สมาชิก

สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายพุฒิภัทร

ตอนที่ 8

จดทะเบียนสมรสเสร็จ ชายภัทรพาแก้วเข้ากรุงเทพฯ พาเธอไปกินไอศกรีมเจ้าอร่อยฉลองจดทะเบียน สมรส และมอบสร้อยมีจี้หยกกลมสลักลายสวยงาม ซึ่งหม่อมหยกสั่งทำจากเซี่ยงไฮ้มอบให้ตนเมื่ออายุครบเดือน และชายเล็กก็มีเหมือนกันแบบนี้อีกอัน

แก้วไม่กล้ารับ ชายภัทรจับมือแก้วมาวางไว้ พูดอ่อนโยนแต่จริงจังว่า

“เพื่อ ที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เราได้หมั้นหมายและแต่งงานกันแล้ว แก้วต้องสวมไว้ คนอื่นเขาจะได้ไม่คิดว่าเราจดทะเบียนกันหลอกๆ ฉันอยากให้เธอใส่ ถือเสียว่ามันคือตัวแทนของฉัน ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ขอให้คิดไว้เสมอว่า มีฉันอยู่ดูแลเธอตลอดเวลา มา...ฉันจะสวมให้ อย่าปฏิเสธความหวังดีของฉัน...ขอร้องล่ะ”

ชายภัทรสวมสร้อยพร้อมจี้ หยกให้อย่างอ่อนโยน แก้วยอมให้สวมแต่โดยดี บอกว่าถ้าเราหย่ากันเมื่อไหร่ก็จะคืนให้ ชายภัทรมองเธอด้วยแววตาตัดพ้อแต่ไม่พูดอะไร

จากนั้น ชายภัทรพาแก้วไปที่วังจุฑาเทพ บอกว่า

“เธอจะต้องพบกับคนที่ต่อต้านเธอที่สุด แต่เป็นคนที่จะคุ้มครองเธอได้ดีที่สุด”

แก้วใจคอไม่ดี แต่เมื่อชายภัทรพยักหน้ายืนยันเธอจึงเดินตามเข้าไปตัวลีบๆ

ooooooo

เมื่อ พาแก้วเข้าไปกราบหม่อมเอียดกับย่าอ่อน แก้วถูกมองแต่หัวจดเท้า ย่าอ่อนถามว่าทำไมถึงแต่งเนื้อแต่งตัวแบบนี้ ชายภัทรชี้แจงว่าเพราะเธอต้องหนีภัยจากผู้ใหญ่

ย่าอ่อนถามว่าแล้วพามาที่นี่ทำไม ชายภัทรตอบไม่คลุมเครือว่า

“เพื่อ มาพึ่งบารมีของหม่อมย่า ที่จะคุ้มภัยแก้วได้จริงไงครับ เรื่องที่อาจจะเคยมีคนเอามาเรียนให้หม่อมย่าทราบว่าแก้วไม่ใช่คนดี เป็นอนุ หรือมาประกวดเพื่อเรียกราคาค่าตัวแพงๆกับพวกเสี่ยหรือผู้มีอิทธิพลนั้น มันไม่ใช่ความจริงนะครับ แก้วต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากการฉุด การลักพาตัว การใช้เล่ห์เหลี่ยมและวิธีการสกปรกหลายอย่างด้วยตัวคนเดียว หัวเดียวกระเทียมลีบจริงๆ”

“แล้วทำไมจะต้องหนี ในเมื่อหล่อนฐานะยากจน ไร้การศึกษา ไม่มีชาติตระกูล เมื่อมีโอกาสที่จะมีคนเอาไปชุบเลี้ยงให้สุขสบาย หล่อนก็น่าจะดีใจสิ” ย่าอ่อนดักคอจับพิรุธ

“ดิฉันจะดีใจได้อย่างไรเจ้าคะ ดิฉันเป็นคน มีศักดิ์ศรี มีความสามารถ มีความนับถือตัวเอง แม้จะไม่มีอะไรเลยอย่างที่ท่านว่า แต่ดิฉันก็ขอขายแรงงาน แรงสมอง แต่ไม่ขายตัวกินค่ะ”

ชายภัทรถามย่าอ่อนที่แสดงความรังเกียจเดียดฉันท์แก้วว่า

“ถ้า ให้พักที่หัวหินก็ไม่ดี พามาที่นี่ก็ไม่ได้ แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับคุณย่าอ่อน ให้พาไปหาบ้านหลังเล็กๆในที่ลับให้อยู่ หรือพาไปเปิดห้องที่โฮเต็ล ถึงจะสมควรหรือครับ”

“ชายภัทร!” ย่าอ่อนเสียงเข้มตาพอง “อะไรทำให้หลานกลายเป็นเด็กหัวแข็ง ทำอะไรนอกลู่นอกทางแบบนี้!”

“ชาย ยังอยู่ในลู่ในทาง...ในกรอบประเพณีเสมอ ที่ชายพาแก้วมาในวันนี้ ก็เพื่อมาฝากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้หม่อมย่าอบรมสั่งสอนในฐานะผู้หนีร้อนมา พึ่งเย็นเท่านั้น ชายไม่ได้พาเขาไปอยู่ที่ตึกของชายสักหน่อย เขาก็จะได้อยู่ในสายตา หม่อมย่าจะได้เห็นเองไงครับ ว่าเขาเป็นคนยังไง แล้วถ้าเขาทำอะไรไม่ถูกใจ หม่อมย่าก็ดุว่าได้ตามใจชอบ โดยแก้วเขาก็ยินดีน้อมรับและพร้อมรับใช้หม่อมย่าทุกอย่าง แบบนี้ไม่ดีเหรอครับ”

เหตุผลของชายภัทร ทำให้ทั้งหม่อมเอียดและย่าอ่อนมองหน้ากันพูดไม่ออก

ooooooo

ย่า เอียดเดินมามองถุงกระดาษที่แก้วใส่ของมาอย่างดูถูกถามว่าของมีแค่นี้หรือ แก้วบอกว่าของบางส่วนอยู่ที่บ้านเกษรา เพราะก่อนนี้ชายภัทรพาตนไปช่วยเกษราทำขนมขาย

ย่าอ่อนทนฟังไม่ได้สั่ง ให้พอได้แล้ว บ่นชายภัทรอย่างหงุดหงิดว่าทำอะไรพิลึกกึกกือป่านนี้ทางวังเทวพรหมมิรู้กัน หมดแล้วหรือ ตำหนิชายภัทรว่า ต้องการทำลายสัญญาของพวกจุฑาเทพกับพวกเทวพรหม เลยใช้เธอมาเป็นเครื่องมือ พอเห็นแก้วงง ก็พูดอย่างมีอารมณ์ว่า

“เด็ก ผู้ชายพวกนี้ ทุกคนเลย ไม่เต็มใจจะแต่งงานกับพวกหม่อมหลวงสาวๆ จากวังเทวพรหมที่ผู้ใหญ่เขาหมายมั่นปั้นมือให้ได้แต่งงานกัน พวกพี่ๆเขาก็พากันหนีไปได้ภรรยากันหมดแล้ว ตอนนี้คิวมาตกที่ชายภัทร ทั้งๆที่ชายภัทรกะมารตีก็รักกันนะ แต่ไม่อยากทำตัวเชื่องๆ ตามผู้ใหญ่ อยากทำตัวกบฏ ก็เลยไปหาใครก็ได้มาอ้าง พอดีเธอซมซานเข้ามาได้จังหวะ เขาก็เลยใช้เธอมาบังหน้า เธออย่านึกเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลยว่าคุณชายผู้สูงส่ง จะไปรักผู้หญิงอย่างเธอลงคอจริงๆน่ะ ชายภัทรเขาเป็นคนถือตัวจะตายไป”

ย่า อ่อนพูดจนแก้วอึ้งไปแล้ว จึงเรียกสมศรีมาสั่งให้จัดห้องให้แก้วไปอยู่ห้องเก่าของป้าจาดที่เรือนคนใช้ แก้วไม่รู้สึกอะไร แต่มาใจคอไม่ดีเมื่อสมศรีบอกว่าตอนดึกป้าจาดแกชอบมาดึงคนลงจากเตียง บางทีก็มีกลิ่นธูปบ้าง อะไรบ้าง...

แต่พอหม่อมเอียดรู้ก็สั่งให้เปลี่ยนไปอยู่ห้องรับรองแขกข้างๆ ห้องย่าอ่อนแทน ย่าอ่อนทำท่าไม่พอใจ หม่อมเอียดปรามว่า

“แขก ของชายภัทร ก็คือแขกของฉัน เขาฝากฉันแล้ว และฉันก็รับปากแล้ว แม่แก้วหล่อนไม่ต้องกลัว ถ้าฉันรับปากให้เธออยู่ด้วย ฉันก็ต้องคุ้มครองเธอให้สมกับที่ชายภัทรไว้วางใจ” แล้วหันสั่งคนใช้ “แจ๋วแน่ะ ดูแลรับใช้คุณแก้วด้วย สมศรีไปดูเสื้อผ้าสมัยสาวๆของฉันที พอแบ่งมาให้แก้วเขาใช้บ้างได้หรือเปล่า”

ย่าอ่อนเสียหน้ามากหางตาค้อนแก้วอย่างหมั่นไส้เต็มที

ooooooo

เพื่อ อบรมสั่งสอนและทดสอบแก้ว วันนี้หม่อมเอียดให้แก้วเช็ดทำความสะอาดเครื่องแก้วราคาแพงมากมาย แจ๋วที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ดูแลแก้วรีบเข้ามาอาสาจะช่วย

“ไม่ต้อง...ให้คุณกรองแก้วทำคนเดียว ชายภัทรฝากให้ฉันสั่งสอนอบรมเขาได้ตามใจ เข้าใจไหม คนอื่นไม่ต้องมามุง ใครมีงานอะไรก็ไปทำ”

ย่าอ่อนยืนมองอย่างสะใจ แต่ก็ติงหม่อมเอียดว่า ใช้คนมือห่างตีนห่างอย่างนี้ จะไม่ทำของดีๆแตกหักเสียหายหรือทุบแตกหรือ

“ก็ ดีสิ...คนเรามันเกิดมาก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณก็อาจจะผิดแผกกันไปบ้าง เรื่องความรู้การศึกษา ก็อาจจะเรียนได้เท่าเทียมกันหมด ยกเว้นแต่เรื่องความดีความชั่ว หยาบกระด้างหรือละเอียดอ่อน ที่มันอยู่ในกมลสันดานลึกๆ ของแต่ละบุคคลที่แก้ไขไม่ได้ ใครเป็นยังไงก็มักจะเป็นอย่างนั้นอยู่ร่ำไป คราวนี้เราก็จะได้รู้กันว่าแม่แก้วคนนี้เป็นแก้วหน้าม้าหรือแก้วมณีล้ำค่า ที่เหมาะกับชายภัทรของเราหรือไม่”

“คุณพี่หม่อมของน้องคะ...คุณพี่จะลงทุนพิสูจน์ด้วยของแพงเกินไปหน่อยรึเปล่าคะ” ย่าอ่อนติงจนวินาทีสุดท้าย

ooooooo

ย่า อ่อนยังเชื่อว่า ที่หม่อมเอียดให้แก้วทำความ สะอาดเครื่องแก้วราคาแพงนั้น เป็นการยอมเสี่ยงเพื่อจะทำให้แก้วได้เผยกำพืดแท้จริงมือหนักนิสัยหยาบทำของ เสีย  แล้วจะได้หาเหตุเฉดหัวออกไปจากชีวิตของชายภัทร

“แม่อ่อน เธอฟังละครวิทยุคณะแก้วฟ้ามากเกินไปแล้วนะ พูดจา...”

หม่อมเอียดพูดไม่ทันขาดคำ เทวพันธ์ก็เดินอาดๆ เข้ามาหน้าตาถมึงทึง มาถึงก็ฟ้องเป็นชุด

“หม่อม ป้า...เวลานี้ผมอับอายชาวบ้านชาวช่องไปทั่วพระนครแล้ว เพราะพ่อพุฒิภัทรหลานรัก ได้กระทำความประพฤติที่ฉาวโฉ่เหลวแหลกเต็มที หากหม่อมป้าไม่สามารถกำกับดูแลหลานชายได้ แล้วต่อไปมันจะเกิดอะไรที่บัดสีบัดเถลิงในสังคมอีก เพราะฝีมือเด็กๆจุฑาเทพครับ โธ่...เสียชื่อเสียเกียรติยศของวงศ์ตระกูลของเราทั้งคู่จริงๆ”

เวลาเดียวกัน มารตีมาเห็นแก้วกำลังเช็ดเครื่องแก้วอยู่ ก็ตรงรี่มาถามว่ามาทำอะไรอยู่ที่นี่ แก้วรีบยกมือไหว้

“ไม่ ต้องมาไหว้ฉันอีหน้าด้าน” มารตีด่าเป็นชุด ทั้งอีหน้าด้าน อีดัดจริต เท่านั้นไม่พอ ยังคว้าชามแก้วใบหนึ่งเขวี้ยงใส่ แก้วหลบทัน ชามแก้วใบนั้นเลยกระทบผนังตกแตกเพล้ง! แก้วหน้าซีด พวกบ่าวแถวนั้นก็ตกใจมองกันตาค้าง

“ว้าย...แก้วแตก!” ย่าอ่อนที่เดินมาพร้อมกับหม่อมเอียดและเทวพันธ์อุทาน แล้วเข้ามาเอาเรื่องแก้วถามว่ารู้ไหมว่าแก้วนี่มาจากฮังการี มารตีมารยาทันทีฟ้องว่าแก้วโกรธที่ตนมาถามเรื่องไปหัวหินกับชายภัทรและเขวี้ ยงชามแก้วใส่ตน

พวกบ่าวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ส่วนมารตีก็ทั้งด่าทั้งปรามจนแก้วไม่มีโอกาสได้ชี้แจง เทวพันธ์เองก็เข้าข้างมารตีเป็นปี่เป็นขลุ่ย เตือนลูกสาวอย่าเอาเพชรไปลู่กระเบื้องให้เสียศักดิ์ศรี แล้วหันติติงหม่อมเอียดว่า

“หม่อมป้าให้เข้าวังมาได้ยังไงกันครับ คนต่ำๆมันก็แบบนี้ ชอบทำอะไรต่ำๆ นี่ถึงกับทำลายข้าวของเชียวเหรอ!”

หม่อม เอียดถามแก้วว่าทำชามแตกหรือ แก้วบอกว่าตนไม่ได้ทำ หม่อมเอียดหันถามพวกบ่าวว่าใครเห็นบ้าง พวกบ่าวตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “เห็นเจ้าค่ะ”

ย่าอ่อนกับเทวพันธ์คาดคั้นให้พวกบ่าวบอกมา ว่าใครทำ เพราะเชื่อว่าแก้วเป็นคนทำ พวกบ่าวตอบพร้อมกันว่า

“คุณมารตีเจ้าค่ะ”

ทำเอา มารตีผงะปฏิเสธลั่นว่าไม่จริง แล้วทำเป็นเสียใจเอามือปิดหน้าร้องไห้วิ่งเอาตัวรอดไปจากสถานการณ์ตรงนั้น แต่ไปอาละวาดชายภัทรที่โรงพยาบาล หาว่าทำลายเกียรติยศชื่อเสียงของตนจนป่นปี้ด้วยการเอาแก้วไปเที่ยวหัวหิน ไม่พอยังพาไปอยู่ที่วังจุฑาเทพด้วย เอาสัญญาของสองตระกูลมาขู่ชายภัทรว่า

“พี่ชายภัทรไม่รักษาสัจจะ พี่ชายภัทรอยากให้เราสองสกุลหมางใจกันตลอดไป”

“ถ้าอย่างนั้น พี่คิดว่าเราก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก” ชายภัทรตัดบทอย่างเหลืออด แล้วเดินหนีไปที่ห้องทำงาน ไม่ทันไรยศวินก็หน้าตึงเข้ามาถามเรื่องที่ชายภัทรพาแก้วไปหัวหิน ถามว่าชายภัทรรักแก้วใช่ไหม

“ใช่...ผมรักคุณแก้ว” ชายภัทรตัดสินใจบอก

เท่านั้นเอง ยศวินก็ตัดพ้อต่อว่าชายภัทรว่า ทั้งที่รู้ว่าตนคิดอย่างไรกับแก้วก็ยังทำกันได้ คร่ำครวญว่ารู้ไหมว่าทำอย่างนี้ตนเสียใจมาก ทำให้ตนอกหัก ยศวินทำใจไม่ได้จนถึงเวลาต้องเข้าทำการผ่าตัดเป็นผู้ช่วยชายภัทรก็ไม่ไป จนเพียงพรต้องเตือนสติว่า

“คุณหมอยศวิน!!” คุณหมออกหักแต่คนไข้โดนกระสุนปืนเฉียดปอดไปนิดเดียว ใครน่าเห็นใจกว่ากันคะ”

จึงทำให้ยศวินได้สติ เอ่ยขอโทษและรีบเข้าห้องผ่าตัด

ooooooo

ย่าอ่อนยังตามบี้แก้วไม่เลิก เข้าไปในครัวเห็นแก้วอยู่กับพวกคนครัวก็แกล้งให้แก้วทำอาหารตามเมนูที่แม่ครัวกำหนดไว้  คือ แสร้งว่ากุ้ง หมี่กรอบ แกงรัญจวน และพริกขิงเครื่องทอด ย่าอ่อนสั่งทุกคนให้ออกจากครัวให้แก้วทำคนเดียว ปรามทุกคนว่า “อย่าให้รู้ว่าใครช่วยเชียวนะ” ทำท่าจะออกไปแต่แล้วก็เปลี่ยนใจกลับมานั่งดูแก้วทำอาหารเพื่อจับผิด

แก้วไม่หวั่นไหว เมื่อย่าอ่อนสั่งให้ลงมือ เธอทำอย่างทะมัดทะแมงคล่องแคล่ว ทั้งยังทำได้ถูกต้องตามตำราด้วย

เมื่อยกอาหารขึ้นโต๊ะตอนเย็น ทุกอย่างจัดอย่างสวยงามน่าทาน จนหม่อมเอียดถามว่าแก้วแกะสลักผักพวกนี้เองหรือ

“ค่ะ...คุณครูที่โรงเรียนสอนค่ะ เวลามีงานโรงเรียน คุณครูก็ชอบให้แก้วไปช่วยแกะสลักผักผลไม้ประจำค่ะ”

เมื่อชิมอาหารแต่ละอย่าง ย่าอ่อนก็ตำหนิว่า “ก็งั้นๆ” แต่พอหม่อมเอียดชิมแล้วชมว่าอร่อยก็แอบถามว่าชมทำไม

“ฉันไม่ได้ชม แต่อาหารอร่อยก็ต้องบอกว่าอร่อย เธอจะให้ฉันโกหกเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ทำไมกัน” หม่อมเอียดสวนไป แล้วถามแก้ว “ไปเรียนทำอาหารมาจากไหน”

แก้วบอกว่าจากแม่ หม่อมเอียดถามอีกว่าแม่สอนให้ทุกอย่างเลยหรือ

“เปล่าค่ะ อย่างหมี่กรอบ แก้วเคยช่วยแม่ทำไปขายตามงานวัดบ่อยๆ ส่วนเมนูอื่นๆ แก้วกับแม่ก็อาศัยครูพักลักจำเวลาไปเป็นลูกมือทำอาหารตามงานนั้นบ้างงานนี้บ้าง แล้วแต่จะมีคนจ้างค่ะ”

หม่อมเอียดซักถามลึกลงไปทุกที จนทราบว่าแม่แก้วตายแล้ว แก้วอยู่กับพ่อ ที่ต้องมาประกวดนางสาวศรีสยามก็เพราะต้องการหาเงินไปผ่าตัดเนื้องอกในสมองให้พ่อ แต่ที่กลับไปดูแลพ่อไม่ได้เพราะถูกท่าน...

“พอๆไม่ต้องพูดเรื่องนั้นฉันรู้จากชายภัทรแล้ว” หม่อมเอียดตัดบท แล้วถามว่าขนมจีบบนโต๊ะนี่ใครใช้ให้ทำ

“พอดีแก้วเห็นว่ามีวัตถุดิบ เลยทำให้คุณย่าทาน เป็นขนมจีบสูตรของคุณแม่แก้วเองน่ะค่ะ”

หม่อมเอียดจิ้มขนมจีบทานแล้วเอะใจถามแก้วว่าทำเองจริงๆหรือ แก้วยืนยันว่าทำเองเพราะตอนอยู่กับเกษราทำแล้วขายดีมาก

ตกเย็นเมื่อชายเล็กกับชายพีร์กลับมาได้ชิมขนมจีบก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารสชาติเดียวกับขนมจีบฝีมือหม่อมแม่หยกไม่มีผิด และก็เป็นรสชาติเดียวกับที่มารตีอ้างว่าทำเองด้วย

ย่าอ่อนหาว่าแก้วไปขโมยสูตรมารตีมา ชายพีร์แย้งว่าคนที่น่าจะขโมยคือมารตีมากกว่า

หม่อมเอียดเลยเรียกสมบุญมาสั่ง

“เธอไปจัดการสืบประวัติแม่กรองแก้วให้ฉันที พ่อแม่เขาเป็นใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน เรื่องจริงเป็นยังไง ฉันต้องการรู้ความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนนี้ จะได้รู้ไปเลยว่า ใครคือคนที่โกหก”

ooooooo

แม้ยศวินจะปฏิบัติหน้าที่เข้าห้องผ่าตัดอย่างรับผิดชอบ แต่พอทำงานเสร็จก็กลับมาหมกมุ่นตรอมใจเพราะอกหัก เจอมารตีที่ผิดหวังชายภัทรมา จึงปรับทุกข์ประสาคนหัวอกเดียวกัน

ยศวินยอมรับความพ่ายแพ้ของตน แต่มารตีไม่ยอมประกาศจะแย่งชายภัทรกลับคืนมาให้ได้

“คนเขาไม่รักเรา ก็ต้องยอมรับความจริงไม่ใช่ตามราวีทำให้ตัวเองดูน่าสมเพชไม่จบไม่สิ้น” พูดแล้วจะขึ้นรถไป มารตีถือวิสาสะขึ้นรถไปด้วยบอกให้ไปส่งตนที่วังจุฑาเทพ ยศวินไล่ให้ลงก็ไม่ยอมลง เขาจึงขับรถไปอย่างไม่แยแสว่ามีเธอนั่งอยู่ด้วย

ปรากฏว่ายศวินไปนั่งดื่มที่ไนต์คลับ มารตีถามว่า “หมอยศวิน พาฉันมาที่นี่ทำไม”

“ผมจะมาพักผ่อนตามประสาคนแพ้ ส่วนคุณจะอยู่แพ้กับผมก็อยู่หรืออยากจะไปชนะที่ไหนก็ไป” พูดแล้วเดินไปอย่างไม่สนใจ มารตีมองเคืองๆแต่ในที่สุดก็เดินตามไป

ระหว่างที่มารตีดื่มอย่างหนักนั้น ยศวินถามว่าเธอรักชายภัทรมากขนาดนั้นเลยหรือ แล้วชี้ว่า เธออยากเอาชนะมากกว่า อยู่ดื่มกันจนดึก ยศวินชวนกลับอาสาจะพาไปส่งที่วัง กลับถูกมารตีแสดงความยโสถือยศถือศักดิ์ดูแคลน

“นี่คุณมารตี บอกตรงๆนะ ผมไม่เคยเห็นใครที่ทั้งกาย วาจา ใจ น่าเกลียดเท่าคุณมาก่อนเลย” ยศวินพูดอย่างสมเพช วางเงินค่าเครื่องดื่มบนโต๊ะแล้วลุกไปเลย มารตีไล่เขาเมาๆว่า

“ไปเลย...ไป ไปให้พ้น ไอ้คนไม่มีน้ำยา ผู้ชาย มีแต่โง่ๆทั้งนั้น” มารตีคว้าเหล้ากระดกหมดแก้ว แล้วสั่งเอามาอีก สั่งแล้วดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าจนกระทั่งมีเครื่องดื่มแปลกๆ มาวางตรงหน้า เธอมองพนักงานถามว่า “อะไรนี่...ฉันไม่ได้สั่ง!!”

“ผมสั่งให้คุณเองครับ” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นจากข้างหลัง มารตีหันมองเห็นท่านพินิจยืนยิ้มให้ บอกเธอว่า “เครื่องดื่มนี้ผมสั่งให้สำหรับคุณเองครับ”

มารตีมองอึ้ง พลันก็นึกอะไรได้ เปลี่ยนเป็นยิ้มยั่วหว่านเสน่ห์ทันที...

ooooooo

ชายภัทรกำลังจะออกไปทำงาน เข้าไปบอกข่าวดีกับแก้วในครัวว่า พ่อเธอแข็งแรงแล้วและจะเข้ามาผ่าตัดที่โรงพยาบาลบ่ายนี้ตนจะเป็นคนผ่าตัดเอง

แก้วดีใจมากบอกว่าถ้าพ่อหายก็จะได้กลับไปอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตตามปกติอย่างสงบเหมือนเดิมเสียที ขอไปเปลี่ยนชุดจะติดรถไปโรงพยาบาลด้วย

ชายภัทรมองตามด้วยใจร้อนรุ่มที่แก้วคิดจะกลับไปอยู่บ้าน ตามไปถามว่าทำไมเธอต้องไปอยู่อยุธยาด้วย แก้วรู้ความหมาย ย้ำกับชายภัทรว่า การจดทะเบียนสมรสเป็นเพียงเรื่องหลอกๆไม่ใช่หรือ เมื่อทุกอย่างจบเราต่างก็เป็นอิสระ

“ไม่ใช่” ชายภัทรสวนไปทันที แก้วย้ำว่าเราตกลงกันแล้ว “ตกลงกันแล้วก็เปลี่ยนแปลงได้” พลางดึงตัวแก้วเข้าไปตัดพ้อว่าที่แล้วมาเธอทำแค่รอวันที่ตนจะช่วยรักษาพ่อให้หายเท่านั้นแล้วเธอก็จะจากไปใช่ไหม

หม่อมเอียดมาเห็นพอดี ตำหนิชายภัทรที่ไม่ให้เกียรติสุภาพสตรี ย้ำว่าแก้วอยู่ในความดูแลของย่าแล้วจะทำอะไรก็ให้เกรงใจกันบ้าง บอกให้ไปทำงานเสียแล้วอย่ามายุ่งกับคนของย่าอีก

แก้วเข้าไปกราบหม่อมเอียดขออนุญาตไปเยี่ยมพ่อที่จะมาผ่าตัดวันนี้ หม่อมเอียดเห็นสร้อยกับจี้หยกที่คอแก้วถามว่าชายภัทรให้หรือ แก้วอึกอัก หม่อมเอียดกำชับว่า

“ถ้าชายภัทรให้หล่อน หล่อนก็ควรจะเก็บรักษามันให้ดี ให้มิดชิด อย่าให้ใครเห็น” แล้วถามเรื่องแก้วขออนุญาตไปเยี่ยมพ่อ ท่านอนุญาตให้ไปทั้งยังมีเมตตาอวยพร “ผ่าตัดสมองมีความเสี่ยงสูงมาก ฉันขออวยพรให้พ่อเธอปลอดภัยนะ”

“แก้วเข้าใจแล้ว...” แก้วเอ่ยอย่างตื้นตัน “ว่าที่คุณชายหมอเป็นคนมีเมตตากรุณาไม่เลือกชั้นวรรณะอย่างนั้น เพราะมีหม่อมย่าที่แสนประเสริฐเช่นนี้นี่เอง”

“หล่อนนี่...นอกจากสวยแล้วยังเป็นคนพูดจาเก่งนะ มิน่าล่ะ ชายภัทรถึง...” หม่อมเอียดหยุดแค่นั้น แล้วเปลี่ยนเป็นพูดว่า “เอ่อ...ฉันน่ะ ไม่ได้เป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่างหรอกนะ ถึงฉันจะมีอคติกับคนบางประเภท แต่ก็ใช่ว่าจะหน้ามืดตามัวจนแยกไม่ออกว่าอะไรคือดี อะไรคือไม่ดี ถ้าหล่อนคิดดี ทำดี วางตัวดี ทำไมฉันจะเมตตาไม่ได้...”

“ค่ะ...” แก้วตอบเสียงแผ่วอย่างตื้นตันใจ

“คำว่ากุลสตรีแปลว่าสตรีที่มีชาติตระกูลและมารยาทดี...ไม่ได้หมายถึงแค่ชาติกำเนิด แต่หมายถึงผู้ที่พ่อแม่หรือทางบ้านได้อบรมสั่งสอนมาดีแล้ว เพราะฉะนั้น หล่อนประพฤติตัวอย่างไรหล่อนก็เป็นอย่างนั้น จะเป็นสุภาพสตรีหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวหล่อนเอง”

“ค่ะ...แก้วจะจำไว้ค่ะ” แก้วปลื้มปีติ รับรู้ได้ถึงความเมตตาของหม่อมเอียดที่มีต่อตน

สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายพุฒิภัทร

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด