icon member

ระบบปั้นอัจฉริยะ

ตอนที่ 1

ตอนที่ 1 ช็อก! เป็นงานรายได้หกหลักจริงๆ

ปี 2014 ณ เมืองจินหลิงประเทศจีน

ดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุในเดือนมิถุนายนแผดเผาผืนแผ่นดินปานว่ามันพยายามระเหยน้ำทุกหยาดหยดไปจากถนนยางมะตอย

ลู่โจวฟังเสียงแตรรถที่กำลังดังก้องอยู่ข้างหู มองผู้คนที่กำลังเดินพลุกพล่านอยู่กลางถนน เขากำลังยืนจ้องมองตรงไปตามท้องถนนอยู่หน้าศูนย์ไชน่ายูนิคอม แม้ว่าอากาศเย็นๆ จะพัดผ่านแผ่นหลังเป็นครั้งคราว แต่ชุดคอสตูมหนาๆ ที่เขาสวมอยู่ทำให้เขาสัมผัสความหรูหราฟุ่มเฟือยของเครื่องปรับอากาศได้ยากเย็นยิ่ง

บางคนอาจถามว่า ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?

แน่นอนมันก็เพื่อเอาชีวิตรอด...

เอาล่ะ มาอธิบายกันหน่อย

ไชน่ายูนิคอมร่วมมือกับโทรศัพท์วีโว่โปรโมทธุรกิจในช่วงวันหยุดฤดูร้อน พนักงานได้รับค่าจ้างหกสิบหยวนต่อชั่วโมงโดยการยืนสวมชุดคอสตูมอยู่นอกประตู และเขาจะได้รับเงินเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าหากยืนแจกใบปลิว โดยไม่ต้องพูดถึงการที่เขาไม่ต้องทุกข์ทรมานกับสายตาที่ผู้คนหันมอง เนื่องจากอุณหภูมิด้านนอกสูงกว่าสามสิบองศา เขาจะได้รับเงินเพิ่มอีกชั่วโมงละ สิบหยวน รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน เจ็ดสิบหยวนต่อชั่วโมง

หลังจากลู่โจวได้ยินเรื่องเงินเดือน เขาก็รับงานมาโดยไม่ลังเล

วิเคราะห์กันอย่างมีเหตุผล ถ้าปกติเขาทำงานวันละห้าชั่วโมง นั่นจะเท่ากับ สามร้อยห้าสิบหยวนต่อวัน ถ้าเขาทำงานสามสิบวันต่อเดือน นั่นจะเป็นเงินถึง หนึ่งหมื่นห้าร้อยหยวน

ใครจะคาดคิดล่ะว่าตำแหน่งงานที่มีรายได้หกหลักจะอยู่ที่ทางเข้าตึกไชน่ายูนิคอม?

แน่นอนลู่โจวรู้ว่าแม้แต่บริษัทหัวเหว่ยที่ร่ำรวยและทรงอำนาจก็คงจะไม่จ่ายค่าโปรโมทโฆษณาทุกวัน ซึ่งไม่ต้องพูดถึงบริษัทอย่างวีโว่

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะทำงานแค่หนึ่งสัปดาห์ เขาก็ยังได้รับเงินถึง สองพันหกร้อยหยวน

ขณะที่ลู่โจวรู้สึกเบื่อหน่ายจนนั่งนับจำนวนใบไม้บนต้นหวู่ถง ชายอ้วนผิวคล้ำที่กำลังปาดเหงื่อด้านหน้าก็เดินเข้ามาหาเขา

ชายอ้วนคนนี้ชื่ออู๋ต้าไห่ เขาก็เหมือนกับลู่โจวที่เรียนเอกคณิตศาสตร์ในมหาลัยจินหลิง อย่างไรก็ตามอู๋ต้าไห่แก่กว่าสองปี เขาเรียนอยู่ปีสามและกำลังขึ้นปีสี่ในอีกไม่กี่เดือน เขาเป็นผู้จัดการของบรรดานักศึกษาที่ทำงานพาร์ทไทม์ และก็เป็นเขานี่เองที่แนะนำลู่โจวให้ทำงานสวมชุดคอสตูมนี้

"ลู่โจว นายโอเคไหม? ให้เราหาคนมาแทนนายไหม? นายไปพักข้างในสักหน่อยเถอะ" อู๋ต้าไห่กล่าว ร่างกายของเขาไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความร้อนที่น่าสะพรึงเช่นนี้ ทั้งร่างกายของเขากำลังเปียกโชกเต็มไปด้วยเหงื่อราวกับคนที่เพิ่งขึ้นมาจากน้ำ

แม้ว่าเขาจะอยากไปพัก แต่ลู่โจวก็ส่ายหน้า "ฉันไม่เป็นไร ฉันยังทนได้อีกสักหน่อย"

"นายไม่เป็นไรจริงเหรอ? นายยืนอยู่ที่นี่มาทั้งบ่ายแล้วนะ" อู๋ต้าไห่กล่าวด้วยสีหน้าเป็นห่วง

เขากลัวว่าหมอนี่จะเป็นฮีทสโตรก

"ฉันไม่เป็นไรจริงๆ นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" ลู่โจวกล่าว จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าอย่างหนักแน่นแล้วกล่าวเสริม "ฉันทำงานจะครบชั่วโมงแล้ว ยืนมาตั้งนานแล้ว ทำไมจะอยู่อีกชั่วโมงไม่ได้ล่ะ นายไม่คิดงั้นเหรอ?"

อู๋ต้าไห่มองดูลู่โจวแล้วกล่าวอย่างลังเล "ก็ได้ๆ งั้นฉันไม่ห่วงนายแล้ว"

"อืม... ไปทำงานของนายเถอะ"

เมื่ออู๋ต้าไห่เห็นว่าลู่โจวหนักแน่นแค่ไหน เขาก็ไม่เซ้าซี้อีก

อันที่จริงอู๋ต้าไห่รู้สึกโชคดีด้วยซ้ำ

เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาคนที่เต็มใจมาทำงานท่ามกลางอากาศร้อนเช่นนี้ มีคนทำงานพาร์ทไทม์ค่อนข้างมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ขยันเหมือนลู่โจว ไม่งั้นมันอาจทำให้อู๋ต้าไห่เป็นคนสวมชุดคอสตูมยืนกลางแดดร้อนจ้าด้วยตนเอง

หลังจากชายอ้วนเดินจากไป ลู่โจวก็หันหลังกลับมองต้นหวู่ถงที่อยู่ด้านนอกศูนย์ไชน่ายูนิคอม

ทันใดนั้นเองลู่โจวก็รู้สึกว่าวิสัยทัศน์เบื้องหน้าดูแปลกไป

ทำไมผู้คนบนท้องถนน... กำลังบินขึ้นท้องฟ้า?

ขาของเขารู้สึกอ่อนแรง ร่างกายกำลังทิ้งตัวลงกับพื้น

ด้วยสติที่ยังหลงเหลืออยู่น้อยนิด เขาได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาหาอย่างเร่งรีบ อีกทั้งยังมีเสียงตะโกนดังมาจากศูนย์ไชน่ายูนิคอม

"มาสคอตที่หน้าประตูเป็นลมแดดแล้ว!"

"รีบถอดหมวกแล้วเอาน้ำให้เขาดื่มเร็ว!"

"บ้าเอ้ย! ลู่โจว! โปรดบอกฉันทีว่านายไม่เป็นไร!"

"ไม่มีการตอบสนอง… แย่แล้ว รีบส่งเขาไปโรงพยาบาล!"

"พาขึ้นรถฉัน!"

"..."

แสงสุดท้ายได้จางหายไปจากสายตา... เขาได้เข้าสู่ความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด...

.....

ลู่โจวเป็นนักศึกษาเอกคณิตศาสตร์ปีหนึ่งในมหาลัยจินหลิงและกำลังจะขึ้นปีสองในอีกไม่กี่เดือน ตอนแรกเขาสมัครเข้าเรียนวิศวกรรมซอฟต์แวร์ แต่เขามีคะแนนสอบไม่ถึง สุดท้ายเขาจึงต้องยอมเข้าเรียนสาขาที่ไม่เป็นที่นิยมอย่างคณิตศาสตร์

บางครั้งลู่โจวก็อดถามตัวเองไม่ได้ เขาเรียนเอกวิชาที่น่ากลัวเป็นเวลาถึงสี่ปีเพื่ออะไร?

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีคำตอบ...

การเรียนเอกวิชาคณิตศาสตร์มีอยู่สองเส้นทางมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อหรือการเปลี่ยนไปเรียนวิชาเอกอื่น

อันที่จริงเราสามารถทำงานให้กับมหาวิทยาลัยเช่นกัน แต่เขายังเป็นนักศึกษาปริญญาตรีอยู่ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับเลือกให้ทำงานในมหาวิทยาลัย... นอกจากว่าจะใกล้ชิดกับอาจารย์มากจนได้รับการไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม... แม้ว่าเราจะมีงานทำ
ทว่างานเหล่านั้นก็เป็นแค่งานเบ็ดเตล็ดเท่านั้น สู้เขาไปเรียนต่อปริญญาโทแทนยังจะดีเสียกว่า

อย่างไรก็ตาม... สำหรับลู่โจวแล้วการเรียนจบสูงกว่าปริญญาโทนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย

ครอบครัวของลู่โจวอาศัยอยู่ในเจียงหนิง(หรือกังเหลง) แม้ว่าชื่อเมืองจะฟังดูคล้ายกับจินหลิง แต่ระยะทางมันอยู่ห่างกันหลายพันลี้ พ่อชนชั้นกลางของเขาทำงานอยู่ที่โรงงานแปรรูปโลหะในเจียงหนิง ส่วนแม่ของเขาป่วยและเกษียณอยู่บ้านเท่านั้น แถมเธอยังจำเป็นต้องใช้เงินดูแลสุขภาพค่อนข้างมาก

ทั้งครอบครัวของเขาพึ่งพารายได้จากพ่อเพียงคนเดียว นอกจากนี้เขามีน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นมัธยม และคงจะต้องใช้เงินอีกจำนวนมากเมื่อน้องสาวขึ้นมหาลัย

เจตนาของพ่อคือการไม่ให้ลู่โจวต้องมากังวลเรื่องเงิน ท่านต้องการให้ลู่โจวศึกษาต่อจนจบปริญญาเอก

ซึ่งลู่โจวรู้ตัวเองดีว่ามันเป็นไปไม่ได้

เนื่องจากเขาได้ใช้ชีวิตในสังคมไปครึ่งชีวิตแล้ว ดังนั้นเขาจำเป็นต้องพิจารณาปัญหาอื่นที่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่านี้

ถ้าจะให้เจาะจงมากกว่านั้นก็คือ เขาจำเป็นต้องพิจารณาปัญหาเรื่องเงิน

เขาไม่อยากเป็นภาระให้ครอบครัวหรือเป็นตัวฉุดแข้งฉุดขาอนาคตของน้องสาว ดังนั้นนับตั้งแต่ที่เข้ามหาลัย เขาอยากเป็นอิสระทางการเงิน ในขณะที่คนอื่นๆ ออกไปฉลองร้องคาราโอเกะที่สถานบันเทิงหรือกำลังเรียนอย่างหนักที่ห้องสมุด ทว่าเขาเลือกที่จะทำงานพิเศษคือแจกใบปลิว ติดตั้งเร้าเตอร์และส่งอาหาร

บางครั้งเขาก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่าเรียนมหาลัยไปทำไม? งานที่เขาทำนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะความชำนาญอะไรเลย แม้แต่นักเรียนมัธยมก็ทำได้ บางทีนักเรียนมัธยมอาจทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่เป็นลมแดดง่ายๆ จากการยืนนอกห้องแอร์ไม่กี่ชั่วโมง

นี่มันก็เหมือนกับคำถามที่ว่าเรียนจบเอกคณิตศาสตร์แล้วมีอาชีพหลักคืออะไร? ซึ่งตัวเขาเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้เช่นกัน

ขณะนี้เขาล้มลงแล้ว...

เมื่อเขาได้สติ... ลู่โจวตกตะลึงเมื่อเห็นว่าตนเองอยู่ท่ามกลางหมอกสีขาวที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

ที่นี่...คือที่ไหน?

ไม่มีใครตอบ...

ด้วยความจำที่คลุมเครือ เขาจำได้ว่าตนเองเป็นลมแดดอยู่ที่ศูนย์ไชน่ายูนิคอม และก็มีใครบางคนพาเขาขึ้นรถส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้ดูไม่เหมือนโรงพยาบาลเลยสักนิด มันดูไม่เหมือนโลกแห่งความจริงด้วยซ้ำ

ในขณะที่ลู่โจวเริ่มรู้สึกเป็นกังวลกับสถานการณ์ในตอนนี้ จู่ๆ หน้าจอกึ่งโปร่งใสก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เขารู้สึกกลัวมากจนกระโดดถอยไปด้านหลัง

ระบบ...ไฮเทค? มันคืออะไรเนี่ย?!

ลู่โจวช็อกมากเมื่อเห็นตัวหนังสือสีดำที่ค่อยๆปรากฏบนหน้าจอกึ่งโปร่งใส จากนั้นเขาก็รู้สึกตื่นเต้นทันที

เป็นไปได้ไหมว่า... ฉันถูกเลือกโดยระบบในตำนาน?

เขาเคยอ่านนิยายออนไลน์ทำนองนี้

ลู่โจวกลืนน้ำลายดังอึก เขาถาม... "ระบบ...นายทำอะไรได้บ้าง?"

แม้ว่าจะไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเลย ทว่าหน้าจอโฮโลแกรมกึ่งโปร่งแสงก็ปรากฏข้อความขึ้นมา

ระบบไฮเทค : ...

ระบบนี้มีไว้เพื่อพัฒนาระดับการศึกษาของผู้ใช้ ถ้าต้องการรู้วิธีการใช้ของระบบ โปรดค้นหาด้วยตัวเอง สำหรับความสามารถของระบบ ระบบจะมอบคำอธิบายและรายละเอียดให้แก่ผู้ใช้

อินเตอร์เฟสหลักของระบบมีดังนี้ :

แก่นของวิทยาศาสตร์ ()

A คณิตศาสตร์: พื้นฐานของวิชาทั้งมวล มันจะเป็นตัวกำหนดขีดจำกัดของวิชาวิทยาศาสตร์แขนงอื่น

B ฟิสิกส์: ช่วยให้คุณเข้าใจเอกภพ

C ชีววิทยา: ช่วยให้คุณเข้าใจตนเอง

D วิศวกรรม: ปรับแต่งเครื่องมือ ปรับแต่งสภาพแวดล้อมและปรับแต่งโลก

E วัสดุศาสตร์: วัสดุและวิศวกรรมไม่สามารถแยกออกจากกันได้

F วิทยาการพลังงาน: จากเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ไปสู่ฮีเลี่ยม3 จากแบตเตอรี่ลิเธียมสู่แบตเตอรี่ปฏิสสาร จากการส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายสู่การส่งผ่านข้อมูลระยะไกลโพ้นผ่านพลังงานเลเซอร์ ล่อเลี้ยงชีวิตทั้งมวลโดยใช้เอนโทรปี พัฒนาแหล่งพลังงานของทะเลแห่งหมู่ดาวที่อยู่ไกลโพ้น...

G วิทยาการสารสนเทศ: พันธุศาสตร์คือรหัสของพระเจ้า แต่ทว่าเป้าหมายสูงสุดของรหัสคือการสร้างพระเจ้า

สาขาเทคโนโลยี : สาขานี้เป็นสิ่งที่แยกย่อยออกมาจากผังต้นไม้เทคโนโลยี หลังจากปลดล็อกสาขาเทคโนโลยีแล้ว ค่าประสบการณ์ที่จำเป็นต้องใช้เลื่อนระดับ ซึ่งหนึ่งแต้มประสบการณ์สามารถแลกแต้มทั่วไปได้หนึ่งแต้ม

ยกตัวอย่าง : พันธุศาสตร์ระดับ 1 จำเป็นต้องใช้ชีววิทยาระดับ 1 แต่คุณสามารถปลดล็อกพันธุศาสตร์ระดับ 1 ด้วยการใช้แต้มทั่วไปหนึ่งร้อยแต้ม

พันธุศาสตร์ระดับ 2 วิศวกรรมระดับ 1 และหนึ่งพันแต้มประสบการณ์ คุณถึงจะสามารถเลื่อนระดับพันธุศาสตร์จากระดับหนึ่งไปสู่ระดับสอง

พิมพ์เขียวเทคโนโลยี : พอเห็นชื่อก็จะทราบความหมายแฝง มันคือพิมพ์เขียวเทคโนโลยีที่เข้าใจได้ง่าย ซึ่งจะมีโปรเจ็คขนาดเล็กอย่างนาโนชิป ไปจนถึงโปรเจ็คขนาดยักษ์อย่างกลุ่มทรงกรมไดสัน

ถ้าหากท่านเติมเต็มความต้องการการผลิตได้ ท่านจะสามารถทำตามขั้นตอนของพิมพ์เขียวเพื่อผลิตได้สำเร็จ

แต้มทั่วไป : สามารถนำมาใช้เพื่อเปิดใช้งานรางวัลภารกิจ หรือใช้สองร้อยแต้มเพื่อสุ่มภารกิจใหม่ขึ้นมา สามารถนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาที่แก้ได้ยากของเทคโนโลยี 

ภารกิจ : สุ่มสามภารกิจทุกครั้ง ท่านสามารถเลือกทำภารกิจหนึ่งในนั้น เมื่อทำภารกิจสำเร็จ ท่านจะได้รับรางวัลที่เหมาะสม หลังจากทำภารกิจสำเร็จ หน้าภารกิจจะถูกรีเซ็ตทันที

ลู่โจวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาต้องทำหน้ายังไง เขาคิดว่าคณิตศาสตร์มันไม่มีประโยชน์ แต่ระบบบอกว่าคณิตศาสตร์เป็นบิดาของสาขาวิชาทั้งมวล รสชาติของปลาเค็มพลิกตัวทำให้เขาพูดไม่ออก

ลู่โจวกำลังจะพบกับบางสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งขึ้น

หลังจากคำแนะนำหายไป แผงคุณสมบัติก็ปรากฏขึ้นมาทันที

ระบบไฮเทค :

โฮสต์ : ลู่โจว

วิทยาศาสตร์แขนงหลัก :

A คณิตศาสตร์ : ระดับ 0 (0/1000)

B ฟิสิกส์ : ระดับ 0 (0/1000)

C ชีววิทยา : ระดับ 0 (0/1000)

D วิศวกรรม : ระดับ 0 (0/1000)

E วัสดุศาสตร์ : ระดับ 0 (0/1000)

F วิทยาการพลังงาน : ระดับ 0 (0/1000)

G วิทยาการสารสนเทศ : ระดับ 0 (0/1000)

แต้มทั่วไป : 0

ภารกิจ : ไม่มี

"แม้ว่าฉันจะไม่ใช่นักเรียนดีเด่น แต่ฉันก็ยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด เลขศูนย์ทั้งแถบแบบนี้มันดูถูกกันไปหน่อยไหม!?"

ลู่โจวไม่รู้ว่าเขาจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีหลังจากเขาเห็นเลขศูนย์ทั้งแถบ

ระบบนี้ต้องมีอะไรผิดพลาด!

ในขณะที่ลู่โจวกำลังคิดเรื่องนี้… ไหล่ของเขาก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรง จู่ๆ จิตสำนึกของเขาก็ได้ถูกดึงออกไปจากมิติสีขาวบริสุทธิ์นี้ทันที!

ระบบปั้นอัจฉริยะ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด