สมาชิก

เพลิงพระนาง

ตอนที่ 5

เมืองคุ้มพาน้อยอินทามาฝากไว้กับเจ้าฟ้าเมืองท่าคอยซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง เจ้าฟ้าเต็มใจรับไว้และสั่งมณีหยาดลูกสาวดูแลสหายคนนี้ของเมืองคุ้ม

เมื่อเจ้าฟ้ารู้เรื่องบุรพคามให้โจรปล้นสะดมราษฎรจนเดือดเนื้อร้อนใจทุกหย่อมย่านก็ไม่ชอบใจ รับปากจะช่วยหาทางแก้ไข แต่ตอนนี้ขอให้พวกเมืองคุ้มพักผ่อนก่อนแล้วค่อยออกเดินทาง

หลังจากพักผ่อนกันเต็มที่ เมืองคุ้มและสองทหารเอกก็หารือเจ้าฟ้าเพื่อคิดการใหญ่ล้มล้างบุรพคามด้วยเล่ห์เพทุบายเป็นกลศึก จะใช้แต่กำลังไพร่พลอย่างเดียวไม่ได้...

ส่วนที่เมืองทิพย์ อนัญทิพย์ดีใจที่ได้ยินข่าวเมืองคุ้มกำลังจะกลับมา เช่นเดียวกับตองนวลที่ดีใจเหลือล้นจนพวกข้าไทเอามาโจษขานถึงหูสำเภางาม จึงได้ยินนางประกาศกร้าวว่า ไม่มีวันรับตองนวลหรืออนัญทิพย์มาเป็นสะใภ้อย่างแน่นอน

ด้านอนัญทิพย์หลังได้ยินสำเภางามพูดว่าเมืองคุ้มกำลังจะกลับมา นางรอคอยเขาตรงหน้าคุ้มโดยให้บัวไหลเป็นหูเป็นตาอีกคน แต่ผ่านไปจนมืดค่ำก็ยังไร้วี่แวว

เมืองคุ้มกลับมาพร้อมทหารเอกในวันรุ่งขึ้น พวกเขาตรงไปที่คุ้มของคะนอง เมืองคุ้มไหว้วานเครือออนไปนัดหมายอนัญทิพย์ คะนองไม่ได้ยินว่าสองคนพูดสิ่งใดกันแต่เฝ้ามองด้วยความสงสัย

เมื่ออยู่กันตามลำพังพี่น้อง เมืองคุ้มบอกคะนองเรื่องเจ้าฟ้าเมืองท่าคอยเต็มใจให้ความร่วมมือกับตนเพื่อยึดอำนาจคืนจากบุรพคาม คะนองค่อนข้างตกใจ ท้วงพี่ชายว่าคิดดีแล้วหรือ

“ถ้าเจ้าหลวงไม่อยู่ในทศพิธราชธรรม เราก็ไม่ต้องไหว้สาเจ้าหลวงอีกต่อไป แต่ข้าก็ยังหาวิธีที่จะเข้าถึงตัวเจ้าหลวงไม่ได้”

คะนองพูดไม่ออก สีหน้าหนักใจอย่างเห็นได้ชัด... เวลานั้นสำเภางามตามเสกขรเทวีมาเฝ้าบุรพคาม เสกขรเทวีขอเจ้าหลวงหาทางรับศึกดั้งขอ เกรงว่าหากเมืองคุ้มเป็นอะไรไปเมืองทิพย์จะขาดกำลังสำคัญ บุรพคามไม่พอใจมาก ด่าว่าสำเภางามแล้วคาดโทษมายังเมืองคุ้ม พอคนเป็นแม่รู้ว่าลูกชายกลับมาก็ยิ่งเป็นห่วง

สำเภางามไปพบเมืองคุ้มที่คุ้มของคะนอง ส่วนตองนวลก็กำลังเร่งรีบเพื่อให้ได้พบเมืองคุ้มชายที่ตนหมายปอง แต่เก็ตถวากับแก้วอากาศมาดักหน้าถามตองนวลว่าระหว่างพ่อกับเมืองคุ้มตนสองคนอยากรู้ว่านางจะไปหาผู้ใดก่อน

ตองนวลนึกได้ว่าใช้เฟืองไปขอความช่วยเหลือจากพ่อซึ่งเป็นเจ้าฟ้าเมืองมีดไว้จึงรีบมาพบพ่อ ร่ำไห้ว่าใจลูกจะแหลกสลายถ้าเจ้าพ่อไม่มาช่วย

“ไม่ต้องพูดอันใดทั้งนั้น อีเฟืองมันเล่าให้พ่อฟังหมดแล้ว”

“เจ้าพ่อต้องกราบทูลเจ้าหลวงให้ลงอาญาอีทิพย์ให้ได้ ให้มันต้องถูกเนรเทศออกไปจากเมืองทิพย์ยิ่งดีเจ้าค่ะ มันทำลูกของเจ้าพ่อเจ็บปวดนักเจ้าค่ะ”

“วางใจพ่อเถิด พ่อรู้ว่าจะจัดการกับเจ้าหลวงที่มีจิตใจโลภอย่างใด”

“เจ้าพ่อ...แล้วของที่ลูกต้องการล่ะ”

“ไว้กลางคืนก่อน พ่อจะให้คนของพ่อจัดการให้เจ้าเอง”

ตองนวลยิ้มพราย พึงพอใจเป็นที่สุด

ooooooo

คะนองรู้สึกผิดสังเกตเมื่อเห็นสำเภางามกอดเมืองคุ้มและพูดจาแปลกๆ ขอให้อยู่แต่ในคุ้มราวกับจะมีเรื่องร้าย

แต่เมื่อสองลูกชายขอร้องให้บอกเหตุผล สำเภางามก็จำต้องพูดเรื่องที่บุรพคามคิดกำจัดเมืองคุ้มกับคะนองเพราะเชื่อว่าพวกเขาจะก่อขบถ ซึ่งนางไม่มีวันยอมให้เจ้าหลวงทำอะไรลูกของตนได้...

ตองนวลเอารัตนชาติสีสวยมาล่อตาล่อใจเฟื้อแฝงจนเจ้าฟ้าเมืองมีดพ่อของตนได้เข้าเฝ้าเจ้าหลวงบุรพคาม เจ้าฟ้าพูดจายกยอปอปั้นแถมมีรัตนชาติล้ำค่ามาเป็นของกำนัล แลกกับเจ้าหลวงต้องลงอาญาอนัญทิพย์ที่รังแกตองนวลลูกสาวของตน

แน่นอนว่าบุรพคามผู้โลภโมโทสันตกปากรับคำทันที เพราะลึกๆตัวเองก็เคียดแค้นอนัญทิพย์อยู่เป็นทุน กอปรกับอนัญทิพย์มีความผิดใหญ่หลวงที่เพิ่งทราบเรื่องว่านางแอบเอาร่มประดับเกียรติสีขาวเก้าคันมาซ่อนไว้ใต้คุ้มเพื่อทำการใหญ่

ที่แท้เรื่องร่มเป็นฝีมือของตองนวลกับเจ้าฟ้าเมืองมีดที่ร่วมมือกันสั่งช่างทำแล้วแอบเอามาโยนความผิดให้อนัญทิพย์ ซึ่งช่วงเวลานั้นอนัญทิพย์กับเมืองคุ้มกำลังพลอดรักกันอยู่ที่กู่ของเจ้าหลวงปิตุลาหลังจากเครือออนนัดหมายให้

เฟื้อแฝงนำดวงฤทธิ์กับดวงเดชมาเล่นงานเมืองคุ้มกับอนัญทิพย์ แต่เมืองคุ้มฟันหน้าดวงฤทธิ์เลือดอาบก่อนหนีไปได้ คะนองสั่งขุนห่มฟ้ากับขุนแสงฟ้าตามอารักขาพี่ชายตน ส่วนอนัญทิพย์ถูกจับไว้เพื่อรอลงอาญา เสกขรเทวีเสียใจและเป็นห่วงญาติผู้น้องอย่างยิ่ง ขณะที่สำเภางามก็ห่วงเมืองคุ้มไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

เสกขรเทวียืนยันจะช่วยอนัญทิพย์ แต่สำเภางามติงว่าจะทำให้เจ้าหลวงกริ้วกว่าเก่า ตองนวลลอยหน้าเข้ามาพร้อมเก็ตถวา แก้วอากาศ และเฟือง ได้ยินการสนทนาของสองคน ตองนวลก็จีบปากพูดอย่างสะใจ

“หากแม้นจะปรารถนาช่วยอีทิพย์ เห็นทีพระนางหน่อเจ้าจะต้องทรงผิดหวังเจ้าค่ะ เพราะความผิดของมันน่ะหนักหนานัก มีแต่ต้องตัดหัวเพียงอย่างเดียว”

“เจ้าทิพย์ผิดอันใด...บอกข้าได้หรือไม่ ตองนวล”

“อุ๊ย...ไปกราบทูลถามเจ้าหลวงเองเถิดเจ้าค่ะ... ไปอีเฟือง”

สองนายบ่าวผละไปแล้ว เสกขรเทวีหันมาทางเก็ตถวาและแก้วอากาศ ทั้งสองรีบส่ายหน้า โบกมือปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องอันใด...

ooooooo

บัวไหลเกาะลูกกรงตรุน้ำหูน้ำตาไหลมอง อนัญทิพย์ที่อยู่ข้างในด้วยความสงสาร แต่สีหน้าท่าทาง อนัญทิพย์มิได้สะทกสะท้านอย่างใด พูดด้วยความแค้นเคืองเสกขรเทวีที่ได้ข่าวว่าจะช่วยเหลือ

“บอกมันด้วยว่าไม่สามารถลบล้างความผิดที่พี่ของมันทำกับพ่อข้าและก็ตัวข้าได้ดอก”

“โธ่ เจ้านาง...ข้าเจ้าว่าดีกว่าเจ้านางต้องถูกขังอยู่ในตรุนะเจ้าคะ”

“ต่อให้กูต้องตาย กูจะไม่ยอมไหว้สามัน อย่าหมายเอาบุญคุณมากดหัวกู ให้กูตายในตรุนี่แหละ กูไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากมันดอก”

บัวไหลนิ่งไปอย่างอ่อนใจกับความเด็ดเดี่ยวของเจ้าทิพย์...

ในที่สุดเสกขรเทวีกับสำเภางามก็มาเฝ้าเจ้าหลวงบุรพคามที่คุ้มหลวง ตองนวลกับเฟืองมาทีหลัง มองขบวนเสลี่ยงหลวงด้วยความไม่พอใจ นึกรู้ว่าเสกขรเทวีต้องมาช่วยอนัญทิพย์แน่

ภายในคุ้มหลวง บุรพคามแสดงท่าทีไม่ชอบใจกับความวุ่นวายของเสกขรเทวีที่มาซักไซ้ไล่เรียงว่าอนัญทิพย์มีความผิดอันใดจึงต้องไปจับตัวในยามวิกาล

บุรพคามฟังคำถามจากเสกขรเทวีแล้วมองเลยไปยังสำเภางามอย่างเกลียดชัง

“ถ้าอยากรู้นักก็ต้องแลกกับชีวิตอีสำเภางาม”

“เจ้าพี่...ทรงลืมไปแล้วหรือเจ้าคะว่าเจ้าป้ามีพระคุณต่อเราสองคน เจ้าป้าเคยเลี้ยงเรามา ไยเจ้าพี่จึงทรงลืมได้”

“อย่าโง่สิเสกขร...มันแลกกันไม่ได้ดอกกับความผิดที่ไอ้เมืองคุ้มมันทำกับเราสองคน”

“เมืองคุ้มทำอันใด ข้าหาแจ้งใจไม่”

“อย่ามาย้อนถามข้านะ ลูกเจ้าทำอันใด เจ้าจะไม่รู้ไม่เห็นเลยรึ ผมสองสีแล้วตรองเอาเองเถิด นี่เพราะเห็นแก่ความเป็นญาติ หาไม่ข้าสั่งประหารเจ็ดชั่วโคตรแล้ว”

สำเภางามนิ่งอึ้ง เสกขรเทวีอยากรู้เช่นกันว่าเมืองคุ้มทำอะไรให้เจ้าหลวงโกรธเคืองจึงถามสำเภางาม แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน มิหนำซ้ำยังกลายเป็นยอกย้อนบุรพคามจนโดนตบหน้าหัน

เสกขรเทวีตกใจมากกับความหยาบดิบของบุรพคาม ลุกยืนกางกั้นไม่ยอมให้เขาทำอะไรสำเภางามอีก เลยโดนบุรพคามผลักล้มลง สำเภางามตกใจผวาไปกอดนางไว้ด้วยความเป็นห่วง

“พระนางเจ้า...เป็นอย่างใดบ้างเจ้าคะ”

“หลีกไปเจ้าป้า”

“แม้นเจ้าหลวงโกรธเคืองข้าก็ทำร้ายข้าเถิด อย่าทำให้พระนางหน่อเจ้าหลวงต้องเจ็บพระวรกายเลย”

“มึงไม่ต้องมาพูดดีกับกู...สัญชาติมึงหาคิดดีกับกูไม่ หมายจะให้ลูกชายนั่งบัลลังก์ตั่งทองแทนกู ซ้ำไอ้เมืองคุ้มยังคบคิดกับอีทิพย์ยึดอำนาจจากเจ้าอีก เสกขรตาสว่างได้แล้ว แค่นี้ข้ามีเหตุผลที่จะโกรธมันได้หรือยัง”

“ไม่จริง...ข้าไม่เชื่อ...เมืองคุ้มหรือจะคบคิดกับเจ้าทิพย์”

“ไอ้เมืองคุ้มมันยังกล้าทำร้ายคนของข้าจนบาดเจ็บ ไอ้เฟื้อแฝงบอกให้เสกขรกับสำเภางามรู้ซิว่าไอ้เมืองคุ้มมันทำอันใดลงไป”

“เจ้าเมืองคุ้มฟันหน้าท่านดวงฤทธิ์ ราชองครักษ์ของเจ้าหลวงถึงกับตาบอดข้างหนึ่งพระเจ้าข้า”

สำเภางามและเสกขรเทวีตกใจ...เวลานั้นดวงฤทธิ์นอนซมในห้องที่คุ้มหลวง ดวงเดชเฝ้าดูแลด้วยความเป็นห่วงและโวยวายเคียดแค้นเมืองคุ้มที่ทำให้พี่ชายตนตาบอดไปข้างหนึ่ง

บุรพคามก็เจ็บแค้นไม่น้อยไปกว่าสองโจรป่า คำรามคาดโทษสำเภางาม “จำใส่หัวไว้ แม้นทหารของข้าจับตัวไอ้เมืองคุ้มไม่ได้ กูจักเอาตัวมึงมาจำตรุแทนมัน”

สำเภางามมองหน้าบุรพคามนิ่งไม่ตอบโต้...เสกขรเทวีร้อนรนแทน

“เจ้าหลวงจะไม่ทรงไต่สวนดูก่อนรึว่าเรื่องราวเป็นอย่างใดแน่ ข้ายังกังขานักว่าที่เจ้าทิพย์หมายยึดอำนาจข้า ทรงหมายความว่าอย่างใด”

“อีทิพย์ให้คนทำร่มขาวประดับเกียรติเก้าคันซ่อนไว้ใต้ถุนคุ้ม มันคิดจะให้ไอ้เมืองคุ้มนั่งบัลลังก์ตั่งทองแทนข้า แล้วตัวมันจะเป็นพระนางหน่อเจ้าเสียเองน่ะสิ”

สำเภางามส่ายหน้า ร่ำไห้และร่ำร้องว่าไม่จริง บุรพคามโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขับไล่ไสส่งเสียงดังคับคุ้ม

“จริงหรือไม่จริงก็ไสหัวไปจากคุ้มกู!”

เสกขรเทวีกับสำเภางามจนปัญญา ถอยกลับออกมาด้วยความผิดหวัง

ooooooo

ที่หน้าคุ้มหลวง พวกตองนวลยังคงเฝ้ารอเพราะอยากรู้ว่าเสกขรเทวีจะช่วยอนัญทิพย์ได้หรือไม่ รอไปรอมาก็หาเรื่องทะเลาะกับริมบึงสาวใช้ของเสกขรเทวีอีกจนได้

ริมบึงปากร้ายใช่ย่อย ยอกย้อนไม่ลดราวาศอกทำให้ตองนวลโกรธขึ้งถึงกับจะตบตี แต่พอดีเสกขรเทวีกับสำเภางามกลับออกมาเห็น

“หยุดนะ!” เสกขรเทวีปรามเสียงเขียว สีหน้าเอือมระอาเป็นที่สุด “ตบตีกันในคุ้มหลวงโทษถึงประหาร ชีวิต เจ้านางตองนวลน่าจะรู้อยู่แก่ใจดี เป็นถึงธิดาเจ้าฟ้าเมืองมีด กฎมณเฑียรบาลนี้หารู้ไม่”

“ข้าจะตบสั่งสอนอีริมบึง ข้าเป็นเจ้า มันเป็นขี้ข้า ข้าต้องมีสิทธิ์ลงอาญามันได้”

“ริมบึงเป็นคนของข้า ถ้าข้าตบอีเฟือง เจ้าจะเดือดเนื้อร้อนใจหรือไม่เล่า”

เฟืองหน้าเสีย รีบกระซิบตองนวลว่าตนไม่ยอมถูกตบ

“เฉยเถิดอีเฟือง” ตองนวลตวาดคนของตนแล้วหันมองเสกขรเทวีตาขวาง “พระนางหน่อเจ้าหลวงจะเอาข้าไปเปรียบกับอีริมบึงมิได้ มันกับข้าคนละชั้นกัน”

“ถ้าคิดว่าตัวสูงกว่า ก็ต้องทำตัวให้สูงด้วยสิตองนวล เหตุใดจึงลดตัวลงต่ำเสมอคนที่เจ้าดูแคลนด้วยเล่า ลองใช้สมองตรองดูเถิด”

ตองนวลเถียงไม่ออกแต่ท่าทียังไม่สลด เชิดหน้าท้าทายขณะเสกขรเทวีกับสำเภางามนั่งเสลี่ยงผ่านไป

เก็ตถวากับแก้วอากาศบ่นเสียดายที่ตองนวลไม่ได้ตบริมบึงสักฉาดสองฉาด จะได้รู้ว่าพระนางหน่อเจ้าจะว่าอย่างไร

“เก็ตถวา แก้วอากาศ...อยากเห็นอีริมบึงถูกข้าตบหรือว่าอยากเห็นข้าถูกเสกขรมันลงอาญาข้ากันแน่”

ตองนวลกรีดเสียงรู้ทัน สองคนนั้นปฏิเสธกันใหญ่ อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนตองนวล ยินดีช่วยทุกเรื่อง รวมทั้งเรื่องเมื่อคืน ถ้าไม่ดูต้นทางให้มีหรือที่ทหารเจ้าฟ้าเมืองมีดจะเอาร่มสีขาวไปใส่ไว้ใต้คุ้มเจ้าทิพย์จนสำเร็จ

พูดเสร็จก็ทวงบำเหน็จรางวัล ตองนวลหน้าม้านสะบัดเสียงว่าได้แน่ แต่เจ้าสองคนก็อย่าเผลอปากสว่างไป...

ออกจากคุ้มหลวงแล้วแทนที่จะกลับคุ้มของตน เสกขรเทวีให้พลเสลี่ยงพาไปยังตรุจองจำอนัญทิพย์ สำเภางามทัดทานก็ไม่ฟัง

อนัญทิพย์ไม่ยินดียินร้ายแถมยังต่อว่าต่อขานเหมือนเดิมว่าเสกขรเทวีกับบุรพคามปล้นตำแหน่งของตนและพ่อไปอย่างใจดำอำมหิต หน้าไว้หลังหลอก คิดหาเรื่องตนแล้วจะมาทำดีเอาบุญคุณ

“เอาสิ...ร่วมมือกับพี่เจ้าสั่งประหารชีวิตข้าเลย เพลานี้เลยก็ได้ ข้าพร้อมจะตายเซ่นแผ่นดินเมืองทิพย์”

สำเภางามทนไม่ได้ตวาดปรามอนัญทิพย์แล้วให้ริมบึงพาเสกขรเทวีกลับคุ้ม พอสองคนนั้นคล้อยหลังสำเภางามก็ลั่นวาจาอาฆาตพยาบาทอนัญทิพย์ต่อหน้าบัวไหลก่อนเดินลิ่วกลับไป

“จำไว้นะอีทิพย์ ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะถือว่าเจ้าเป็นศัตรูของข้าไปตลอดชีวิต”

บัวไหลเจ็บใจแทนเจ้านาย บ่นอุบว่าเจ้าสำเภางามไม่น่าเป็นแม่ของเจ้าเมืองคุ้มเลย

“ก็ให้มันรู้ไป ข้ารักเจ้าพี่เมืองคุ้มก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องรักแม่ของเจ้าพี่ด้วย ข้าก็จะถือว่าเจ้าสำเภางามเป็นศัตรูของข้าด้วยเช่นกัน” อนัญทิพย์กล่าวดุดัน ท่าทีแข็งกร้าวไม่แพ้สำเภางาม

ooooooo

กลับถึงคุ้มแล้วเสกขรเทวียังบ่นเรื่องเจ้าทิพย์ไม่เว้นวาย ไม่เชื่อว่านางกับบัวไหลซึ่งเป็นหญิงตัวเล็กๆ จะก่อการใหญ่หมายโค่นล้มเจ้าหลวงบุรพคาม

“เจ้าหลวงทรงแจ้งใจว่าเมืองคุ้มลูกข้าเป็นคนช่วยเจ้าทิพย์”

“รับศึกดั้งขอจนแทบเอาตัวไม่รอด เจ้าพี่เมืองคุ้มจักเอาเพลาใดไปคิดทำเช่นนี้ได้”

สำเภางามนิ่งไปนิด เพราะแท้จริงแล้วเป็นเช่นนั้น ...เสกขรเทวีหนักใจและยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรต่อไป สำเภางามเห็นใจจึงเตือนหลานรักให้พักผ่อนเสียบ้าง สั่งริมบึงให้คอยดูแล...

ทางด้านเมืองคุ้มที่หนีการจับกุมของบุรพคามไปพักชายป่า บัดนี้ห่มฟ้ากับแสงฟ้าและทหารจำนวนหนึ่งตามมาทันเพื่ออารักขาตามคำสั่งของเจ้าคะนอง แต่เมืองคุ้มกลับเป็นห่วงเจ้าทิพย์ สั่งขุนห่มฟ้าและทหารกลับไปสืบข่าว ส่วนขุนแสงฟ้าให้อยู่กับตนที่นี่

ฝ่ายเครือออนที่ขัดคำสั่งสำเภางามช่วยเหลือเมืองคุ้ม กับอนัญทิพย์ให้ได้พบกัน ยามนี้กำลังโดนสำเภางามคาดคั้นจะเอาผิด คะนองเลยต้องมาไกล่เกลี่ย ซึ่งเครือออนยอมรับว่าตนแค่ทำตามคำขอของเมืองคุ้มนัดเจ้าทิพย์ไปพบที่กู่เจ้าหลวงปิตุลา แต่เรื่องทำร่มสีขาวเก้าคันไปซ่อนใต้คุ้มเจ้าทิพย์ตนไม่รู้เห็น...

ตองนวลเร่งวันเร่งคืนให้บุรพคามประหารชีวิตอนัญทิพย์ด้วยการเอาสินบนมาให้มากกว่าเก่า แล้วพูดจาให้ร้ายอนัญทิพย์ว่าจ้องทวงบัลลังก์ของพ่อคืน

บุรพคามโกรธเกลียดอีกฝ่ายอยู่แล้วจึงสั่งเฟื้อแฝงนำตัวอนัญทิพย์ไปตัดหัวก่อนตะวันลับฟ้าในวันนี้

ระหว่างทางที่เฟื้อแฝงนำตัวอนัญทิพย์ใส่ขื่อคาและใส่คอกแห่ประจานไปรอบเมืองนั้น ตองนวลตามมาเยาะหยันด้วยความสะใจ ฝ่ายเสกขรเทวีพอรู้เรื่องก็ตกใจเร่งรีบออกจากคุ้ม ส่วนบัวไหลร่ำไห้น้ำตานองหน้าเป็นห่วงเจ้าทิพย์นายของตน จนกระทั่งไปเจอขุนห่มฟ้าที่กลับมาดูลาดเลาเพื่อช่วยอนัญทิพย์ตามคำสั่งของเมืองคุ้ม

เสกขรเทวีตามมาขวางทางพวกเฟื้อแฝงที่กำลังทรมานเจ้าทิพย์ราวกับสัตว์ก็ไม่ปาน แต่ไม่ว่านางจะพูดอย่างไรเฟื้อแฝงก็ไม่ยอมปล่อยอนัญทิพย์ อ้างเป็นรับสั่งของเจ้าหลวง ต้องประหารชีวิตเจ้าทิพย์ก่อนตะวันตกดิน

“ตะวันเพิ่งตรงหัว เอาเถอะ ข้าจะไปพูดกับเจ้าหลวงเอง เจ้าไม่ต้องเคลื่อนขบวนไปที่ใดดอกนะ รอข้าอยู่ที่นี่”

สั่งเสร็จเสกขรเทวีจะรีบไป แต่ต้องหยุดชะงักกับเสียงเรียกของอนัญทิพย์

“เสกขร...ถ้าเจ้าอยากช่วยข้าจริงละก็ ก่อนตายข้าขอไปไหว้สาพ่อข้า เจ้าจะให้ไอ้เฟื้อแฝงทำให้ข้าได้หรือไม่เล่า”

“เฟื้อแฝงทำตามอย่างที่เจ้านางอนัญทิพย์ต้องการด้วย”

เฟื้อแฝงรับคำสั่ง แต่ไม่ยอมให้อนัญทิพย์ออกจากคอกขังมาไหว้กู่เจ้าหลวงปิตุลา ฝ่ายเสกขรเทวีรีบไปวิงวอนขอร้องบุรพคามให้ยกเลิกคำสั่งประหารชีวิตเจ้าทิพย์

บุรพคามโกรธแต่พยายามระงับไว้ พูดดีแต่ก็เจือความหงุดหงิด

“เสกขร...น้องลืมแล้วเหรอว่าอีทิพย์มันหมิ่นเกียรติน้องแค่ไหน น้องดูรัตนชาติพวกนี้สิ ไอ้พวก

เจ้าเมืองน้อยใหญ่ แค่มันมีรัตนชาติเม็ดใหญ่เกินไปมันยังต้องมาให้พี่ เพราะอะไรเล่า ก็เพราะบารมีของมันทัดเทียมพี่ไม่ได้ แล้วการกระทำของอีทิพย์เล่า มันจงใจหมิ่นน้องชัดๆ มันถึงสรรหาเครื่องประดับเกียรติเทียมน้อง”

“เจ้าทิพย์ทำจริงหรือไม่ ก็ยังไม่ได้ไต่สวน”

“มันไม่ทำ แล้วผู้ใดจะทำเล่า...เจ้าเป็นน้องพี่นะ เป็นพระนางหน่อเจ้าหลวงของเมืองทิพย์ เจ้าอย่าโง่สิเสกขร ที่สำคัญปล่อยมันไว้ไม่ได้เพราะมันคิดเสมอว่าเราแย่งบัลลังก์มัน”

“ถ้าเจ้าพี่จะประหารชีวิตเจ้าทิพย์จริง น้องก็คงขัดเจ้าพี่ไม่ได้ แต่น้องขอความเมตตาจากเจ้าพี่สักอย่างได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ได้สิ เว้นแต่ขอชีวิตมันเท่านั้น”

“วันนี้วันโกน วันพรุ่งเป็นวันพระใหญ่ พระจันทร์เต็มดวงทั้งเมืองทิพย์เต็มไปด้วยการบุญ เจ้าพี่จะประหารชีวิตเจ้าทิพย์ น้องเกรงจะไม่ควรเจ้าค่ะ”

“แล้วเจ้าจะให้พี่ทำอย่างใด”

“เจ้าทิพย์ก็ไร้ญาติ ไร้มิตร ตัวคนเดียวแท้ๆ ถ้า เจ้าพี่จะเนรเทศเจ้าทิพย์แทน ก็เท่ากับได้ปล่อยสัตว์ผู้ยาก”

“ปล่อยสัตว์เรอะ”

“เจ้าค่ะ พระบารมีก็จะเพิ่มพูน อายุยืนยาวเจ้าค่ะ”

บุรพคามรับฟังเหตุผลนั้นแล้วไตร่ตรอง ครู่เดียวก็ระบายยิ้มเห็นคล้อยตาม

ooooooo

ตองนวลตามมาเยาะเย้ยเหยียดหยามอนัญทิพย์ถึงกู่เจ้าหลวงปิตุลาจนเกิดมีปากเสียงแล้วโดนอนัญทิพย์ถ่มน้ำลายใส่หน้า ทำให้ความแค้นแน่นอกถึงกับเร่งเฟื้อแฝงให้ตัดหัวนาง แลกกับของกำนัลอย่างงามที่ตนจะมอบให้

สำเภางามตามมาดูเหตุการณ์ เมื่อเห็นเสกขรเทวีย้อนกลับมาอีกครั้งก็พยายามดึงรั้งไม่ให้ยุ่ง แต่ไม่เป็นผล เพราะเสกขรเทวีมาพร้อมคำสั่งเจ้าหลวงให้ปล่อยตัวอนัญทิพย์แล้วเนรเทศไป

อนัญทิพย์ได้รับการปล่อยตัว แต่ไม่สำนึกในบุญคุณของเสกขรเทวี บังคับให้นางกราบไหว้กู่เจ้าหลวงปิตุลาต่อหน้าทุกคน

“เจ้าพ่อเจ้าคะ ขอดวงวิญญาณของเจ้าพ่อจงมารับข้าด้วยเถิด ข้าอยากไปอยู่กับเจ้าพ่อ วิญญาณเราทั้งสองจะได้ทำให้ไอ้พวกที่มันปล้นบัลลังก์ตั่งทองของเราไปพินาศล่มจม พวกมันจะต้องพินาศ วิญญาณของข้ากับของเจ้าพ่อจะตามอาฆาตจองเวรกับมันไม่มีวันสิ้นสุด...เสกขร กราบลงพร้อมข้า ไหนๆเจ้าก็เล่นละครทำดีกับข้าแล้วไม่ใช่หรือ”

อนัญทิพย์ก้มลงกราบที่พื้น เสกขรเทวีกราบตาม ผู้คนรายรอบต่างก็ตกใจ คาดไม่ถึงว่าพระนางหน่อเจ้าจะทำอย่างนั้น

สำเภางามทนไม่ไหว ปราดไปประคองเสกขรเทวี ลุกขึ้น พลางตวาดอนัญทิพย์ด้วยความโมโห

“พอแล้วนะอีทิพย์...หยาบหยามต่อพระนางเจ้ามากเกินไปแล้ว”

“ไม่มากดอกเจ้าค่ะ แค่กราบไม่ถึงตาย แต่พ่อข้าสิ พ่อข้าตายเถ้ากระดูกอยู่ในกู่นั่น หรือว่าเจ้าสำเภางามจะสำนึกผิดตามพระนางหน่อเจ้าหลวงด้วยอีกคน ถ้าสำนึกนักก็กราบพ่อข้าสิ”

“อีทิพย์!”

สำเภางามจ้องหน้าอนัญทิพย์เขม็ง เสกขรเทวีรีบรวบรัดก่อนเรื่องราวจะบานปลายไปกว่านี้

“ใกล้ค่ำวันนี้เนรเทศเจ้าทิพย์ลอยแพไปแทนการประหาร นี่คือพระราชบัญชาของเจ้าหลวง”

“หวังว่าเจ้าคงพอใจนะ จำใส่หัวไว้ บุญคุณของพระนางหน่อเจ้าหลวงครานี้ เจ้าตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ชดใช้ไม่หมด” สำเภางามสำทับก่อนตามเสกขรเทวีกลับไป

ขุนห่มฟ้าและทหารติดตามซุ่มดูอยู่ห่างๆ แล้วค่อยๆถอยฉากออกมาวางแผนกับคะนองเพื่อช่วยเจ้าทิพย์...

ตะวันใกล้ตกดิน เสกขรเทวีผุดลุกผุดนั่งด้วยความสงสารอนัญทิพย์ ในที่สุดก็บอกริมบึงว่าตนจะไปส่งเจ้าทิพย์

ริมบึงอยากทัดทานแต่ไม่กล้า จึงแอบไปบอกสำเภางาม เพียงครู่เดียวสำเภางามก็เดินลิ่วเข้ามาเบื้องหน้าเสกขรเทวี

“พระนางเจ้า...เห็นริมบึงมันว่าพระนางเจ้าจะไปส่งเจ้าทิพย์”

“ใช่เจ้าป้า ข้ารู้สึกว่าได้ทำผิดกับเจ้าทิพย์ไว้มาก”

“ผิดอย่างใด ที่ผ่านมาข้าเห็นพระนางเจ้าทำดีต่อเจ้าทิพย์มาตลอด แต่เจ้าทิพย์ไม่เคยเห็นความดีของพระนางเจ้าเลย”

เสกขรเทวีรับฟังแต่ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ สั่งริมบึงไปจัดเสลี่ยง แต่ริมบึงละล้าละลัง ส่งสายตาขอความเห็นจากสำเภางาม

“พระนางเจ้า...ทุกคนในเมืองทิพย์จะคิดอย่างใดเจ้าหลวงทรงสั่งเนรเทศมัน แต่พระนางเจ้ากลับไปส่งคนทำผิด”

ฟังเหตุผลนั้นของเจ้าป้าแล้วเสกขรเทวีถึงกับถอนใจ นั่งลงอย่างเดิม

ooooooo

เพลิงพระนาง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด