ตอนที่ 1
บนภูเขาสูงที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น ภูมิประเทศอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม เป็นที่ตั้งของประเทศนิวแลนด์ มีพระราชาซึ่งทรงอยู่ในความสถิตยุติธรรมปกครอง ทำให้แผ่นดินนี้ร่มรื่นสงบสุข ตราบจนทุกวันนี้...พระราชาหวังจะสละราชบัลลังก์แก่เจ้าชายโซว์ แต่การจะขึ้นครองราชย์ได้ ต้องอภิเษกสมรสเสียก่อน ท่านจึงหาหญิงสาวมากมายมาให้เจ้าชายเลือก
ภายในท้องพระโรง หญิงสาวตระกูลสูงร่วมสิบคน แต่งตัวสวยงามอย่างพิถีพิถัน ยืนเรียงหน้ากระดานด้วยความตื่นเต้น รอการคัดเลือกจากเจ้าชายโซว์ แต่เจ้าชายกลับส่งปีเตอร์ คนสนิทและเป็นผู้ดูแลใกล้ชิดมาคัดเลือกแทนตามคำสั่งที่มอบหมายให้มาอย่างเคร่งครัด หญิงสาวแต่ละคนพรีเซนต์ตัวเองเต็มที่ แต่ไม่วายที่จะโดนปีเตอร์ตำหนิติติงแทบทุกคน
“คล้ำไป...เตี้ยไป...เอวคด...อ้วนไป...นิ้วสั้น... ดั้งน้อย...ปีกจมูกหนา...ขาใหญ่” มาจนถึงคนสุดท้ายที่เขาหยุดมองอยู่นาน เธอยิ้มคิดว่าตนผ่านแน่ แต่แล้วก็ถูกติงว่า “มีขี้แมลงวัน ไม่ผ่าน”
สาวๆเดินคอตกกลับบ้านไป ปีเตอร์ยิ้มอย่างภูมิใจที่ทำงานสำเร็จ พอจะหันกลับ ต้องสะดุ้งเพราะเกือบชนพระราชาและพระราชินี เขารีบก้มหัวถวายความเคารพและถวายรายงาน
“กระหม่อมขอรายงานผลการคัดเลือกวันนี้ ไม่มี...”
“เห็นแล้ว...ไม่มีสาวงามที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและชาติตระกูลเหลือแล้วนะ” พระราชาสวนทันควัน
“กระหม่อมทำตามคำสั่งของเจ้าชายโซว์ทั้งสิ้น เจ้าชายสั่งให้คัดเลือกผู้หญิงที่มีลักษณะไม่ต้องตามประสงค์ออกให้หมด”
“ไหนดูสิ ผู้หญิงแบบที่ไม่ต้องตามประสงค์เป็นยังไง” พระราชาถาม
ปีเตอร์หยิบม้วนกระดาษออกมาคลี่ เป็นแผ่นยาวเหยียด สองพระองค์ตกตะลึง พระราชาโมโหสุดขีด หยิบกระดาษขึ้นมาขยำ เข่นเขี้ยว “เจ้าโซว์...”
ooooooo
ณ สนามยิงธนู ภายนอกพระราชวัง เจ้าชายโซว์ ซึ่งงามสง่าทั้งรูปโฉมและบุคลิกภาพกำลังมองผลงานยิงธนูของตัวเองด้วยความพอใจ เสียงปรบมือดังมาจากข้างหลัง เจ้าชายหันไปมอง เห็นพระราชาและพระราชินีเดินเข้ามา มีปีเตอร์เดินหน้าจ๋อยตามมา
“เก่งไม่แพ้เรา เมื่อตอนสมัยหนุ่มๆ” พระราชาปรบมือชม
เจ้าชายโซว์สีหน้าขรึมลงอย่างรู้ทัน “อุตส่าห์เสด็จลงมาสนามซ้อมธนู คงไม่คิดจะมาชมว่าหม่อมฉันเก่งเพียงอย่างเดียวหรอกใช่ไหมเสด็จพ่อ”
สีหน้าพระราชาเปลี่ยนจากยิ้มเป็นโมโหทันที “เจ้าจงใจจะหลีกเลี่ยงการแต่งงานใช่มั้ย เจ้าก็รู้ว่า นิวแลนด์ต้องการพระราชาองค์ต่อไป แล้วคนที่จะขึ้นครองราชย์ได้ต้องอภิเษกสมรสแล้วเท่านั้น”
“หม่อมฉันเพิ่งเรียนจบ แค่อยากท่องเที่ยวดูโลกอีกสักพัก”
“เจ้าเคยเห็นใจพ่อไหม พ่อก็เหนื่อย อยากพักผ่อนเต็มที...รู้แล้วว่าฉันจะหาผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์ไม่มีที่ติได้ที่ไหน” พระราชานึกอะไรได้
ปีเตอร์ถามด้วยความอยากรู้ว่า พระองค์หามาจากที่ไหน ท่านตอบอย่างมุ่งมั่นและยิ้มเยาะว่าตนมีผู้หญิงที่ไปเจรจาสู่ขอให้มาอภิเษก ว่าแล้วก็ทรงเดินจากไป เจ้าชายโซว์มองตามอึ้งๆหันมาถามปีเตอร์ บอกอะไรเสด็จพ่อไปบ้าง เขาส่ายหน้า
“หม่อมฉันไม่เคยทูล ไม่เคยแพร่งพรายแผนการต่างๆที่เลวร้ายของเจ้าชายทั้งนั้น”
“จำไว้นะ ถ้าเราต้องแต่งงาน เราจะจำไว้ตลอดชีวิตว่าเป็นความผิดของเจ้า” เจ้าชายโซว์เดินจากไปอย่างหงุดหงิด ปีเตอร์มองตามตาปริบๆ
ooooooo
ณ ประเทศไทย บนถนนข้าวสาร บรรยากาศคึกคักเป็นแหล่งที่ชาวต่างชาติชอบมาเดินเที่ยว มีพ่อค้าแม่ค้าแย่งกันขายของทั้งหลอกและซื่อตรง รวมทั้งขิง... สาวสวยแก่นเซี้ยว อายุประมาณ 22 ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินส่งไปให้ยายที่ต่างจังหวัด
ขิงแต่งตัวเป็นชาวเขาขายของให้ฝรั่ง เธอพยายามอ้อนวอนให้ช่วยซื้อของ ถึงขนาดกอดขาแหม่มคนหนึ่งให้ช่วยอุดหนุน แหม่มรำคาญจึงควักเงินซื้อไปยี่สิบบาท ขิงมองเงินในมืออย่างปลื้มใจ พลัน ตุ๊กชายกลางคนเดินกร่างเข้ามาแย่งเงิน อ้างว่าเป็นค่าเช่าที่ ขิงร้องไห้ฟูมฟายขอร้องตนต้องหาเงินส่งให้ที่บ้าน ตุ๊กไม่สนใจตบตีขิงและยังแย่งของขายไปอีก พวกฝรั่งมุงดูด้วยความสงสาร ต่างช่วยเหลือหยิบยื่นเงินให้คนละเล็กละน้อย ขิงเอ่ยปากขอบคุณหลายภาษาทั้งน้ำตา
ตกเย็น ขิงถอดชุดชาวเขาออก นั่งนับเงินที่หามาได้ในวันนี้ ตุ๊กเดินยิ้มเผล่เข้ามาขอส่วนแบ่ง ขิงโวยว่าตนต้องเจ็บตัวเพราะโดนเขาตบกี่ครั้งกว่าจะได้เงินจำนวนนี้มา
“ก็ไม่ได้ตบจริงสักหน่อย แอ็กติ้ง น่ะ แอ็กติ้ง ที่ซ้อมกันไว้ไง”
“ถึงจะแอ็กติ้ง แต่ขิงก็ต้องเสี่ยงชีวิต น้าเอาไปแค่นี้แล้วกัน” ขิงทำท่านับเงินแล้วยื่นให้ยี่สิบบาท พร้อมกับบอกว่าเงินที่เหลือตนจะไว้จ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำไฟและส่งให้ยาย
ตุ๊กถอนใจ “ก็ยายแกน่ะ ชอบไปช่วยคนนั้นคนนี้ แต่ไม่ดูสังขารกับการเงิน เป็นไงล่ะ ช่วยไปช่วยมา หนี้บานเบอะ ทั้งลูกทั้งหลานต้องหนีซมซานมาหาเงินใช้หนี้”
“ช่างเถอะ อย่างน้อยยายเขาก็พยายามทำดี”
“ทำดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นน่ะสิ ฉันกับแกต้องกลายเป็นพวกหลอกฝรั่ง”
ขิงอ่อนใจ บอกตุ๊กว่าถ้าไม่อยากทำก็ให้หาเศรษฐีรวยๆมาให้ตนสักคน จะได้ไม่ต้องทำงาน ตุ๊กค้อนขวับ ถ้าหาได้ตนเอาเองไปแล้ว ขิงขำท่าทางของน้าชาย ก่อนจะนึกได้ว่าต้องรีบไปทำงานอีกแห่ง ก่อนไปสั่งห้ามเขากินเหล้า สูบบุหรี่ ห้ามขับรถไม่ดี และห้ามเถลไถล ตุ๊กมองเงินยี่สิบบาทในมืออย่างเซ็งๆตกลงนี่หลานหรือแม่กันแน่
ooooooo
เมื่อรู้ว่าถึงอย่างไรเสด็จพ่อก็ต้องหาผู้หญิงมาให้อภิเษกแน่ๆ เจ้าชายโซว์คิดจะขอเที่ยวให้เต็มที่ก่อน จึงมาบอกปีเตอร์ว่าพระราชาสั่งให้ตนไปประเทศไทยเพื่อเจรจางานครั้งนี้ด้วย ปีเตอร์ทำหน้างงๆเพราะที่ผ่านมา เจ้าชายไม่เคยสนใจเรื่องการค้าขายเท่าไหร่ จึงดักคอ
“อยู่ดีๆก็อยากไปเจรจาการค้า เหมือนพยายามจะหนีอะไร”
“ถึงเราหนี เจ้ามีปัญหารึไง” เจ้าชายทำหน้าขู่
“คิดแล้วเชียว คนต่ำต้อยอย่างหม่อมฉันจะกล้ามีปัญหากับเจ้าชายได้ยังไงล่ะพระเจ้าข้า”
“งั้นก็รีบไปจัดเตรียมข้าวของให้เรียบร้อย จำไว้ว่าการเดินทางของเราครั้งนี้จะให้เสด็จพ่อรู้ไม่ได้โดยเด็ดขาด” เจ้าชายยิ้มอย่างมีแผน...
ถึงวันเดินทาง เจ้าชายแต่งองค์เตรียมพร้อมแต่ท่าทางกังวลใจ ปีเตอร์ตรวจเช็กสัมภาระที่มากมายอยู่ใกล้ๆ พลันแทบช็อกเมื่อพระราชินีเดินเข้ามา ถามว่าจะไปไหน เจ้าชายตอบเสียงสั่นเทาว่าจะไปเที่ยวประเทศแถบนี้สักสองสามวัน พระราชินีถามอย่างรู้ทัน
“ไม่ใช่หนีเหรอ...” เห็นเจ้าชายโซว์อ้าปากจะเถียง ท่านจึงสวนออกไปว่า “เอาเถอะ ยังไงซะ ครั้งนี้ก็คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ลูกจะได้ทำอย่างนี้แล้ว รู้ใช่ไหมว่าถ้ากลับมาครั้งนี้ ชีวิตของลูกจะต้องเปลี่ยนไป ลูกต้องทำเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเองอีกต่อไปแล้ว”
“หมายความว่าลูกจะต้องแต่งงานจริงๆ...” เจ้าชายสลดลง
พระราชินีไม่ได้ตอบ แต่เข้าไปกอดลูกชายด้วยความรักและเข้าใจ
ooooooo
วิชัย เจ้าของบริษัทเจริญวัฒน์ พอรู้ว่าเจ้าชายโซว์เสด็จมาด้วยตัวเองก็จัดการต้อนรับยกใหญ่หน้าโรงแรมที่จะเข้าพัก มีเหล่าเซเลบริตี้ ยืนโบกธงแน่นขนัด ลัดลดา...ลูกสาวสุดสวยของวิชัยแหวกฝูงชนออกมายืนเริดเชิดหยิ่ง เพราะมั่นใจว่าที่ตัวเองลงทุนอัพโฉมมาทั้งตัวสวยพอที่จะมัดใจเจ้าชายไว้ได้ แขศิริ หนึ่งในไฮโซบ่นกับวิชัยเสียดายน่าจะเชิญทีวีมาทำข่าว
ลัดลดาร้องห้าม “ไม่ได้ค่ะ เจ้าชายท่านไม่ชอบความวุ่นวาย ขนาดเดินทางมาครั้งนี้ ยังมาเป็นการส่วนพระองค์ มีแต่พวกเราแหละค่ะที่รู้ เพราะเจริญวัฒน์ของเรา เจรจาผูกขาดการค้ากับนิวแลนด์แต่เพียงผู้เดียว”
“แหม...พี่เลยพลอยได้มีบุญตามาเห็นเจ้าชาย ที่ได้ชื่อว่าหล่อที่สุดองค์หนึ่งในโลก” แขศิริหัวเราะคิกคักชอบใจ
ในงานนี้ ขิงรับงานเป็นนางรำ เธอให้ตุ๊กไปรอรับนางรำที่จะมารำคู่กันที่หน้าโรงแรม...ขณะเดียวกัน พัชรี นักข่าวสาวกำลังรายงานข่าวอยู่ตรงล็อบบี้ ถึงการมาเยือนอย่างไม่เป็นทางการของเจ้าชายโซว์ จากประเทศนิวแลนด์ ตำรวจเข้ามาบังหน้ากล้อง ห้ามทำข่าวและต้อนพัชรีกับช่างกล้องออกไปนอกโรงแรม เธอพยายามอ้อนวอน ยั่วยวนเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ ช่างกล้องระอาเปรยออกมาว่า พุดเดิ้ลที่บ้านยังเซ็กซี่มากกว่า พัชรีร้องกรี๊ด พลัน บก.โทร.เข้ามือถือ
พอรู้ว่าพัชรีทำงานไม่สำเร็จก็โวยวาย “ถ้าเธอถ่ายภาพเจ้าชายไม่ได้ เธอก็ต้องไปสัมภาษณ์พระองค์มา ไม่ยังงั้นเธอคงรู้ใช่มั้ยพัชรี ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“จะหักเงินเดือนพัชรีเหรอคะ เดือนนี้หักจนแทบไม่มีเหลือ...” พัชรีผงะ เพราะปรีชาวางสายไม่ฟังเหตุผล เธอแทบจะร้องกรี๊ดแต่ไม่กล้าทำ
เผอิญได้ยินตุ๊กเดินบ่นกระปอดกระแปด จะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนคือนางรำ ในเมื่อไม่ได้สวมชฎามาจากบ้าน พัชรีเกิดความคิดขึ้นฉับพลัน...
ขณะที่รถของเจ้าชายโซว์แล่นเข้ามาในโรงแรม เจ้าชายแปลกใจทำไมมีคนมากมายแถมโบกธงประเทศนิวแลนด์ด้วย จึงสั่งคนขับเคลื่อนรถออก วิชัยกำลังจะเปิดประตูรถ หน้าคะมำเมื่อรถแล่นไป บรรดาไฮโซที่มาต้อนรับพากันวิ่งตามรถ เจ้าชายพยายามคิดหาทางออก ตัดสินใจหยิบที่โกนหนวดออกมาให้ปีเตอร์โกนหนวดตนทิ้ง ดูเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาราวกับเป็นคนใหม่
“คงไม่มีใครจำฉันได้แล้วล่ะ เอาล่ะปีเตอร์ ต่อไปนี้ เราจะสละฐานันดรชั่วคราว แล้วแต่งตั้งให้เจ้า ปีเตอร์เป็นเจ้าชายโซว์”
“อือ ฟังดูก็ไม่ยาก เย้ย...เจ้าชาย นี่คิดจะทำอะไรพิเรนทร์ๆอีก ไม่ ไม่ ผมไม่กล้า ผมไม่ทำ”
“งั้นก็ตามใจ ถ้ามีภาพข่าวหรือมีใครรู้ว่าเราแอบหนีมาเที่ยวกับเจ้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเสด็จพ่อ เจ้ารู้ใช่ไหมว่าคนที่พามาจะเดือดร้อน”
ปีเตอร์รู้ชะตากรรมตัวเอง จะเถียงก็ไม่ได้ เจ้าชายถอดสร้อยประจำตัวส่งให้ปีเตอร์ และให้ท่องจำว่านับแต่นี้เขาคือเจ้าชายโซว์ไม่ใช่ปีเตอร์
รถลีมูซีนแล่นวนไปวนมาหลายรอบ โดยมีเหล่าไฮโซวิ่งตาม ในที่สุดก็เข้ามาจอดที่เดิม วิชัยและลัดลดา กับบรรดาเหล่าไฮโซที่เหนื่อยหอบ พากันตั้งแถวต้อนรับ วิชัยปาดเหงื่อที่หยด สาวๆลุ้นว่าเจ้าชายจะหล่อแค่ไหน แต่พอปีเตอร์ก้าวเท้าลงมา เสียงซุบซิบก็ดังว่า
“นี่น่ะเหรอ เจ้าชายโซว์ ทำไมแก่นักล่ะ...นี่น่ะนะ หล่อที่สุดในโลก...ก็ดูท่าทางภูมิฐานนะ”
ปีเตอร์มองทุกคนอย่างประหม่า ก้าวเท้าไม่ออก โซว์ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ติดตามสวมแว่นดำพรางหน้า กระซิบ “เดินไปสิ จะมามัวยืนซื่อบื้ออะไรอยู่ล่ะ”
ปีเตอร์ฉีกยิ้มก่อนจะก้าวเท้าเดินอย่างยากลำบาก มาหยุดทักทายลัดลดาและเหล่าไฮโซ ลัดลดารีบพรีเซนต์ตัวเองยกใหญ่ จนกระทั่งเสียงดนตรีไทยดังขึ้น นางรำสองคนร่ายรำออกมา
พัชรีซึ่งปลอมเป็นนางรำให้ตุ๊กพาเข้ามาแต่งตัว และรำคู่ออกมากับขิง เธอรำเก้ๆกังๆจนขิงแปลกใจ พัชรีพยายามจะหยิบกล้องขนาดจิ๋วออกมาเพื่อจะถ่ายรูปเจ้าชาย ปีเตอร์เห็นหน้าพัชรีถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง จึงไม่ทันระวังดอกไม้ที่ขิงโปรยออกไป กลีบดอกไม้เข้าปากเขาเต็มๆ เขาไม่กล้าถุยมันออกมา ต้องกล้ำกลืนกลีบดอกไม้เข้าไปด้วยท่าทางสง่าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขิงเห็นพัชรีล้วงอะไรสีดำๆออกมา ก็ตกใจคิดว่าเป็นปืน จึงร้องโวยวาย “ปืนๆๆ...”
เกิดความโกลาหล ผู้คนแตกตื่นตกใจวิ่งหนี เจ้าหน้าที่รีบคุ้มกันปีเตอร์กับโซว์เข้าข้างใน ทำให้พัชรีหมดโอกาสถ่ายภาพ ต้องหนีเอาตัวรอด
เมื่อความวุ่นวายสงบลง ขิงกับตุ๊กถูกลัดลดาไล่ออกไปโดยไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง...ด้านปีเตอร์พูดคุยกับพวกวิชัยในห้องรับรองด้วยอารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใส วิชัยขอจัดเลี้ยงต้อนรับในคืนนี้
“ฉันไม่ไป” โซว์กระซิบบอก ปีเตอร์ตกใจโพล่งออกไปเสียงดังว่า ฉันไม่ไป
ทุกคนสะดุ้งหน้าเสียผิดหวัง โซว์หยิกปีเตอร์แล้วกระซิบอีกครั้ง “ฉันหมายถึงฉันไม่ไปแต่นายน่ะต้องไป”
“อ๋อ อ๋อ...ตกลงฉันไป แต่นายไม่ไป เข้าใจไหม” ปีเตอร์บอกทุกคนและชี้ไปที่โซว์
ทุกคนสีหน้าดีใจ ปีเตอร์วางมาดหล่อเดินเข้าห้องพักพร้อมโซว์ พอประตูห้องปิดลง เขาก็ถอนใจเฮือก ทรุดลงไปกองกับพื้น
“โอย...นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว ทำไมการเป็นเจ้าชายมันถึงได้เหนื่อยขนาดนี้ ดูผมสิ ต้องยิ้มจนริมฝีปากติดเหงือก เอาไม่ออกแล้ว”
โซว์ยื่นแขนให้ปีเตอร์เข้ามาถอดสูทออกให้พร้อม กับชมว่าทำได้ดีแล้ว ปีเตอร์โอดโอยว่าเจ้าชายจะกลับคืนฐานันดรเมื่อไหร่ โซว์ยิ้มๆตอบว่าไม่มีกำหนด ปีเตอร์โวยวายกลัวคนจับได้ โซว์เอ็ดให้เลิกโวยวายแล้วไปหาชุดที่จะใส่ไปงานคืนนี้ ส่วนตนจะออกไปเที่ยว
“ไปเที่ยว...ไปไหน ไปกับใคร แล้วไปยังไง” ปีเตอร์รัวคำถาม
“ไม่ต้องถาม ห่วงเรื่องตัวนายเองดีกว่า ถ้านายทำให้ฉันขายหน้า หรือทำให้ความลับแตกละก็ นายรู้ชะตาใช่ไหม” โซว์ค้นหนังสือท่องเที่ยวออกมาอ่านอย่างสบายใจ
ooooooo
พอพลาดไม่ได้เงินค่าจ้าง ขิงหงุดหงิดที่ตุ๊กไปพาใครมารำกับตนจนเกิดเรื่องวุ่นวาย ตุ๊กเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร ขิงจะไปทำงานอีกแห่งที่เด็กเสิร์ฟทุกคนต้องแต่งตัวเป็นคาวบอยเพราะคืนนี้ร้านจัดงานคาวบอยไนท์ ตุ๊กกำชับอย่าไปมีเรื่องกับใคร ขิงสวนกลับเตือนตัวเองดีกว่า
ด้านปีเตอร์แม้จะอยู่ในชุดสูทสุดหรู แต่ยังต้อง แต่งตัวให้โซว์ ด้วยชุดนักท่องเที่ยว เสื้อยืด กางเกงสามส่วน สะพายเป้ โซว์ยื่นขาให้ผูกเชือกรองเท้าผ้าใบด้วยความเคยชิน ปากก็สอน สอนคำทักทายของคนไทย และการไหว้ที่สวยงาม กำชับปีเตอร์อย่าทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง
เมื่อได้มาอยู่ในมาดนักท่องเที่ยว โซว์ถือแผนที่เดินออกมาที่หน้าโรงแรม โบกรถสามล้อไปส่งที่ถนนข้าวสาร บรรยากาศยามค่ำคืนของถนนสายนี้ เต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหารเต็มสองข้างทาง พวกฝรั่งจับจ่ายใช้สอยมากมาย
ร้านที่ขิงทำงาน บริกรในร้านแต่งตัวเป็นหนุ่มคาวบอย มีสาวๆนักท่องเที่ยวขอถ่ายรูปกับพรึ่บพรั่บ โดยเฉพาะตัวขิง เธอโชว์ลีลาหมุนขวดเหล้าตามจังหวะเพลง ก่อนจะเทเครื่องดื่มขายให้สาวๆเหล่านั้น ขิงมองไปเห็นโซว์ยืนมองเมนูหน้าร้าน จึงรี่เข้ามากล่าวต้อนรับหลายภาษา
“ฮัลโหล...หนีฮ่าว...ซัวซะเดย...อันยอง... ฮาเซโย...บองชู...”
โซว์หันหน้ามาเอ่ยสวัสดีอย่างชัดเจน ขิงรู้สึกหน้าแตก รีบเชื้อเชิญเข้ามานั่งในร้าน เสนอเมนูอาหารหลากหลายชาติ โซว์ทำหน้าเซ็งๆจะลุกหนี ขิงชักไม่พอใจในความเก๊กของเขา
“เดี๋ยวสิครับใจเย็นๆ อยากรับประทานอะไรก็บอกกันได้ ร้านเรามีอาหารทุกอย่าง”
“ฉันต้องการกินอาหารไทย”
“อ๋อ อาหารไทย...อยากทานอะไรล่ะครับ พระรามลงสรง หนุมานถวายแหวน ยำทวาย แกงรัญจวน หรือแสร้งว่ากุ้ง” ขิงเปิดเมนูให้ดูรูปอาหารประกอบ
โซว์โพล่งขึ้นว่า ตนอยากกินผัดไทย ต้มยำกุ้ง หมูสะเต๊ะ และผักบุ้งลอยฟ้า ขิงขมวดคิ้วเริ่มกวนใส่ว่าทุกอย่างที่ร้านมี ยกเว้นผักบุ้งลอยฟ้า ที่นี่ลอยแค่ในกระทะ ถ้าอยากดูตนพาไปดูได้แต่ต้องมีเอ็กซ์ตร้าชาร์จ โซว์มองขิงอย่างรู้ทัน
“งั้นก็เอาแค่ที่มี ฉันไม่ใช่นักท่องเที่ยวหมูๆที่ใครจะหลอกฟันเงินง่ายๆหรอก”
ขิงแอบหมั่นไส้ น้อมรับคำสั่งออกไป แต่ก็หันมามองโซว์เห็นนั่งหน้าหยิ่ง คอแข็ง ยิ่งไม่พอใจคิดแกล้งให้เข็ด เธอใส่เกลือและพริกลงในอาหารก่อนจะยกมาเสิร์ฟ พอโซว์ได้ชิมบ่นอุบไม่อร่อย ขิงกระซิบบอก ของอร่อยต้องกินตามข้างทาง ถ้าไม่รู้จัก ตนอาสาพาไปแต่ต้องมีเอ็กซ์ตร้าชาร์จ โซว์จึงบอกว่าถ้ามันอร่อยจริงตนพร้อมจ่าย ขิงดีใจขอให้เขารอตนเลิกงาน โซว์ยิ้มกริ่ม
“ไม่มีปัญหา แต่คงต้องหักค่าเอ็กซ์ตร้าชาร์จสัก 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นค่ารอด้วย”
ขิงโอดโอยหาว่าเขี้ยว โซว์ไม่สนใจจะลุกหนี เธอจึงต้องยอม แต่ในใจเข่นเขี้ยว จะเอาคืนเป็นสิบเท่า โซว์มองขิงอย่างหน่ายๆ เพราะรู้ว่าคนพวกนี้ทำได้ทุกอย่างถ้ามีเงินให้
ooooooo
ภายในงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าชายโซว์ ลัดลดาโวย พ่อที่ให้สองแม่ลูก คุณหญิงฉาดประภากับติ๊งโหน่งมาร่วมงานด้วย เพราะติ๊งโหน่งชอบทำตัวให้เด่นแข่งกับตน วิชัยแก้ตัว
“ก็เขาขอมาเอง พ่อจะปฏิเสธยังไง ลูกไม่รู้เหรอว่านายชรินทร์ สามียัยคุณหญิงนี่ พยายามจะติดต่อซื้อหุ้นของบริษัทเจริญวัฒน์อยู่ แต่พ่อไม่มีทางขายให้เด็ดขาด”
แขศิริเสริม อย่าประมาทฝีมือชรินทร์ เพราะเขามีอำนาจมากใครก็รู้ เธอหันมาปลอบ
“น้องลดาไม่ต้องเครียดไปหรอกค่ะ ใครๆก็รู้ว่ายัยติ๊งโหน่ง ลูกคุณหญิงฉาดประภาสู้น้องลดาไม่ได้สักนิดเดียว ทำหน้าอย่างนี้เดี๋ยวเกิดย่นถาวร โบทอกซ์จะเอาไม่อยู่นะคะ”
ลัดลดาหัวเราะชอบใจ นึกว่าแขศิริเป็นห่วง โดยไม่รู้ว่าถูกหลอกด่าอยู่แท้ๆ...พอเห็นรถคุณหญิงฉาดประภากับลูกสาวแล่นมาจอด แขศิริกุลีกุจอไปเปิดประตูต้อนรับเอาหน้า พัชรีอยากเข้ามาร่วมงาน ฉวยโอกาสที่ผู้คนให้ความสนใจสองแม่ลูก ผลุบเข้าไปนั่งในรถ พอ รปภ.จะปิดประตูรถ เธอก็ดันไว้ ทำทีเป็นมาด้วยกัน ก้าวลงจากรถเดินตามสองแม่ลูกเข้าไปในงาน
ไม่นาน เสียงประกาศว่า เจ้าชายโซว์เสด็จ ทุกคนหันกลับมายืนรอต้อนรับ ติ๊งโหน่งซึ่งมีฟันหน้าเหยิน
เป็นอาวุธ ทำท่าจะขบกัดคนเพื่อแทรกตัวมายืนข้างหน้าเคียงคู่ลัดลดา พัชรีเองก็พยายามแทรกตัวมายืนข้างหน้าเพื่อถ่ายภาพเจ้าชายเช่นกัน สองสาวทักทายแขวะกันไปมา ว่าคนหนึ่งดึงหน้ามาระวังปมที่ผูกไว้หลังหูจะหลุด อีกคนทำฟันมาแล้วแต่ทำไมยังเหยินเหมือนเดิม
รถจอดเทียบ ปีเตอร์ลงมาด้วยมาดเจ้าชายสุดสง่า ลัดลดากับติ๊งโหน่งแย่งกันแนะนำตัว
ปีเตอร์สะดุดหูชื่อติ๊งโหน่งจึงถาม “เป็นชื่อที่แปลกดีนะ มีความหมายว่ายังไง”
“ถ้าในภาษาอังกฤษมีความหมายว่า อินโนเซนส์ เพคะ” ติ๊งโหน่งยิ้มปลื้ม
“อ๋อ ที่แปลว่า...โง่...ใช่ไหมครับ” ปีเตอร์พูดอย่างมั่นใจ
ลัดลดาและพัชรีหัวเราะก๊าก ติ๊งโหน่งหน้าเสีย คุณหญิงฉาดประภารีบแก้ให้ลูกสาว
“ไม่ใช่เพคะ อินโนเซนส์ ภาษาไทยแปลว่า ไร้เดียงสาเพคะ”
ปีเตอร์หน้าเสียรีบขอโทษออกตัวว่าภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง แล้วเดินเลยไปทักคนอื่นต่อ ลัดลดายังยิ้มเยาะ ติ๊งโหน่งฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้ พัชรีแอบเอากล้องตัวเล็กมาถ่ายรูปเจ้าชาย
ระหว่างงาน ปีเตอร์เต้นรำอยู่กับลัดลดา ติ๊งโหน่งยืนมองอย่างอิจฉา คุณหญิงฉาดประภาคอยปลอบ แขศิริแปลกใจเข้ามาถามคุณหญิง ชี้ไปที่พัชรีเห็นว่าลงจากรถมาด้วยกัน ทำไมไม่คุยอะไรกันเลย คุณหญิงรีบบอกว่าตนมากันสองคนกับลูก
“แล้วแกเป็นใครล่ะคะ...หรือว่า...พวกปาปารัสซี่” แขศิริส่งเสียงดังขึ้น
ทุกคนหันมอง พัชรีสะดุ้งมองหาทางหนี เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง พัชรีหนีไปหลบหลังปีเตอร์ ติ๊งโหน่งจะเข้ากัดแต่พลาด กัดเอาไหล่ปีเตอร์ร้องลั่น พัชรีจึงหนีรอดไปได้
ooooooo
หลังเลิกงาน ขิงพาโซว์ไปร้านผักบุ้งลอยฟ้า ไม่วายคิดแต่จะหลอกเอาเงินจากเขา โซว์บอกว่าเท่าไหร่ไม่ว่า ตนชื่นชมคนไทยที่สามารถนำวิธีปรุงอาหาร
มาประยุกต์กับกายกรรม ขิงอวดว่าคนไทยเก่งทำได้ทุกอย่าง โซว์ดักคอ ใช่ ถ้ามีเงิน ขิงโกรธหาว่าเขาเอาเงินมาตัดสินคน
“งั้นถ้าฉันจ้างนาย ให้นายไปยืนรับผักบุ้ง นายจะทำได้มั้ย”
ขิงโวยจะทำได้อย่างไร แต่พอโซว์บอกว่าให้จานละพัน เธอรีบรับทันที เธอไปตกลงกับคนผัดให้โยนดีๆ แต่แล้ว ขิงก็ไม่อาจรับได้เสียที ผักบุ้งหกเกลื่อน กลาด แถมจานสุดท้ายรับได้ แต่สะดุดล้ม หกราดหัวโซว์อีกต่างหาก ขิงรีบขอโทษและพาไปล้าง โซว์เอาคืนด้วยการแกล้งบอกขิงว่าอยากขี่จักรยาน ขิงมองไปร้องว่ามันเป็นของร้าน โซว์สวนว่า...ตนมีเงิน
“อ้อ ลืมไปว่าคุณมันรวย จ่ายได้ไม่อั้นอยู่แล้ว ได้ เดี๋ยวผมไปเจรจาให้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่า ราคาเอ็กซ์ตร้าชาร์จ”
“ไม่มีปัญหาหรอก แค่เอามาให้ฉันขี่ได้ก็พอแล้ว”
ขิงมองอย่างหมั่นไส้ แล้วไปคุยกับเจ้าของร้าน กลับออกมาบอกโซว์ว่า เจ้าของร้านให้ยืมฟรีๆเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน แต่ตนคิดค่าเช่า 500 บาท โซว์จึงว่าราคานี้ต้องรวมคนขี่ด้วย ขิงหน้าเหวอถามเขาขี่ไม่เป็นหรือโซว์พยักหน้ายิ้มๆ ขิงโมโหแล้วให้ตนไปยืมทำไม
“แค่อยากรู้ว่านายทำได้รึเปล่า ซึ่งนายก็ทำได้จริงๆ คราวนี้เชื่อรึยังว่า เงินซื้อได้ทุกอย่าง”
ขิงฉุนโวยว่า ใช่ ในสายตาคนรวยอย่างเขา แต่สำหรับคนจนอย่างตน เงินทุกบาททุกสตางค์มีค่า โซว์แปลกใจถามกลับว่าเธอจนมากหรือ ขิงรับว่ามากกว่าที่เขาคิด
“แต่ถึงผมจะจน ผมก็ไม่ชอบให้ใครดูถูก ที่วันนี้ผมยอมทำทุกอย่างที่คุณต้องการเพื่อแลกกับเงิน เพราะสิ่งที่คุณให้ทำมันไม่ใช่สิ่งผิด แล้วผมก็ทำได้ แต่ถ้าคุณสั่งให้ผมทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต่อให้มีเงินมากแค่ไหน ก็จ้างผมไม่ได้ จำไว้ด้วย”
โซว์มองขิงอย่างทึ่งๆ แล้วเปลี่ยนท่าทีเป็นยิ้มแย้ม “เอาล่ะวันนี้ฉันสนุกมาก ขอบใจนายมากนะ ที่พาฉันเที่ยวคืนนี้ แล้วก็ทำให้ฉันได้รู้จักคนไทยในมุมมองที่ฉันไม่เคยได้รู้จัก ขอโทษที่ทำให้นายต้องโมโห ถ้าฉันพูดอะไรไม่ดีอย่าโกรธกันนะ” โซว์ยื่นมือให้ขิง เธอมองอย่างลังเลก่อนจะยอมจับ เขายิ้มตบไหล่เธอ “ขอบใจมากนะน้องชาย”
โซว์เดินออกไป ขิงยืนยิ้มขำๆที่เขาคิดว่าตนเป็นผู้ชายมาตลอด
ooooooo
คืนนั้น โซว์กลับมาถึงโรงแรม ลงแช่อ่างอาบน้ำให้ปีเตอร์ถูหลัง ต่างคนต่างเล่าเหตุการณ์ในวันนี้
ให้ฟัง สุดท้าย โซว์บอกว่า ตนจะย้ายไปหาเกสต์เฮาส์อยู่ ปีเตอร์ค้านแต่ก็ห้ามเจ้าชายไม่ได้
วันรุ่งขึ้น โซว์ยืนให้ปีเตอร์แต่งตัว สวมถุงเท้ารองเท้าให้อย่างเคย ปีเตอร์ต้องท่องกฎที่โซว์ตั้งไว้ คือ รักษาการแทนโซว์ขณะไม่อยู่ และห้ามออกไปไหนเด็ดขาดยกเว้นมีเหตุจำเป็น
ปีเตอร์ถามโซว์จะไปอยู่ที่ไหน โซว์ตอบว่าได้ที่อยู่แล้วจะโทร.บอก ปีเตอร์เป็นห่วงไม่อยากให้เจ้าชายไป พอห้ามก็จะโดนอัด จึงจำต้องฝึกซ้อมตัวเองให้วางมาดเจ้าชายต่อไป
ด้านพัชรี เอารูปที่ถ่ายได้ไปให้ปรีชา บก.หนังสือดู แต่รูปออกมาไม่เห็นหน้าเจ้าชายเลยสักรูป มีแต่ความโกลาหลของผู้คน บก.โกรธมาก สั่งเสียงเฉียบให้เธอไปถ่ายคลิปเจ้าชายมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นโดนไล่ออก
ด้วยเหตุนี้ ทำให้พัชรีต้องปลอมตัวเป็นแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดในห้องพัก และติดกล้องวีดิโอ พอปีเตอร์เห็นหน้าพัชรีอีกครั้งก็ยิ่งตะลึงในความสวยของเธอ พัชรีหาเรื่องคุย
“เจ้าชายน่าจะมีคนนำเที่ยวนะเพคะ ถ้าเจ้าชายไม่รังเกียจ หม่อมฉันยินดีจะเสนอตัว”
ปีเตอร์ตาโตเข้าใจผิด “หา...ว่าไงนะ เธอจะเสนอตัวให้เราเหรอ”
“เพคะ หม่อมฉันจะรู้สึกเป็นเกียรติและปลาบปลื้มใจมากเพคะ”
ปีเตอร์มองด้วยสายตาหื่น “ถ้างั้นเราจะทำให้ฝันเจ้าเป็นจริงเดี๋ยวนี้แหละ” เขาโถมเข้ากอด
พัชรีตกใจร้องลั่นจะทำอะไร ปีเตอร์บอกว่าก็เธอเสนอตัวเอง เธอร้องว่าเขาเข้าใจผิด เขากลับคิดว่าเธออาย เธอจึงปกป้องตัวเองเตะผ่าหมากเขาอย่างแรง ปีเตอร์ถึงกับทรุดหน้าเขียวหมดสติ พัชรีตกใจกลัว รีบคว้ากล้องวิ่งหนีออกไป
ooooooo
บนถนนข้าวสาร ตุ๊กแต่งชุดไทยประยุกต์ ยืนร้องเพลงอะเมซซิ่ง ไทยแลนด์ อยู่ข้างรถสามล้อของเขา โซว์เห็นว่าแปลกดีจึงยกกล้องถ่ายรูป ตุ๊กโวยวายว่าไม่ได้ เขาจึงก้มหัวขอโทษเดินไป ตุ๊กเห็นโซว์เป็นคนต่างชาติ คิดจะหลอกฟันเงิน จึงส่งภาษาร้องเรียก
“เฮ้...ยู อิฟยูว้อนทูเทคโฟโต้ ยูมาซิ่งกับไอสิ ไอจะพายูทัวร์อะราวนด์แบงคอก แล้วยูจะได้ถ่ายที่สวยๆ...ว้อนมั้ย” ตุ๊กเต้นไปพูดไป
โซว์มองตุ๊กอย่างสนใจแต่ก็ระแวง ตุ๊กรีบบอกอีกว่า นั่งรถสามล้อของตนชมวิว กินลมสบายๆไม่ต้องเดิน โซว์เริ่มสนใจ จึงพยักหน้าโอเคแล้วเดินไปขึ้นรถ ตุ๊กยิ้มกริ่ม
“เสร็จล่ะ ยูไม่ถามราคาก่อน โดนฟันเละแน่”
โซว์ฟังออกแต่ทำเป็นเฉยๆปล่อยให้ตุ๊กพล่ามไปจะได้รู้ว่าหลอกด้วยวิธีไหน ตุ๊กขับรถพาโซว์ถ่ายรูปรอบสนามหลวง หน้าวัดพระแก้ว ปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม มาจนถึงอาคารโบราณบนถนนพระอาทิตย์ แล้ววกกลับไปจอดที่เดิม โซว์เดินลงจากรถ บิดขี้เกียจแล้วจะเดินไป ตุ๊กร้องลั่นให้จ่ายเงินก่อนห้าพันบาท โซว์ ตอบด้วยภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำว่าไม่จ่าย
ตุ๊กแทบช็อกที่เขาพูดไทยได้ มือไม้สั่นหาทางหนีทีไล่ โซว์ส่งเงินให้สามร้อยบาท
“เอาไป ค่ารถ แล้วคราวหลังอย่าคิดว่าชาวต่างชาติโง่อีก”
ตุ๊กหน้าเจื่อน มองเงินในมือ ตัดสินใจบอกโซว์ว่า ตนจะให้เขาถ่ายรูปตนกับรถ แต่ขอเงินเพิ่มได้ไหม โซว์ตกลงจะให้เพิ่มอีกสองร้อย ตุ๊กโพล่งออกไปว่ารวมเป็นหนึ่งพัน โซว์โวยเพราะรู้ว่าแค่ห้าร้อย จึงต่อว่าถ้าคิดโกงกันอีกจะไม่ได้เงินเลย ตุ๊กจ๋อย พึมพำห้าสิบบาทตนก็ถ่ายแล้ว
ขณะที่โซว์กำลังจะถ่ายตุ๊ก มีคนมากระชากกล้องเขาวิ่งหนี ตุ๊กตกใจร้องให้คนช่วยจับขโมย แต่โซว์วิ่งกวดไม่ลดละ ขโมยวิ่งมาชนขิงที่ถือของเต็มมือล้มทั้งคู่ กล้องหล่นอยู่ขโมยวิ่งหนีไป ขิงเก็บของบ่นอุบ เห็นกล้องตกอยู่จึงหยิบขึ้นมา โซว์วิ่งมาถึง จับมือขิงไว้ขิงเห็นหน้าโซว์ก็ตกใจแต่เขาจำเธอไม่ได้ เพราะวันนี้ เธอดูเป็นผู้หญิง เขาจะให้เธอไปโรงพัก เธอไม่ยอมไป
“หลักฐานก็เห็นอยู่คามือว่าเธอวิ่งราวกล้องฉันมาเมื่อกี้ไม่เรียกขโมยแล้วจะเรียกอะไร”
“ฉันไม่เกี่ยวนะ ฉันไม่ได้ทำอะไร แล้วนายจำฉันไม่ได้รึไง”
โซว์จำไม่ได้ จะลากเธอไปโรงพัก ขิงไม่รู้จะทำอย่างไร จึงร้องโวยวายว่าเขาปล้ำ โซว์ตกใจปล่อยมือจากเธอ ต่อว่าอย่างโกรธๆคนไทยไว้ใจไม่ได้เลย ขิงเหวอมองโซว์เดินไปด้วยความงง จำตนไม่ได้แล้วยังมาหาว่าเป็นขโมยอีก
ooooooo
โซว์พยายามหาที่พัก ได้ที่ไม่ค่อยสะดวกสบาย ดูออกจะสกปรกนิดๆแต่ก็ต้องทนนอนไปก่อนคืนหนึ่ง แต่แล้วคืนนั้นเขาก็ถูกฝรั่งกุ๊ยย่องเข้ามาจะขโมยของเขาระวังตัวอยู่แล้วจึงวาดลวดลายต่อสู้ใส่จนฝรั่งกุ๊ยโกยแทบไม่ทัน
วันรุ่งขึ้น โซว์สะพายเป้กางแผนที่เดินหาที่พักใหม่ เจอตุ๊กยืนยิ้มเผล่ข้างรถคู่ใจ เขาเดินหนี ตุ๊กตามมาดักหน้า ถามมีอะไรไม่สบายใจ ตนเป็นเจ้าบ้านยินดีช่วย โซว์มองอย่างไม่ไว้ใจ ตุ๊กสัญญาว่าจะช่วยจริงๆไม่คิดโกงอีก ให้เขาได้เห็นว่าคนไทยมีน้ำใจ
“เอาล่ะ จะลองเชื่อสักครั้งนึงก็ได้ คือฉันอยากจะหาเกสต์เฮาส์ที่ดูดีซักหน่อย แล้วก็อยากจะได้ไกด์ที่คอยพาฉันเที่ยว แล้วก็คอยดูแลรับใช้ฉันด้วย”
“เรื่องเกสต์เฮาส์ไม่มีปัญหา แต่เรื่องไกด์นี่ตกลงว่าจะให้เป็นไกด์หรือเป็นคนรับใช้กันแน่”
“ไม่ใช่รับใช้ แค่ให้ช่วยดูแล คุณสมบัติที่ฉันต้องการคือ เก่ง ฉลาด รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยทุกที่ แล้วที่สำคัญต้องเป็นผู้ชาย” โซว์เน้น
ตุ๊กเสนอตัวเอง โซว์ไม่เอาแถมว่าสกปรก ตนอยากได้คนสะอาด ตุ๊กอยากรู้ว่าเรื่องมากขนาดนี้ค่าจ้างเท่าไหร่ โซว์ตอบว่าหนึ่งพัน ตุ๊กเบ้หน้า แค่พันเดียว โซว์สวนว่า พันยูโร ตุ๊กตาโตคำนวณเงินตั้งห้าหมื่นบาท โซว์บอกชื่อของตนแต่ตุ๊กออกเสียงไม่ได้ สุดท้ายเรียกเขาว่าโซ่
โซว์มาป่าวประกาศในร้านที่ขิงทำงาน คัดเลือกมาได้สามคน แต่พอโซว์สัมภาษณ์และให้ทดลองปูที่นอน ปัดฝุ่น และจัดเสื้อผ้าให้เขา ทั้งสามคนทำออกมาไม่ได้เรื่อง ขิงตามมาแอบดู พอรู้ว่าคนที่ให้ตุ๊กหาไกด์คือโซว์นี่เอง เธอจึงบอกตุ๊กว่าตนต้องการทำหน้าที่นี้ โดยจะปลอมเป็นผู้ชายเข้าไป เพราะโซว์ก็เข้าใจว่าตนเป็นผู้ชายอยู่แล้ว
วันต่อมา ตุ๊กพาขิงมาให้โซว์ทดสอบ ขิงแนะนำตัวว่าชื่อบอย การทดสอบงานบ้านทุกอย่างขิงผ่านหมด โซว์หันมาถามเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ขิงตอบได้อย่างฉะฉาน
“เอาล่ะพอ เรื่องแค่นี้ใครๆก็รู้ ไหนนายลองบอกเหตุผลสิว่า ทำไมฉันต้องรับนายทำงาน”
ขิงคิดสักพักก่อนตอบ “เพราะว่าผมเป็นไกด์ที่เก่ง ผมรู้ทุกอย่างว่าคุณมาเมืองไทย คุณจะเจอปัญหาอะไรบ้าง”
“ไหนว่ามา”
“ก็ตั้งแต่คุณหิ้วเป้ แบกกระเป๋ามาจากสนามบิน คุณก็จะต้องเจอกับแท็กซี่หรือตุ๊กๆ ถ้าคุณไม่รู้จักอะไรเลย คุณก็อาจจะถูกพวกนี้โก่งราคา หรือไม่ก็พาอ้อมให้เสียค่า โดยสารแพงๆ”
“อ๋อ เรื่องนี้ฉันเจอมาแล้ว” โซว์ชำเลืองมองตุ๊ก ตุ๊กยิ้มอายๆ
“ข้อสอง ถ้าคุณอยากซื้อของแล้วไม่เช็กราคามาดีๆ คุณอาจจะโดนโก่งราคาแพงๆก็ได้”
“อือ...อันนี้ฉันก็เคยโดนเหมือนกัน ค่าตุ๊กๆตั้ง5,000 มีที่ไหน ใช่ไหมตุ๊ก” ตุ๊กอายปิดหน้า
“แล้วอีกข้อที่สำคัญ ถ้าคุณเดินไปเที่ยวตามที่ต่างๆ แล้วสะพายกล้อง ถ้าคุณไม่ระวังคุณอาจจะโดนขโมยฉกกล้องไปก็ได้”
“อือ...ฉันเจอทุกอย่างที่นายว่ามาจริงๆ เอาล่ะ
ฉันตกลงรับนาย บอย” โซว์ยื่นมือให้ขิงจับ
ตุ๊กเห็นรี่เข้าไปร่วมจับด้วย ขิงดีใจสุดๆ ที่ได้งานนี้
ooooooo
เริ่มงานวันแรก โซว์เดินโอบไหล่ขิงไปตามถนนข้าวสาร ขิงเบี่ยงตัวออกถามเขาว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน โซว์ตอบว่าอยากเที่ยวให้ทั่ว ขิงเห็นว่าท่าทางเขาจะชอบเมืองไทยเอามาก เขายอมรับ เพราะเมืองไทยโชคดีมาก มีทรัพยากรสมบูรณ์ มีป่าไม้ มีแม่น้ำและทะเลสวยๆ เมืองของตนไม่มี ขิงจึงถามว่าเขามาจากไหน
“ไม่บอก เอาเป็นว่าประเทศฉันอยู่บนภูเขาสวย อากาศหนาวทั้งปี นานๆ ถึงจะได้มีอากาศอบอุ่นสบายๆ”
“คิดว่าอยากรู้นักนี่ ไม่บอกก็ตามใจ...แล้วตกลงวันนี้อยากไปไหน” ขิงชักหมั่นไส้
โซว์ตอบว่าอยากเดินซื้อของเพราะมีไกด์อย่างเธอ ไม่กลัวถูกหลอกแล้ว ขิงยิ้มเจ้าเล่ห์...เริ่มด้วยโซว์สนใจ เสื้อยืดที่วางขาย ขิงกระซิบกับแม่ค้าให้บอกว่าพันบาท แล้วจะแบ่งเงินให้ แต่เขาเห็นป้ายราคา 199 เสียก่อน ก็ต่อว่าเธอที่หลอกกันอีกแล้ว ตนจ้างเธอด้วยเงินสูง ยังคิดโกงกันอีก ทำงานด้วยกันแล้วไม่มีความซื่อสัตย์ แบบนี้คงทำงานร่วมกันไม่ได้
ขิงรู้สึกผิด รีบเดินตามขอโทษ และสัญญาจะไม่ทำอีก โซว์ไม่สนใจคำสัญญา ขอดูการกระทำดีกว่า พอดีปีเตอร์โทร.เข้ามา เขาจึงให้ขิงถอยห่างออกไป แล้วคุยโทรศัพท์ ปีเตอร์เป็นห่วงอยากให้กลับมาอยู่โรงแรม โซว์ไม่พอใจ เอ็ดถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ต้องโทร. มาอีก ขิงทำท่าทางล้อเลียนอยู่ โซว์มองมาเธอชะงักยิ้มอายๆ ก่อนจะเดินตามเขาไป
ooooooo
เมื่อผิดพลาดหน้าแตก ติ๊งโหน่งร้อนใจปรึกษาคุณหญิงฉาดประภา ถึงวิธีดึงความสนใจจากเจ้าชายมาให้ได้ ชรินทร์กลับจากทำงาน ติ๊งโหน่งดีใจ
กระโดดกอดพ่อเหมือนเด็กๆแต่ด้วยความที่ตัวโตแล้ว จึงล้มกันไปทั้งคู่ ชริทร์เห็นยุงเกาะจมูกลูกสาวก็ชักปืนออกมาจะยิงฐานกัดกินเลือดลูกสุดรัก
คุณหญิงตกใจร้องห้าม สมุนเอกับบีรีบประกบ เตือนเจ้านายฆ่ายุงด้วยวิธีนี้คนท่ีแย่คือติ๊งโหน่ง และหยิบไม้ช็อตยุงมาให้แทน เขาจึงคว้ามาตบเปรี้ยงลงไปที่จมูกลูกสาว
ติ๊งโหน่งชักกระตุกๆสะกิดพ่อให้ช่วยเอาไม้ออก ชรินทร์ไม่รู้สึกว่าลูกโดนไฟดูด เห็นหน้าแดงๆ ก็ชมว่าวันนี้ ลูกสาวสวยเป็นพิเศษ คุณหญิงฉาดประภาส่ายหน้าระอา
พอชรินทร์รู้ว่าลูกสาวอยากเป็นเจ้าหญิงแห่งนิวแลนด์ ก็ดีใจ เพราะนั่นจะทำให้ตนเอาชนะพวกวิชัยแห่งเจริญวัฒน์ได้ จึงคิดจัดเลี้ยงต้อนรับเจ้าชายที่บ้าน...
ด้านโซว์เจ้าชายตัวจริง ได้เกสต์เฮาส์ที่ดีกว่าเดิม สะอาดขึ้น จึงตระเวนซื้อของจำเป็นเข้ามา ขิงนอนแผ่หมดแรง โซว์ปลุกให้ลุกไปเอาน้ำดื่มมาให้ ขิงโวย น้ำอยู่ข้างๆหยิบเองไม่เป็นหรือ
“นี่นายไม่ได้มีหน้าที่มาย้อนคำสั่งฉันนะ บอกให้หยิบก็หยิบสิ”
ขิงเดินบ่นอุบ ไปหยิบมาส่งให้ โซว์ยื่นขาให้ถอดรองเท้า ขิงหน้าตึงถอดให้อย่างเสียไม่ได้ เสร็จจะขอตัวกลับ โซว์รีบบอกจะกลับไปไหน ต้องนอนที่นี่ ขิงตกใจ
“เอ้า...ตุ๊กไม่ได้บอกเหรอ เพราะอย่างนี้แหละ ฉันถึงต้องการเฉพาะผู้ชาย ทำไมนายมีปัญหาอะไรเหรอ”
ขิงอึกอักพูดไม่ออก เดินออกมานอกบ้าน มองไปไม่มีใครก็ร้อง “อ๊าย...ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไอ้โรคจิต ทำไมฉันจะต้องมานอนกับคนอย่างนายด้วย...จะทำยังไงดี ทำไมฉันต้องมานอนกับผู้ชายแปลกหน้า แถมยังหน้าแปลกอีก...นายนั่นคงไม่ได้คิดอะไรกับเรานะ”
ขิงเดินกระวนกระวายใจสักพัก นึกได้ว่าโซว์เข้าใจว่าตนเป็นผู้ชาย คงไม่มีอะไรถ้าเขาไม่ใช่เกย์...ขิงกลับเข้ามาในบ้านอย่างหวาดๆ โซว์แปลกใจถามว่าเป็นอะไร มีงานต้องทำอีกเยอะ ขิงถามว่าอะไร เขากลับลากเธอเข้ามาในบ้านและบอกว่า รับรองคืนนี้ไม่ได้นอนทั้งคืนแน่ ขิงขืนตัวร้องโวยวายแต่สู้แรงเขาไม่ได้ โซว์ลากขิงเข้ามาในห้อง เธอสะบัดตัวออกหน้าเสีย
“อย่าทำผมนะ...ผมไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ”
“นี่หยุดทำเสียงโวยวายอย่างนั้นสักทีฉันหนวกหู แล้วนายก็มาช่วยฉันถอดเสื้อผ้าได้แล้ว”
“ถอดเสื้อผ้า...ไม่เอานะไม่เอา...” ขิงถอยกรูด
“เอ๊ะ นี่นายเป็นอะไร กะอีแค่ถอดเสื้อผ้าให้ฉันทำไมต้องวุ่นวายขนาดนี้ นายอยากให้ฉันอาบน้ำทั้งเสื้อผ้าเลยรึไง”
ขิงหัวเราะออกมาอย่างโล่งอก “อาบน้ำ ถอดเสื้อผ้า แล้วก็ไม่บอก เอ๊ะ...แล้วทำไมกะอีแค่ถอดเสื้อผ้าจะอาบน้ำ ต้องให้ผมถอดให้ด้วยล่ะ”
โซว์เอ็ดอย่ามีปัญหามาก เขายืนกางแขนให้ขิงถอดเสื้อผ้าให้เหมือนที่ปีเตอร์ทำ ขิงถอดจนเหลือบอกเซอร์ตัวเดียวแล้วบอกว่าเสร็จแล้ว โซว์โวยต้องถอดให้หมด ขิงตาเหลือกค่อยๆ นั่งลงหลับตากลั้นใจถอดบอกเซอร์ออก
ระหว่างที่โซว์นอนแช่ในอ่างอาบน้ำ ขิงออกมาต้มน้ำร้อน ฉวยโอกาสโทร.มาบ่นกับตุ๊กว่าตนถูกใช้อย่างกับทาส มือเท้าไม่ได้พิการยังต้องให้ตนอาบน้ำให้ ตุ๊กตกใจ ขิงวางสายกลับเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกาต้มน้ำ โซว์นอนแช่อ่างที่มีฟองฟูฟ่อง เปิดเพลงโอเปร่าคลอ ขิงหมั่นไส้หาว่าทำตัวอย่างกับเจ้าชายในเกสต์เฮาส์ โซว์ไม่ใส่ใจ บอกเธอให้เอาผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนเช็ดถูหลังที ขิงประชดต้องสระผม ขัดเล็บ ถูขี้ไคล ล้างก้นด้วยไหม โซว์กลับตอบว่าอย่างหลังตนทำเองได้ ขิงเม้มปาก ถูหลัง ให้อย่างแรง โซว์กลับสอนให้ทำช้าๆ ตามจังหวะเพลง ขิงฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้
อาบน้ำเสร็จ ขิงยังต้องแต่งตัวให้โซว์ แล้วต้องเอานมอุ่นๆ มาให้ดื่ม แถมได้รับคำสั่งว่าตอนเช้าต้องเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขาล้างหน้าด้วย และบีบยาสีฟันขนาดเท่าเม็ดข้าวโพดไว้ที่แปรง
“โอ๊ย...พอแล้ว เรื่องพวกนี้นายทำเองก็ได้นี่ ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้คนอื่นเลย”
“ก็ฉันไม่เคยทำนี่ มีคนทำให้ตลอด”
“งั้นนายก็ควรจะหัดเริ่มทำได้แล้ว ตอนนี้นายมีเงิน นายอาจจะจ้างใครต่อใครได้ แต่ถ้านายไม่มีล่ะ นายจะทำยังไง งานที่นายบอกไม่ใช่เรื่องยากลำบากที่จะทำเองเลยนะ”
“แสดงว่าคนธรรมดาๆ อย่างนายทำเรื่องอย่างนี้เอง”
“แหม...คนธรรมดาๆ เรียกซะแบ่งชั้นวรรณะเลยนะ อย่าบอกนะว่านายคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชายจริงๆ” โซว์ส่ายหน้าไม่ได้คิด ขิงยิ้ม “ก็ดี เพราะถ้าโลกนี้มีเจ้าชายนิสัยงี่เง่าอย่างนาย จ้างให้ ฉันก็ไม่นับถือ”
โซว์ฟังหน้าเครียด ครุ่นคิดขณะที่ขิงจัดแจงปูที่นอนกับพื้นสำหรับตัวเอง
ooooooo










