สมาชิก

รักนี้เจ้จัดให้

ตอนที่ 11

หลายวันก่อน ขณะณัฐไปทานอาหารกับอิงอรที่ร้านอาหารหรู จู่ๆเขาก็วางช้อนกึง ทำหน้าเครียด อิงอรถามว่าเป็นอะไร เขาตีหน้าเศร้าบอกว่ากลุ้มใจ จะวันเกิดคุณแม่อยู่แล้วยังไม่มีของขวัญให้เลย

อิงอรถามว่าคุณแม่เขาชอบอะไร? “ก็...เห็นชอบอยู่อย่างเดียวน่ะค่ะ กระเป๋าแอร์เมส!” อิงอรบอกว่าเดี๋ยวตนจัดการให้ ณัฐทำเป็นเกรงใจ เธอยิ้มหวานบอกว่า

“ไม่เป็นไรค่ะ นะคะพี่ณัฐ คิดซะว่าเป็นของขวัญจากว่าที่ลูกสะใภ้...นะคะ...คุณแม่ชอบกระเป๋าสีอะไรคะ” ณัฐตอบทันทีว่าสีชมพู “แล้วคุณแม่อยากได้รุ่นไหนคะ”

ณัฐหยิบมือถือขึ้นอย่างเร็วเตรียมเปิดเว็บแอร์เมสบอกว่าเดี๋ยวเข้าเว็บให้

วันนี้ณัฐก็ได้รับกระเป๋าแอร์เมสสีชมพูขณะอยู่ในห้องนอนกับอิงอร เขาหอมแก้มขอบคุณกระซิบว่า

“อรน่ารักที่สุดเลย...อรน่ารักแบบนี้ พี่ต้องขอบคุณอรให้ ‘เต็มที่’ แล้วสินะ”

เพียงบ่ายวันรุ่งขึ้น ลูกจันก็ได้รับกระเป๋าแอร์เมสสีชมพูที่ณัฐส่งไปให้ถึงเซเลบ ลูกจันชมหน้านิ่งๆว่าสวยดี

“กว่าจะได้สีนี้ ไซส์นี้ พี่ก็วิ่งหาจนเหนื่อยเลยค่ะ...แต่เพื่อลูกจัน เหนื่อยแค่ไหน ลำบากยังไง พี่ก็เต็มใจค่ะ”

ลูกจันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาณัฐ ยิ้มหวานจนน่ากลัว ขณะบอกเขาว่า

“งั้นก็เตรียมตัวดีๆนะคะ คุณคงต้องทั้งเหนื่อย ทั้งลำบากอีกเยอะ...เชียวล่ะ!!”

ooooooo

เพราะเป็น บก. เซเลบที่ทั้งสวย เก่งและกล้าวิมาดาจึงไว้วางใจเป็นพิเศษ สายวันนี้วิมาดาเรียกลูกจันเข้าไปพบที่ห้องทำงาน มอบแผ่นซีดีให้ อธิบายและกำชับว่า

“นี่เป็นแผนการตลาดของเซเลบและหนังสืออื่นๆ ในเครือสำหรับการขายโฆษณาไตรมาสหน้า ฉันให้เธอเอาไปศึกษาดูก่อน เผื่อเธอมีไอเดียอะไรเพิ่มเติม แล้วฝากเอาไปแจกจ่าย บก.หนังสือเล่มอื่นๆด้วย...อาทิตย์หน้าจะได้ประชุมกัน”

ลูกจันรับแผ่นซีดีและรับคำ วิมาดาย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

“ระวังให้ดีนะ ห้ามข้อมูลหลุดเด็ดขาด!!”

ลูกจันเอาแผ่นซีดีมาให้อุ่นเรือน บอกว่าวันนี้ตนมีธุระต้องรีบกลับ พรุ่งนี้ค่อยปริ๊นต์ออกมาให้ตนอ่านก็ได้แล้วฝากส่งให้ บก. เล่มอื่นๆด้วย อุ่นเรือนรับคำและรับแผ่นซีดีไปด้วยสีหน้ามุ่งมั่นจะรักษาข้อมูลไว้ยิ่งกว่าชีวิตทีเดียว

ลูกจันยังไม่ทันกลับก็ได้รับโทรศัพท์จากณัฐ เธอบอกเขาว่ายังไม่ได้ใช้กระเป๋า เพราะจะเก็บไว้ในโอกาสพิเศษ ณัฐทำเป็นพูดอย่างโล่งใจว่า คิดว่าเธอไม่ชอบเสียอีก

“ชอบสิคะ นี่เป็นของขวัญชิ้นที่ฉันชอบที่สุดเลยล่ะ”

บ่ายวันเดียวกัน อิงอรไปที่ห้องทำงานของณัฐที่ไลม์ เขากุมมือเธอมองตาพูดหวาน...

“คุณแม่พี่บอกว่า เป็นของขวัญชิ้นที่คุณแม่ชอบที่สุดเลย...ขอบคุณนะคะอร...” อิงอรฟังแล้วยิ้มปลื้มสุดๆ

ooooooo

ขณะอุ่นเรือนกำลังเตรียมจะปริ๊นต์ข้อความจากแผ่นซีดีนั่นเอง ก็ได้รับโทรศัพท์จากกอล์ฟ เธอยิ้มปีติทักเสียงหวาน

“สวัสดีค่ะ...กำลังจะปริ๊นต์เอกสารให้พี่ลูกจัน

ค่ะ...งานด่วนค่ะ...เพราะต้องใช้ประชุมบริษัทอาทิตย์หน้า... ไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นเอกสารลับ อุ่นต้องปริ๊นต์เองค่ะ...

เดี๋ยวข้อมูลหลุด...จะไปต่างจังหวัดพรุ่งนี้...เอ่อ...งั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวอุ่นเอาไปปริ๊นต์ที่บ้านคืนนี้ก็ได้ค่ะ... ค่ะ...เจอกันค่ะ”

อุ่นเรือนปิดเครื่อง เอาแผ่นซีดีออกจากเครื่องใส่กระเป๋าเอกสารแล้วเดินตัวปลิวออกไปอย่างมีความสุข...

ไปเจอกอล์ฟที่ร้านอาหาร เขาหลอกให้เธอไปล้างมือแล้วขโมยซีดีในกระเป๋าเอกสารของเธอไป พออุ่นเรือนกลับมาที่โต๊ะ ปรากฏว่ากอล์ฟหายไปพร้อมกับขโมยแผ่นซีดีไปด้วย อุ่นเรือนแทบจะคลั่ง คิดปลอบใจตัวเองว่าคงไปธุระอะไรแป๊บเดียวเดี๋ยวคงมา เธอนั่งรออยู่จนร้านปิดจึงกลับไป

เพียงเช้าวันรุ่งขึ้น บอสวิมาดาก็เรียกประชุม บก. นิตยสารในเครือ ซึ่งเป็นหญิงล้วน ในมือวิมาดาถือเอกสารการตลาดบริษัทของสาโรจน์ ถามด้วยสีหน้าเครียดจัดว่า

“แผนการตลาดเหมือนของเราทุกอย่าง แต่เสนอลูกค้าก่อนเรา แถมตัดราคาเราอีก 15 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีวันที่บริษัทนายสาโรจน์จะใจตรงกับเราคิดแผนการตลาดได้เหมือนกันขนาดนี้ บอกฉันหน่อยซิ เอกสารลับระดับที่รู้กันเฉพาะ บก.มันหลุดไปถึงมือคู่แข่งได้ยังไง!”

ทุกคนมองหน้ากันไปมาแต่ไม่มีใครตอบใครได้ วิมาดาถามลูกจันว่ามีคำตอบให้ตนไหม เธอนิ่ง เครียด

มินตราแววตาเจ้าเล่ห์มีแผนขึ้นมาทันที

อุ่นเรือนไม่กล้ามาเผชิญปัญหา โทร.มาลางานกับฝ่ายบุคคล 3 วัน ลูกจันรับรู้ด้วยความเครียด

มินตรากับปีโป้เริ่มแผนการของตน กระหน่ำซ้ำเติมลูกจันด้วยการเอาสมุดบันทึกรักและภาพลูกจันประคองณัฐมาที่ห้องทำงานที่ปีโป้แอบถ่ายไว้ให้วิมาดาดูทีเด็ดกว่านั้นคือ กล่องแอร์เมสแนบการ์ดที่เขียนว่า

“ของขวัญเล็กๆน้อยๆค่ะ หวังว่าคงถูกใจนะคะจาก...ณัฐ”

ปีโป้ขยี้ซ้ำว่า “กระเป๋าราคาขนาดนั้นต้องทำ

ความดีอะไร ‘แลก’ มาก็ไม่รู้นะคะ ทางคุณณัฐถึงได้ส่งมาให้เป็นของขวัญ” ทำให้วิมาดาระแวงขึ้นมา

เช้าวันรุ่งขึ้นวิมาดาเรียกลูกจันไปตอบคำถามเกี่ยวกับหลักฐานทั้งหมดที่มินตรากับปีโป้เอามาฟ้องลูกจันเห็นหลักฐานก็รู้ว่าฝีมือใคร แต่บอกวิมาดาว่าตนไม่มีคำตอบ

“งั้นฉันจะให้เธอพักงานจนกว่าจะมีคำตอบ ระหว่างนี้จะให้มินตราขึ้นมาดูแลงานแทน”

“ค่ะ” ลูกจันน้ำตาคลอ ถือหลักฐานทั้งหมดออกจากห้องวิมาดาไป

เพียงสายๆ ณัฐก็โทร.คุยกับสาโรจน์อย่างลิงโลดว่า

“โดนสั่งพักงานก็ไม่ต่างกับโดนไล่ออก ผมว่าตอนนี้แหละครับเป็นโอกาสที่เราควรรีบไปช้อนลูกจันมาทำงานกับเราแทน...ไม่ต้องห่วงครับพี่สาโรจน์...ผมเตรียมวิธีจัดการกับลูกจันไว้เรียบร้อยแล้ว” ณัฐยิ้มอย่างมั่นใจในแผนการของตน

ooooooo

ตกเย็นณัฐทำเป็นตกใจกับข่าวลูกจันถูกสั่งพักงานขณะนั่งทานอาหารด้วยกัน แล้วชวนลูกจันมาทำกิจการของเราเองกัน พลางหยิบเอกสารข้อมูลหนังสือหัวใหม่ของสาโรจน์ให้ดู

“พี่จะลาออกจากไลม์ แล้วเรามาหุ้นกันทำหนังสือหัวใหม่เล่มนี้ด้วยกันดีไหม” ลูกจันมองด้วยสายตาว่างเปล่าถามว่าข้อมูลลับขนาดนี้เอามาให้ตนดูทำไม “เพราะพี่อยากทำให้ลูกจันเห็นในความจริงใจที่พี่มีต่อลูกจัน อยากให้ลูกจันเชื่อใจพี่ และพี่หวังว่าสักวันลูกจันจะกลับมาเรียกพี่ว่าพี่ณัฐแทนคำว่าคุณณัฐที่กำลังเรียกอยู่”

ณัฐกระหยิ่มในแผนการของตน จนถึงขั้นจะสลัดอิงอรทิ้ง เมื่ออิงอรโทร.มานัดไปทานข้าวกันก็บอกปัดว่างานยุ่งไม่ว่าง พอตัดสายจากอิงอรแล้วก็พึมพำอย่างมีแผนว่า

“เสียใจด้วยนะอร พี่คงต้องรีบเคลียร์ตัวเองเอาไว้ให้คนที่พร้อมกว่าอรแล้วล่ะค่ะ”

วิมาดาประกาศให้มินตราเป็น บก.เซเลบแทนลูกจัน ทันทีที่ได้นั่งโต๊ะ บก.มินตราก็วางเขื่อง ทำตัวข่มทุกคนแม้แต่กับปีโป้ที่เคยหัวหกก้นขวิดเล่นงานลูกจันมาด้วยกัน การทำงานก็ไร้สมองสั่งว่า ปกเซเลบเล่มใหม่ให้เอาของฉบับเดือนเดียวกันของปีที่แล้วมาปรับนิดปรับหน่อยก็ได้แล้ว วางมาดสั่งงานอย่างผู้บริหารว่า

“ถ่ายปกพรุ่งนี้ก็ช่วยๆ กันดูไปก่อนก็แล้วกัน ฉันต้องไปงานเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ คงไม่ว่างไปคุมงานนะ”

ทุกคนงงกับการทำงานของมินตรา แต่ไม่มีใครกล้าถาม เพราะพอสั่งงานเสร็จก็ไล่ทุกคนให้ไปทำงาน ตนจะได้ทำงานบ้าง แต่พอทุกคนแยกย้ายกันไป มินตราก็หยิบตลับแป้งมาเติมหน้าอย่างมีความสุข

ooooooo

เย็นนี้พอลบอกลูกจันว่าทางกองถ่ายโทร.มาเช็กคิวเดือนหน้า ลูกจันบอกว่าสมุดคิวอยู่ข้างเตียงให้ไปเปิดดูเลย

พอลไปหาสมุดคิว เจอกล่องอดีตรักของลูกจัน พอหยิบมาดูเจอสมุดบันทึกรัก พอลเสียใจมากเมื่อรู้ว่าลูกจันเคยรักกับณัฐและเมื่อทบทวนถึงการพูดคุยกัน พอลยิ่งเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าจนทุกวันนี้ลูกจันก็ยังตัดใจไม่ขาดจากณัฐ เขาพึมพำอึ้งๆ

“คุณณัฐกับลูกจัน...มิน่าล่ะ...คุณยังรักเขาอยู่สินะ...ลูกจัน...”

ตกค่ำพอลก็ยิ่งเจ็บปวดเมื่อลูกจันแต่งตัวสวยเป็นพิเศษบอกว่ามีนัด เป็นนัดที่ตนรอมาสิบกว่าปีแล้ว พอลฝืนใจอวยพรให้เธอมีความสุข

“ขอบใจนะพีท...ฉันมั่นใจว่า คืนนี้ฉันมีความสุขแน่” ลูกจันยิ้มสดใสโผกอด พอลยิ่งเจ็บปวดแต่ก็กอดตอบแมนๆ

ลูกจันไปทานข้าวกับณัฐนั่นเอง เขาพยายามชี้แจงถึงความสัมพันธ์กับอิงอรว่า

“คือ...ที่จริงพี่ก็ไม่อยากพูดนะคะ กลัวว่าผู้หญิงเขาจะเสียหาย แต่เพื่อไม่ให้ลูกจันเข้าใจผิด พี่คงต้องพูดความจริงเสียที” เห็นลูกจันตั้งใจฟัง ณัฐตีหน้าเศร้าเล่าว่า

“อรเขามีอาการป่วยทางจิตน่ะค่ะ คือถ้าเขาอยากได้อะไรแล้วไม่ได้เขาจะคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเอง แล้วบังเอิญว่าเขามาหลงรักพี่ แต่พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยสักนิดเดียว คุณพ่อคุณแม่อรเขาก็กลัวว่าอรจะเสียใจจนทำร้ายตัวเอง เลยมาขอร้องให้พี่แกล้งคบกับอร...พี่เห็นแก่หัวอกของคนเป็นพ่อแม่ก็เลยรับปากช่วยไป แต่ไม่เคยมีใจให้อรเลย เพราะหัวใจพี่เป็นของลูกจันคนเดียวมาตลอด”

ณัฐกุมมือลูกจันมองด้วยแววตาเว้าวอน ลูกจัน มองตาณัฐนิ่ง...ยิ้มเย็นๆ ไร้อารมณ์...

ooooooo

พอลรออย่างกระวนกระวายอยู่ที่บ้าน พอลูกจันกลับมาถามว่ารอตนหรือ เขาทำเฉไฉว่าเปล่าลงมากินน้ำเท่านั้น ทักว่าวันนี้เธออารมณ์ดีจัง

“ช่าย...คืนนี้ฉันมีความสุขที่สุดเลย... ฮ้าววววว... ง่วงแล้ว ไปนอนก่อนนะ กู๊ดไนต์เพื่อนรัก” โผไปหอมแก้มพอลฟอดใหญ่แล้วเดินเริงร่าขึ้นบันไดไป
ส่วนณัฐกลับไปอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องว่า “เฮอะ...ผู้หญิง...แค่นี้ก็เรียบร้อย ฮ่าๆๆๆ”

เช้าวันรุ่งขึ้น ลูกจันตื่นเพราะไลน์จากพอล หยิบโทรศัพท์ดู “ออกไปธุระ...คงกลับดึก ไม่ต้องรอกินข้าว...” แต่พอลูกจันโทร.กลับปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ เธอกระวนกระวายใจบ่นหงุดหงิด “ไปไหนเนี่ย??” ยิ่งเมื่อเดินลงมาที่ห้องรับแขก ไม่มีพอลก็รู้สึกโหวงเหวงว่างเปล่าเหงาแปลกๆ

ที่แท้พอลไปเดินที่สวนรถไฟที่เคยมากับลูกจัน คิดถึงเรื่องราวต่างๆ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด มีกันและกันเกือบตลอดเวลา ก็ยิ่งเศร้าเหงา กังวล หวั่นไหวกลัวว่า วันใดวันหนึ่งตนอาจจะไม่มีเธออยู่เคียงข้าง...

ooooooo

อาร์ตพยายามง้อจุ้มจิ้ม แต่สาวเจ้าก็ช่างใจแข็ง แม้เจอกันในลิฟต์ก็ยังทำเหมือนไม่รู้จักกัน พออาร์ต ทำท่าจะพูดด้วย จุ้มจิ้มก็กดเปิดประตูลิฟต์ออกไปเลย อาร์ตยืนคอตกบอกตัวเองว่ามันคงจบแล้วสินะ

ตกเย็นอาร์ตโทร.ชวนพอลไปกินเหล้ากัน พอลตอบตกลงทันทีเพราะตนก็กำลังเหงาพอดี ทั้งสองไปนั่งดื่มกันจนเมา ต่างระบายความอัดอั้นตันใจความรักที่ไม่สมหวังไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะฟังหรือไม่ฟัง แล้วต่างก็ฟุบหลับไปคาโต๊ะ

ลูกจันรอพอลอยู่ที่บ้านจนดึกโทร.ตามก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทีแรกก็หงุดหงิด แต่พอฉุกคิดว่าเขาจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า ก็เป็นห่วง จนต้องวิ่งขึ้นไปไหว้พระ...

“ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยปกป้องคุ้มครองพีทให้ปลอดภัยด้วยนะเจ้าคะ”

สายวันรุ่งขึ้น พอลกลับมาในสภาพโทรมมอมแมมไม่เหลือคราบพระเอกหล่อเลย ลูกจันเป็นห่วงมาทั้งคืนแต่พอเจอหน้าก็เหวี่ยงใส่ทันที

“หายไปไหนมายะ...ฉันรอแกทั้งคืนเลยรู้ไหม” พอลตอบโดยไม่มองหน้าว่าก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องรอ เลยถูกแว้ดใส่ “ไม่รอได้ยังไง แกหายไปไหนก็ไม่รู้ โทร.ไปก็ปิดเครื่อง ฉันเป็นห่วง กลัวแกเป็นอะไรนี่” ว่าแล้วก็น้ำตาหยดแหมะ

พอเห็นน้ำตาลูกจัน พอลก็ขอโทษรีบโอ๋อย่าร้องไห้ ตนกลับมาแล้ว ลูกจันเช็ดน้ำตาป้อยๆ พูดไปสะอื้นไป

“อย่าทำแบบนี้อีกนะ...ฮือๆ...แกก็รู้นี่ว่า แกเป็นเพื่อนที่ฉันรักที่สุด”

พอลกำลังโอ๋อยู่ดีๆ ชะงักกึกทันทีกับคำว่า “เพื่อน” มันบาดใจเพราะใจตัวเองคิดเกินกว่านั้น ทนไม่ไหว บ่ายๆเลยโทร.ไปถามพีทว่าเมื่อไหร่จะถอดเฝือก ตนอยากกลับไปเมืองนอกแล้ว พีทถามว่าไหนวันก่อนบอกว่าตัวเองไม่รีบไง?

“ก็ตอนนี้รีบแล้วนี่ เราอยากกลับเป็นตัวเองเร็วๆ” พอลทำเสียงเง้างอด พีทบอกว่าอาทิตย์หน้าหมอนัดผ่าเฝือกแล้ว อีกแป๊บเดียวเอง พอลวางโทรศัพท์ก็รำพึงเศร้าๆ สงสารตัวเอง “ผมทนเป็นแค่เพื่อนของคุณไม่ได้จริงๆลูกจัน!!”

ooooooo

วันนี้ขณะที่ณัฐกำลังนั่งทำงานอยู่นั้น จู่ๆก็มีกล่องแอร์เมสมาวางบนโต๊ะ พอเงยหน้ามอง ณัฐแทบปรับสีหน้าไม่ทัน เพราะคนที่เอากล่องแอร์เมสมาวางคืออิงอร

ณัฐนึกว่าอิงอรซื้อแอร์เมสมาให้อีก ทักว่าสีและรุ่นเดียวกับใบที่แล้วเลย

“ก็มันใบเดียวกันนี่คะ” อิงอรเสียงเย็นจนณัฐแปลกใจ แล้วก็กลายเป็นตกใจ เมื่ออิงอรบอกว่า “มีคนเขาฝากมาคืน...อันนี้ด้วย...” เธอเปิดถุงเทของในนั้นออกมา เป็นดอกไม้กับการ์ดที่ณัฐเพียรส่งไปให้ลูกจันทุกวัน ร่วงพรูออกมา ณัฐหน้าเสียพูดตะกุกตะกักว่าตนอธิบายได้...

“คือ...พี่สาโรจน์เขาอยากได้ลูกจันมาทำงานด้วย ถ้าพี่ชวนลูกจันมาได้ พี่สาโรจน์จะมีรางวัลให้พี่ พี่เลยต้องแกล้งทำดีกับลูกจันน่ะค่ะ”

แต่คำแก้ตัวของณัฐ ถูกอิงอรตบหน้าด้วยหลักฐานต่างๆมากมาย โดยเฉพาะคือเทปบันทึกเสียงคำแก้ตัวและตำหนิอย่างดูถูกอิงอรที่ถูกลูกจันอัดเสียงไว้ ณัฐถึงกับหน้าถอดสีแก้ตัวไม่ออก อิงอรโทรศัพท์เรียกบอดี้การ์ด 3 คนเข้ามาจับณัฐขึงให้ตนตบ “คุณนี่มันน่าขยะแขยงที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอเลย” เธอตบไปด่าไป

“อร...อรคะ...ฟังพี่ก่อน” ณัฐพยายามพูดทั้งที่เลือดกบปาก

เมย์ยืนตัวสั่นฟังเสียงอยู่หน้าห้อง ได้ยินเสียง ตุ้บตั้บณัฐก็ร้องอูยยยย... เสียงตื้บพลั่กๆ ณัฐก็ร้องโหยหวนโอ๊ยยยย

ตกค่ำณัฐมานั่งหน้าเยินที่บ้านพีท ลูกจันนั่งมองอย่างสมเพช กระนั้นณัฐก็ยังตีหน้าตายเล่นละครว่าตนพยายามต่อสู้ เพื่อรักษาชีวิตมาบอกให้ลูกจันรู้ว่าตนรักเธอคนเดียวจริงๆ
ลูกจันฟังแล้วบอกว่าเสียดายที่เขาเลือกงานผิด ถ้าเขาไปเอาดีทางการแสดงน่าจะรุ่งกว่ามาเป็น บก.หนังสือ พอณัฐทำหน้างง ลูกจันจึงเปิดเผยว่า คนที่เขาจ้างให้มาทำร้ายตนวันที่ซื้อกาแฟแล้วเดินไปขึ้นรถนั้น เป็นลูกของครอบครัวคนงานที่บ้านตนชื่อใบตาล

ใบตาลเล่าเรื่องที่ณัฐจ้างมาเล่นงานเธอ แต่เธอก็ให้ใบตาลทำตามแผนของณัฐและฉวยโอกาสเล่นงานณัฐด้วย งานนี้ณัฐที่ตัวทำเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยลูกจันโดนไป หลายดอก ณัฐเลยฉวยโอกาสหักค่าจ้างฐานทำให้ตนเจ็บ

พอรู้ความจริง ณัฐจ้องหน้าลูกจันอย่างเจ็บใจ ลูกจันรู้ตัวพุ่งไปหยิบมีดปอกผลไม้มาถือไว้ ไล่ให้เขาออกจากบ้านตนไปก่อนที่ตนจะแทงฐานบุกรุก ณัฐอาศัยความแข็งแรงและว่องไวกว่าจับมือลูกจันบิดจนมีดร่วง ณัฐพุ่งเข้าปล้ำกระชากเสื้อลูกจันขาด

ทันใดนั้นหมัดลึกลับก็ตะบันณัฐจนหน้าหงาย ณัฐมองขวับ เห็นพอลยืนกำหมัดแน่นอย่างพร้อมจะซ้ำ

“พีท??” ณัฐอุทาน ลูกจันวิ่งไปหาพอล เขาโอบเธอไว้อย่างปกป้อง จ้องณัฐราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ! เป็นภาพพระเอกที่เท่ยิ่งกว่าในละครเสียอีก ณัฐมองพอลงงๆ กับมาดแมนนั้นเพราะคิดว่าพอลคือพีท

ooooooo

เช้านี้พิธีกรหญิงอ่านข่าวซุบซิบเซเลบอย่างมันส์มาก พีทจ้องทีวีตาไม่กะพริบ...

“เพิ่งเป็นฮีโร่ช่วยคนแก่จากการโดนข่มขืนมาหมาดๆ แต่ชีวิตจริงของคุณณัฐ บก.หนุ่มรูปหล่อ กลับเจอแต่เรื่องร้ายเสียเอง...ล่าสุด วงในแอบกระซิบว่า แผนวิวาห์กับลูกสาวรัฐมนตรีล่มกลางคันเสียแล้ว เพราะว่าที่เจ้าสาวเพิ่งจับได้ว่าถูกนอกใจ เนื่องจากฝ่ายชายแอบกุ๊กกิ๊กอยู่กับคุณลูกจัน บก.สาวสวยแห่งเซเลบ แถมแหล่งข่าวเขาว่า คู่นี้เคยคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอีกต่างหาก อุ๊ยตาย...แบบนี้เขาเรียกว่า เป็นคู่แข่งทางธุรกิจ แต่เป็นหุ้นส่วนทางหัวใจใช่ไหมเนี่ยยยยย???”

พีทช็อกกับข่าวนี้ เขากดรีโมตปิดทีวี นั่งใจลอยคิดถึงเรื่องราวในอดีตระหว่างตนกับณัฐ...

เป็นการรู้จักกันขณะพีทไปนั่งทานอาหารร้านหรูคนเดียว และณัฐให้บริกรเอาเครื่องดื่มไปให้ นั่งคนละโต๊ะ ต่างมองและยิ้มให้กัน ครู่เดียวก็ย้ายมานั่งโต๊ะเดียวกัน คุยกันกะหนุงกะหนิงอย่างถูกค้อ...ถูกคอ ตาเป็นประกายอย่างมีความสุข

เวลานั้นพีทรู้ว่าเซเลบกับไลม์เป็นคู่แข่งกัน แต่ไลม์ยังไม่เคยตีตื้นขึ้นมาเทียบเซเลบเลย พีทหว่านล้อมลูกจันว่าอยู่วงการเดียวกันจะถือไลม์เป็นคู่แข่งไปทำไม บก.เขาก็ดูนิสัยดีออก

“อย่าบอกนะว่าแกเคยคุยกับ บก.ไลม์” ลูกจันจิกตาถาม พีทชี้แจงแทบไม่ทันว่าเคยพบกันเวลาไปงานเท่านั้น “ก็ดีแล้ว ไม่ต้องไปเสวนาด้วยเลยนะ เพราะคนคนนั้น เป็นคนที่ฉันเกลียด!!”

พีทเงียบไปอย่างไม่สบายใจ ครู่เดียวมือถือพีทก็มีข้อความนัดมาว่า “คืนนี้เจอกันที่เดิมนะครับ...ณัฐ” พีทเริ่มเครียดเมื่อความรักเพื่อนกับคนรักกำลังปะทะกันอย่างรุนแรงในใจ...

ไปพบกันที่ร้านอาหารหรูแล้ว พีทกับณัฐก็ไปต่อกันที่คอนโดอย่างมีความสุข พีททั้งรักทั้งหลงณัฐ ปรนนิบัติดูแลณัฐทั้งกายและใจ ณัฐสบตาพีทอย่างแสนรักแต่ในยามที่ลอบมองพีทนั้น...กลับลุ่มลึกด้วยแววร้าย!ค่ำนี้พีทคุยงานทางโทรศัพท์กับลูกจัน...

“แผนประกวดเซเลบแมนเหรอ...ได้สิ...แกเมลมาได้เลย เดี๋ยวฉันจะช่วยคอมเมนต์ให้... รู้น่าว่าเป็นโปรเจกต์ใหญ่ยักษ์... รับรองว่าจะเก็บเป็นความลับสุดยอดเลยจ้ะ”

พอพีทวางโทรศัพท์ ณัฐก็เดินเข้ามาอ้อนว่าอยากทานสปาเกตตีฝีมือเขาจัง พีทรับปากอย่างกระตือรือร้นแต่เส้นสปาเกตตีหมดเดี๋ยวจะออกไปซื้อให้

“ขอบคุณนะครับที่รัก” ณัฐหวานมาก พอพีทจะออกไป เขาเรียกไว้ “พีท...ไม่ต้องรีบนะครับ คือผมกลัวพีทขับรถเร็วแล้วจะเกิดอุบัติเหตุน่ะ...เป็นห่วง... ” พีทยิ้มหวานให้ณัฐอย่างแสนจะชื่นใจ...

พอพีทออกไป ณัฐก็ตรงรี่ไปเปิดจอคอมพิวเตอร์ทันที!

หลังจากนั้นไม่นาน ไลม์ก็จัดประกวดไลม์แมนตัดหน้าเซเลบแมน จนลูกจันต้องยกเลิกโปรเจกต์เซเลบแมน เธอพูดกับพีทอย่างโกรธมากว่า

“แกรู้ไหม รายละเอียดการประกวดของไลม์ เหมือนกับที่เซเลบเตรียมไว้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉันว่าต้องมีเกลือเป็นหนอนแน่ๆเลย!”

พีทฟังเครียด เงียบกริบ! แต่พอพีทพูดเรื่องนี้กับณัฐ ก็ถูกเขาถามอย่างไม่พอใจว่า

“แล้วไง? คุณเลยคิดว่าผมขโมยข้อมูลเซเลบไปจากคุณเหรอ?!”

เพราะรักณัฐจนหลงแล้ว ทำให้พีทไม่กล้าโต้แย้ง ยิ่งเมื่อณัฐท้าว่าถ้าพีทคิดว่าตนขโมยข้อมูลหนังสือของเพื่อนเขา เราเลิกคบกันก็ได้ พีทก็ถึงกับรีบขอโทษ อ้อนวอน “อย่าทิ้งผมไปนะ...” ณัฐแอบยิ้มสะใจที่แค่แย็บเบาๆก็เอาอยู่แล้ว

จนวันนี้พีทเพิ่งตาสว่างพึมพำอย่างรู้สึกผิดว่า “ที่แท้คุณก็ตั้งใจจะหลอกใช้ผมอยู่แล้ว...ขอโทษนะลูกจัน”

ooooooo

ณัฐแค้นใจที่ตนจะปล้ำลูกจันแล้วพอลโผล่มาซัดเสียจนเขาต้องถอย ณัฐคิดว่าพอลคือพีท เขาค้นหารูปที่พีทนอนกอดตนอยู่บนเตียง แต่ทำโมเสกปิดหน้าตัวเองไว้ พึมพำกับรูปในมือ “รู้จักกูน้อยไปเสียแล้ว!”

สายวันนี้เอง ภาพนั้นก็เผยแพร่ทางทีวี พิธีกรคนเดิมเม้าท์อย่างมันในอารมณ์ตามเคย...บ่นเสียดายผู้ชายในรูป บอกว่าตอนนี้นักข่าวกำลังพยายามติดต่อพีทอยู่แต่ยังติดต่อไม่ได้ ตบท้ายว่า “ที่แน่ๆ รูปนี้เป็นรูปจริงไม่ใช่รูปในละคร...เพราะฉะนั้นก็ยืนยันได้ว่า ข่าวที่เคยซุบซิบเรื่องพีทไม่แมน ก็ฟันธงตามนั้นเลยค่ะ”

พอลดูทีวีอยู่ นึกเป็นห่วงความรู้สึกของพีทขึ้นมา ส่วนลูกจันก็ได้รับโทรศัพท์ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอบอกปลายสายว่าแล้วจะบอกพีทให้ พอวางสายก็หันบอกพอลที่นั่งหน้าไม่สบายใจอยู่ว่า

“ละครกับหนังที่แกรับไว้เขาขอระงับการถ่ายทำไว้ก่อน เพราะต้องไปคุยกับทางช่องและทางสปอนเซอร์ก่อนว่าจะทำยังไงกับ เอ่อ...รูปที่หลุดออกมา ส่วนพวกสินค้าที่ติดต่อแกเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ขอเลื่อนเซ็นสัญญาไปจนกว่าแกจะแก้ปัญหาได้” พูดแล้วลูกจันบีบมือพอลอย่างให้กำลังใจ “ไม่ต้องห่วงนะพีท แล้วมันก็จะผ่านไป”

ทั้งสองมองหน้า ยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ เห็นใจกัน ส่วนพีทนั่งดูรายการเดียวกันนั้น ที่คอนโดป้าภา เขาพึมพำเครียด “มันจะมากไปแล้ว!!”

ที่เซเลบ แม้ยอดขายจะตกไปสองเดือนแล้ว แต่มินตราก็มิได้ใส่ใจ วันๆเอาแต่หาคนเม้าท์ นินทาคนโน้นด่าคนนี้ จนไม่มีใครอยากเสวนาด้วย แม้แต่ปีโป้ที่เคยเป็นคู่หูกันก็กลายเป็นคู่กัดเพราะหมั่นไส้ความเจ้ายศเจ้าอย่างวางตัวข่มเพื่อนของมินตรา

ooooooo

เมื่ออิงอรตาสว่าง ณัฐก็ถูกคุณพ่อของเธอที่เป็นรัฐมนตรีคิดบัญชีย้อนหลังทันที วันนี้เขาให้บอดี้การ์ดสองคนไปประกบณัฐบอกว่า ท่านรัฐมนตรีอาคมเชิญไปคุยด้วยสักครู่

อาคมพูดกับณัฐยิ้มๆ แต่แววตาเหี้ยม ขอบใจที่ทำให้ลูกสาวตนตาสว่าง บอกว่าตนเช็กเงินในบัญชีของอิงอรแล้วพบว่าเงินหายไปเกือบ 20 ล้าน มองตาณัฐอย่างจับพิรุธบอกว่า

“เห็นยายอรบอกว่าเป็นเงินที่คุณยืมไปลงทุน แต่ตอนนี้ผมคิดว่ายายอรคงไม่อยากลงทุนกับคุณแล้วล่ะถ้ายังไงอาทิตย์หน้า ช่วยเอาเงินทั้งหมดไปคืนยายอรด้วยนะ” ณัฐตกใจมากถามว่าอาทิตย์หน้าตนจะหาที่ไหนทัน “อ้อ...ผมเจอพ่อคุณแม่คุณที่กาสิโนบ่อยมากเลย ติดหนี้อยู่เยอะนะ น่าเป็นห่วง ถ้าวันหนึ่งเกิดเป็นอะไรขึ้น ตำรวจคงเหนื่อยเชียว เพราะเจ้าหนี้เยอะขนาดนั้น ไม่รู้ว่าใครจะชิงลงมือก่อน”

ก่อนเดินออกไปอาคมเข้าไปบีบไหล่ณัฐย้ำ “ผมไม่ชอบคนผิดเวลานะ”

บ่ายวันนี้เอง ณัฐก็โทรศัพท์บอกพ่อกับแม่ขอให้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปคืนนี้เลย เอาไว้ตนแก้ปัญหาได้เมื่อไรค่อยกลับมา เขาบอกพ่อกับแม่เสียงเครือก่อนตัดสายว่า “ผมรักพ่อกับแม่นะครับ”

ตัดสายจากพ่อกับแม่ ก็มีสายเข้าทันที เป็นสายจากพีท! พีทพูดไม่อ้อมค้อมว่า

“ผมต้องการเงิน 30 ล้านคืน” ณัฐเล่นแง่ว่ามีหลักฐานอะไร “หลักฐานการโอนเงินไง แต่ถ้าคุณคิดว่ามันยังดูไม่น่าเชื่อถือ ผมก็จะแถลงข่าว ‘เรื่องของเรา’ เสียเลย”

ณัฐตกใจมากแต่ขู่ว่าถ้าเขาทำอย่างนั้นเราจะหมดอนาคตด้วยกันทั้งคู่ พีทพูดอย่างไม่แยแสว่า “อนาคตของผมหมดไปตั้งแต่ที่คุณเอารูปมาปล่อยแล้ว แต่ตอนนี้ใครๆก็คงอยากรู้กันใหญ่แล้วว่า คนที่นอนอยู่ข้างๆ ผมน่ะ...เป็นใคร”

“อย่านะพีท...อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ไหนคุณบอกว่ารักผมไง...คุณจะทำร้ายผมได้ลงคอหรือพีท...”

“ไม่มีใครยอมถูกทำร้ายอยู่ข้างเดียวตลอดไปหรอก ขอบคุณนะที่ทำให้ผมหายโง่...พรุ่งนี้คุณเตรียมตัวตอบคำถามนักข่าวกับตำรวจไว้ได้เลย...ลาก่อนคุณณัฐ” พีทวางสายน้ำตาไหล...แม้จะแค้นแต่ก็อดที่จะเจ็บปวดกับคนที่เคยรักไม่ได้...

ooooooo

เพื่อเอาตัวรอด ณัฐจ้างคนร้ายไปเก็บพอลที่บ้านด้วยปืนเก็บเสียง แต่โชคดีที่พีทมาขวางทัน คนร้ายงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อมองไปข้างหน้าเห็นพอลเหลียวมาข้างหลังเห็นพีท?

มันยังไม่ทันหายงงก็ถูกทั้งพอลและพีทรุมกันเล่นงานจนต้องขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป พอลคิดว่าคงเป็นพวกหัวขโมยธรรมดา ถามพีทว่าเป็นอย่างไรบ้าง พีทบอกว่าตนมาเพื่อให้พอลเห็นว่าตนโอเคแล้วเท่านั้นเอง พอดีมาเจอคนร้ายเลยได้ออกกำลังเล็กน้อย

“พรุ่งนี้เราจะแถลงข่าวเรื่องจริงทั้งหมดของเรา และเราก็จะแจ้งความเรื่องเงินด้วย” พีทบอก พอลดีใจแต่ไม่ทันพูดอะไร เสียงลูกจันก็เจื้อยแจ้วลงมา

“พีทททททท...” พีทรีบหลบ ลูกจันถามพอลว่าทำไมยังไม่ขึ้นไปนอน เขาบอกว่ากำลังจะขึ้น ลูกจันเดินไปกินน้ำแล้วชวนพอลขึ้นนอนเลย พีทแอบดูอยู่ เห็นความสนิทสนมของทั้งคู่แล้วอดคิดอะไรไม่ได้ เพราะรู้แก่ใจดีว่าพอลนั้น...เป็นผู้ชายทั้งแท่ง!

คนร้ายที่ถูกส่งมาเก็บพอลโทรศัพท์ไปรายงานณัฐว่า ทำงานไม่สำเร็จ เพราะมีพีทสองคน ณัฐด่าว่าเล่นของก่อนไปทำงานจนตาฝาดหรือเปล่า

คืนต่อมา ณัฐส่งคนร้ายชุดใหม่ 3 คนไปบุกบ้านพีท แต่มันไม่เจอใครแล้ว มันถามกันงงๆว่า “หายไปไหนวะ”

ณัฐหัวเสียเป็นครั้งที่สอง ด่าคนร้ายทั้งสาม “ไอ้โง่! งานง่ายๆแค่นี้พวกมึงยังทำพลาด แล้วจะทำงานใหญ่ได้ไง มึงไปสืบมาให้ได้นะว่ามันหนีไปไหน เดี๋ยวกูจัดการมันเอง!!”

ที่แท้พอลพาลูกจันหนีออกจากบ้านกลางดึกนั้นเลย จะพักโรงแรมก็กลัวถูกเช็กชื่อเจอ เลยพากันเข้าม่านรูดแทน

ระหว่างหลบหนีนั้น พอลแอบโทร.คุยกับพีท เตือนพีทว่า

“นายต้องซ่อนตัวไว้ก่อนนะ อย่าเพิ่งออกมาแถลงข่าว เรากำลังสงสัยว่าไอ้โจรเมื่อคืนมันไม่ใช่แค่โจรธรรมดา มันเล่นหนักถึงขึ้นจะเก็บนายเชียวนะพีท”

“แล้วทำไมนายไม่บอกเราตั้งแต่เมื่อคืน”

“เราเป็นห่วงนาย เพิ่งหายดี ถ้าต้องหนีคงไม่สะดวก เราจะเป็นตัวล่อมันเอง ส่วนนายซ่อนอยู่ที่เดิมกับป้าภา อย่าเพิ่งติดต่อใครทั้งนั้น อ้อ...เดี๋ยวเราจะจอดรถทิ้งไว้ นายให้คนมารับรถไปด้วย ปลอดภัยเมื่อไหร่ เราค่อยติดต่อนายอีกที”

พีทบอกพอลให้ดูแลตัวเองกับลูกจันดีๆด้วย พอลบอกว่าไม่ต้องห่วงอดถามไม่ได้ว่า คนที่เอาเงินและทำร้ายพีทเป็นใคร พีทกำลังอึกอัก ก็มีเสียงของตกแตกเพล้ง!!! พีทตกใจมากร้องเรียก “ป้าภา!!” ทิ้งโทรศัพท์วิ่งไปตามเสียงทันที

พอลตกใจร้องถามพีทว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พอดีลูกจันร้องเรียก “พีทททททท....อยู่ไหนน่ะ...พีทททททท” พอลเลยจำต้องเก็บโทรศัพท์เดินไปในห้อง...

ooooooo

เซเลบยอดขายตกมาสองเดือนแล้ว มินตราที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น บก.แทนลูกจัน แทนที่จะค้นหาสาเหตุจากตัวเองกลับไล่บี้ถามบรรดาพนักงานว่าทำไมยอดตก

มินตราถามแซนดี้ แซนดี้บอกว่าไม่รู้จะตอบอย่างไร ถามจุ้มจิ้ม จุ้มจิ้มบอกว่าคำตอบเดียวกับแซนดี้ ถามอาร์ต อาร์ตบอกว่าคำตอบเดียวกับจุ้มจิ้ม ถามต๋อยในฐานะรอง บก. ต๋อยเชือดนิ่มๆว่า

“คือ...มันก็ตอบยากนะคะ แต่ถ้าจะให้เอาตรงๆ ก็คือหนังสือที่เราทำออกมามันคงไม่น่าซื้อน่ะค่ะ”

“แล้วก่อนหน้านี้ทำไมมันน่าซื้อ” มินตราตะคอก ปีโป้เลยตอบให้หายโง่ว่า

“อันนี้คุณมินคงต้องถามตัวเองแล้วมั้งคะ ว่าทำไมคิดคอนเซปต์ดึงความสนใจลูกค้าไม่ได้เท่า บก.คนเก่า”

“ออกไป๊!!” มินตราโกรธจนขาดสติที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับลูกจัน

พอออกมานั่งคุยกันที่มุมโซฟา พวกพนักงานก็บ่นคิดถึงลูกจัน ถามกันว่าลูกจันติดต่อใครมาบ้างไหม ทุกคนส่ายหน้า แต่จู่ๆอาร์ตก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ว่าลูกจันกำลังต้องการความช่วยเหลือ

เป็นเวลาที่พอลกับลูกจันพากันปลอมตัวแปลงโฉมเสียจนจำกันเองเกือบไม่ได้ โดยเฉพาะลูกจันเอาหมอนยัดหน้าท้องเหมือนคนท้องแก่ ขณะเตรียมจะออกไปนั่นเอง มือถือลูกจันหล่นทำให้เครื่องเปิดเอง เป็นจังหวะที่อาร์ตโทร.เข้าพอดี!

พอรู้ปัญหาของลูกจันกับพอล อาร์ตบอกลูกจันว่า “ไม่ต้องห่วงครับพี่ลูกจัน ผมจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ตอนนี้ พี่หลบไปอยู่ที่ที่ผมแนะนำก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมส่งเบอร์คนที่จะดูแลพี่ให้นะครับ...ครับ...ติดต่อเขาเสร็จ พี่กับพี่พีทก็ปิดมือถือไปเลยนะ กันพวกมันตามเจอ แล้วผมจะหาจังหวะเหมาะๆไปพบพี่เอง”

คุยกับลูกจันเสร็จ อาร์ตสะดุ้งเฮือกเมื่อหันมาเจอจุ้มจิ้มยืนฟังหูผึ่งอยู่

ooooooo

พอลออกไปยืนโบกรถอยู่ข้างถนน ระหว่างนั้นก็โทร.ถึงพีท พอรู้ว่าป้าภาแค่เป็นลมทำของร่วงแตกก็หายห่วง

พอลไปยืนโบกรถอยู่นานก็ไม่มีคันไหนจอดรับเลย เพราะดูหน้าตาสกปรกหนวดเครารุงรังไม่น่าไว้ใจ พอลูกจันออกไปโบกแทนจึงมีคนจอด ลูกจันในสภาพท้องแก่อ้อนวอนคนขับขอโดยสารไปด้วยเพราะแม่กำลังป่วยหนัก คนขับมองพอลอย่างไม่ไว้ใจ ลูกจันบอกว่า

“นั่นผัวฉันเองจ้ะพี่ มันสติไม่ค่อยดี ขาก็เป๋ ไม่ได้ปกติเหมือนคนอื่นเขาหรอก” พอลเลยเดินเป๋ทำหน้าเอ๋อโชว์ ถึงได้โดยสารรถไปที่ท่าเรือ ลงจากรถไหว้ขอบคุณคนขับแล้ว พอลก็ยังเดินเป๋ๆเอ๋อๆอยู่อีก เลยถูกลูกจันเอาศอกกระทุ้งว่า

“คนขับไปแล้ว แกหายเป๋หายเอ๋อได้แล้ว” พอลบอกว่าอินไปหน่อยแล้วเดินเป็นปกติ ถามลูกจันอย่างกังวลว่า

“แล้วคนที่จะมารับเราเขาจะรู้ได้ไงว่าเป็นเรา...เล่นปลอมตัวซะขนาดนี้”

“อาร์ตบอกว่าแถวนี้เป็นชุมชนเล็กๆ รู้จักกันหมด ถ้าเห็นใครแปลกหน้า คนที่มารับเขาก็รู้เองแหละ”

แล้วก็เจอกันไม่ยากจริงๆ หวินที่มารับมองปราดเดียวก็เข้ามาทัก บอกพ่อค้าแม่ขายแถวนั้นว่าเป็นญาติตนมารอคลอดที่นี่เพราะเกาะเราอยู่ใกล้โรงพยาบาลกว่า

ชาวบ้านต่างมองพอลกับลูกจันอย่างเอ็นดูถามว่าชื่ออะไร ลูกจันบอกว่าชื่อจัน ส่วนพอลบอกว่าชื่อพร เอาตัวรอดกันได้เนียนๆ

ooooooo

รักนี้เจ้จัดให้

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด