สุภาพบุรุษชาวดิน
สุดาวรรณแค้นมากเมื่อรู้ว่าสรวิชญ์จะโอนหุ้นคืนให้วาดกับวศิน จนอ้นต้องบอกให้แม่ใจเย็นๆ
“ถ้าคุณพ่อไม่บอกว่าจะเอาไอ้วศินเข้าร่วมในบอร์ดผู้ถือหุ้นบริษัทแม่ก็ไม่ต้องเปิดเผยเรื่องลายเซ็นนังวาดนี่แล้ว...แม่ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับของเรา รอจนกว่าพ่อเขาตาย ทุกอย่างก็จะเป็นของเรา”
“แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงดีล่ะครับคุณแม่ อ้นไม่อยากให้ไอ้วศินได้อะไรสักอย่างของเราไปเลย”
“แม่ก็ไม่ยอม” และเพียงครู่เดียว สุดาวรรณก็ยิ้มร้ายบอกว่า “แม่รู้แล้วว่าเราจะทำยังไง”
แล้วเย็นนี้เอง ขณะที่วศินกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่นั้น สุดาวรรณเดินไปที่เรือนเล็กด้วยสีหน้าแววตาเกลียดชัง แต่พอเจอวศินก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มอ่อนโยนทันที
วศินไหว้แล้วถามอย่างแปลกใจว่ามีธุระอะไรกับตนหรือเปล่า ก็ทำเป็นห่วงใยว่ามาดูว่าอยู่สบายดีหรือเปล่า ทักว่าเรื่องทำความสะอาดบ้านให้เด็กมาทำให้ก็ได้ วศินบอกว่าตนชอบทำอะไรด้วยตัวเอง
หลังจากแสดงความห่วงใยแล้วก็ชมว่าวาดเลี้ยงลูกมาดีแล้วเริ่มเล่นละคร บอกว่าตนรู้สึกผิดกับวาดตลอดมา ตอนแรกคิดว่าวาดมาแย่งสามี แต่จริงๆแล้วเป็นความบกพร่องของตัวเอง ถ้าตอนนั้นตนมีลูกได้ คุณแม่ก็คงไม่ยกวาดให้เป็นภรรยาของคุณสรวิชญ์อีกคน
สุดาวรรณตีหน้าเศร้าว่าตนมารู้ว่าตัวเองท้องก็ต่อเมื่อคุณแม่ยกวาดให้คุณสรวิชญ์แล้ว วศินถามว่าหมายความว่าคุณสรวิชญ์ไม่ได้รักแม่หรือ??
“อย่าโทษคุณพ่อเธอเลย เขาเองก็มีความจำเป็น ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง แต่คนที่เสียสละและทำเพื่อทุกคนก็คือวาด วาดทำเพื่อทุกคนแม้กระทั่งตาย”
สุดาวรรณค่อยๆเล่าถึงวาดในแง่ดีเพื่อให้วศินตั้งใจฟังแล้วจึงค่อยนำไปสู่การตายของวาด
วศินถามว่าที่แม่ทำเพื่อทุกคนแม้กระทั่งตายหมายความว่ายังไง สุดาวรรณก็ตอบเลี่ยงไปว่าตนอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ วันที่วาดตายนั้นเป็นวันที่คุณสรวิชญ์ไปหาวาด ความจริงเขาตั้งใจจะไปทวงให้วาดเซ็นคืนหุ้นและมรดกที่คุณแม่ยกให้วาดกับตัวเขา พูดเป็นนัยว่า
“ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันรุนแรงหรือเปล่า ถึงทำให้วาดที่ป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว...ตาย!”
วศินแทบล้มทั้งยืน ถามว่าคุณสรวิชญ์ไปหาแม่เพราะเรื่องนี้หรือ พอสุดาวรรณพยักหน้าวศินก็จะออกไป แต่ถูกสุดาวรรณจับแขนไว้บอกว่า พอรู้ว่าวาดตาย คุณสรวิชญ์ก็เสียใจมาก พูดเหมือนแก้ต่างให้สรวิชญ์ว่า เขาไม่คาดคิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้วาดตาย วอนขอว่า
“เธออย่าโกรธหรือโทษพ่อเธอเลยนะ ถ้าบริษัทไม่เกิดปัญหาเขาก็ไม่ถูกบีบให้ทำแบบนั้นหรอก”
วศินนิ่งไปกับการแก้ต่างให้สรวิชญ์ของสุดาวรรณ เมื่อเข้าไปในห้องพระเขาถามเถ้ากระดูกแม่ที่ตั้งอยู่หน้ารูปว่า “จริงหรือเปล่าครับแม่ พ่อเขาไม่เคยรักแม่เลยเหรอ??”
แต่เมื่อนึกถึงที่แตนเล่าวันที่สรวิชญ์มาหาวาดที่บ้านว่า “แตนว่าน้าวาดดูจะยังรักพ่อพี่อยู่นะ” และ “ตอนนั้นพ่อพี่ดูเหมือนกับมาขอร้องน้าวาดด้วยซ้ำ เขาไม่น่าพูดอะไรที่ทำให้น้าวาดเสียใจหรอก”
คิดทบทวนข้อมูลที่ฟังจากสุดาวรรณและแตนแล้ว วศินบอกกับตัวเองว่า
“ผมต้องรู้ให้ได้ว่าวันนั้นเขาพูดอะไรกับแม่... แล้วเขาคือต้นเหตุที่ทำให้แม่ตายจริงหรือ”
ขณะนั้นเอง เสียงรถของสรวิชญ์เข้าบ้านมา วศินลุกเดินออกไปทั้งโกรธทั้งเสียใจ สุดาวรรณแอบดูอยู่ยิ้มสะใจที่เป่าหูให้วศินโกรธสรวิชญ์ได้ งึมงัมว่า “ลูกเธอ...มันก็โง่เหมือนเธอนั่นแหละ...นังวาด”
ooooooo
สรวิชญ์เข้าบ้านไม่เห็นใคร ถามถวิลว่าคนหายไปไหนกันหมด ถวิลว่าน่าจะอยู่บนห้องตนจะไปตามให้
“เรียกวศินมากินข้าวที่ตึกใหญ่ด้วยนะพี่ถวิล ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา” สั่งถวิลแล้วไปนั่งพัก คิดถึงเรื่องราวที่เรียกทนายมาสั่งงานและทนายเตือนอย่างไม่สบายใจว่า
“ท่านครับ...ถ้าคืนหุ้นกลับไปเป็นชื่อคุณวศิน จะไม่มีปัญหากับท่านใช่ไหมครับ” สรวิชญ์ถามว่าเรื่องอะไร “เอ่อ...ตอนนี้ท่านต้องรักษาอำนาจบริหารเอาไว้ หุ้นพวกนั้นก็จำเป็นกับท่านนะครับ”
“วศินเขาก็ลูกชายของผม เขาไม่หักหลังผมหรอก”
“ขอโทษนะครับท่าน แต่...คุณวศินเป็นลูกที่ไม่ได้อยู่กับท่านมาก่อน เราไม่รู้ว่าจริงๆเขาจะมีนิสัยยังไง ผมเป็นห่วงว่า...”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมมีวิธีคุยกับเขา” สรวิชญ์ ตัดบทอย่างมั่นใจ ทนายจึงจำต้องรับคำสั่ง
ขณะสรวิชญ์นั่งอยู่ตามลำพัง เขาพึมพำกับตัวเองอย่างสบายใจว่า “ฉันเชื่อว่าเธอเลี้ยงลูกมาดี... วาด” ก็พอดีวศินพรวดเข้ามา ยังไม่ทันถามอะไร สรวิชญ์ก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า
“ฉันมีเรื่องจะบอก ความจริงแล้วเธอมีมรดกของคุณย่าที่เคยให้ไว้เป็นหุ้นของบริษัทแล้วก็เงิน...แต่ตอนนี้มันเป็นชื่อฉันอยู่ ฉันกำลังจะ...”
สรวิชญ์พูดสบายๆแต่เห็นวศินจ้องเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อก็หยุด ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า วศินไม่สนใจเรื่องที่สรวิชญ์พูด แต่ถามว่า “ที่แม่ตายก็เพราะไอ้หุ้นโรงแรมบ้าๆของคุณนี่ใช่ไหม”
“เธอไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน” สรวิชญ์อึ้ง แปลกใจ วศินไม่ตอบคำถาม แต่ย้ำถามเรื่องของตนว่า
“ผมถามว่าแม่ตายเพราะคุณใช่ไหม”
“ไม่ใช่!!”
บันเทิงไทยรัฐ

เปิดละครสะท้อนสังคม 8 เรื่อง 8 รส สอดแทรกบทเรียนชีวิต คุ้มครองสิทธิเพื่อคนพิการฯ 18 ส.ค. 2565
04:30 น.