ถ้าเปลี่ยนเป็นตนตายแทนพ่อคงรู้สึกดีใช่ไหม
“ใช่ แกควรจะตายแทนลูกฉัน”
“แล้วผมไม่ใช่ลูกคุณพ่อรึไงครับ คุณพ่อถึงได้คิดแบบนี้ ผมทำอะไรให้ ทำไมคุณพ่อถึงได้เกลียดผมนัก” เจริญรุ่งนิ่ง “ว่าไงครับ ถ้าผมไม่ใช่ลูก ทำไมคุณพ่อไม่พูดออกมาตรงๆไปเลย”
เจริญรุ่งหงุดหงิดไม่ตอบ เดินอารมณ์เสียออกไป พบูเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรู้สึกสงสารศตายุมาก เข้ามาหาอยากจะช่วยแบ่งเบาความทุกข์จากเขามาบ้าง จึงเข้าสวมกอดให้กำลังใจ ศตายุอึ้งก่อนจะค่อยๆกอดตอบอย่างอบอุ่นใจขึ้น
ศตายุเดินออกมาส่งพบูที่รถ พบูใส่เป็นชุดว่าเจริญรุ่ง เมฆพัดและงามยิ่งเอาแต่ด่าว่าทั้งที่เขาเสี่ยงชีวิตช่วยธราดลไว้แท้ๆ ศตายุคิดว่าตนคงบีบน้องมากเกินไป จริงๆ พบูปลอบนั่นเพราะความหวังดีทั้งนั้น ศตายุเป็นห่วงความรู้สึกมธุรสมากกว่าใคร พบูขอบอกความจริงแม่
แต่ศตายุห้ามกลัวเธอใจอ่อนบอกเจริญรุ่ง พบูพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เดินกลับเข้ามา งามยิ่งรอเหน็บว่าน้องตายทั้งคนยังหาโอกาสใกล้ชิดหญิงอีก ศตายุถอนใจโต้ “ถ้าการว่าผมทำให้คุณอารู้สึกดีได้ก็ว่าไปเถอะครับ ผมยินดี”
งามยิ่งฮึดฮัดไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้...ด้านพบูกลับมาถึงหน้าคอนโดพนักงาน เดินคุยโทรศัพท์กับเก็ท ระบายความอัดอั้นที่สงสารศตายุ แล้วถามไถ่ถึงธราดล เก็ทบอกว่าไม่ต้องห่วง พอวางสายเสียงบุรีเหน็บ “ดูคุณจะเป็นห่วงคุณโตมากเลยนะ”
พบูสะดุ้งเห็นบุรียืนอยู่ก็โวยที่แอบฟัง บุรีโต้ว่าอยู่ตรงนี้ก่อนนานแล้ว...แล้วเปลี่ยนมาถามเธอหายไปไหนมาหลายวัน ไปกับศตายุใช่ไหม พบูเลี่ยงไม่ตอบและขอตัวขึ้นห้องอยากพักผ่อน บุรีได้แต่มองตามหลังอย่างเซ็งๆกับท่าทางแปลกๆของเธอ
บุรีมาบ่นกับต๋อยเรื่องพบูดูท่าจะเป็นห่วงศตายุมากกว่าธราดล ทันใดเจมี่โทร.เข้ามา บุรีรู้สึกดีใจขึ้นมาทันที...ทั้งสองมาเจอกันที่ที่พบกันประจำ บุรีปรับทุกข์เรื่องพบูเปลี่ยนไป อยู่ใกล้กันก็เหมือนไกลกัน เจมี่ปลอบว่าทุกคนกำลังเครียด ขนาดเธอเองศตายุก็ทำท่าเหมือนเลี่ยงไม่อยากคุยด้วย แล้วเจมี่ก็ปรึกษาบุรี เรื่องที่ตนรู้สึกว่าเมฆพัดแสดงออกว่าจะจีบ พยายามจับเนื้อต้องตัว เอาหน้ามาใกล้ๆ บุรีเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมาเฉยๆโวย
“แล้วคุณปล่อยให้เขาทำแบบนั้นได้ยังไง คุณนี่มันซื่อโลกสวย ไม่ทันใครเลยจริงๆ”
เจมี่งอน “ฉันไม่น่ามาปรึกษาคุณให้โดนด่าซ้ำเลย”
บุรีรู้สึกตัวรีบขอโทษและเตือนไม่ให้เจมี่อยู่ตามลำพังกับเมฆพัดอีก ทางที่ดีควรขอย้ายแผนกเสียจะดีกว่า เจมี่คิดตามไม่เอะใจทำไมบุรีถึงใส่อารมณ์กับเรื่องนี้มาก
ooooooo
ตกดึกบนเกาะ ธราดลรู้สึกบ้านเงียบเมื่อพบูกับศตายุกลับไป เก็ทปลอบว่าไม่นานก็ชิน ธราดลขอโทรศัพท์ไปหาทั้งสองคนแต่เก็ทห้ามไว้เกรงความแตก
รุ่งเช้า เก็ททำอาหารมาเสิร์ฟธราดลถึงในห้องนอน และยังหารายชื่อทุนมาให้เลือกจะไปเรียนต่อด้านไหน ธราดลยังดูเศร้าคิดถึงบ้าน เก็ทปลอบศตายุจัดการทางบ้านเรียบร้อยเราก็จะได้กลับ ตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อนดีกว่า ไม่ทันไรศตายุโทร.เข้ามา สีหน้าธราดลดีใจ เก็ท มองอย่างเอ็นดู
“อาเมฆหลอกว่านายฆ่าตัวตาย แม่นายก็กำลังทำใจอยู่...แล้วดลล่ะอยู่ที่นั่นโอเคไหม”
“โอเคครับ พี่เก็ทเพิ่งเอาทุนต่างๆมาให้ผมดู พี่เขาจะเป็นติวเตอร์สอบชิงทุนให้เอง”
“พี่คงต้องขอบคุณคุณเก็ทมากๆที่ทำให้ดลเปลี่ยนความคิดได้ขนาดนี้”
“ไม่ใช่เพราะพี่เก็ทคนเดียวหรอกครับ เพราะพี่ช่วยผมตอนนั้นด้วยตะหาก ที่ทำให้ผมคิดได้ว่าผมก็ยังมีพี่...ขอบคุณนะครับ”
ศตายุปลื้มใจที่ยังมีน้องที่เข้าใจตนบ้าง แม้จะโดนทุกคนในบ้านด่าว่า...ในขณะที่เมฆพัดเข้ามานั่งมองรูปธราดลในห้องนอน รำพึงกับรูปหลานว่าตน
ไม่ผิด เขาไม่น่ามารู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ แล้วเขาก็แพ้ยาตายเอง ตนไม่ได้ทำ งามยิ่งเดินเข้ามาถามคิดถึงหลานหรือ เมฆพัดสะดุ้งเออออไป
งามยิ่งเปรย “ถึงดลจะก้าวร้าวเอาแต่ใจ แต่พอไม่อยู่ก็อดใจหายไม่ได้ เห็นรูปนี้แล้วนึกถึงตอนเด็กๆเลยนะ ตอนที่แกโดนคุณพ่อว่าบ่อยๆ ดลมักจะวิ่งมาตามพี่ให้ไปช่วยแกตลอด”
เมฆพัดน้ำตาคลออยากสารภาพ แต่ก็เปลี่ยนใจมาถามว่าตนเป็นคนทำให้หลานต้องออกจากบ้านหรือ
งามยิ่งปลอบไม่ใช่แล้วโทษศตายุกับกิจจาต่างหากที่เป็นคนทำ
ooooooo
ในครัวร้านลามูน ไม่เคิลทำอาหารไปแซวไปว่าพบูไม่เข้าร้านหลายวันกลับมาก็มาให้ทำอาหารไปให้ศตายุ มันอย่างไรกัน ท่าทางเหมือนคนมีความรัก พบูแถว่าเห็นศตายุเครียด เวลาเรามีปัญหาเขาก็มีน้ำใจ ถึงเวลาเขามีปัญหาเราก็ต้องมีน้ำใจตอบ บูรณาแทรก
“พี่โตคงดีใจแน่ๆที่พี่เฟลอร์ใส่ใจขนาดนี้”
พบูเขินแต่ก็จัดอาหารใส่กล่องอย่างสวยงามพยายามไม่สนใจสองคนที่แซว...เผอิญเจมี่ก็ทำอาหารและขนมมากมายมาให้ศตายุเช่นกัน พอพบูเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาเห็นศตายุนั่งทำงานอยู่ ก็เอากล่องอาหารซ่อนไว้ข้างหลังกะเซอร์ไพรส์เขา ศตายุเงยหน้ามองอย่างแปลกใจ
“ได้ยินว่าคุณเอาแต่ทำงานจนไม่ได้กินข้าว ฉันเลยจะมาชวนคุณไปกินข้าวด้วยกันค่ะ”
ศตายุอึกอัก ไม่ทันไรเจมี่เดินออกมาขัดว่าคงไม่ได้เพราะเขานัดกับตนแล้ว เจมี่ชูอาหารมากมายที่ทำบอกศตายุว่าตนตื่นแต่เช้ามาทำอาหารที่เขาชอบ ว่าแล้วก็จูงเขาออกไปที่ห้องรับรอง ศตายุชวนพบูไปทานด้วยกัน เธอปฏิเสธและซ่อนกล่องอาหารตัวเองไว้
“งั้นคุณอย่าเพิ่งไปไหนนะครับ รอผมที่นี่ก่อน ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
พบูรับปาก เจมี่ดึงศตายุเดินผ่านหน้าเธอไป พบูรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ...ศตายุใช้โอกาสนี้เตือนเจมี่อ้อมๆว่าที่ไปทำงานกับเมฆพัดควรดูแลโครงการให้ดีอย่าไว้ใจใคร
ด้านเมฆพัดถือโอกาสที่ศตายุวุ่นๆเร่งคนงานให้สร้างอาคารให้เร็วขึ้น เลขาท้วงว่าเหล็กที่เขาสั่งมาจะรับน้ำหนักโครงสร้างไม่ไหว เขาตวาดกลับ อย่าวิตกจริตเกินเหตุ ตนบอกว่าทำได้ก็ต้องได้ ถ้าคนงานไม่ทำก็
ไล่ออกแล้วจ้างคนใหม่ งามยิ่งเข้ามาได้ยิน เตือนว่าหัวหน้าคนงานย่อมรู้ดีควรฟังเขาบ้าง เมฆพัดหงุดหงิดปัด
“พี่งามอย่าตื่นตูมไปหน่อยเลย มันไม่มีทางเกิดเรื่องแบบที่พี่กังวลแน่นอน”
เสร็จจากทานข้าวกับเจมี่ ศตายุกลับมาหาพบูที่ห้องทำงาน ก่อนหน้านั้นบูรณาโทร.เข้ามาถามว่าได้ทานอาหารที่พบูช่วยไมเคิลทำไปให้หรือยัง...ศตายุ จึงรู้ว่าพบูทำอาหารมาเช่นกัน พบูชวนคุยถามเรื่องเมฆพัด แต่ศตายุกลับมองไปที่กล่องอาหารแล้วแกล้งถามเอาอะไรมา เธอโบ้ยว่าไมเคิลฝากมาให้เขา แต่เขามีอาหารของเจมี่แล้วตนก็จะเก็บไว้กินเอง
ศตายุโวย
“ได้ยังไงไมเคิลอุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้ผม คุณจะเอาไปได้ไง ไม่กินเดี๋ยวไมเคิลเสียใจแย่”
ศตายุเปิดกล่องอาหารดูแต่ละชั้น ชมว่าน่ากินทั้งนั้น แต่พอเห็นชั้นสุดท้ายเป็นขนมหน้าตาแปลกๆ แกล้งถามนี่คงไม่ใช่ฝีมือไมเคิล พบูยิ้มอายๆยอมรับว่าทำเอง ศตายุชิมจำใจบอกว่าอร่อย พบูยิ้มปลื้มสุดๆ...กลับมาคอนโด พบูรีบโทร.ไปเล่าให้เก็ทฟังว่าศตายุกินขนมที่ตนทำและชมว่าอร่อย เก็ทไม่เชื่อ “คุณโตโกหก ฝีมือแกห่วยแตกมาก ขนาดมาม่ายังต้มไม่อร่อยเลย”
พบูโวยว่าเก็ทลิ้นไม่ถึง เก็ทขำย้อนถามทำไมถึงทำอาหารไปให้ศตายุ พบูเสียงอ่อยลงบอกว่า “ก็ให้กำลังใจตามที่แกแนะนำไง แต่ดันเจอเจมี่ทำอาหารมาตัดหน้า ดูท่าคุณหนูนั่นคงเร่งทำคะแนนเอาใจคุณโตน่าดู”
“ก็เหมือนแกไง แกชัดเจนแล้วใช่ไหมว่าชอบคุณโต” เก็ทจี้ตรงประเด็น
“ฉันก็ไม่รู้ว่าชอบรึเปล่า แต่ฉันรู้สึกอุ่นใจเวลาอยู่กับเขา อยากทำให้เขามีความสุข อยากอยู่กับเขาตลอดเวลา ตอนเห็นเขาเศร้าเรื่องดล ฉันก็รู้สึกเศร้าไปด้วย”
เก็ทเหน็บ ชัดเจนเลยสงสารบุรี...พบูถอนใจเพราะเขาดี ตนจึงมโนไปเองว่าชอบบุรี เก็ทเปรยคนที่ดีไม่ใช่คนที่ใช่เสมอไป พบูฟังแล้วยิ่งเศร้ารู้สึกผิด
ด้านบุรีนั่งครุ่นคิดเรื่องพบูแล้วก็โพล่งขึ้นมาว่าตนจะไม่เป็นของตายอีก จะลองหายไปจากชีวิตพบูดูบ้าง เผื่อเธอจะรู้สึก ต๋อยมองทำนองจะไปได้กี่น้ำ ไม่ทันไร เสียงพบูร้องกรี๊ดดังมา บุรีตาลีตาเหลือกวิ่งออกจากห้องต๋อยตะโกนไล่หลัง ไหนว่าจะไม่สนใจ
บุรีออกจากห้องมาเจอพบูนั่งคุดคู้อยู่หน้าห้อง พอถามจนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็โวย
“กรี๊ดเสียงดังขนาดนี้เพราะจิ้งจกเนี่ยนะ”
พบูนึกได้ว่าไม่ควรรับความช่วยเหลือจากบุรีอีก จึงฮึดขึ้นมาจะเข้าไปไล่จิ้งจกเอง บุรีรู้ทันถามไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตนแล้วใช่ไหม พบูปฏิเสธแล้วเดินเข้าห้อง ไม่ทันไรก็กระโดดเหยงขึ้นเก้าอี้ท่าทางหวาดกลัว สุดท้ายบุรีก็ต้องไล่ตะครุบจิ้งจกให้ เล่นเอาเหงื่อตก
ooooooo
คืนนั้นศตายุกลับบ้านพบเจริญรุ่งนอนเมาอยู่ที่พื้นห้องโถง แม่บ้านรายงานว่าเขาดื่มทั้งวัน ศตายุรู้สึกสงสารพยุงขึ้นนอนบนโซฟาแล้วเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าตาให้ เจริญรุ่งเพ้อขอโทษธราดล ทำให้ศตายุยิ่งรู้สึกผิดที่ไม่บอกความจริงว่าธราดลยังไม่ตาย
เช้าวันใหม่ กิจจาเดินเล่นคิดถึงธราดล ลูกตาลได้ทีเข้ามารายงานสภาพคนในบ้านต่างเสียศูนย์เมื่อรู้เรื่องธราดลตาย มีเพียงเมฆพัดที่มีสติตั้งใจดูแลงานบริษัท แล้วพยายามกล่อมกิจจา
“ตอนนี้ดลก็ไม่อยู่แล้ว ความหวังที่บริษัทก็เหลือแค่คุณโตกับคุณเมฆพัด คุณอาน่าจะแบ่งงานให้คุณเมฆพัด ดูแลบ้างนะคะ คุณเมฆพัดก็ดูทำงานเก่งดีเหมือนกัน”
กิจจาย้อนถามอย่างจับผิดว่าสนใจเรื่องบริษัทมากไปหรือเปล่า ลูกตาลชะงักแถไปว่าได้ยินงามยิ่งพูดเลยอดห่วงไม่ได้...ด้านในบ้าน มธุรสกำลังเช็ดหน้าตาให้เจริญรุ่ง เขารู้สึกตัวตื่นเห็นหน้าภรรยาก็โผกอดร่ำไห้ “ผมขอโทษ เพราะผมพูดไม่ดีกับลูก ลูกถึงได้ทิ้งเราไป”
มธุรสปลอบใจให้สู้แต่เจริญรุ่งแย้งว่าจะสู้ไปทำไม มันสายเกินไปตนเป็นพ่อที่ไม่ดี ไม่มีวันจะให้อภัยตัวเองตลอดชีวิต น้ำตาเจริญรุ่งพรั่งพรูอย่างรู้สึกผิด มธุรสกอดปลอบ
“ถ้าคุณถอดใจแบบนี้แล้วใครจะตามหาดลล่ะคะ คุณโตบอกว่าเรายังมีความหวัง ทุกคนกำลังพยายามตามหาดลอยู่ คุณต้องรักษาสุขภาพนะ”
กิจจาเดินเข้ามาเห็นสภาพลูกก็สงสาร แต่เจริญรุ่งหันมาเห็นพ่อกลับลุกพรวดเดินหนีด้วยความโกรธ กิจจาถอนใจบอกมธุรสให้ตามเข้าไปคุยในห้องทำงาน
เมื่อมธุรสเข้ามา กิจจาก็บอกให้เธอพาเจริญรุ่งไปเที่ยวพักผ่อนเมืองนอก ถ้าอยู่บ้านก็มีแต่จะคิดถึงธราดล ตนเกรงจะตายตามลูกไปอีกคน มธุรสซาบซึ้งน้ำใจกิจจาแต่ขอปฏิเสธและบอกว่าจะต้องทำให้เจริญรุ่งอยู่รับความจริงที่นี่ให้ได้ กิจจาหน้าเศร้ากล่าวขอโทษถ้าตนไม่ไล่หลานออกจากบ้านก็คงไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น มธุรสอึ้งจับมือกิจจาให้กำลังใจว่าไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้
ooooooo
เที่ยงวันนั้น พิมพ์พรรณเอาเอกสารโครงการที่เมฆพัดดูแลทั้งหมดมาให้ศตายุ พร้อมบัญชีชื่อร้านที่สั่งซื้อวัสดุก่อสร้างย้อนหลัง ระหว่างนั้นลูกน้องพิมพ์พรรณวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานว่า โครงการของชัชชัย อาคารทรุดลงมาทับคนงานบาดเจ็บ ศตายุตกใจมาก
พอวิศวกรมารายงานกลับโดนเมฆพัดโวยวายโทษพวกเขาทำงานไม่ดี วิศวกรชี้แจง
“ผมบอกคุณเมฆแล้วไงครับว่าของที่คุณเมฆให้ใช้มันไม่ได้มาตรฐาน เหล็กไม่ตรงตามสเปก มันเลยรับน้ำหนักอาคารไม่ไหว”
เมฆพัดหงุดหงิดสั่งให้จัดการปิดปากคนงานอย่าให้เรื่องนี้ถึงหูใครเด็ดขาด แต่วิศวกรบอกว่าครอบครัวคนงานไม่ยอมจะเรียกร้องค่าเสียหาย เมฆพัดไล่ให้เอาเงินไปปิดปากพวกนั้นไม่ทันไร งามยิ่งเข้ามาต่อว่าเมฆพัด ไหนบอกว่าไม่มีปัญหา นี่คนงานเกือบตายหลายคน
เมฆพัดลืมตัวตะคอกกลับ “หยุดพูดซะทีเถอะ แค่นี้ผมก็เครียดจะแย่อยู่แล้ว”
เห็นงามยิ่งอึ้ง เมฆพัดรู้สึกตัวรีบขอโทษแล้วบอกว่าตนกำลังคิดหาทางแก้ไขอยู่ พลันเลขาเข้ามาบอกว่าศตายุเรียกประชุมด่วน
บรรยากาศห้องประชุมเคร่งเครียด เมฆพัดพยายามแก้ตัวว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ศตายุย้อนถามไม่ได้เกิดจากความตั้งใจใช้ของคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานเพราะหวังผลกำไรหรือ เมฆพัดอึ้ง งามยิ่งสงสารน้องช่วยแก้ตัวว่าคนงานสะเพร่าเอง เมฆพัดเสริมจะจัดการหาสาเหตุให้ ศตายุตัดบทตนจะจัดการเรื่องนี้เองแล้วสั่งตั้งกรรมการสอบสวนทันที และให้คนไปจัดการดูแลคนงานที่เจ็บ สั่งพิมพ์พรรณนัดนักข่าวมาแถลงข่าวและนัดลูกค้าให้ด้วย แถมกำชับทุกคน
“เหตุการณ์ครั้งนี้ผมขอให้เป็นบทเรียนกับทุกคนว่าโครงสร้างฐานของอาคารสำคัญแค่ไหน เราต้องทำให้มันแข็งแรงมั่นคงที่สุด ถ้าเรามักง่ายไม่ใส่ใจ สุดท้ายตึกก็จะพังมาทับตัวเราเองแบบนี้แหละ” ศตายุเหล่มองเมฆพัดที่ดูท่าจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร
ทุกคนพูดถึงเหตุการณ์นี้ บุรีนึกได้รีบมาบอกศตายุว่า ตนเห็นเอกสารการสั่งซื้อของจากบริษัทที่เมฆพัดฮั้วกัน เห็นว่ามันไม่ตรงกับบัญชีการสั่งซื้อ ศตายุยอมรับว่าสงสัยเช่นกัน กำลังตรวจสอบอยู่ แล้วย้อนถามเขาไม่ชอบหน้าตนแต่ทำไมเอาเรื่องนี้มาบอก บุรีตอบว่าแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออก ไม่อยากให้ลูกค้ามารับเคราะห์ ศตายุขอไม่ให้บอกเรื่องนี้กับเจมี่ แต่บุรีไม่เห็นด้วย เพราะคอนโดนั่นเป็นของพ่อเธอ คนที่เสียประโยชน์ที่สุดคือเธอ
ค่ำวันนั้น ลูกตาลดักรอถามข่าวคราวจากเมฆพัด เขามีท่าทางหงุดหงิดบอกให้เธอเอาเงินที่โอนเข้าบัญชีเธอมา จะใช้ปิดปากคนงานแต่เธอกลับบอกว่าเอาเงินไปลงเล่นหุ้นหมดแล้ว เขากำลังจะโวย กิจจาเดินเข้ามาเสียก่อน ทั้งสองทำทีคุยกันเรื่องข่าว กิจจามองอย่างสงสัยก่อนจะเรียกเมฆพัดไปคุยลำพัง...กิจจาต่อว่าเมฆพัดที่ทำงานพลาดใหญ่หลวง
“ฉันไม่น่าให้โอกาสแกเลยจริงๆ สุดท้ายแกก็ทำพลาดแล้วต้องให้โตมาตามแก้งานให้แกอยู่ดี แกมันเป็นตัวซวยตั้งแต่เกิดจริงๆเลย”
เมฆพัดน้อยใจเก็บอาการไว้ด้วยความแค้นใจ
ooooooo
เช้าวันใหม่ ศตายุตัดสินใจให้เจมี่รับรู้เรื่องราวโดยนัดมาคุยกันที่ร้านลามูนพร้อมพบูและบุรี เจมี่ตกใจมากที่หลงเชื่อใจเมฆพัด จึงบอกทุกคนว่าตนจะเป็นคนขโมย หลักฐานบัญชีมาให้เอง เพราะตนทำงานใกล้ชิดกับเขา ระหว่างนั้นบุรีเห็นสายตาหวานฉ่ำต่อกันของศตายุและพบู
เที่ยงวันนั้น เจมี่ทำเป็นเคลียร์งานให้เมฆพัดออกไปทานกลางวันก่อน พอเขาออกไปเจมี่ก็รีบค้นหาเอกสาร แต่เมฆพัดย้อนกลับมา เจมี่ชะงักแถไปว่าหาเอกสารเตรียมเข้าประชุมบ่ายนี้ เมฆพัดไม่คิดอะไรหยิบแฟ้มส่งให้
ด้านธราดลเห็นข่าวตึกถล่มก็เป็นห่วงศตายุมาก
เก็ทต้องปลอบใจว่าศตายุจัดการได้ แล้วดึงให้มาสนใจทำแนวข้อสอบที่หามาให้ ธราดลเริ่มรู้สึกว่ามีความสุขที่อยู่ใกล้ชิดเก็ท
แทบทั้งวันที่ศตายุกับพบูตระเวนเยี่ยมคนงานที่บาดเจ็บ แล้วขอร้องให้มาเป็นพยานเอาผิดเมฆพัด แต่ดูท่าทุกคนจะหวาดกลัว...ทั้งสองกลับมานั่งอ่อนใจที่ร้าน บุรีหมั่นไส้คอยกันท่าไม่ให้พบูกับศตายุหวานใส่กัน เจมี่เข้ามาบอกว่าไม่มีโอกาสค้นหลักฐานทั้งที่รู้ว่าเอกสารอยู่ไหนศตายุจึงวางแผนให้เจมี่หลอกล่อเมฆพัดออกไปจากห้องทำงาน ตนจะดึงตัวเลขาหน้าห้องไปที่อื่น แล้วบุรีเข้าไปค้นเอกสาร
วันต่อมา ทุกคนทำตามแผนที่วางไว้ เจมี่ชวนเมฆพัดออกไปทานอาหารข้างนอก เขาคิดว่าเธอคงอยากอู้งานจึงยอมตามใจ...ศตายุเรียกเลขาเมฆพัดไปอธิบายข้อมูลเอกสาร เปิดโอกาสให้บุรีเข้าไปค้นเอกสารตามที่เจมี่บอกไว้ เวลาผ่านไปบุรีก็ยังหาเอกสารไม่เจอ เมฆพัดบอกเจมี่ว่ามีนัดคุยงานลูกค้าต้องกลับห้องทำงาน เจมี่หมดวิธีที่จะรั้งเขาไว้แล้ว จึงรีบโทร.บอกบุรีแต่เขาดันปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ เมฆพัดจึงเข้ามาเจอบุรี
บุรีตกใจแถไปว่ามาเอาของที่เจมี่ พอเธอเดินเข้ามา เขาก็ถามหาหนังสือ เจมี่รับมุกบอกเมฆพัดว่าตนให้บุรีมาหยิบของเองแล้วทำทีบ่น “แค่นี้ก็หาไม่เจอ จะรีบเอาทำไมก็ไม่รู้”
บุรีรับหนังสือจากเจมี่แล้วหันไปขอโทษเมฆพัดก่อนจะเดินออกไป เมฆพัดไม่อยากเชื่อแต่ทำแกล้งโง่บอกเจมี่ว่าจะไปหาศตายุที่ห้อง เจมี่ขอไปด้วย แอบทำหน้าเสียดายที่แผนไม่สำเร็จ
บ่ายวันนั้น ทุกคนมารวมกันที่ร้านลามูน ต่างเสียดายโอกาส ไม่ทันไรพบูถือถุงใบใหญ่เข้ามาตั้งตรงหน้า ทุกคนแปลกใจมันคืออะไร พบูบอกว่านี่คือแผนสำรอง ตนแอบเข้าไปในห้องเมฆพัดอีกครั้ง แล้วดึงเอกสารทั้งหมดออกจากแฟ้มใส่ถุง เซฟไฟล์ทั้งหมดในเครื่องมาด้วยแถมโกยเศษกระดาษในเครื่องทำลายเอกสารมาอีก พบูเล่าว่าได้โทร.ถามพ่อว่าพ่อชอบเก็บเอกสารสำคัญที่ไหน พ่อบอกว่าใต้ลิ้นชัก จึงลองเอามือคลำดูแล้วก็เจอซองเอกสารติดเทปอยู่จริง
ทั้งศตายุและบุรีอึ้งไม่คิดว่าพบูจะกล้าทำขนาดนี้ พบูบอกจะทำให้ยากทำไมในเมื่อเราไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว เจมี่ถามไม่กลัวเมฆพัดจะรู้หรือ
“รู้ก็รู้ไปสิ แต่ถ้าเราเจอเอกสารมันก็คุ้มไม่ใช่เหรอ ยังไงคุณเมฆพัดก็ต้องรู้อยู่ดี”
ทุกคนช่วยกันดูเอกสาร ศตายุเจอเอกสารสั่งซื้อที่ไม่เคยผ่านตามาก่อน บุรีตรวจไฟล์ที่พบูดาวน์โหลดมาพบบัญชีตัวเลขที่แท้จริงทำให้รู้ว่าเมฆพัดโกงบริษัทจริง ระหว่างนั้นพิมพ์พรรณตามมารายงานว่า คนงานยอมเป็นพยานให้ทางเราแล้ว พบูจึงให้แจ้งตำรวจเลย แต่ศตายุกลับนิ่งเฉย ขอไปคุยกับเมฆพัดก่อน ตนอยากให้เขากลับตัวกลับใจเพราะอย่างไรเขาก็เป็นอาแท้ๆ พบูเซ็งที่ศตายุใจอ่อน ด้วยความที่รักศตายุเจมี่เคารพการตัดสินใจของเขา
“ขอบคุณนะ ส่วนเรื่องโครงการคุณพ่อเจมี่ พี่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ท่านเอง”
พบูเซ็งมากโทร.ไปเล่าให้เก็ทฟัง เก็ทคิดว่าศตายุรักคนในครอบครัว พบูหวั่นใจเมฆพัดจะย้อนมาทำร้ายเขา เพราะไม่เคยคิดว่าเขาเป็นคนในครอบครัว...
ooooooo
เย็นวันนั้น ศตายุนัดพบเมฆพัดที่สวนสาธารณะ เพื่อบอกว่าตนรู้เรื่องที่เขาเป็นชู้กับลูกตาลและโกงเงินบริษัทแล้ว ตนมีหลักฐานพร้อมแต่จะไม่เอาเรื่องแลกกับการให้ธราดลกลับมา
“ธราดลก็จะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ขอแค่อาเมฆหยุดเรื่องผิดๆที่อากำลังทำอยู่ทั้งหมดแล้วก็ไล่ลูกตาลออกจากบ้านเราซะ ไม่อย่างนั้นผมจะเอาหลักฐานที่มีแจ้งความเอาเรื่องอาให้ถึงที่สุด”
เมฆพัดโกรธหาว่าขู่ ถ้ามีหลักฐานทำไมไม่แจ้งตำรวจ ไปเลย ศตายุพูดจากใจจริงว่าเพราะเขาเป็นคนในครอบครัวและตนก็ไม่อยากให้กิจจาเสียใจอีก ขอให้เขาหยุด แต่ในใจเมฆพัดมีแต่ความอิจฉาครอบงำ กลับมาบอกลูกตาลให้ย้ายออกไปอยู่บ้านแม่ก่อน ลูกตาลเคืองที่เขายอมแพ้
เมื่อธราดลรู้ว่าจะได้กลับบ้าน ก็ลุกขึ้นทำอาหารให้เก็ทกินเป็นการขอบคุณที่ดูแลตนมาตลอด ธราดลขอกอดลา เก็ทอึ้งเล็กน้อยก่อนจะสวมกอดด้วยหัวใจผูกพันมากกว่าการเป็นพี่ชาย
หลังจากนั้น ธราดลก็ได้กลับเข้าบ้าน มธุรสกับเจริญรุ่งดีใจสวมกอดลูกน้ำตานองหน้า เจริญรุ่งขอโทษที่พูดไม่ดีกับลูก ธราดลเองก็ร้องไห้ด้วยความดีใจ ลูกตาลแสร้งยิ้มตามน้ำไปด้วย กล่าวว่ากิจจาก็เป็นห่วงเขามาก ธราดลเหล่มองลูกตาลก่อนจะหันไปขอโทษกิจจาที่ทำให้เป็นห่วง มธุรสเอ่ยถามว่าลูกหายไปอยู่ไหนมา
“ก่อนหน้านี้ผมคิดฆ่าตัวตายจริงๆครับ แต่มีคนมาช่วยผมได้ทัน ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเลยยังไม่ได้ติดต่อใคร”
ศตายุชิงตัดบทบอกให้ธราดลไปพักผ่อน เมฆพัดทำทียินดีด้วยที่หลานยังมีชีวิตอยู่ ศตายุเสนอให้ไปฉลองที่ร้านลามูนเพราะกำลังมีโปรโมชั่นวันครอบครัว ทุกคนยิ้มแย้มยกเว้นเมฆพัด
เที่ยงนั้น พบูยืนมองลูกค้าในร้านที่มาเป็นครอบครัวด้วยความปลื้มปริ่ม บูรณาเข้ามาเอ่ย “ครอบครัวเราก็ ไม่ค่อยได้ออกมากินข้าวนอกบ้านแบบนี้เลยนะคะ จะมากินทีไรระเบิดลงทุกที”
พบูจึงบอกวันไหนว่างให้ชวนพ่อกับการเกดมา ระหว่างนั้นเก็ทเดินเข้ามา สองสาวดีใจ เก็ทบอกว่าธราดลกลับเข้าบ้านแล้ว และกิจจากำลังจะพาครอบครัวมาฉลองที่นี่ให้จองโต๊ะไว้ พบูตื่นเต้นจะสั่งปิดร้านต้อนรับเลยทีเดียว
บ่ายแก่ครอบครัวศตายุมาพร้อมหน้ารวมทั้งเมฆพัดและลูกตาล เจริญรุ่งบอกธราดลว่าต่อไปจะให้เวลาแก่ลูก จะเข้าบ่อนให้น้อยลง กิจจาแซวสัญญาแล้วก็ทำให้ได้ ธราดลเหล่เมฆพัด
“ที่ผมรอดได้ต้องขอบคุณพี่โตครับ เขาเป็นคนช่วยผมไว้ ผมเลยรอดจากภูตผีปีศาจมาได้”
เมฆพัดกับลูกตาลสบตากันนิ่งๆ มธุรสขอบคุณศตายุที่เป็นธุระทุกอย่าง พบูแทรกเข้ามาวางเมนูและนำเสนออาหารขึ้นชื่อ ศตายุชวนให้พบูร่วมโต๊ะด้วยกัน ทั้งสองส่งยิ้มหวานฉ่ำ
“พรุ่งนี้วันเกิดโตแล้วนี่ เรามาจัดงานเลี้ยงที่นี่กันดีไหม” กิจจาเกริ่นให้พบูได้ยิน
ธราดลเห็นด้วยแต่ศตายุกลับไม่อยากจัดงาน...พบูได้ข้อมูลรีบมาปรึกษาเก็ทว่าจะทำอะไรให้ศตายุดี เก็ทแนะนำให้เคลียร์กับบุรีให้เรียบร้อยก็เป็นของขวัญดีที่สุดแล้ว พบูหน้าเศร้าลงไม่รู้จะพูดกับบุรีอย่างไรดี เก็ทให้พูดเลยเป็นการปิดจ๊อบดับฝันบุรีเสีย
“ใจร้าย...ฉันผิดเอง ฉันมันเลวจริงๆ”
“เออจริง แกเลว ใจร้าย ใจดำมาก ถ้าพูดให้ใครฟังเขาก็ต้องด่าแกสถานเดียว ผิดเต็มๆ”
พบูหน้าเสีย เก็ทโอบไหล่บอกตนเป็นเพื่อนเข้าใจดี ว่าที่เธอโลเลเพราะอยากได้คนที่ดีที่สุด พบูคิดว่าตอนนั้นตนแค่หวั่นไหวไม่รู้ใจตัวเอง ตนจะทำอย่างไรไม่ให้บุรีเสียใจ เก็ทแนะนำ
“บุรีเขาเจ็บไม่นานหรอก เดี๋ยวเขาก็ทำใจได้ ตอนฉันชอบบุรีแล้วต้องตัดใจเพราะเขาชอบแก ฉันยังทำใจได้เลย” พบูฟังแล้วถอนใจเฮือก
หลังการฉลอง ศตายุมาคุยกับกิจจาลำพังว่าได้เคลียร์ข่าวเรียบร้อยแต่ชัชชัยยังไม่พอใจ กิจจาให้พักเรื่องงานไว้บ้าง ศตายุย้อนว่าปู่เองก็นอนไม่หลับเพราะเสียใจเรื่องธราดลมาหลายวัน กิจจายิ้มภูมิใจที่หลานรู้ทัน แต่บอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะมีลูกตาลคอยดูแล ศตายุชะงักหยั่งเชิงถามว่าเขาจะจริงจังกับลูกตาลหรือ กิจจาส่ายหน้าไม่รู้ แล้วถามมีอะไรหรือเปล่า
ศตายุรีบบอกว่าไม่มี กิจจาเปลี่ยนเรื่องมาคุยว่าจะยกบ้านริมน้ำให้เป็นของขวัญวันเกิด เพราะจำได้ว่าเขาชอบบ้านหลังนั้นมาก เมฆพัดแอบฟังยิ่งเคียดแค้นอิจฉาศตายุมากแล้วเดินหนี ไม่ทันได้ยินศตายุบอกกิจจาว่าตนไม่อยากได้ ไม่อยากให้พ่อและอาๆรู้สึกว่าปู่รักตนมากกว่าพวกเขา กิจจาแย้งว่าพวกนั้นได้ไปมากแล้ว สีหน้าศตายุนิ่ง กิจจาจึงเปลี่ยนเรื่องคุย ถามถึงพบู
“ปู่รู้สึกได้ว่าพบูเริ่มรู้สึกดีกับโตแล้วนะ แอบไปทำคะแนนตอนไหน” เห็นหลานเขินอาย กิจจาแนะนำให้ชวนพบูไปฉลองวันเกิดพรุ่งนี้ ศตายุครุ่นคิดตาม
ooooooo










