สมาชิก

เพลิงพระนาง

ตอนที่ 10

เมื่อเมืองคุ้มรู้ว่าบุรพคามโดนวางยาตายพร้อมเฟื้อแฝงก็สอบสวนริมบึงก่อนจะตัดสินใจสั่งโบยและนำไปจำตรุเป็นเวลาเจ็ดวัน จากนั้นให้ย้ายออกไปอยู่ฝ่ายใน ไม่ให้อยู่ในคุ้มหลวงเช่นสนมของเจ้าหลวง แม้เสกขรจะทัดทานแต่เมืองคุ้มก็ไม่เปลี่ยนใจ มิหนำซ้ำเสกขรยังถูกอนัญทิพย์ปรักปรำโยงว่ารู้เห็นกับริมบึงอีกด้วย

สำเภางามหนักใจที่เมืองคุ้มหูเบาและห่วงบ้านเมืองที่กำลังระส่ำระสาย บ่นกับคะนองและเครือออนเกรงว่าเมืองทิพย์จะล่มสลายในสักวัน

ริมบึงกำลังท้องไส้แต่ก็อดทนต่อความลำบากขณะอยู่ในตรุ ส่วนเสกขรก็ยังให้ข้าไทนำอาหารมาให้ไม่เคยขาด และขอร้องเมืองคุ้มให้ไปเยี่ยมริมบึงบ้าง เพราะยังไงนางก็เป็นเมียและกำลังตั้งท้องลูกของเขา

เมื่อบัวไหลรู้ว่าเมืองคุ้มจะไปเยี่ยมริมบึงที่ตรุ ก็แจ้นมาบอกอนัญทิพย์...เมืองคุ้มเลยต้องยกเลิกขณะเดินทางเพราะบัวไหลมาแจ้งข่าวว่าอนัญทิพย์ปวดท้อง

กลอุบายของอนัญทิพย์สัมฤทธิผล นางแกล้งปวดท้องนอนร้องโอดโอย แต่งเรื่องว่ากินอาหารผิดสำแดง ไม่รู้ว่าลูกในท้องจะเป็นอันตรายหรือไม่

“เจ้าน่าจะดูแลตัวเองไยจึงกินของผิดสำแดงเล่าเจ้าทิพย์น้องพี่”

“ผู้ใดจักคิดเล่าว่าพระกระยาหารที่พระมหาเทวีเจ้ามีแก่ใจส่งมายังคุ้มต่างๆในฝ่ายในจัก...”

“เหลวไหลน่า...เสกขรไม่ทำอย่างนั้นแน่” เมืองคุ้มตวาด

“ไม่กลัวว่าข้าจะเป็นเยี่ยงเจ้าหลวงบุรพคามหรือเจ้าคะ ทรงลืมแล้วรึข้าก็ท้อง เสกขรก็ท้อง อีริมบึงก็ท้อง มีหรือที่เสกขรจะเห็นคนอื่นมีลูกเทียมตัวเอง”

“อีบัวไหล ไปตามหมอหลวงมาดูอาการเจ้าทิพย์บัดเดี๋ยวนี้”

บัวไหลมองสบตาอนัญทิพย์ ไม่แน่ใจเพราะนายของตนไม่ได้เป็นอะไร อนัญทิพย์แกล้งสำออยอย่างน้อยเนื้อต่ำใจกับเมืองคุ้ม

“ปล่อยให้ข้าไปเสียเถอะเจ้าค่ะ วาสนาของข้าที่จะได้ครองรักกับเจ้าพี่คงสิ้นสุดแต่เพียงนี้แล้ว”

“เจ้าทิพย์...ไม่เอาน่า” เมืองคุ้มโอบกอดเมียรักไว้ อนัญทิพย์ดวงตาแข็งกร้าวด้วยความริษยา คิดอยู่ในใจว่าหน้าไหนก็แย่งเมืองคุ้มไปจากตนไม่ได้

ooooooo

นอกจากจะทำให้เมืองคุ้มไม่ไปเยี่ยมริมบึงสำเร็จแล้ว อนัญทิพย์ยังสามารถดึงรั้งเขาไว้ทั้งวัน

บัวไหลสาใจยุแหย่นายตนให้รั้งเจ้าหลวงไว้ทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อเจ้านางคนอื่นๆจะได้อกแตกตาย

ส่วนเรื่องหมอหลวงที่เมืองคุ้มให้บัวไหลไปตามนั้นมาไม่ได้ เพราะไปดูแลยอดพุ่มที่ไม่สบาย อนัญทิพย์ไม่พอใจสั่งข้าไทของตนไปตบตีทำร้ายยอดพุ่มในคืนนั้น แต่พอเช้าขึ้นนางก็ไปทำดีกับยอดพุ่มที่สภาพเนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำ ตาแดงเหมือนผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน

แรกๆก็ทำดีพูดดี แต่ทำไปทำมาก็ออกลายเจ้ายศเจ้าอย่างถือตัว เหยียดยอดพุ่มว่าเป็นแค่คนบ้านป่าเมืองดอย กดขี่ให้กราบไหว้แทบเท้าด้วยความสะใจ

คืนต่อมาเมืองคุ้มมาค้างที่คุ้มของตองนวล กลับคุ้มหลวงตอนเช้าเจอเสกขรกำลังจะเอาอาหารไปให้ริมบึงซึ่งวันนี้ครบเจ็ดวันแล้ว เสกขรเตือนเมืองคุ้มน่าจะไปเยี่ยมนางบ้าง ยอดพุ่มก็เช่นกัน เวลานี้นางไม่สดชื่นอย่างแต่ก่อน เขาควรไปอยู่กับนางบ้าง พลัดบ้านต่างเมืองมาตัวคนเดียวน่าสงสารนัก เมืองคุ้มคล้อยตามและเห็นถึงความดีในตัวเสกขร

ตองนวลกับเฟืองเจอข้าไทของเสกขรที่ใจดีเผื่อแผ่อาหารไปให้ยอดพุ่ม สองคนข่มขู่เอาถาดอาหารนั้นไปจนได้ ข้าไทไม่ไว้ใจจึงแอบตามไปดูแล้วก็เห็นพฤติกรรมแย่ๆ ของสองนายบ่าวที่เอาหนอนใส่ในอาหารของยอดพุ่มเต็มไปหมด แถมยังตบตีทำร้ายร่างกายนางอย่างไร้ความปรานี

ไม่นานนัก เรื่องราวรู้ถึงเมืองคุ้ม ทุกคนจึงถูกเรียกมาพร้อมกันที่หอคำ ยอดพุ่มหวาดกลัวร้องไห้ไม่เลิกรา อนัญทิพย์ชำเลืองมองด้วยความรำคาญ บ่นกระปอดกระแปดว่า

“ข้ากำลังท้องกำลังไส้ไม่ใคร่จะแข็งแรง ไยต้องมาทนนั่งหลังขดหลังแข็งฟังเรื่องไร้สาระเยี่ยงนี้ด้วยเล่า”

“ทนหน่อยเถิดเจ้าทิพย์ คืนก่อนมีคนเข้าไปทำร้ายยอดพุ่ม วันนี้ก็ยังมีคนเอาหนอนใส่อาหารไปให้ยอดพุ่มกินอีก เกิดเหตุการณ์เยี่ยงนี้ได้อย่างใด ข้าเศร้าใจยิ่งนัก”

อนัญทิพย์ไม่ต่อปาก แต่มองเสกขรด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเช่นเคย เมืองคุ้มท่าทีระอาไม่น้อย พยายามไกล่เกลี่ยให้บรรดาเมียทุกคนเมตตายอดพุ่มบ้าง

“แล้วดูสิ พวกเจ้าทำอันใดลงไป”

“อาหารนั่นมาจากคุ้มเสกขรเทวี ข้าจะไปรู้ได้อย่างใด ไยไม่ไต่สวนเสกขรเทวีเล่าเจ้าคะ ข้าเกรงว่ามันจะซ้ำรอยเจ้าหลวงบุรพคาม”

อนัญทิพย์กล่าวหาเสกขรหน้าตาเฉย ตองนวลได้ทีซ้ำเติมด้วยอีกคน

“จริงของเจ้าทิพย์เจ้าค่ะ ต่อไปนี้ข้าก็คงไม่กล้ารับโตกอาหารจากคุ้มหลวงแล้ว คงต้องให้อีเฟืองไปรับที่โรงครัวมาเอง”

“ตองนวล เจ้าทำอันใดลงไปน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ข้าให้คนของข้ายกสำรับไป แต่เจ้ามารับอาสานำไปให้ ฉวยโอกาสเอาหนอนใส่ลงไป...หรือเจ้าจะให้ข้าเรียกนางข้าไททั้งสองเข้ามาสอบสวน จักได้รู้ให้แจ้งใจว่าเจ้าทำอันใดไว้”

เสกขรทำให้ตองนวลหน้าซีดเผือด เมืองคุ้มเบื่อเต็มทีรีบตัดบท

“เอาล่ะๆ ที่แล้วก็ให้แล้วไป แต่นี้ไปข้าขอให้พวกเจ้าเมตตายอดพุ่มบ้าง เสกขรเจ้าจะว่าอย่างใด”

“ข้าเจ้ารักและสำนึกในบุญคุณที่ยอดพุ่มช่วยชีวิตเจ้าพี่ไว้”

“ดี...ตองนวลล่ะ”

“ข้ารักเจ้าพี่ ย่อมหวงแหนเจ้าพี่เป็นธรรมดา ข้าทนไม่ได้ดอก”

แก้วอากาศกับเก็ตถวาก็ตอบเหมือนตองนวล ทุกคนทั้งรักและหวงแหนเมืองคุ้ม ไม่ยอมมีไมตรีกับยอดพุ่มแน่ เมืองคุ้มถอนใจแรงๆให้รู้ว่าไม่พอใจ แล้วหันไปทางอนัญทิพย์

“แล้วเจ้าล่ะ อนัญทิพย์”

“เจ้าพี่จะรักชอบใคร หาเกี่ยวอันใดกับข้าไม่ ไยข้าต้องรักต้องเมตตามันผู้นั้นด้วยเล่าเจ้าคะ”

“ใช่เจ้าค่ะ ใช่...มันเป็นใคร แล้วพวกเราเป็นใคร ข้าไทในคุ้มข้ายังมีกำพืดดีกว่ามันซะอีก นี่ถ้ามันมีลูก ลูกมันก็ต้องเลือดครึ่งไพร่ครึ่งเจ้าเหมือนอีบางคน เมืองทิพย์ก็คงต้องเสนียดไปอีกนาน”

อนัญทิพย์โดนแขวะถึงกับโกรธเลือดขึ้นหน้าตวาดลั่น “มึงว่าใครอีตองนวล”

สำเภางามฟังมานานส่ายหัวเอือมระอา “ทะเลาะกันต่อในหอคำ จักต้องถูกโบยร้อยทีตามกฎมณเฑียรบาล ลืมแล้วรึ”

“พอที...มากเรื่องก็มากความ แทนที่จะปรองดองกัน กลับทะเลาะกันเป็นเด็กๆ ทุกคนฟังข้า นับแต่นี้ไปหากใครรังแกยอดพุ่ม ข้าจักสั่งโบยแล้วจำตรุให้ได้รู้สำนึก”

เมืองคุ้มหัวเสียลุกออกไป สำเภางามมองกราดพวกอนัญทิพย์ บ่นอย่างไม่พอใจ

“อนาถใจแท้ แทนที่เจ้าหลวงจะได้ว่าราชการงานเมือง กลับต้องมาตัดสินความเรื่องเมีย มันน่าขันไหมล่ะ”

อนัญทิพย์กับตองนวลเชิดหน้าไม่สนใจ ต่างจากยอดพุ่มกับเสกขรก้มหน้าละอายใจ...เมืองคุ้มตามมาปลอบใจยอดพุ่มที่คุ้มของนาง แต่กลับได้ยินนางบอกว่าอยากกลับบ้านป่า จึงเว้าวอนขอให้อยู่ต่อ โดยตนจะให้เสกขรส่งนางข้าไทมาอยู่เป็นเพื่อนหลายคนจะได้อุ่นใจ ที่สุดยอดพุ่มก็ใจอ่อนเพราะรักนั่นเอง

ด้านตองนวลสบายใจที่แกล้งยอดพุ่มได้แล้ว เจ้าหลวงเอาผิดตนไม่ได้ นางเดินหัวเราะมากับเฟืองภายในสวนดอก เจออนัญทิพย์กับบัวไหล แต่ไม่ใช่เพราะความบังเอิญแน่นอน

“ข้านึกว่าเจ้าจะวางยาอียอดพุ่มเสียให้สิ้นเรื่อง คิดการใหญ่มันต้องกล้าอย่างอีริมบึงโน่น”

“ใช่...ถ้ากูเยี่ยงมึงนะอีทิพย์ ป่านนี้อียอดพุ่มกลายเป็นผีเฝ้าคุ้มเหมือนเจ้าหลวงบุรพคามไปแล้ว”

“อย่าพูดจาพล่อยๆนะ ข้าไม่ชอบ”

“ส่งอีนังข้าไทเข้าไปตบตีอียอดพุ่มนั่นก็มึงสินะอีทิพย์ กล้าทำร้าย กล้าฆ่าคนทั้งที่ท้องไส้ ระวังเถ๊อะคำสาปแช่งของอีริมบึงจะเป็นจริง กรรมมันจะตกแก่ลูกมึง...อีเฟืองวันนี้กูสบายใจมากพอแล้ว”

ตองนวลกับเฟืองประสานเสียงหัวเราะแล้วเดินลอยนวลจากไป ทิ้งความเจ็บแค้นใจไว้ให้อนัญทิพย์ถึงกับยืนกำสองมือแน่นจนเล็บแทบจะจิกเนื้อตัวเอง

ooooooo

วันเวลาผ่านไปจนถึงวันที่อนัญทิพย์คลอดลูก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับเสกขรกำลังเจ็บท้อง เมืองคุ้มเลือกที่จะอยู่กับเสกขรเพราะเห็นว่าอนัญทิพย์ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกแล้ว

เมืองคุ้มตื่นเต้นดีใจมากที่ลูกคนแรกจากอนัญทิพย์เป็นผู้ชาย ส่วนเสกขรได้ลูกสาว สำเภางามดีใจเหลือเกินที่ได้หลานอีกสองคนในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังจากมีหลานคนแรกคือปะแดงลูกชายของคะนองกับเครือออน

รุ่งขึ้นสำเภางามไปไหว้พระที่วัด คาดไม่ถึงว่าจะเจอริมบึงเจ็บท้องจะคลอดลูกเลยต้องช่วยกันโกลาหล แต่ริมบึงก็คลอดลูกชายอย่างปลอดภัย ตั้งชื่อว่าครองภพ

ด้านอนัญทิพย์รู้สึกตัวในตอนเช้าไม่เห็นเมืองคุ้มก็โวยวายอาละวาดใส่บัวไหล ยิ่งพอรู้เห็นว่าลูกชายแรกเกิดของตนตายก็พาลเอากับทุกคนว่าเป็นต้นเหตุ โดยเฉพาะเสกขร เพราะบัวไหลบอกว่านางเจ็บท้องพร้อมกัน ทำให้หมอหลวงไปดูแล ไม่สนใจลูกของอนัญทิพย์ที่ออกมาไม่แข็งแรง

“ไยเจ้ามาโทษข้า...เจ้าทิพย์ ข้าหาได้ทำอันใดลูกเจ้าไม่”

“ก็ถ้าเจ้าไม่ดันมาเจ็บท้องพร้อมข้า หมอหลวงก็ต้องอยู่ดูแลลูกข้า ลูกข้าก็จักไม่ตาย เสกขรเจ้ามันชั่วนัก เจ้ามันเกิดมาเพื่อเป็นมารชีวิตข้าโดยแท้”

เมืองคุ้มสงสารและเห็นใจอนัญทิพย์แต่ก็กลัวนางจะทำร้ายเสกขรจึงชวนกลับคุ้มไปดูลูกที่ว่าตาย เพื่อให้เสกขรได้พักผ่อน แต่อนัญทิพย์ไม่ยินยอม แผดเสียงอย่างแค้นเคือง

“พักผ่อน!...ทีข้า เจ้าพี่ไม่เคยห่วงใยข้าเหมือนมันบ้าง”

“เจ้าพาลใหญ่แล้วนะ”

“ปล่อยข้า ไม่ต้องมากอดข้า กอดอีนังเสกขรคนเดียวก็พอ ลูกข้าตาย ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าพี่เสียใจบ้างหรือไม่”

อนัญทิพย์สะบัดดิ้นรนจนหลุดแล้วทำท่าจะทำร้ายลูกของเสกขร เมืองคุ้มตามจับตัวไว้ อนัญทิพย์ทำอะไรไม่ได้นอกจากตะโกนสาปแช่ง

“ข้าขอให้ลูกเจ้าตายบ้าง ขอให้ลูกเจ้าตายๆๆๆ”

สำเภางามเข้ามาได้ยินปราดไปตบหน้าอนัญทิพย์อย่างแรง “ลูกตายแทนที่จะสำนึกถึงเวรกรรมที่ก่อไว้กลับโทษคนอื่น”

“เวรกรรม...เวรกรรมอันใด ข้าไปทำเวรกรรมอันใดไว้”

“เจ้าน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ถ้านึกไม่ออกก็ถามวิญญาณเจ้าหลวงบุรพคามดูสิ จิตใจหยาบช้าเช่นเจ้าจักเป็นแม่คนได้อย่างใด เจ้าทิพย์”

อนัญทิพย์หน้าเสียแต่ยังตะเบ็งเสียงเถียงว่าไม่จริง ตนถูกใส่ร้าย เมืองคุ้มกอดปลอบแต่นางสะบัดเดินหนี

“หยุดก่อน...เมื่อเช้าริมบึงก็เพิ่งได้ลูกชาย นี่แหละคือสิ่งที่ข้าอยากให้เจ้าสำนึก”

อนัญทิพย์หันขวับมาจ้องสำเภางามตาขวาง ความเคียดแค้นทวีคูณจนพูดไม่ออก กรีดร้องครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปร้องไห้กับบ่าวคู่ใจ กล่าวคำอาฆาตพยาบาท

“ถ้ากูได้เป็นใหญ่วันใด วันนั้นจะไม่มีอีสำเภางาม มึงจำคำกูไว้ อีบัวไหล”

ooooooo

คำพูดของสำเภางามเมื่อสักครู่ทำให้เมืองคุ้มแปลกใจว่าแม่รู้ได้อย่างไรว่าอนัญทิพย์รู้เห็นเรื่องการตายของบุรพคาม ตนเกรงว่าหากแม่ปรักปรำ เจ้าทิพย์จะบาปกรรม

“แม่ไม่บาปหรอกเมืองคุ้ม ทั้งเมืองทิพย์ก็เห็นจะมีแต่เจ้าหลวงนั่นแหละที่ไม่รู้ หูเบาเยี่ยงนี้บ้านเมืองจะ
ล่มสลาย จำไว้”

เมืองคุ้มสะอึกอึ้ง เสกขรห่วงอนัญทิพย์ที่เสียลูกไปทั้งคน อยากให้เมืองคุ้มไปดูนาง แต่สำเภางามถามเสียก่อนว่าเขาคิดหรือยังว่าจะทำอย่างไรกับลูกของริมบึง

ค่ำนั้นเมืองคุ้มตัดสินใจไปหาริมบึงที่คุ้มฝ่ายใน แต่ริมบึงน้อยใจที่เขาสั่งโบยและขังตนจึงไม่ยินดีต้อนรับ เมืองคุ้มจึงหันเหไปหาอนัญทิพย์ ปลอบประโลมและสัญญาว่าจะมาหาบ่อยๆ นางจะได้มีลูกคนใหม่ให้ตน

ตองนวลกลุ้มใจที่ตัวเองไม่ท้อง แต่นางก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ท้อง และแล้ววันหนึ่งนางก็ท้อง เช่นเดียวกับยอดพุ่ม ส่วนเก็ตถวากับแก้วอากาศยังแห้งเหี่ยวหัวโต เจ้าหลวงไม่เคยมาค้างอ้างแรมด้วยเลยสักครั้ง

พอตั้งท้องตองนวลก็เที่ยวคุยอวดและข่มคนโน้นคนนี้ แต่สำเภางามก็บอกทั้งตองนวลและอนัญทิพย์ให้รู้ว่าลูกของริมบึงเป็นโอรสองค์โต ต่อไปภายหน้าต้องได้นั่งบัลลังก์ตั่งทองแทนเจ้าหลวง

เสกขรกับสำเภางามจะรับริมบึงกลับมาอยู่ในคุ้มหลวง แต่ริมบึงปฏิเสธและรับปากว่าจะเลี้ยงดูครองภพให้ดีที่สุด

ผ่านไปไม่นานอนัญทิพย์ท้องอีกครั้ง เมืองคุ้มดีใจเช่นเคย พะเน้าพะนอเอาใจทั้งอนัญทิพย์และยอดพุ่ม ทำให้ตองนวลน้อยใจ สั่งเฟืองส่งข่าวให้เจ้าฟ้าเมืองมีดมาเมืองทิพย์ หมายให้พ่อข่มขู่เมืองคุ้มเพื่อช่วยให้ตนได้รับความใส่ใจ

เจ้าฟ้าเมืองมีดเข้าเฝ้าเจ้าหลวงด้วยท่าทีอ่อนน้อมในตอนแรก แต่พอพูดถึงเรื่องตองนวลท้องก็เริ่มแข็งกร้าว อยากให้เมืองคุ้มเมตตาตองนวลมากๆ

“ไยท่านเจ้าฟ้าต้องห่วงกังวลด้วย ในเมื่อลูกในท้องตองนวลก็คือลูกข้า”

“หากหลานของข้าพระบาทได้รับความเมตตาและความรักอย่างสมเกียรติแล้วไซร้ เมืองมีดก็จะขอเป็นไมตรีไปจนชั่วลมหายใจของข้าพระบาท”

เมืองคุ้มชักสีหน้าไม่พอใจ สำเภางามตาขุ่นขวางมองไปที่ตองนวล ติงว่า

“ตองนวลไม่ควรทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ การนี้ก็เป็นการของเมืองทิพย์ หากประสูติกาลแล้วก็ย่อมได้สมโภชพระอู่ตามจารีต”

“ก็ที่ผ่านมาเจ้าพี่หาได้สนใจไยดีข้าแต่น้อยไม่ อีเมียบ้านป่าอย่างอียอดพุ่มยังได้รับความเมตตาจากเจ้าพี่มากกว่าข้า”

ยอดพุ่มหน้าเจื่อน หลบสายตาตองนวลอย่างขลาดกลัว แต่อนัญทิพย์ที่เพิ่งเข้ามากลับหัวเราะหยัน

“เจ้าขันอันใดนักหนา...อนัญทิพย์” ตองนวลตวาด

“ผัวไม่รัก เลยเอาพ่อมาเจรจา ทำราวกับเป็นเด็กที่ถูกแย่งของเล่นเลยไปฟ้องพ่อ ข้าอนาถใจกับเจ้าจริงๆตองนวล”

ตองนวลฮึดฮัดทำอะไรไม่ถูก เสกขรฟังอยู่นานถึงเวลาต้องออกโรง

“ข้าเป็นพระมหาเทวีเจ้า ดูแลฝ่ายใน การนี้ย่อมเป็นการของข้าโดยตรง อย่าทำการใดให้ระคายเคืองเบื้องพระบาทของเจ้าหลวงเลย...ท่านเจ้าฟ้าเมืองมีด ข้าขอสัญญาว่าข้าจะดูแลตองนวลให้ดีที่สุด”

“หากพระมหาเทวีเจ้ารับสั่งเยี่ยงนี้ ข้าพระบาทก็เบาใจ”

“ไหนๆเจ้าฟ้าก็มาเยี่ยมธิดาแล้ว ก็พำนักอยู่ในเมืองทิพย์ให้สำราญกาย สำราญใจก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบกลับ ได้อยู่เป็นขวัญให้ตองนวลได้อุ่นใจ”

“เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งพระเจ้าข้า”

หลังจากนั้นเจ้าฟ้าเมืองมีดนำอัญมณีค่าควรเมืองมามอบให้เสกขรต่อหน้าสำเภางามเพื่อตอบแทนน้ำใจ แต่เสกขรปฏิเสธ

“ขอบใจท่านเจ้าฟ้ามาก แต่ข้าขอไม่รับ...อัญมณีค่าควรเมืองนี้แลกกับหัวใจที่ข้าเมตตาต่อตองนวล
มิได้ดอก เก็บไปเสีย”

“ท่านเจ้าฟ้าก็ต้องสอนลูกสาวด้วยว่าอย่าก้าวร้าวผู้ใหญ่ อย่าตีตนเสมอท่าน อย่าใช้อารมณ์ อย่าทำการใดๆ ให้เป็นที่ขุ่นเคืองใจเจ้าหลวงและพระมหาเทวีเจ้า”

เจ้าฟ้าเมืองตวัดสายตามองสำเภางามอย่างไม่พอใจ เถียงว่า “ข้าเชื่อว่าตองนวลไม่ใช่คนเยี่ยงนั้น”

“หากมั่นใจว่าสอนมาดี ข้าก็จะบอกท่านเจ้าฟ้าว่าแม้นตองนวลจะท้องลูกของเจ้าหลวง ก็หาได้พ้นจากพระราชอาญาใดๆไม่”

“หมายความว่าอย่างใด”

“เจ้าป้า ข้าพูดเอง...ทุกคนที่เมืองทิพย์ หากทำผิดก็ต้องได้รับโทษ แม้แต่ข้าก็ไม่เว้น”

“ก็ดี ข้าจะได้รู้ไว้” เจ้าฟ้ากระแทกเสียง แล้วกลับไปบ่นให้ตองนวลฟังอย่างเจ็บใจ

“เห็นหรือยังเล่าเจ้าพ่อ ว่าทุกคนที่นี่มันรุมทำร้ายข้าทุกคน”

“อย่าให้มีโอกาสนะ พ่อจะยกทัพมาตีเมืองทิพย์ให้พินาศ”

“เจ้าพ่อคิดอ่านการใดอยู่เจ้าคะ”

“เมียของเจ้าหลวงท้องกันหลายคน หากลูกในท้องเจ้าไม่ได้นั่งเมืองแล้วไซร้ จะมีความหมายอย่างใด...บัลลังก์ตั่งทองของเมืองทิพย์ต้องเป็นของหลานพ่อ”

“วันที่ลูกข้าได้นั่งเมืองเป็นเจ้าหลวงของเมืองทิพย์ ข้าจะสาแก่ใจยิ่งนักเจ้าค่ะเจ้าพ่อ”

“เดือดร้อนอันใดก็ให้อีเฟืองส่งข่าวไปหาพ่อ พ่อพร้อมส่งไพร่พลมาตีเมืองทิพย์ เพื่อปกป้องลูก”

“ข้าขอกราบพระบาทเจ้าพ่อเจ้าค่ะ แต่กว่าจะถึงวันนั้น ลูกพ่อก็คงผูกคอตายเสียก่อน”

“คิดมากไปไยตองนวล พวกมันมีลูก เจ้าก็ทำให้แท้งสิ”

ตองนวลตะลึง แต่ก็เห็นคล้อยตาม เกณฑ์พวกข้าไทของตนและเฟืองไปดักทำร้ายยอดพุ่มเพื่อให้แท้งลูก โชคดีอนัญทิพย์กับบัวไหลมาเจอโดยบังเอิญ ยอดพุ่มจึงรอด ปลอดภัย แต่ตองนวลไม่พอใจตวาดใส่อนัญทิพย์ว่าไม่ใช่เรื่องของนาง

“ไม่คิดเลยว่าธิดาเมืองมีดจะใจบาปหยาบช้าฆ่าได้กระทั่งเด็กในท้อง เกิดมากูยังไม่เคยเห็นใครเลวเท่ามึงอีตองนวล”

บัวไหลดึงเฟืองออกมา อนัญทิพย์ได้โอกาสกระชาก ผมตองนวลจนหน้าหงาย

“ปล่อยกูอีทิพย์...มึงจะโง่ให้อียอดพุ่มได้ดีเกินเราสองคนรึ มึงคิดดูสิอีทิพย์ ปล่อยกู”

“กูไม่ปล่อยแต่จะจับมึงส่งไปให้เจ้าหลวง คนทั้งเมืองทิพย์จักได้รู้ว่าสันดานอีเจ้านางหลังเขาเลวชาติอย่างใด”

“หากลูกมันเกิดมาเป็นชายเล่า มึงจะทำอย่างใดอีทิพย์ มึงตรองดู” พูดแล้วตองนวลไม่รอคำตอบ หันไปพูดกับพวกข้าไท “พวกมึงฟังกู ใครทำอีทิพย์ท้องแตกได้ กูจะให้บำเหน็จรางวัลมากขึ้นเป็นสามเท่า...อีทิพย์ มีมึงก็ต้องไม่มีกู กูอยากฆ่ามึงนัก วุ่นวายกับการของกูเสียจริง”

อนัญทิพย์ถ่มน้ำลายใส่หน้าตองนวล เฟืองจะเข้าทำร้ายอนัญทิพย์เลยโดนบัวไหลถีบถลาไป สองฝ่ายเตรียมตะลุมบอน แต่ต้องชะงักเพราะเสียงเสกขรดังขึ้น

“หยุดนะ! ข้าเป็นมหาเทวีเจ้า ขอสั่งให้พวกเจ้าทุกคนไปที่คุ้มหลวงบัดเดี๋ยวนี้ ผู้ใดขัดคำสั่งข้าจะลงหวายแล้วจับจำตรุจนตาย”

ooooooo

อนัญทิพย์พูดความจริงว่าตองนวลตั้งใจฆ่าลูกของตนและยอดพุ่ม เสกขรจึงสั่งโบยตองนวลสิบทีแล้วจำตรุอีกเจ็ดวัน

ตองนวลเจ็บทั้งตัวและใจ ครั้นจะให้เฟืองไปเอาที่นอนหมอนมุ้งและเสื้อผ้ามาให้เพราะในตรุยุงเยอะ เฟืองก็ไม่กล้าเพราะเสกขรสั่งห้ามไว้ ทำให้ตองนวลยิ่งโกรธแค้น อยากจะให้พ่อยกทัพมาตีเมืองทิพย์ให้รู้แล้วรู้รอด

ด้านอนัญทิพย์ที่เล่นงานตองนวลไปได้คนหนึ่งแล้ว แต่ยังมียอดพุ่มที่เมืองคุ้มรักและเมตตา เมื่อขุนเวียงกับท้าววงษาเห็นควรให้กำจัดยอดพุ่มออกไปจากเมืองทิพย์ อนัญทิพย์จึงคล้อยตามโดยไม่ลังเล

ooooooo

เพลิงพระนาง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด