สมาชิก

เพลิงพระนาง

ตอนที่ 20

ปิ่นมณีมีปัญหากับทองพญาที่วัดหลวง เนื่องจากพบว่าเรณุมาศแอบมาไหว้พระที่วัดจึงหาเรื่อง

สำเภางามเป็นห่วงทองพญาตามมาเห็นเหตุการณ์และตบหน้าปิ่นมณีที่ก้าวร้าวตนอย่างรุนแรง ทำให้ปิ่นมณีแค้นใจและคิดกำจัดสำเภางาม

ด้านเมืองคุ้มกับเสกขรต้องย้ายออกไปอยู่คุ้มใหม่ ริมบึงเป็นห่วงขอตามมาอยู่ด้วย เพราะยามนี้อนัญทิพย์ ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ สั่งได้แม้กระทั่งเจ้าหลวงม่านฟ้า

อนัญทิพย์แนะนำเชิงบังคับให้ท้าววงษาอยู่ใกล้ชิดราชองครักษ์ ส่วนขุนเวียงให้ดูแลบ้านเมืองทั่วไป อนัญทิพย์หลงระเริงว่าตนเองกุมอำนาจเบ็ดเสร็จได้แล้ว โดยไม่รู้ว่าเมืองคุ้มมาหาม่านฟ้าและแนะนำการปกครองให้หลายอย่าง ทำให้ม่านฟ้าเปลี่ยนไป

วันออกว่าราชการที่หอคำ ม่านฟ้ามีความเข้มแข็งขึ้น แต่งตั้งให้เมืองคุ้มเป็นพระราชาธิบดี เสกขรเป็นเจ้านางหลวงเมืองทิพย์ ทองพญาและคะนองยังคงตำแหน่งเดิมคือพระนางหน่อเจ้าหลวงกับอุปราชหอหน้าตามลำดับ แล้วยังตั้งยอดพุ่มเป็นพระราชมารดาหลวง ครองภพกับปะแดงเป็นแม่ทัพหลวง สำเภางามเป็นพระพันปีอย่างเดิม

อนัญทิพย์เสียใจที่ตนไม่มีตำแหน่งใด แต่ระงับอารมณ์ไว้ ต่างจากปิ่นมณีที่ทนไม่ได้ลุกขึ้นโวยวายว่าเจ้าหลวงไม่ยุติธรรม แม่ของตนส่งเสริมให้เขาเป็นเจ้าหลวงแล้วทำไมไม่ปูนบำเหน็จให้พวกตน

“ข้ากำลังจะปูนบำเหน็จเจ้า ปิ่นมณี...เจ้าจะพอใจที่ได้เป็นพระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์หรือไม่”

“เจ้าพี่...เป็นพระมหากรุณาธิคุณแห่งข้านักเจ้าค่ะ”

“ส่วนสนมเอกนั้นข้าขอตั้งให้เจ้านางเรณุมาศเพียงผู้เดียวเท่านั้น”

ปิ่นมณีหันขวับไปที่เรณุมาศ นัยน์ตาขุ่นขวางไม่พอใจ แต่จำต้องระงับความรู้สึกไว้เมื่อได้ยินม่านฟ้า กล่าวต่อไปว่า

“หากเจ้าคัดค้านเพราะอยากได้ ข้าจะให้เรณุมาศเป็นพระมหาเทวีเจ้าแทน ส่วนเจ้าจะได้เป็นพระสนมเอก”

ปิ่นมณีโกรธมากแต่ทำอะไรไม่ได้ อนัญทิพย์รวบรัดให้สองคนขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งของตนตามที่เจ้าหลวงรับสั่ง

ตองแปงเสียดายเรณุมาศ ฮึดฮัดชี้หน้าด่าม่านฟ้าเอ็ดอึง

“เจ้าก็รู้ว่าข้าหมายปองเรณุมาศ ไยเจ้าจึงทำเยี่ยงนี้ คอยดูนะ เจ้าตาข้ามาเมื่อใด ข้าจะให้เจ้าตาปลดเจ้าลงแล้วข้าจะไปนั่งอยู่ที่นั่นเอง”

ม่านฟ้าลุกพรวด สั่งขุนห่มฟ้ากับขุนแสงเมืองกุมตัวไปจำตรุ ตองแปงโวยวายไม่ยินยอม ขณะที่ตองนวลจนปัญญาจะช่วยลูก เอาแต่ร้องไห้โฮ จนโดนอนัญทิพย์เยาะหยัน

“ผู้ใดตายหรือตองนวล วันนี้มีการมงคลนะ ไยเจ้าต้องร้องไห้ด้วยเล่า”

ตองนวลจ้องตอบอนัญทิพย์อย่างเจ็บแค้นใจ ม่านฟ้านั่งลงดังเดิม สำเภางามยิ้มมุมปากพอใจกับการว่าราชการของม่านฟ้า

ooooooo

ปิ่นมณีสมใจกับตำแหน่งพระมหาเทวีเจ้า สั่งข้าไทขนสัมภาระของตนย้ายมาอยู่คุ้มหลวง ส่วนเรณุมาศฐานะสนมเอกก็ต้องย้ายเช่นกัน แต่อยู่กันคนละมุม

เรณุมาศสงบเสงี่ยมเจียมตัว ตรงข้ามกับปิ่นมณีที่วางอำนาจเหลือเกิน บัวไหลก็เป็นไปกับเจ้านาย ดูวุ่นวายเรื่องการย้ายที่อยู่ของปิ่นมณี

ปิ่นมณีคิดข่มน้องเช่นเคย เดินมาเย้ยเรณุมาศทั้งที่น้องนิ่งเงียบแทบไม่มีปากเสียง

“อย่าคิดว่าจะได้ร่วมหอกับเจ้าพี่ ไม่มีทางดอก สนมเอกเยี่ยงเจ้าต้องแห้งตายคาคุ้ม”

“สุดแท้แต่เจ้าพี่เถิดเจ้าค่ะ”

“หน้าซื่อ พูดซื่อ ข้าหวังว่าใจของเจ้าจะเป็นเยี่ยงปาก”

“ข้าไม่เคยชนะเจ้าพี่อยู่แล้ว เจ้าพี่ก็ทราบดี”

“ถ้าเช่นนั้นก็รู้ไว้ด้วยว่าข้านี่แหละเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่ตามมาจองล้างจองผลาญเจ้า...เรณุมาศ”

สาแก่ใจแล้วปิ่นมณีเดินกลับ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นม่านฟ้าเข้ามาพร้อมยอดพุ่ม

“ไหว้สาแม่พี่เสียสิ เพลานี้เจ้าคือสะใภ้ของแม่ข้าแล้ว”

ปิ่นมณีเลี่ยงไม่ได้ ยกมือไหว้ยอดพุ่มอย่างไม่เต็มใจ

“แม่ข้าจะพำนักอยู่ที่เรือนด้านหลัง ในฐานะพระราชมารดาหลวง หมายใจว่าเจ้าจะนับถือไหว้สาแม่ข้าตลอดไป”

ปิ่นมณีนิ่งเงียบ เรณุมาศเข้ามาไหว้ยอดพุ่มและรับคำด้วยความเต็มใจ

“ข้าจะถวายการปรนนิบัติพระราชมารดาหลวงเองเจ้าค่ะ”

“ขอบใจเรณุมาศ น้ำใจเจ้าช่างงามสมใบหน้า”

ปิ่นมณีตวัดตามองน้องสาวอย่างไม่พอใจแล้วเดินออกไปหน้าคุ้ม ขึ้นนั่งเสลี่ยงชูคอ โดยมีบัวไหลตามติด สักครู่เสลี่ยงของสำเภางามสวนทางมา บัวไหลจัดแจงป่าวร้องทันที

“อ้าว ผู้ใดมีพระยศน้อยกว่าก็หลีกทางสิเจ้าคะ นี่น่ะเสลี่ยงของพระมหาเทวีเจ้านะเจ้าคะ”

“บัวไหลมันพูดถูก พระพันปีมิแจ้งใจหรือเจ้าคะ”

“ข้าเป็นย่าของเจ้าหลวงม่านฟ้า จนตายข้าก็เลิกเป็นย่ามิได้ สายเลือดมันบังคับอยู่ ส่วนเมียน่ะ เจ้าหลวงจะมีอีกกี่คนก็ได้ แต่งตั้งวันนี้ก็ปลดวันพรุ่งได้ จะตกเสลี่ยงเมื่อใดหารู้ไม่ จะสำรอกอันใดออกมาก็ตรองก่อนนะปิ่นมณี...หลีกไป หากไม่หลีก พวกมึงก็ไสเสลี่ยงชนมัน ให้รู้ไปว่าอีหลานที่มีเลือดชั่วข้างแม่มันอยู่เต็มกายจะตบกูตกเสลี่ยงหรือไม่”

บัวไหลหน้าเสีย มองปิ่นมณีอย่างรอคอยคำตอบ

“ถอย...”

ปิ่นมณีสั่งพลเสลี่ยงเสียงแข็ง แล้วจ้องตามเสลี่ยงของสำเภางามที่ผ่านไปด้วยสายตาดุดันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

ooooooo

ปิ่นมณีได้ตำแหน่งพระมหาเทวีเจ้าสมใจ แต่หาได้ความรักจากม่านฟ้าไม่ เพราะใจของม่านฟ้ายังคงอยู่กับเรณุมาศเพียงผู้เดียว ทำให้ปิ่นมณีแค้นใจและพาลโกรธเรณุมาศ คอยระรานพูดจาข่มเหงนางราวกับไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน...

เมื่อเมืองทิพย์มีเจ้าหลวงองค์ใหม่ เป็นธรรมเนียมของเมืองน้อยใหญ่ที่ต้องมาถวายบรรณาการ แต่เจ้าฟ้าเมืองมีดที่มาเมืองทิพย์พร้อมกับนายฮาสไม่ได้มาถวายบรรณาการเช่นเจ้าเมืองอื่น ตองนวลนำเสลี่ยงใหญ่ไปรับแล้วเชื้อเชิญนายฮาสให้นั่งคู่กับตน คนที่เห็นก็โจษจันกันว่าเป็นการผิดจารีต

เจ้าหลวงม่านฟ้า สำเภางาม เมืองคุ้ม และคะนองจำใจต้อนรับเจ้าฟ้ากับนายฮาสที่หอคำ นายฮาสวางอำนาจเหนือกว่าเพราะมีทั้งกำลังพลและอาวุธปืนไฟ ขอเป็นผู้จัดการสัมปทานป่าไม้และทรัพยากรในป่าตามอำเภอใจ แลกกับการไม่ยึดเมืองทิพย์

เมืองคุ้มขอให้ม่านฟ้าโอนอ่อนเพื่อรักษาชีวิตผู้คน ส่วนตองแปงที่ถูกจำตรุก็ถูกปล่อยตัวออกมาตามความต้องการของเจ้าฟ้าเมืองมีด แต่พอออกมาตองแปงก็ช้ำใจเมื่อเห็นตองนวลยอมเป็นเมียนายฮาสเพื่ออำนาจ

พวกเสกขรรับไม่ได้กับการกระทำน่ารังเกียจของตองนวล ทองพญาที่ยังคงตำแหน่งพระนางหน่อเจ้าหลวงเรียกตองนวลมาตำหนิ แต่ตองนวลกลับวางท่าและพูดจาไม่เกรงกลัว ริมบึงทนไม่ไหวมีปากเสียงกับตองนวล ก็ถูกอาฆาตมาดร้าย

“อำนาจอยู่ในมือกูวันใด มึงจะเป็นคนแรกที่กูกำจัด”

ริมบึงจะตอบโต้แต่ทองพญายกมือห้ามและสำทับเสียเอง “ข้าขอเตือนว่าห้ามนำนางข้าไทไปบำเรอพวกดั้งขอเด็ดขาด...แม้แต่นางฟ้อนก็ยังห้ามไปร่ายรำให้พวกมันดู”

“เหตุใดต้องห้ามข้าเยี่ยงนี้ ข้ากำลังรับแขกบ้านแขกเมือง”

“แขกของเจ้านางตองนวลต่างหาก ลำพังเจ้านางคนเดียวก็มัดสวาทนายฝรั่งได้แล้วกระมัง ไปได้แล้ว”

ตองนวลจ้องหน้าทองพญาแล้วผละไปอย่างหัวเสีย ริมบึงก้าวตามมาเย้ยหยัน

“ตองนวลเหย...อยู่ดีไม่ว่าดีก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงสองผัว คืนนี้ข้าคงนอนไม่หลับ สวนดอกคงเป็นสีทองไปทั้งสวนส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วเมืองทิพย์”

ตองนวลฮึดฮัดแต่เห็นทหารยืนอยู่รายรอบและข้าไทที่ตามออกมาก็ไม่กล้าทำอะไร

ooooooo

ค่ำนั้นบัวไหลนำขุนเวียงกับท้าววงษามาพบอนัญทิพย์ในคุ้ม เพราะอนัญทิพย์อยากรู้ว่าเหตุการณ์ที่คุ้มหลวงเป็นอย่างไรบ้าง

“เจ้าหลวงม่านฟ้าทรงอนุญาตให้พวกดั้งขอตัดไม้และขุดอัญมณีที่เชิงเขาได้ตามอำเภอใจ เพื่อแลกกับความผาสุกของราษฎร ตามคำแนะนำของเจ้าเมืองคุ้มพระเจ้าข้า”

“เจ้าพี่คงรู้ มองออกว่าม่านฟ้าอ่อนแอ หาเป็นตัวของตัวเองไม่”

“กว่าจะสิ้นรัชกาลนี้ สมบัติของเมืองทิพย์คงถูก พวกดั้งขอผลาญหมดพระเจ้าข้า”

“ข้าไม่ยอมให้เป็นเยี่ยงนั้นดอก”

“เจ้านางมีกลอย่างใดในใจ ก็บัญชามาเถิดพระเจ้าข้า”

“ยกม่านฟ้าขึ้นเป็นเจ้าหลวง นึกว่าจะสยบในอำนาจและบุญคุณของข้า กลับยอมสยบกับพวกศัตรูของข้าแทน ข้าทนไม่ได้”

“ทรงคิดปลงพระชนม์เจ้าหลวงหรือพระเจ้าข้า”

อนัญทิพย์ไม่ตอบตรงๆ แต่ไล่สองขุนนางกลับไป ก่อนจะนำยาบางอย่างให้บัวไหลเอาไปให้ปิ่นมณี

“ยานี้ได้มาจากเจ้ายายของพระมหาเทวีเจ้า...ที่เป็นแม่ค้านั่งตลาดนั่นแหละเจ้าค่ะ เพียงใช้เกล็ดเล็กน้อยเผาไฟให้ลมโชยมา ยังเป็นเสน่ห์ให้เจ้าหลวงปิตุลาหลงใหลเสด็จไปตามหาเจ้ายายด้วยพระองค์เอง”

“เจ้ารู้เรื่องนี้ด้วยรึ ข้าเคยถามเจ้าแม่ แต่เจ้าแม่ไม่ยอมเล่าให้ฟัง เรื่องเป็นอย่างใด”

“เจ้ายายของพระมหาเทวีเจ้าถึงจะเป็นหญิงชาวบ้านแต่ก็งามล้ำกว่าหญิงใดในเมืองทิพย์ เผาผงมหาเสน่ห์ แล้วอาบน้ำที่ลำธาร นกมันก็หลงใหลมาจิกเอาผ้าซิ่นที่ถอดไว้ริมตลิ่งไป”

“ตายจริง...”

“ไม่ตายเจ้าค่ะ ผ้าซิ่นตกใส่ยอดเศวตฉัตร เจ้าหลวงปิตุลารับสั่งให้ตามหาเจ้าของผ้าซิ่นจนได้พบกับเจ้ายายเข้า จากนั้นก็รับเข้าสู่เมือง แต่งตั้งให้เป็นพระมหาเทวีเจ้า เขี่ยเจ้านางอื่นๆหล่นจากตั่งหมดเลย”

“เจ้าแม่มีของดีของเจ้ายาย แล้วไยไม่ทำให้เจ้าพ่อรักได้เล่า ข้าไม่เชื่อเจ้าดอก...อย่ามาปดข้า”

“โถ...เจ้านาง ก็เมื่อเจ้าหลวงปิตุลาถูกปล้นตั่งทอง เจ้าแม่ของเจ้านางก็ต้องออกไปอยู่คุ้มเล็ก แล้วก็ยังถูกเนรเทศไปอีก ถึงจะได้เป็นพระสนมเอก แต่เจ้าพ่อของเจ้านางก็ไม่เคยเสด็จมาหา โอกาสจะได้ใช้ยานี้ก็หามีไม่เจ้าค่ะ”

“ข้าสงสารเจ้าแม่นัก”

“เจ้าค่ะ เจ้าแม่ทรงเก็บโอสถนี้ไว้อย่างดี เก็บไว้ให้เจ้านางแต่เพียงผู้เดียว”

“อีเรณุมาศล่ะ”

“หาทราบการนี้เจ้าค่ะ...เจ้านางอนัญทิพย์รับสั่งฝากมาว่าเจ้านางต้องทำให้เจ้าหลวงหลงใหลแล้วแย่งชิงอำนาจทุกอย่างไว้ในมือให้ได้ ผสมยานี้กับเหล้า ให้ผู้คนแจ้งใจว่าเมาสุราจนหาได้สนใจเรื่องราชการ...คืนนี้ปล่อยให้เจ้าหลวงบรรทมกับเจ้านางเรณุมาศเป็นคืนสุดท้าย...เราสองคนมาช่วยกันผสมเหล้าไว้ถวายกันดีกว่า”

ปิ่นมณียิ้มพราย แววตาเป็นประกายด้วยความพึงพอใจ

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้นเจ้าฟ้าเมืองมีดกับนายฮาสเตรียมเดินทางกลับและจะเอากำปั่นอัญมณีกลับไปด้วย คะนอง ครองภพ และปะแดงแย่งคืนเอามาได้ โดยครองภพเอาอาวุธจ่อเจ้าฟ้าเมืองมีดแล้วไล่ส่ง

“ไปได้แล้ว...แล้วจงจำไว้ว่าป่าไม้ เขาสัตว์ เครื่องเทศ แม้กระทั่งขี้ค้างคาวเพียงก้อนเดียว กูก็หวงแหน อย่าหมายว่าจะได้ไปจากเมืองทิพย์ง่ายๆ”

นายฮาสแค้น แต่จำยอมเพราะตองนวลขอร้องด้วยกลัวพ่อของตนจะเป็นอันตราย พอกลุ่มของนายฮาสคล้อยหลังพ้นประตูเมืองไป ตองนวลก็แหวใส่พวกคะนอง

“ข้าจะกราบทูลฟ้องเจ้าหลวงว่าอุปราชหอหน้าทำเกินกว่าเหตุ แถมยังปล้นชิงเอาอัญมณีที่ประทานให้พ่อข้าไปด้วย”

อนัญทิพย์แอบดูตั้งแต่แรก ตัดสินใจก้าวออกมาด่าตองนวลอย่างรุนแรง

“มีผัวต่างแผ่นดินคืนเดียว สันดานเสียเลยรึอีตองนวล”

“อีทิพย์...หาใช่การของมึงไม่”

“เรื่องมีผัวกับขายแผ่นดินหาใช่การของกูไม่แต่นี่ใช่”

พูดขาดคำ อนัญทิพย์ตบหน้าตองนวลฉาดใหญ่ ตองนวลไม่ทันตั้งตัวร้องวี้ดว้ายตกใจ ถามว่าตบตนด้วยเหตุใด

“มึงจะได้ลืมรสสวาทที่ไอ้ฮาสมันปรนเปรอมึงเมื่อคืน แล้วมีสำนึกเป็นคนเมืองทิพย์ขึ้นมาบ้างอย่างใดเล่า”

“นี่ถ้ามึงตบกูต่อหน้าเจ้าพ่อ มึงหัวขาดแน่”

“ฝากบอกไปถึงเจ้าฟ้าเมืองมีดด้วยว่ากูไม่กลัว”

อนัญทิพย์ท้าทายแล้วสะบัดหน้าเดินจากไป ทิ้งให้ตองนวลฮึดฮัดด้วยความโกรธแค้น กลับคุ้มของตนพร้อมอีเฟืองข้าไทคนสนิท

“ถ้าชาตินี้กูทำให้อีทิพย์พินาศย่อยยับไม่ได้ อย่านับว่ากูเป็นคน มึงจำไว้ด้วยนะอีเฟือง”

“เจ้าค่ะ ข้าเจ้าจะจำไว้ให้เจ้านาง”

เสียงเอะอะดังมาจากห้องตองแปง ตองนวลผวาไปดูลูก สวนกับข้าไทวิ่งกรูออกมา เฟืองถามพวกมันว่ามาทำอะไรก็ไม่ได้คำตอบ

ตองแปงนั่งคอแข็ง ตวัดสายตามองแม่อย่างเย็นชา พูดโดยไม่มองหน้าว่าตนยังไม่อยากเห็นหน้าผู้ใด

“แม้แต่แม่หรือตองแปง”

“ออกไป!”

“แม่รู้ว่าลูกไม่ชอบที่แม่ยอมเป็นเมียไอ้นายฮาส แต่หากแม่ไม่ทำ มีหรือมันจะช่วยลูกออกมาจากตรุ แม้แต่เจ้าตาก็ยังยอมสยบให้มัน...ตองแปง แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกได้นะ แต่ครั้งนี้แม่ขอ เราไม่มีอาวุธจะไปสู้กับพวกอีทิพย์ได้ จำต้องยืมมือพวกดั้งขอให้ช่วยเรา”

“ระวังเถิด พวกอีทิพย์ก็เอาชำนะไม่ได้ ข้าก็ไม่ได้เป็นเจ้าหลวง เจ้าแม่ก็ได้ชื่อเป็นหญิงสองผัว”

ตองนวลสะอึก น้ำตาแทบร่วง แต่ยังพูดอย่างใจเย็นก่อนหันหลังกลับออกมา “สักวันลูกจะแจ้งใจว่าแม่ทำทุกอย่างเพื่อลูก”

ooooooo

ในเมื่อม่านฟ้าไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของตนอย่างที่คาดหวัง แล้วพวกดั้งขอกับเจ้าฟ้าเมืองมีดก็ยังเข้ามามีบทบาท ไหนจะพวกคะนองที่ไม่ยอมอ่อนให้อีก ทำให้อนัญทิพย์ร้อนใจมาก เกรงว่าอำนาจที่ตนกับลูกหวังครองเมืองทิพย์จะหลุดลอย

อนัญทิพย์วางแผนให้ท้าววงษาเกณฑ์พลหลอกว่าเป็นข้าศึกบุกเมืองทิพย์ เพื่อให้กลุ่มของคะนองออกไปนอกเมือง แต่ครองภพสงสัย จึงมีปากเสียงกับท้าววงษาและขุนเวียง

ขณะเดียวกันปิ่นมณีก็นำยาผงเสน่ห์ผสมเหล้าให้ม่านฟ้ากิน และได้ผลชะงัด ม่านฟ้าเมามายหลงใหลปิ่นมณีจนไม่ยอมออกจากห้องนอน เรณุมาศเห็นว่าไม่ชอบมาพากลจึงไปบอกอนัญทิพย์หวังให้ห้ามปรามปิ่นมณีไม่ให้เอาเหล้าให้ม่านฟ้ากิน แต่นางกลับโดนแม่ดุและสั่งห้ามไม่ให้ยุ่ง

คืนหนึ่ง สำเภางามฝันร้ายว่าอีกาจิกหน้า อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อครั้งเจ้าหลวงปิตุลารับแม่ค้านั่งตลาดแม่ของ

อนัญทิพย์เข้ามาในเมือง ก็ด้วยอาเพศที่อีกาคาบผ้าซิ่นตกลงบนยอดเศวตฉัตร จึงทุกข์ใจมากจนต้องไปหารือกับตนบุญที่วัดหลวง ก็ได้ความว่าเคราะห์หนัก ทองพญาจึงตั้งใจจะปฏิบัติธรรมให้เจ้าย่า

ปิ่นมณียังคงปรุงยาผสมเหล้าให้ม่านฟ้ากินไม่ขาด ม่านฟ้าติดในรสชาติและหลงใหลนางมากขึ้น ยอดพุ่มรู้ทันแต่ถูกบัวไหลกับปิ่นมณีขัดขวาง เช่นเดียวกับเรณุมาศที่เห็นอาการของม่านฟ้าก็คลางแคลงสงสัยแต่ทำอะไรไม่ได้

แก้วอากาศกับเก็ตถวาแอบเห็นสำเภางามไปหาตนบุญที่วัดในสภาพอิดโรยราวคนป่วย พอนำความไปบอกอนัญทิพย์เลยโดนบังคับให้ไปหาคำตอบมาให้ได้ว่าสำเภางามเป็นอะไร

แต่แก้วอากาศกับเก็ตถวาทำไม่สำเร็จเพราะเครือออนผลักไสไม่ยอมบอก พร้อมกันนั้นอนัญทิพย์ก็ล่วงรู้ด้วยตัวเองแล้วหลังจากไปสอบถามจากตนบุญว่าสำเภางามฝันร้าย

ooooooo

เพลิงพระนาง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด