ตอนที่ 2
ตอนที่ 2 วิถีชีวิตของนักเรียนอัจฉริยะไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบาย
"ลู่โจว ตื่น!"
หลังจากที่โดนเขย่าไหล่อย่างรุนแรงอีกครั้ง ในที่สุดลู่โจวค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาเห็นสีหน้าอ้วนๆ ของอู๋ต้าไห่
"เชี่ย! ในที่สุดนายก็ตื่น!" อู๋ต้าไห่กล่าวพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะปล่อยมือจากไหล่ลู่โจว จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาเป็นเชิงขอโทษ "หวังว่าคงจะไม่คิดมากนะ ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนการพักผ่อนของนาย ฉันเห็นว่านายกำลังกรนอยู่ ฉันเลยคิดว่านายคงไม่เป็นไรแล้ว"
ลู่โจวมองกำแพงสีขาวด้านข้างทั้งหมดพร้อมก้มมองผ้าปูที่นอนที่คลุมเตียงโรงพยาบาลเอาไว้ "นี่ฉันอยู่ที่ไหน?"
"นายจำไม่ได้เหรอ? นายเป็นลมแดดอยู่ที่หน้าศูนย์ไชน่ายูนิคอม" อู๋ต้าไห่กล่าวขณะนั่งลงบนเก้าอี้ เขาถอนหายใจและตบขาอ้วนๆ ของตนก่อนจะกล่าวว่า "อ่า... ฉันบอกนายแล้วว่าอย่าดื้อแต่นายไม่ฟัง! เราแค่ทำงานพาร์ทไทม์เท่านั้น เราไม่ใช่มืออาชีพ จะฝืนตัวเองไปทำไม? ดูนายสิ นายกำลังทำงานหนักเพื่อแลกกับสุขภาพที่แย่ลง มันคุ้มเหรอ!?"
ลู่โจวยิ้มอย่างไม่เต็มใจ "หมอบอกว่าไงบ้าง?"
"ไม่มีอะไรมาก นายแค่ขาดน้ำ" อู๋ต้าไห่กล่าว จากนั้นก็บุ้ยปากไปทางโต๊ะข้างเตียง "ฉันเทน้ำใส่แก้วให้แล้ว อย่าลืมดื่มน้ำซะล่ะ"
ลู่โจวกระแอมแล้วกล่าวอย่างจริงใจ "ขอบคุณ"
"ไม่ต้องขอบคุณหรอก นายถือเป็นนักศึกษารุ่นน้อง ในฐานะรุ่นพี่ การดูแลนายเป็นหน้าที่ฉัน" อู๋ต้าไห่กล่าว จากนั้นเขาก็โบกมือแล้วกล่าวเสริม "นายควรพักผ่อนให้ดี รอนายหายดีเมื่อไหร่ค่อยกลับมหาลัย ฉันโอนค่าจ้างให้นายแล้ว นายเช็กด้วยนะว่าได้หรือยัง นอกจากนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารักษา มันไม่มากเท่าไหร่ ฉันจัดการเรียบร้อย"
"ฉันจะรับไว้ได้อย่างไร..."
"เอาน่า ไม่ต้องมาซาบซึ้ง ฉันหางานนี้ให้นาย เมื่อเกิดอะไรขึ้นมันก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของฉัน" อู๋ต้าไห่กล่าว ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ "ช่างเรื่องนั้นก่อน นายควรพักผ่อนสักสองสามวัน อย่ารีบกลับไปทำงาน"
ลู่โจวอยากพูดอะไรสักอย่าง แต่เขานึกคำพูดไม่ออก สุดท้ายเขาแค่พยักหน้าแล้วกล่าวขอบคุณ
อู๋ต้าไห่โบกมือบอกกลายๆ ว่า 'ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ' แล้วก็จากไป
ลู่โจวนอนอยู่บนเตียงแล้วถอนหายใจใส่เพดาน
"ดูเหมือนฉันต้องหางานพาร์ทไทม์ใหม่..."
เพราะปัญหาใหญ่เช่นนี้ บางทีอู๋ต้าไห่อาจไม่อยากให้เขากลับไปทำอีกแล้ว... ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์นี้มันช่างน่าผิดหวัง เขาสร้างปัญหาให้คนอื่น เขาคงไม่อาจขอความช่วยเหลืออะไรเพิ่มได้อีก
เขานอนพลิกไปพลิกมาแล้วนึกถึงความฝันที่พึ่งฝันไป เขาหลับตาแล้วพูดเสียงเบา "ระบบ"
ไม่มีการตอบสนอง
"ระบบไฮเทค"
ไม่มีการตอบสนองเหมือนเคย
แก้มของลู่โจวเป็นสีแดงเล็กน้อย
ให้ตายเถอะ!
สุดท้ายมันก็เป็นแค่ฝัน...
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาลืมตา เขาก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น
สภาพแวดล้อมรอบตัวถูกปกคลุมด้วยสีขาวบริสุทธิ์ มีหน้าจอโฮโลแกรมกึ่งโปร่งใสพร้อมกับแผงคุณสมบัติที่เต็มไปด้วยเลขศูนย์ ทุกอย่างมันรู้สึกเหมือนจริงมาก
ลู่โจวประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกำหมัดแน่นอย่างมีความสุข
ฮ่าๆ !
นี่เป็นเรื่องจริง! มันไม่ใช่ความฝัน!
ทันใดนั้นก็มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏบนแผงคุณสมบัติกึ่งโปร่งใส
[โฮสต์ โปรดเลือกภารกิจ]
ลู่โจวพยายามเก็บอาการตื่นเต้นแล้วเดินก้าวไปที่หน้าจอและสัมผัสกับไอคอน[ภารกิจ]
ทันใดนั้นหน้าต่างช่องแชทกึ่งโปร่งใสก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า
ภารกิจที่หนึ่ง : เสริมสร้างสมรรถภาพทางร่างกาย
คำอธิบาย : ก่อนอื่น ถ้าหากท่านอยากเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ท่านจำเป็นต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ท่านต้องวิ่งไวกว่านักข่าว ต่อสู้กับซอมบี้ และทำงาน เจ็ดสิบสองชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง การฝึกฝนร่างกายไม่ได้สำเร็จได้ง่าย โฮสต์ โปรดเริ่มต้นเดี๋ยวนี้
สิ่งที่ต้องทำ : วิ่งจ๊อกกิ้งกิโลในหนึ่งชั่วโมง นึกถึงภารกิจเพื่อเริ่มจับเวลา สามารถทำซ้ำได้หากล้มเหลว
รางวัล : ยี่สิบแต้มประสบการณ์อิสระ ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ มันคือขยะ หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
ภารกิจที่สอง : พัฒนาความสัมพันธ์
คำอธิบาย : ถ้าหากท่านอยากทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่การเลี้ยงอาหารค่ำให้ผู้อื่น ท่านต้องเรียนรู้การบริหารจัดการความสัมพันธ์
สิ่งที่ต้องทำ : พัฒนาความสัมพันธ์กับศาสตราจารย์หลู่ฟ่างผิง หัวหน้าภาควิชาคณิตศาสตร์ของมหาลัยจินหลิง คะแนนความสัมพันธ์ขั้นต่ำ สามสิบคะแนนความสัมพันธ์ของภารกิจจะปรากฏหลังเริ่มภารกิจ
รางวัล : หนึ่งร้อยแต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ สี่ร้อยแต้มทั่วไป ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ ขยะ เก้าสิบเจ็บเปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเทคโนโลยีขั้นสูง สามเปอร์เซ็นต์
ภารกิจที่สาม : วิถีชีวิตของอัจฉริยะไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบาย
สิ่งที่ต้องทำ : เรียนที่ห้องสมุดเป็นเวลา ยี่สิบสี่ชั่วโมง นึกถึงภารกิจเพื่อเริ่ม
รางวัล : แต้มประสบการณ์ที่ได้รับของแต่ละวิชาจะขึ้นอยู่กับประเภทหนังสือที่อ่านและคะแนนคุณค่าของหนังสือ หนึ่งร้อยแต้มทั่วไป ตั๋วเสี่ยงโชคหนึ่งใบ ขยะ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเทคโนโลยีขั้นสูง เก้าเปอร์เซ็นต์ พิมพ์เขียว หนึ่งเปอร์เซ็นต์
ระบบนี้จริงใจไม่เบา มันให้เห็นแม้กระทั่งเปอร์เซ็นต์สุ่มของ
แต่ภารกิจวิ่งนี่มันบ้าอะไรเนี่ย? ได้ขยะ หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์?! แม่งโคตรหลอกลวง!
นอกจากนี้พัฒนาความสัมพันธ์กับศาสตราจารย์อะไรกัน? พาเขาไปเลี้ยงอาหารค่ำ? มอบของขวัญให้? ไม่ว่าจะวิธีไหน มันก็จะทำให้เสียเงินจำนวนมาก
มีเพียงภารกิจสุดท้ายเท่านั้นที่ดูปกติหน่อย แม้ว่ามันจะไม่ได้บอกว่าจะให้แต้มประสบการณ์มากเท่าไหร่ แต่โอกาสการได้ขยะมีน้อยที่สุด! ถ้ามองจากมุมเกมออนไลน์ ภารกิจนี้ควรเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดใช่ไหม?
ไม่ต้องพูดถึงการเรียนในห้องสมุดยี่สิบสี่ชั่วโมงดูเหมือนจะทำสำเร็จได้ค่อนข้างง่าย
หลังจากพิจารณาทุกอย่าง ลู่โจวก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาเลือกภารกิจที่สามทันที!
วิถีชีวิตของนักเรียนอัจฉริยะไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบาย!
[ท่านไม่สามารถเปลี่ยนแปลงภารกิจได้หลังจากการเลือก ภารกิจไม่มีเวลาจำกัด ถ้าหากท่านยกเลิกภารกิจ ท่านจะถูกลงโทษโดยการหักแต้มทั่วไปสองร้อยแต้ม ปัจจุบันโฮสต์มีแต้มทั่วไปเท่ากับ ศูนย์ท่านยืนยันการเลือกหรือไม่? แจ้งเตือนครั้งแรก]
ลู่โจวกล่าวโดยไม่ลังเล "ยืนยัน!"
[การเลือกภารกิจได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขอให้ท่านโชคดี!]
มีแสงสีขาวกระพริบว้าบ ในส่วนของแผงคุณสมบัติ (แสดงสถานะของภารกิจ) ได้เปลี่ยนจาก 'ไม่มี' กลายเป็น 'ภารกิจที่สาม'
ลู่โจวหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้า เขาเอ่ยเสียงเบาว่า ‘ออกจากระบบ’ เมื่อเขาลืมตาอีกครั้ง เขาก็รู้ตัวทันทีว่าได้กลับมาอยู่ในห้องโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
เขานอนอยู่บนเตียงชั่วครู่และใช้เวลาสองสามนาทีในการย่อยข้อมูลในสมอง
เขาไม่รู้ว่าทำไม ทว่าดูเหมือนเขาจะกลายเป็นผู้ใช้ระบบไฮเทคไปแล้ว
เขาคิดย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่อู๋ต้าไห่ปลุก มิติของระบบควรอยู่ลึกลงไปในจิตใต้สำนึก มันเป็นอิสระจากโลกแห่งความจริง นอกจากนี้เวลาในมิติของระบบกับโลกภายนอกน่าจะไหลไปพร้อมกัน
กล่าวตามตรง ลู่โจวไม่ได้รู้สึกเลยว่าระบบมีตัวตนอยู่จริง
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้มันก็ไม่สำคัญ
มันอาจเป็นอุบายของมนุษย์ต่างดาว มุกตลกของวันเมษาคนโง่ หรืออาจจะแค่มีอะไรผิดปกติกับสมอง แต่เขายอมรับภารกิจไปแล้ว ดังนั้นรอจนกว่าเขาจะทำภารกิจสำเร็จ เดี๋ยวเขาก็รู้เอง
ลู่โจวหยิบแก้วน้ำจากโต๊ะข้างเตียงแล้วยกดื่มจนหมดแก้ว จากนั้นเขาก็ลุกออกจากเตียง
หลังจากพยาบาลวัดอุณหภูมิแล้วยืนยันว่าเขาไม่เป็นไรแล้ว เขาก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วเดินไปป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุกเพื่อกลับมหาวิทยาลัย
เมื่อเขากลับมาถึงหอพัก เขาเห็นหลิวรุ่ยอยู่คนเดียวที่อยู่ในห้อง เพื่อนร่วมหออีกสองคนต้องไปร้านอินเทอร์เน็ตแน่เลย
หลิวรุ่ยเห็นว่าลู่โจวกลับมาแล้ว เขาจึงวางหนังสือลงแล้วดันกรอบแว่นตาพร้อมเอ่ยปากถามว่า "ลู่โจว ฉันได้ยินว่านายเป็นลมแดดงั้นเหรอ?"
"ใช่...แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก" ลู่โจวฝืนยิ้ม จากนั้นเขาก็เดินไปที่เตียง
สำหรับหอพักสี่คนแบบนี้ ด้านบนจะเป็นเตียง ส่วนด้านล่างจะเป็นโต๊ะทำงานกับตู้เก็บของ ลู่โจวเก็บบัตรทุกอย่างไว้ในลิ้นชักตู้
หลังจากค้นหาในลิ้นชักสักแปป ในที่สุดลู่โจวก็พบบัตรห้องสมุด จากนั้นเขาก็เดินออกจากหอพักพร้อมกับสะพายกระเป๋า
ลมหนาวยามค่ำคืนพัดผ่านต้นหวู่ถงจนเกิดเสียงซอกแซกไปมา
ท้องถนนส่องสว่างไปด้วยแสงไฟ มีนักศึกษาและบรรดาครูกำลังเดินผ่านไปมาพร้อมตำราเรียนบนมือ บนสนามกีฬาบางคนก็กำลังจับมือถือแขนกัน บางคนก็กำลังวิ่งไปพร้อมกับคู่รัก ดูเหมือนกับว่ามหาลัยนี้จะมีชีวิตชีวาและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอยู่เสมอ
ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้ว ลู่โจวมองไปยังห้องสมุดที่มีแสงไฟส่องสว่างแล้วรู้สึกถึงความไม่คุ้นเคยและความคิดถึง
นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้มาห้องสมุด?
เขาสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องสมุดด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น