สมาชิก

พิรุณพร่ำรัก

ตอนที่ 8

อัลบั้ม: "บอม ธนิน" ประกบ "ไอซ์ อามีนา" ใน "พิรุณพร่ำรัก"

ขณะโลแกนจูงชามินต์เดินอยู่หน้าโรงพยาบาลนั้น เขาเห็นคลากจะเข้ามาแต่ถูกบอดี้การ์ดกันไว้ เขาบอกชามินต์ให้อยู่ตรงนี้ก่อนไม่ต้องกลัว ตนจะไปคุยกับคลาก

โลแกนไปยืนเผชิญหน้าคลากถามว่ามาดูผลงานใช่ไหม คลากถามงงๆ ว่าผลงานอะไร

“ฉันรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือแก” คลากโต้ว่าเขาควรหาข่าวให้แน่ชัดก่อนจะปรักปรำตน โลแกนก้าวเข้าไปพูดใส่หน้าว่า “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับชามินต์อีกครั้งละก็...แกต้องรับผิดชอบ”

“ผมก็รักหมอชามินต์เหมือนกันนะ ผมจะทำร้ายเธอทำไม”

โลแกนต่อยโครมที่หน้าคลากจนเขาเซล้มลง

อาฟงชักปืนจ่อจะยิงโลแกน ลูกน้องโลแกนตบปืนอาฟงตก ที่เหลือต่างจ่อปืนใส่กัน ชามินต์ตกใจสุดขีด คลากลุกขึ้น โลแกนปรี่เข้ากระชาก ชามินต์วิ่งเข้าไปร้องห้าม

“อย่าค่ะ โลแกน”

โลแกนสั่งห้ามคลากยุ่งกับหมอชามินต์ คลากสะอึกเข้าไปถามว่า “นายมีสิทธิ์อะไร”

“มีสิทธิ์สิ เพราะหมอชามินต์คือคนรักของฉัน ได้ยินชัดไหม”

ทุกคนในเหตุการณ์ตกใจ ตะลึงอึ้ง โลแกนจูงมือชามินต์ชวนไปกันเถอะ เธอถามว่าจะไปไหน

“ก็กลับบ้านไง” ว่าแล้วจูงมือชามินต์ไปเลย

“ในที่สุด ฉันก็เป็นอิสระแล้ว” นีล่ายิ้มปลื้มสุดๆ แล้วเข้าจับแก้มเดนิส ชวนไปฉลองกัน

อาฟงถามคลากขณะเดินออกมาด้วยกันว่า คิดว่าเหตุการณ์วันนี้เป็นฝีมือใคร

“ไม่รู้ว่ะ แต่ที่แน่ๆมันต้องการขู่ให้หมอชามินต์กลัว มากกว่าต้องการเอาชีวิต เพราะถ้ามันจะฆ่า มันจัดการไปนานแล้ว” อาฟงติงว่าชามินต์เป็นหมอไม่น่าจะขัดอะไรกับใคร “อาจจะเป็นเรื่องชู้สาว ใครอาจจะหึงหวงเธอ”

“หรือว่าจะเป็นคุณนีล่าคู่หมั้นคุณโลแกน”

“ก็อาจจะเป็นไปได้ นายลองไปสืบหาข่าวดู”

ooooooo

โลแกนพาชามินต์ไปที่บ้านตน อ้างว่าตอนนี้ทุกอย่างไม่ปลอดภัย ตนอยากให้เธออยู่ในสายตาตลอดเวลา สั่งป้าหวาให้จัดห้องนอนให้ชามินต์เพราะคุณหมอจะพักที่นี่ แล้วจูงมือชามินต์เข้าไปในบ้าน

เหว่ยซานรู้จากอาเหวินว่า โลแกนไปดูชามินต์ถึงโรงพยาบาลและมีเรื่องกับคลาก เขาบอกอาเหวินว่าดีแล้วให้โลแกนเข้าใจว่าเป็นฝีมือของคลาก

“แต่ผมกลัวว่าถ้าคุณโลแกนรู้ว่าไม่ใช่ฝีมือคลากครูเกอร์ เขาจะสงสัยท่านเหว่ยครับ” เหว่ยซานไม่แยแสเพราะมีคนอีกมากมายที่ต้องการลบชื่อโลแกน อาเหวินถามว่า “แล้วเรื่องหมอชามินต์จะเอายังไงต่อไปครับ ผมว่าคุณโลแกนคงจะไม่ยอมเลิกกับเธอง่ายๆ”

“ถ้าอย่างนั้น ครั้งต่อไปแกก็ไม่ต้องขู่แล้ว ฆ่าหมอชามินต์ทิ้งเสียเลย” เหว่ยซานสั่งอำมหิต

ระหว่างที่ป้าหวาเอาเสื้อผ้าที่โลแกนสั่งจากร้านไปให้ชามินต์เปลี่ยนนั้น โลแกนโทร.คุยกับสารวัตรเจียงให้ช่วยตามคดีที่คนของตนถูกลอบยิง ไม่ว่าต้องเสียเงินเท่าไรตนยินดีจ่ายทั้งหมด

“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะประกาศให้รางวัลคนที่ให้เบาะแส”

คุยกับสารวัตรเจียงเสร็จ เห็นเดนิสเข้ามา โลแกนถามว่ามาทำไม เดนิสบอกว่าเป็นห่วงชามินต์ ถามว่าเขาส่งเธอไปที่บ้านแล้วใช่ไหม พอรู้ว่าโลแกนพาเธอมาอยู่ที่นี่ เดนิสถามว่าทำไมไม่พาไปส่งที่บ้านเธอ

“เพื่อความปลอดภัย บอกนายแล้วนี่ ว่าฉันรักผู้หญิงคนนี้ ฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรเด็ดขาด”

เดนิสเตือนว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่น เพราะโลแกนเองก็รู้ดีว่าเขารักกับชามินต์ไม่ได้เพราะมีคู่หมั้นแล้ว และเขาต้องแต่งงานกับนีล่าเท่านั้น นี่เป็นสัญญาของบรรพบุรุษ

“พรุ่งนี้ฉันจะถอนหมั้น เพราะฉันไม่ได้รักนีล่าและนีล่าก็ไม่ได้รักฉัน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะแต่งงานกัน”

“แต่ฉันไม่เห็นด้วย”

“นั่นก็เรื่องของนาย ตอนนี้นายควรจะกลับไปได้แล้ว”

เดนิสเตือนว่าถ้าท่านเหว่ยรู้เรื่องนี้ต้องไม่ยอมให้เขาถอนหมั้นแน่ โลแกนตัดบทว่าเรื่องนั้นตนจัดการเองแต่ตอนนี้ให้เขากลับไปเสียเพราะตนต้องกินข้าวแล้ว ย้ำกับเดนิสขึงขังว่า

“นายก็รู้จักฉันดี ถ้าฉันบอกว่าไม่ ก็ไม่มีใครหยุดฉันได้” พูดแล้วเดินไปเปิดประตูเชิญเดนิสออกไป

“แกมันบ้าไปแล้ว” เดนิสส่ายหน้าพลางถอยหลังออกไป ในขณะที่โลแกนยิ้มอย่างไม่ยี่หระว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ooooooo

ที่โต๊ะอาหาร คอลินอ้อนชามินต์ให้เล่านิทานให้ฟังก่อนนอนคืนนี้ โลแกนพยายามกันท่าแต่ชามินต์รับปาก คอลินจึงรีบไปหานิทานเตรียมไว้ ทั้งสองจึงคุยกันถึงเหตุการณ์วันนี้

ชามินต์ถามว่าทำไมเขาจึงทำร้ายคลาก ครูเกอร์ โลแกนบอกว่าเพราะเขาพยายามฆ่าเธอ ชามินต์เชื่อว่าไม่ใช่คลาก เพราะถ้าคลากจะทำเขามีโอกาสตั้งหลายครั้งแล้ว เพราะเขาไปหาตนที่โรงพยาบาลบ่อยๆ

โลแกนบอกว่าคลากเป็นมาเฟีย ชามินต์กลับเห็นว่าคลากเป็นคนสุภาพเรียบร้อยน่ารักดี แล้วขอตัวลุกไปเลย

“ถ้าไม่ใช่ไอ้คลากแล้วจะเป็นใคร” โลแกนครุ่นคิด

ฝ่ายเดนิสหงุดหงิดกับเรื่องวุ่นๆที่เกิดขึ้น จนนีล่าถามว่าทำไมเขาต้องว้าวุ่นกลุ้มใจเรื่องของโลแกนนัก หรือเขารักหมอชามินต์เลยหึง เดนิสบอกว่าตนไม่ได้รักหมอชามินต์ นีล่าถามว่าแล้วทำไมเขาถึงหงุดหงิดราวกับเป็นพ่อโลแกน พอเขาผิดสัญญาก็จะเดือดร้อน

“มันไม่ใช่แค่เดือดร้อนนะนีล่า แต่พี่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราจากที่เป็นคนรักกันต้องกลายมาเป็นศัตรู”

“เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องเป็นศัตรูกันเลยหรือ”

“เธอคิดว่าพ่อเธอจะยอมให้โลแกนถอนหมั้นง่ายๆ แล้วปล่อยให้เธอมารักกับพี่งั้นเหรอ สิ่งที่พี่กลัวก็คือพี่ต้องสูญเสียเธอไปตลอดชีวิต เธอรู้ไหม ที่พี่อยากให้เธอแต่งงานกับโลแกน ก็เพราะอย่างน้อย พี่ยังได้เจอเธอ ได้เห็นเธอ ได้รับรู้ว่าเธอมีความสุขหรือทุกข์อะไร”

นีล่าอึ้ง น้ำตาซึม เมื่อรู้ความรักที่เดนิสมีต่อตน ขอโทษที่คิดว่าเดนิสผลักไสให้ตนแต่งงานกับโลแกนเพราะไม่ได้รักตน

“พี่ไม่เคยหมดรักเธอ แต่เธอก็รู้ดีว่าพ่อเธอไม่มีวันยอมรับพี่”

นีล่าโผกอดเดนิสซึ้งใจและเสียใจที่พ่อไม่ยอมรับความรักของตน...

ooooooo

ชามินต์เล่านิทานให้คอลินฟังจนหลับแล้ว เธอปิดไฟหัวเตียงจะออกจากห้อง พอหันไปเจอโลแกนมายืนอยู่แล้ว เขาทวงว่าเมื่อกี๊เรายังคุยกันไม่จบ และบอกว่า

“พรุ่งนี้ผมจะไปถอนหมั้นนีล่า เพื่อให้คุณสบายใจ” ชามินต์บอกว่าไม่เกี่ยวกับตน “เกี่ยวสิ เพราะคุณคือคนที่ผมอยากจะแต่งงานด้วย”

คอลินลืมตาตื่นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ ยังคงถกเถียงกัน โลแกนยืนยันว่าเธอคือคนที่เขาจะแต่งงานด้วย ชามินต์บอกว่าเขายังไม่รู้จักตนดีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่ตนเป็นใคร ตนมาจากไหน โลแกนจะอธิบายถูกชามินต์ตัดบทว่าเลิกมั่วได้แล้ว

“ผมไม่ได้มั่ว ผมไม่สนใจหรอกนะว่าคุณจะเป็นใคร หรือมาจากไหน ผมรู้แค่ว่าต้องเป็นคุณเท่านั้น คุณคนเดียวที่ผมอยากได้ยินเสียง อยากอยู่ใกล้...แล้วที่สำคัญ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมรักคุณมานานมากแล้ว รักก่อนที่เราจะมาเจอกันด้วยซ้ำ”

“ฉันว่าคุณกำลังเพ้อเจ้อ” ชามินต์พูดไปอย่างนั้นทั้งที่ใจหวั่นไหว เมื่อโลแกนยืนยัน เธอพูดให้ไขว้เขวว่า “ฉันว่าคุณคงอ่านนิทานให้ลูกฟังมากไป” พลางจะออกไป โลแกนคว้ามือไว้ อ้อน

“แต่งงานกับผมนะ บอกผมสิว่าคุณจะแต่งงานกับผม”

“แต่งเถอะครับพี่ชาร์ม ผมง่วงแล้ว ขี้เกียจรอฟัง” คอลินที่นอนฟังอยู่นานขัดขึ้น

ชามินต์ตกใจ โลแกนดุแก้เกี้ยวว่าแอบฟังผู้ใหญ่คุยกันไม่ดี เลยถูกคอลินย้อนเอาจนพูดไม่ออกว่า

“ผมไม่ได้แอบนะ นี่ห้องนอนผม ป๊ะป๋ากับพี่ชาร์มมาจีบกันในห้องผมนะครับ”

ชามินต์อายเด็กเดินออกไป โลแกนหันมาบ่นคอลินว่า “นายไม่น่าตื่นมาขัดจังหวะป๋าเลย นอนได้แล้ว” แล้วตามชามินต์ออกไป คอลินมองพ่อหัวเราะชอบใจ

โลแกนตามมาทวงคำตอบจากชามินต์ เธอส่ายหน้าแล้วเข้าห้องปิดประตูเลย โลแกนยืนยิ้มหน้าห้อง พึมพำอิ่มใจ

“ถึงคุณไม่ตอบผมก็รู้...”

เช้าวันรุ่งขึ้น โลแกนเร่งให้คอลินรีบกินข้าวเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย คอลินขอรอพี่ชาร์มก่อน พอชามินต์ลงมาก็ขอหอมแก้มก่อนไป ชามินต์บอกโลแกนว่าเดี๋ยวตนจะไปเยี่ยมลุงจิน โลแกนบอกสายๆค่อยไปด้วยกัน

ระหว่างกินอาหารเช้า โลแกนสังเกตชามินต์อย่างศึกษาจดจำ ชามินต์ถามว่ามองอะไร

“ผมกำลังเริ่มสำรวจคุณ คุณดื่มกาแฟไม่ใส่น้ำตาลเช้าๆ คุณชอบทานโจ๊กมากกว่าอาหารฝรั่ง”

ชามินต์บอกว่าผิด เพราะบางวันตนก็ทานอาหารฝรั่ง โลแกนสรุปว่าเธอชอบสองอย่าง ตนจะได้จำไว้ พอชามินต์ยิ้มขำๆ เขาจ้องมองชมว่า

“ผมชอบจังเวลาที่คุณยิ้มแบบนี้” แล้วตัวเองก็ยิ้มอย่างมีความสุข

กินอาหารเช้าไม่ทันเสร็จ ชามินต์ก็ได้รับโทรศัพท์จากคลาก ครูเกอร์ เขาบอกว่าโทร.มาถามด้วยความเป็นห่วง แล้วเดาว่า “ผมเดาว่าตอนนี้คุณอยู่บ้านโลแกน แล้วเขากำลังจ้องหน้าคุณอยู่ใช่ไหม” ชามินต์ยิ้มขำๆ บอกว่าใช่ “ถ้างั้นผมไม่ทำให้คุณอึดอัดแล้ว ไว้วันไหนว่างเราค่อยคุยกัน อ้อ...ฝากบอกโลแกนด้วยว่า เมื่อวานผมต้องไปเย็บปากถึงสองเข็ม ผมจะส่งบิลค่าหมอไปเก็บกับเขา”

ชามินต์รับปากจะบอกให้ พอปิดโทรศัพท์ โลแกนถามทันทีว่าคลาก ครูเกอร์ มีเรื่องอะไรถึงโทร.มาหาเธอ ชามินต์บอกว่าเขาถามอาการตน โลแกนพึมพำว่าสงสัยต้องสั่งสอนให้มากกว่านี้ เพื่อให้เลิกยุ่งกับเธอเสียที ชามินต์จึงบอกเรื่องที่คลากจะส่งบิลค่าหมอมาเก็บกับเขา

โลแกนขอชามินต์ว่าให้เลิกติดต่อกับคลาก เธอติงว่าไม่เห็นเสียหายอะไรแค่โทรศัพท์คุยกัน ถามว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบคลาก ครูเกอร์ ถ้าเขามีเหตุผลดีกว่านี้ตนจะทำตาม

“ผมหึงคุณ คุณพอใจรึยัง คราวนี้คุณเข้าใจรึยังว่าทำไมผมถึงไม่ชอบมัน”

ชามินต์ได้รับคำตอบที่คาดไม่ถึง เธอเขินจึงขอตัวจะไปทำงาน โลแกนไม่ให้ไปอ้างว่าเธอยังไม่หายดี ตนจะโทร.ไปลากับเดนิสให้เอง และตนก็จะไม่ไปทำงานเพื่ออยู่ดูแลเธอ วันนี้จะพาเธอไปซื้อของและเที่ยวโดยไม่มีคอลินไปด้วย

ชามินต์จะโต้แย้ง โลแกนบอกว่าไม่มีแต่ หอมที่หน้าผากเธอแผ่วเบาแล้วเดินออกไปอย่างลิงโลด ปล่อยให้ชามินต์นั่งอึ้ง เขิน อยู่ที่โต๊ะ

ooooooo

เช้าวันเดียวกันที่บ้านเหว่ยซาน เหว่ยซานลงมาที่โต๊ะอาหารเห็นนีล่านั่งอยู่แล้ว เขาแปลกใจถามว่าทำไมวันนี้ตื่นแต่เช้า นีล่าบอกว่าตนก็ตื่นเช้าบ่อยๆ แต่ไม่เจอพ่อเท่านั้นเอง

เหว่ยซานมองหน้านีล่ารู้ว่ามีเรื่องจะคุย ถามว่ามีอะไรหรือเปล่าจะขอตังค์เพิ่มหรือไง เธอบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษานีล่าถามว่าพ่อรู้สึกอย่างไรกับเดนิส เหว่ยซานบอกว่าก็เป็นคนดี เอาการเอางาน พอเธอถามว่าแล้วทำไมพ่อถึงไม่ให้ตนชอบกับเขา เหว่ยซานหน้าตึงทันทีบอกว่าถ้าจะคุยเรื่องเดนิส ตนไม่มีอะไรจะพูดด้วย

“แต่พ่อคะ หนูกับพี่เดนิสรักกันนะคะ แล้วพี่โลแกนเขาก็ไม่ได้รักหนู แถมตอนนี้เขาก็มีคนที่เขารักแล้วด้วย”

เหว่ยซานถามทันทีว่าชามินต์ใช่ไหม นีล่าถามว่า “พ่อรู้เรื่องนี้ด้วยหรือ ถ้าพ่อรู้ก็ดีแล้ว งั้นพ่อก็ให้หนูกับพี่โลแกนถอนหมั้นกันเถอะนะคะ”

“ถอนหมั้น เอาอะไรมาพูด”

“พ่อคะ หนูก็อยากมีความสุขกับคนที่หนูรักนะคะ ถ้าพ่อรักหนู พ่อก็ควรจะให้หนูรักกับพี่เดนิส”

“แกอย่ามาสั่งสอนฉัน ฉันเท่านั้นที่จะเป็นคนบอกว่าใครที่เหมาะสมกับแก แล้วแกก็ไปบอกไอ้โลแกนมันด้วยว่าอย่าหวังเลยว่าจะได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้”

เหว่ยซานดุจนนีล่าร้องไห้แล้วเดินออกไปอย่างหัวเสีย

ooooooo

โลแกนพาชามินต์ไปช็อปปิ้งช่วยเลือกเสื้อผ้าและของใช้ให้อย่างพิถีพิถัน ระหว่างนั้นก็จูงมือบ้าง โอบเอวบ้างและบางครั้งก็แอบจุ๊บแก้ม พานั่งเรือกอนโดล่า พาไหว้เจ้าแม่กวนอิม

ชามินต์ถามว่าเขาเคยมาไหว้เจ้าแม่กวนอิมไหม โลแกนบอกว่าเคย ครั้งสุดท้ายมากับน้องสาวก่อนที่เธอจะถูกฆ่าตายไม่กี่วัน ชามินต์แสดงความเสียใจด้วย โลแกนเล่าว่า

“น้องสาวผมชื่อไลลา เธอเป็นแม่ของคอลิน เธอตายไปตอนคอลินอายุได้แค่ขวบเดียว ผมก็เลยต้องรับบทเป็นทั้งพ่อและแม่คอลินในเวลาเดียวกัน” ชามินต์ถามว่าเขารู้ไหมว่าใครเป็นคนฆ่าเธอ “ไม่รู้ ผมพยายามให้คนสืบแต่ก็ยังไม่รู้ว่าใคร”

ชามินต์ถามว่าใครเป็นพ่อคอลิน โลแกนไม่รู้เพราะน้องสาวไม่ยอมบอก เธอถามว่าทำไมไม่บอก น้องเขากลัวอะไร

“ผมเองก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร วันนี้เขาไม่ใช่พ่อของคอลินอีกต่อไปแล้ว”

โลแกนยังพาเธอไปไหว้สุสานพ่อแม่และไลลา เขาเล่าให้ฟังว่า

“คุณรู้ไหม ก่อนที่ผมจะเจอคุณ ผมเคยสาบานต่อหน้าหลุมศพพ่อแม่และไลลาว่าผมต้องพลิกแผ่นดินหาคนที่ฆ่าพวกเขาให้ได้ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตตัวเอง แต่วันนี้ เมื่อผมได้เจอคุณ ผมกลับรู้สึกว่าผมอยากมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะดูแลคุณ”

“ฉันสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยหรือ”

“ใช่...ตอนที่ผมสูญเสียครอบครัว ผมแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ผมต้องตัดใจและพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้เพื่อเลี้ยงดูคอลิน แต่วันนี้...คุณคือคนที่ทำให้ชีวิตผมมีความหมายขึ้นมาอีกครั้ง ผมรักคุณนะ

ชามินต์ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรักคุณ มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างบอกผมว่าต้องเป็นคุณ คุณคนเดียวเท่านั้นคือคนที่ผมรัก”

ชามินต์มองอึ้ง ใจอ่อนยวบ อยากจะบอกรักเขา แต่ยังไม่กล้าพอ...

ooooooo

ชามินต์โผกอดโลแกนด้วยความรักความปลื้มปีติที่สุดจะหักห้ามใจได้ โลแกนกอดเธอไว้เปี่ยมด้วยความสุข แต่เพียงเสี้ยววินาทีเดียว เขาก็ตะลึงตะโกน “หลบ!!”

พริบตานั้นมือปืนยิงใส่ทั้งคู่ บอดี้การ์ดพุ่งเข้าป้องกันชามินต์กับโลแกน พวกมือปืนโผล่มาจากทุกทิศถึงห้าหกคน ทั้งบอดี้การ์ดและโลแกนยิงต่อสู้กับพวกมือปืน แล้วบอดี้การ์ดก็คุ้มกันโลแกนกับชามินต์ออกจากสถานการณ์วิกฤตินั้นได้

“คุณเป็นอะไรรึเปล่า” โลแกนกอดชามินต์อย่างปกป้อง ชามินต์ในสภาพตื่นตระหนกได้แต่ส่ายหน้าพูดไม่ออก

นีล่าและเดนิสตามมาดูทั้งสองที่บ้านด้วยความเป็นห่วง โลแกนโทรศัพท์คุยกับอาเฉินที่ยังติดตามเหตุการณ์อยู่ สั่งว่าถ้าสารวัตรเจียงมีเวลาให้โทร.กลับมาหาตน

“นายคิดว่ามันจะเป็นพวกเดียวกับที่ยิงลุงจินกับหมอชามินต์ไหม” เดนิสถาม โลแกนเชื่อว่าน่าจะเป็นพวกเดียวกัน

ชามินต์ไม่เข้าใจว่าทำไมมันจึงพยายามฆ่าตน โลแกนเชื่อว่าคงเป็นใครสักคนที่ไม่ต้องการให้ตนรักเธอ แต่นีล่าแย้งว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องนี้ก็ได้ เพราะพวกมือปืนพยายามฆ่าโลแกนด้วย

“เอาล่ะ พี่ว่าเราอย่าเพิ่งวิเคราะห์อะไรกันเลย รอให้ตำรวจสรุปก่อนดีกว่า” โลแกนตัดบทบอกให้ชามินต์ไปพักผ่อนเสีย นีล่านิ่งคิดและขอตัวกลับ เดนิสถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เธอบอกว่ารู้สึกเครียดๆแล้วเดินออกไปเลย

ooooooo

โลแกนพาชามินต์ไปห้องนอน บอกว่าเดี๋ยวจะให้เขาตุ๋นรังนกมาให้ ชามินต์บอกว่าไม่ต้องห่วง ตนแค่มึนหัวเท่านั้น แต่พอโลแกนหันหลังจะออกไป เธอจับมือเขาไว้ เอ่ยเสียงเครือน้ำตาพรูว่า

“โลแกน...ฉันรักคุณนะ ฉันอยากบอกให้คุณรู้ว่าฉันรักคุณ” โลแกนดึงเธอไปกอดแนบแน่น “ฉันพยายามแล้วที่จะไม่อยู่ใกล้คุณ พยายามที่จะลืมคุณ...ไม่รักคุณ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฉันรู้ว่า มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าฉันหรือคุณต้องตายไปโดยที่คุณไม่รู้ว่าฉันรักคุณมากแค่ไหน”

โลแกนประคองหน้าเธอเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ชามินต์ยังคงพูดความรู้สึกจากหัวใจว่า

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ฉันอยากบอกให้คุณรู้ว่าฉันรักคุณนะโลแกน”

เป็นประโยคที่ทำให้โลแกนปลื้มปีติอย่างที่สุด เขากอดเธอไว้แนบแน่นเอ่ยเบาๆ...

“ในที่สุด เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างคุณก็ละลายได้เหมือนกันนะ” แล้วบรรจงจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน... อบอุ่น...

เมื่อออกจากห้องมาพบเดนิสอีกครั้ง เดนิสถามว่าเรื่องนี้เขาคิดว่าเกี่ยวกับเหว่ยซานไหม เหว่ยซานอาจไม่พอใจที่เขาชอบกับหมอชาร์มจึงคิดจะกำจัดให้พ้นทาง เดนิสเตือนโลแกนด้วยความเป็นห่วงว่า

“ถ้านายรักหมอชามินต์นายควรจะปล่อยเธอไป อย่าเอาชีวิตเธอมาเสี่ยงกับเรื่องนี้เลย” โลแกนถามว่าเขาไม่เข้าใจหรือว่าตนรักเธอ “แต่นายกำลังเอาชีวิตเธอมาเสี่ยง เธออาจจะต้องตายฟรีโดยที่เธอไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เพียงแค่นายบอกว่ารักเธองั้นหรือ ฉันว่านายเห็นแก่ตัวเกินไปรึเปล่า”

“ไม่...ถึงยังไงฉันก็จะไม่มีวันเลิกรักชามินต์ ฉันเข้าใจที่นายพูด แต่มันต้องมีวิธีอื่น ฉันจะไม่หยุดรักเธอและจะไม่ปล่อยให้เธอไปจากชีวิตฉัน”

โลแกนเด็ดเดี่ยว หนักแน่น จริงจัง จนเดนิสอึ้ง แล้วถอนใจเมื่อคิดถึงเรื่องของตัวเอง...

ooooooo

ออกจากบ้านโลแกน นีล่าตรงไปที่ทำงานของเหว่ยซานทันที ถามว่าพ่อรู้เรื่องที่โลแกนถูกยิงแล้วใช่ไหม รู้ไหมว่าพวกมือปืนเป็นคนของใคร เหว่ยซานตอบหน้านิ่งว่ารู้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครทำเพราะโลแกนมีศัตรูทางการค้าเยอะมาก

นีล่ามองหน้าพ่อกำลังจะถามต่อ ก็พอดีพนักงานมาบอกเหว่ยซานว่าโลแกนมาขอพบ เหว่ยซานให้เชิญเข้ามาข้างใน โลแกนเข้ามาพร้อมเดนิส เหว่ยซานถามเชิงตำหนิว่าจะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้เตรียมต้อนรับ

“ผมจะมาแจ้งเรื่องการแต่งงานของผมกับนีล่า” นีล่าตกใจถามว่าโลแกนจะพูดอะไร ถูกเหว่ยซานปรามว่าอย่าเสียมารยาท โลแกนพูดอย่างไม่ลังเลว่า “ผมได้ฤกษ์มาแล้ว หลังตรุษจีนผมจะแต่งงานกับนีล่า”

“ให้มันได้อย่างนี้สิโลแกน ฉันดีใจที่เธอตัดสินใจถูกต้อง” เหว่ยซานพอใจมาก แต่นีล่าลุกเดินปาดน้ำตาออกไป เดนิสสบตาโลแกนอย่างเข้าใจความรู้สึกของนีล่า

คุยธุระเสร็จโลแกนกับเดนิสลากลับทันที เหว่ยซาน มองตามพึมพำ

“นับว่าแกตัดสินใจถูกต้อง ฉันจะได้ไม่ต้องฆ่าหมอชามินต์”

นีล่ารับไม่ได้เดินหนีมาที่ล็อบบี้ โลแกนตามมา เธอต่อว่าเขาที่เคยบอกว่าจะไม่แต่งงานกับตน แต่วันนี้ทำไม?!?

เดนิสชี้แจงว่าถ้าโลแกนไม่แต่งงานกับเธอ ชามินต์ก็ต้องตาย โลแกนย้ำว่าตนจำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัยของชามินต์

นีล่ายิ่งรับไม่ได้ที่ทุกคนคำนึงถึงแต่ชามินต์ แต่ไม่คิดถึงความรู้สึกของตนเลย ตะโกนใส่หน้าเดนิส “ฉันเกลียดพี่” แล้ววิ่งหนีไป เดนิสร้องเรียก แต่โลแกนบอกว่ารอให้ถึงเวลาที่เราบอกความจริงกับเธอ เธอก็หายโกรธเอง แล้วชวนกันกลับ

ooooooo

คืนนี้ คอลินมาเคาะประตูห้องนอนชามินต์ขอเข้าไปนอนด้วย พอชามินต์เปิดประตูให้ คอลินเข้าไปอ้อนขอให้พี่ชาร์มมาเป็นแม่ตนได้ไหม ขณะนั้นเอง คลากโทร.เข้ามือถือชามินต์บอกว่าได้ข่าวโลแกนถูกยิงเลยเป็นห่วงเธอ แต่เมื่อรู้ว่าปลอดภัยก็ดีแล้ว

พอรู้ว่าเธออยู่กับคอลินก็ขอคุยด้วย คลากถามว่าชอบหุ่นยนต์ที่ตนซื้อให้ไหม

คอลินบอกว่าไม่ได้เล่น เพราะป๊ะป๋าไม่ให้เล่น คลากถามว่าทำไมล่ะ

“ผมก็ไม่รู้ครับ แค่นี้นะครับ ป๊ะป๋าไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้า”

“เดี๋ยวสิคอลิน วันหลังฉันจะเอาหุ่นยนต์ไปให้ใหม่นะ”

คอลินขอบคุณแล้วส่งโทรศัพท์ให้ชามินต์ คลากถามเธอว่าพรุ่งนี้จะไปทำงานไหมตนจะเอาหุ่นยนต์ตัวใหม่มาฝากให้คอลิน ชามินต์ให้ฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ก็แล้วกัน

พอวางสายกับคลาก คอลินถามว่าถ้าป๊ะป๋ารู้ว่าคลากซื้อหุ่นยนต์ให้ก็จะเอาไปทิ้งอีกไหม

“ถ้างั้นพี่ชาร์มจะบอกว่าพี่ชาร์มซื้อให้ดีไหม”

คอลินดีใจมาก คู่หูต่างวัยยกมือตีกัน ชามินต์ดึงคอลินไปกอดอย่างรักใคร่

โลแกนเพิ่งกลับมา พอรู้ว่าคอลินไปนอนกับชามินต์เขาเปิดประตูห้องเข้าไปเห็นคอลินนอนหลับในอ้อมกอดของชามินต์ แต่เธอยังไม่หลับบอกว่ารอเขาอยู่ โลแกนจึงชวนไปคุยกันที่ห้องทำงานของตน

โลแกนบอกเธอว่าวันนี้ตนไปคุยกับเหว่ยซานบอกว่าจะแต่งงานกับนีล่าเพื่อกันเธอออกไปจากอันตรายเพราะตนยังไม่แน่ใจว่าการถูกลอบยิงนั้นเป็นฝีมือของใคร จึงต้องกันไว้ก่อน

การเอ่ยถึงเหว่ยซาน ทำให้ชามินต์จำได้ว่าโลแกนเคยเพ้อชื่อนี้ขณะที่เขาบาดเจ็บสาหัส แต่พอโลแกนถามเธอไม่ยอมเล่าบอกว่าเคยเล่าให้เขาฟังแล้วและจะกลับห้อง โลแกนไม่ให้กลับ อ้อนคืนนี้ขอให้นอนเป็นเพื่อนคุยกับตน แค่คุยเท่านั้น เพราะตนอยากกอดเธอไว้ทั้งคืน...

ooooooo

วันรุ่งขึ้น เดนิสมาหาโลแกนแต่เช้า บอกว่ากลุ้มใจที่โทร.ไปแล้วนีล่าไม่รับสาย โลแกนบอกว่าปล่อยไปก่อนเธอหายงอนค่อยไปง้อ เดนิสโทษว่าเพราะเขาคนเดียวทำให้นีล่าโกรธตน

“นายอย่ามาโทษฉันเลยเดนิส ถึงไม่มีเรื่องฉัน วันนึงนีล่าเขาก็ต้องระเบิดใส่นายแบบนี้” เดนิสถามว่าทำไม? ตนทำอะไร? “ก็นายไม่เป็นตัวของตัวเองน่ะสิ ไม่กล้าต่อสู้เพื่อคนที่นายรัก” เดนิสโต้ว่าเพราะเหว่ยซานไม่ยอมให้ตนแต่งงานกับเธอ “นายก็ต้องยืนยันในความรักที่มีต่อนีล่า ให้พ่อเขารู้ว่าจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงนายได้”

“แกก็พูดได้สิ เพราะเหว่ยซานไม่ได้เกลียดแกนี่ เขาเกลียดฉัน”

“ฉันถึงได้บอกให้แกต่อสู้แล้วก็ช่วงชิงนีล่ามาให้ได้ไง”

เดนิสรับปากว่าจะทำตามที่โลแกนบอก แต่พอโทร. ไปนีล่าไม่รับสาย รุ่งขึ้นเขาไปหาเหว่ยซานที่ห้องทำงานขอคุยกับนีล่า เหว่ยซานบอกว่ารู้ว่าเขาจะมาคุยเรื่องอะไร ไล่ให้กลับไปเลย เดนิสขอร้องว่าอยากให้ท่านเข้าใจความรู้สึกของตนที่มีต่อนีล่า เหว่ยซานตัดบทว่าไม่คุยเรื่องนี้ยืนยันว่า “นีล่าต้องแต่งงานกับโลแกนเท่านั้น”

“ทั้งๆที่เขาสองคนไม่ได้รักกันงั้นหรือครับ”

“ใช่ พอใจหรือยัง ฉันเห็นว่าเธอเป็นลูกของปีเตอร์ชาน หรอกนะ ถ้าเป็นคนอื่นมาพูดแบบนี้กับฉัน ฉันถือว่าไม่ให้เกียรติกัน” เจอไม้แข็งขนาดนี้เดนิสก็ลากลับ พอเดนิสเดินออกไปขึ้นลิฟต์ นีล่าโผล่มาดู เหว่ยซานพูดกับเธออย่างพอใจว่า “พ่อดีใจนะที่ลูกตัดใจจากเดนิสได้” แล้วเดินผ่านไปเลย ทิ้งให้นีล่าน้ำตาไหลพรากอยู่ตรงนั้น...

เดนิสกลับไปเล่าให้โลแกนฟังว่า ต่อให้ตนพูดจนคอแตกเหว่ยซานก็ไม่มีวันยกนีล่าให้ โลแกนถามว่าจะยอมแพ้แล้วหรือ เดนิสถามอย่างท้อใจว่าแล้วจะให้ทำอย่างไร

“นายก็พานีล่าหนีไปแต่งงานที่ไหนก็ได้ ทุกอย่างก็จบ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่นาย เราเป็นคนกำหนดชีวิตเราเอง เราอาจจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถกำหนดชีวิตเราได้ แล้วฉันก็เชื่อว่านีล่าพร้อมที่จะไปกับนาย อยู่ที่ว่านายจะกล้ารึเปล่า”

เดนิสฟังแล้วก็ยังรู้สึกว่ายากมาก โลแกนบอกว่าตนไม่คาดคั้นเขา แล้วกลับเข้าไปทำงานเลย

ooooooo

หมอโจที่หลงรักชามินต์ มีเหม่ยหงลุ้นและเชียร์ตลอดมา เมื่อโลแกนประกาศลั่นโรงพยาบาลว่าหมอชามินต์คือคนรักของตน วันนั้นหมอโจถึงกับเป็นลม

เหม่ยหงเห็นใจหมอโจมาก ในภาวะที่หมอโจกำลังอกหัก ได้รับกำลังใจจากเหม่ยหงจึงกลายเป็นความรักไม่รู้ตัว เมื่อคนอกหักกับคนหัวใจว่างเห็นใจและเข้าใจกัน หมอโจมีคนเยียวยาหัวใจ เหม่ยหงก็ได้คนมาเติมเต็มหัวใจที่ยังว่าง...จึงลงตัวกันอย่างงดงาม

ฝ่ายโลแกนที่เอาชนะหัวใจชามินต์ได้แล้ว ก็ทำคะแนนรุกหนัก โทร.หาเธอแทบทุกชั่วโมงจนชามินต์บอกว่าตนต้องทำงาน โลแกนนัดว่าเย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันตนจองร้านอร่อยไว้แล้ว

“อย่าเลยค่ะ ก็คุณบอกว่าอยากกันให้ฉันอยู่ห่างๆ คุณ เดี๋ยวใครมาเห็นเราอยู่ด้วยกันจะเป็นเรื่องอีก”

“ก็ได้ งั้นกลับไปทานที่บ้านผมแล้วกัน”

ชามินต์บอกว่าวันนี้ตนจะกลับอพาร์ตเมนต์ เพื่อความปลอดภัยของเราทั้งสองคน โลแกนจึงยอม

เมื่อกลับอพาร์ตเมนต์ ยามจางถามว่าหายไปไหนหลายวัน ชามินต์ตัดปัญหาปดว่าไปต่างประเทศ ยามจางบอกว่าหมอคงไม่รู้เรื่องโลแกนถูกลอบยิงแต่รอดทั้งโลแกนผู้หญิงสงสัยจะเป็นเมียโลแกน ชามินต์ถามเสียงขุ่นว่ามาบอกตนทำไม

“ขอโทษครับ ผมเห็นว่าคุณหมอเคยรู้จักกัน” ยามจางยิ้มแหย

แต่พอชามินต์ขึ้นไปไม่นาน โลแกนก็มาที่อพาร์ตเมนต์ พร้อมอาหารหลายถุง เขาถามยามจางว่าชามินต์อยู่ห้องไหน ยามจางบอกว่าอยู่ห้องเดิม โลแกนบ่นว่าพูดอย่างกับตนเคยมา พอยามจางบอกห้องเขาขึ้นไปทันที

“ทำไมอยู่ๆถึงจำห้องคุณหมอชาร์มไม่ได้ หึ...สงสัยจะทำแอ็กกับเรา” ยามจางพึมพำงงๆ

ชามินต์เพิ่งนึกได้ว่าอาหารในห้องหมด โชคดีที่ยังเหลือบะหมี่สำเร็จรูปอยู่หนึ่งซอง ขณะกำลังจะทำบะหมี่กิน เสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้น เธอมองทางตาแมวเห็นโลแกนยืนอยู่ เธอเปิดประตู เอะใจถามว่า “คุณจำได้หรือ”

“จำอะไร ผมก็แค่ถามยามว่าคุณอยู่ห้องอะไรไม่เห็นยากเลย ทำไมต้องทำหน้าตกใจ” ชามินต์ปรับสีหน้าแทบไม่ทันบอกว่าตนไม่ได้ตกใจ ถามว่าแล้วเขามาทำไม “นี่ไง...ก็มากินข้าวกับคุณ อย่ายืนตรงนี้เลย เดี๋ยวคนเห็น” โลแกนเดินเข้าห้องปิดประตู ให้ลูกน้องยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง

ooooooo

พิรุณพร่ำรัก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด