สมาชิก

พิรุณพร่ำรัก

ตอนที่ 11

อัลบั้ม: "บอม ธนิน" ประกบ "ไอซ์ อามีนา" ใน "พิรุณพร่ำรัก"


โลแกนนัดเดนิสให้มาพบกับนีล่าที่ห้องตรวจ นีล่าโผกอดเดนิสน้ำตาทะลัก บอกว่าดีใจที่เขาจะแต่งงานกับชามินต์

“พี่ตัดสินใจถูกแล้ว หมอชาร์มเป็นคนดี เป็นคนน่ารัก ฉันว่าเขาเหมาะสมกับพี่มากกว่าฉัน” เดนิสอยากจะบอกความจริง นีล่าตัดบทว่า “พี่ไม่ต้องพูดหรอก ฉันเข้าใจความรู้สึกของพี่ และฉันก็ยังรักพี่เหมือนเดิมแล้วก็จะรักตลอดไปด้วย”

เดนิสสงสารนีล่าอย่างที่สุดแต่ก็ไม่อาจบอกความจริงเธอได้ เขากอดเธอไว้อย่างอัดอั้น ขอให้เธอสัญญาว่านับจากวันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะเข้มแข็ง ไม่โกรธตนและไม่โกรธโลแกน

“ฉันสัญญา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะไม่ทำร้ายตัวเอง จะไม่ทำอะไรให้พี่ต้องเป็นห่วง แต่พี่ก็ต้องสัญญากับฉันนะว่าพี่จะต้องลืมฉัน” เดนิสตอบทันทีว่าตนคงทำไม่ได้ “ไม่ได้นะพี่เดนิส พี่อย่าทำร้ายหมอชาร์มแบบนี้ ฉันเองก็จะลืมพี่และตั้งต้นชีวิตใหม่กับพี่โลแกน”

แม้จะเจ็บปวดปานหัวใจสลาย แต่นีล่าก็ตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่จะปกป้องชีวิตของคนที่ตนรักทุกคนให้ปลอดภัย

เมื่อนีล่าออกจากห้องตรวจ โลแกนบอกให้รอตนก่อนแล้วตัวเขาเข้าไปในห้องตรวจ ถามเดนิสว่าเข้าใจกันดีแล้วนะ เดนิสสงสารนีล่า ถ้าถึงเวลาที่พ่อเธอถูกจับ เธอจะทำอย่างไร โลแกนถามว่าเขาบอกอะไรนีล่าบ้าง

“ฉันก็บอกแค่ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นขอให้เธอเข้มแข็ง”

“ดีแล้ว นายบอกอย่างนั้น นายเองก็ต้องเข้มแข็งด้วย เข้าใจรึเปล่า”

โลแกนตบไหล่ให้กำลังใจ แม้เดนิสจะพยักหน้า แต่ก็ถอนใจเครียด...

ooooooo

สารวัตรเจียงไปสอบสวนเจนิส ฮุ่ย ที่โรงพยาบาลจนได้หลักฐานสำคัญที่จะโยงไปถึงเหว่ยซานที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้และกำลังทำเรื่องส่งให้อัยการแล้ว

โลแกนขอบคุณสารวัตรเจียง นัดเจอกันในวันแต่งงานของเดนิส จากนั้นเขาบอกชามินต์ว่าคราวนี้เหว่ยซานไม่รอดแน่ แต่ชามินต์ยังกังวลว่าคนอย่างเหว่ยซานจะยอมให้ตำรวจจับหรือ โลแกนมั่นใจว่าหลักฐานมัดตัวแน่นหนาเหว่ยซานไม่อาจปฏิเสธได้แน่ เธอได้แต่ภาวนา ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี

ถึงวันแต่งงาน ในโบสถ์ที่เคร่งครึมและดูศักดิ์สิทธิ์ พิธีดำเนินไปตามขั้นตอน เหว่ยซานยิ้มแย้มสบายใจ แต่พวกโลแกนที่รู้กัน ต่างมองหน้ากันเป็นระยะเพื่อการปฏิบัติการเป็นไปตามแผน

จนถึงเวลาสำคัญที่บาทหลวงประกาศความเป็นสามีภรรยากัน โลแกนส่งสัญญาณให้ป้าหวาพาคอลินออกไป

บาทหลวงถามเดนิสว่าจะยอมรับชามินต์เป็นภรรยาหรือไม่ เดนิสตอบว่ายอมรับ บาทหลวงถามชามินต์ว่าจะยอมรับเดนิสเป็นสามีหรือไม่ ชามินต์เหลือบมอง โลแกน เขายิ้มให้และพยักหน้า ชามินต์จึงตอบ “ยอมรับค่ะ”

“บัดนี้ ขอประกาศให้คุณหมอเดนิสและคุณหมอชามินต์เป็น...”

“ช้าก่อนครับบาทหลวง” โลแกนขัดขึ้น ทุกคนตะลึงอึ้ง บาทหลวงถามว่ามีอะไรหรือ โลแกนประกาศกลางพิธีด้วยเสียงอันดังว่า “ผมขอคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ครับ”

เหว่ยซานตวาดถามว่าพูดบ้าอะไรโลแกน โลแกนบอกว่าตนไม่ได้บ้าแต่ตนคัดค้านเพราะหมอเดนิสกับหมอชามินต์ไม่ได้ยินดีที่จะแต่งงานกัน บาทหลวงบอกว่าเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเขายอมรับ โลแกนบอกว่า

ทั้งสองถูกบังคับให้แต่งงานกัน บาทหลวงถามว่าจริงหรือ ชามินต์ตอบทันทีว่าจริง และเดนิสก็ชี้แจงว่า

“และที่เรายอมเข้าพิธีก็เพื่อที่จะจับตัวผู้บงการฆ่าพ่อผมและพ่อแม่โลแกน”

“และคนคนนั้นก็คือเหว่ยซาน” โลแกนชี้ตัว ถูกเหว่ยซานตวาดว่าพวกเขาพูดจาเหลวไหล “เรารู้หมดแล้วว่าคุณคือผู้อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อแม่ผมและคุณก็เป็นคนฆ่าไลลาน้องสาวผมด้วย”

เหว่ยซานโต้ว่าพวกเขากำลังกล่าวหาตนโดยไม่มีหลักฐาน นีล่าถามอย่างรับไม่ได้ว่าทำไมมากล่าวหาพ่อตนซึ่งไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่ เพราะพ่อเป็นเพื่อนรักของพ่อพี่ทั้งสองจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร

“นีล่า...พ่อเธอเป็นคนสั่งให้คนวางระเบิดเครื่องบินพ่อพี่กับพ่อโลแกน หลังจากนั้นไลลาก็ถูกฆ่าปิดปากเพราะรู้ว่าพ่อเธอเป็นคนสั่งการ”

ทั้งนีล่าและอาเหวินโต้ว่าไม่จริง เหว่ยซานถามว่ามีหลักฐานอะไรมากล่าวหาตน โลแกนบอกว่าเรามีหลักฐานรายละเอียดทั้งหมด เหว่ยซานท้าให้เอามาโชว์ ถ้ามีหลักฐานตนจะยอมรับผิด แขกในงานต่างเห็นด้วยให้เอาหลักฐานมายืนยัน จะได้รู้ว่าใครผิดใครถูก

การทุ่มเถียงท้าทายกันด้วยวาจาสิ้นสุดลง เมื่อคลากกับสารวัตรเจียงผลักประตูเข้ามา ตามด้วยเจนิส ฮุ่ยที่นั่งรถเข็นเข้ามา เหว่ยซานและอาเหวินตกใจตะลึง คลากประกาศว่า

“นี่คือสารวัตรเจียงแห่งกองปราบครับ และนี่คือเจนิส ฮุ่ย เธอเป็นภรรยาของแอรอน ลี นักข่าวที่ถูกฆ่าตายเมื่อสามเดือนก่อน เธอคือพยานที่ถูกฆ่า แต่โชคดีที่เธอรอดมาได้ ทำให้เรารู้ความจริงว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการสั่งฆ่าครั้งนี้คือคุณเหว่ยซาน”

เหว่ยซานเล่นแง่ว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวไม่พอที่จะกล่าวหาตน อาเหวินก็หาว่านี่เป็นการจัดฉากปรักปรำท่านเหว่ย เจนิสโต้ว่า อาเหวินเป็นคนยิงแอรอนและตนที่หัว อาเหวินท้าว่าให้เอาหลักฐานมายืนยัน

“ถ้างั้นพวกคุณก็หันมาดูที่จอข้างหลังได้เลย” สิ้นเสียงโลแกน จอโปรเจกเตอร์ก็ปรากฏภาพจากกล้องวีดิโอในมือถือที่ตกกับพื้น เป็นภาพและเสียงร้องขอชีวิตของแอรอนกับเจนิสก่อนถูกอาเหวินยิงที่หัว

เหว่ยซานเถียงว่าไม่เกี่ยวอะไรกับตน นีล่าแย้งว่าพ่อก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เดนิสบอกเหว่ยซานว่ายอมรับและมอบตัวกับตำรวจดีกว่า

“ใช่ครับ ผมขอจับคุณข้อหาบงการฆาตกรรม” สารวัตรเจียงประกาศจับ

“ใครจะจับท่านเหว่ยต้องข้ามศพผมไปก่อน” อาเหวินและลูกน้องเหว่ยซานต่างชักปืนล้อมเหว่ยซานไว้

สารวัตรเจียงบอกให้ทิ้งปืนเสียเพราะตำรวจล้อม ไว้หมดแล้ว เดนิสก็ขอให้มอบตัวเสียเพราะทุกอย่างจบแล้ว

เหว่ยซานไม่ยอมจบ เขายิงใส่สารวัตรเจียง โบสถ์กลายเป็นสนามรบทันที ทั้งสองฝ่ายยิงต่อสู้กันต่างบาดเจ็บล้มตายไปหลายคน เหว่ยซานยิงโลแกนแต่คลากกระโดดขวางกระสุนเจาะกลางหลังเลือดทะลัก เดนิสโดดเข้ารวบตัวเหว่ยซาน ต่อสู้กันแต่เดนิสพลาดล้มลง เหว่ยซาน จะยิงถูกนีล่าโดดขวางตะโกน “ถ้าพ่อจะยิงพี่เดนิส พ่อต้องยิงหนูก่อน”

โลแกนเข้ารวบเหว่ยซานจากข้างหลัง อาเหวินเข้าไปรวบตัวโลแกนต่อยจนล้มตะโกนให้เหว่ยซานหนี เดนิสคว้าปืนแถวนั้นสั่งเหว่ยซานให้หยุด ถ้าหนีตนยิง

“พี่เดนิส ได้โปรดเถอะ อย่าฆ่าพ่อฉัน” นีล่าอ้อนวอน

ในการต่อสู้ที่ชุลมุนนั้น เหว่ยซานวิ่งมาจับ

ชามินต์ไว้เป็นตัวประกัน ขู่โลแกนว่า

“ทิ้งปืน ถ้าแกตามมา ฉันจะฆ่านังนี่” แล้วกระชากชามินต์ออกไปทางประตูด้านหลังหนีไป

ooooooo

เหว่ยซานหนีไปทางด้านหลังมองออกไปทางหน้าต่างเห็นตำรวจปิดทางออกไว้หมด เขาขู่ชามินต์ว่า หากเธอร้องจะฆ่าทิ้งทันที แล้วลากเธอกลับเข้าไปด้านในมองหาทางหนี

“ฉันว่าคุณมอบตัวเถอะ คุณไม่มีทางหนีรอดหรอก ตำรวจล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว”

“ถ้าฉันไม่รอด เธอก็คือคนแรกที่ต้องตาย”

ชามินต์หว่านล้อม ถามว่าเขาทำอย่างนี้จะเกิดประโยชน์อะไร ไม่สงสารนีล่าหรือ ถูกตวาดว่าไม่ต้องมาสั่งสอน

“ฉันไม่ได้สั่งสอนคุณหรอกค่ะ ฉันแค่เตือนสติคุณ ...ในชีวิตนีล่าเขามีคุณเพียงคนเดียวนะคะที่จะยึดเหนี่ยวไว้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนดีหรือคนเลว แต่คุณก็คือพ่อของเธอ”

เหว่ยซานตะคอกว่าถ้าไม่หยุดพูดจะยิงหัวเธอเดี๋ยวนี้ แต่ชามินต์ยังคงพูดว่า

“คุณรู้ไหมคะ ฉันเกิดมา ฉันไม่มีทั้งพ่อและแม่ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ทำไมเขาถึงทิ้งฉันไว้ที่บ้านเด็กกำพร้า แต่คุณมีลูกสาว คุณเลี้ยงดูทะนุถนอม ให้ความรักความอบอุ่นกับเขาทุกอย่าง แต่อยู่ๆวันนี้คุณกำลังจะทิ้งเธอเพื่อหนีความผิด แล้วปล่อยให้เธอต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่คุณทำไว้ทั้งหมดอย่างนั้นหรือคะ”

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ ฉันบอกให้หุบปาก” เหว่ยซาน ตวาดยกปืนจ่อ

“ยิงฉันเลยค่ะ เพราะครั้งนึงคุณก็เคยคิดที่จะฆ่าฉันเพราะกลัวว่าฉันจะแย่งโลแกนไปจากลูกสาวคุณ แล้วที่คุณกล้าทำแบบนั้น ก็เพราะความรักที่คุณมีให้กับนีล่าไม่ใช่หรือคะ” เหว่ยซานอึ้ง “เชื่อฉันเถอะค่ะ ถึงคุณจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต แต่อย่างน้อยนีล่าก็ยังรู้ว่าพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่”

เหว่ยซานหน้าสลดกับคำพูดกินใจของชามินต์ เธอกล่าวประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดว่า...

“อย่าปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้เหมือนกับฉันเลยค่ะ...”

ooooooo

โลแกน สารวัตรเจียงและตำรวจวิ่งมาตามช่องทางเดินตามหาเหว่ยซานกับชามินต์ โลแกนตะโกนเรียก

“ชามินต์...คุณอยู่ไหน”

“ฉันอยู่นี่ค่ะ” ชามินต์เดินออกมา โลแกนถามว่าเขาอยู่ไหน พอเหว่ยซานก้าวออกมาเขายกปืนจ่อทันที นีล่ากับเดนิสตามมาถึง นีล่าร้องเรียกพ่อโผเข้ากอด คำแรกที่เหว่ยซานเอ่ยคือ พ่อขอโทษ...

สารวัตรเจียงเข้าไปแยกนีล่าออกมาแล้วควบคุมตัวเหว่ยซานเดินออกไป นีล่าร้องไห้เดินตาม เดนิสดึงเธอเข้าไปกอดไว้ ขณะเดียวกันโลแกนหันถามชามินต์ว่าเขาทำอะไรเธอหรือเปล่า พอเธอบอกว่าเปล่า เขาดึงเธอเข้าไปกอดถอนใจ

เดนิสไปส่งนีล่าที่บ้าน ถามว่าแน่ใจหรือที่ไม่อยากให้ตนอยู่เป็นเพื่อน นีล่าขอบคุณที่มาส่งบอกว่าตนอยากอยู่คนเดียว เดนิสจึงนัดพรุ่งนี้สายๆจะมารับเธอไปเยี่ยมพ่อ ยืนมองนีล่าเดินเข้าบ้านไป ถอนใจอย่างเป็นห่วง...

เมื่อเดนิสกลับถึงบ้านเขารีบโทรศัพท์ถึงนีล่า เธอเห็นรูปเดนิสที่หน้าจอ ได้แต่กำโทรศัพท์น้ำตาไหล วางโทรศัพท์ล้มตัวลงนอนร้องไห้ พึมพำขอโทษเขาแทนพ่อด้วย ฝ่ายเดนิสรอจนสายหลุด ไม่เฉลียวใจ คิดว่าเธอคงหลับไปแล้ว

โลแกนพาชามินต์กลับไปที่บ้านเขา ชามินต์เปลี่ยนชุดเจ้าสาวแล้วมานั่งคุยกันที่ห้องรับแขก โลแกนชมว่าเธอเก่งมากที่กล่อมให้เหว่ยซานยอมมอบตัว

“ไม่ใช่ฉันหรอกค่ะ เขาแค่รักและห่วงลูกสาวเขามากกว่าก็เลยยอมมอบตัว” เขาขอให้เล่าว่าเธอพูดอะไรบ้าง ชามินต์บอกว่าแค่เล่าเรื่องของตนให้ฟังเท่านั้น เขาคะยั้นคะยอถามว่าเรื่องอะไร “ฉันเคยเล่าให้คุณฟังแล้วตอนที่คุณเคยไปอยู่กับฉัน”

“แต่ผมจำไม่ได้นะ เล่าให้ผมฟังใหม่ซิ”

“ไม่ ถ้าคุณอยากรู้คุณต้องคิดให้ออกเอง”

“คุณนี่ขี้โกงจริงๆ” โลแกนดึงเธอเข้าไปกอด บอกว่าถ้าไม่เล่าจะจูบเธอเดี๋ยวนี้

“ป๊ะป๋าจะทำอะไรพี่ชาร์มครับ” คอลินมายืนมองตาแป๋วถามเสียงใส ชามินต์รีบบอกว่าไม่ได้ทำอะไร คอลินถามว่าจะจูบหรือ โลแกนถามหน้าตาเฉยว่าพ่อจะจูบแม่มันเป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหม “ใช่ครับ จูบเลย ผมไม่มอง”

โลแกนเลยกอดทั้งชามินต์และคอลินแล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายรูปหัวเราะกันอย่างร่าเริง...

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น เดนิสไปรับนีล่าตามนัด สาวใช้บอกว่าเธอออกไปแต่เช้ามืดแล้ว ไม่ได้บอกว่าไปไหนแต่สั่งให้ตุ๋นซุปไก่ให้หม้อหนึ่ง คงเอาไปให้ท่านเหว่ย เดนิสสงสัยว่าทำไมเธอไม่รอตน บอกสาวใช้ว่าถ้าเธอกลับให้โทร.หาตนด้วย

ที่แท้นีล่าไปเยี่ยมเหว่ยซานพร้อมซุปไก่แล้ว เธอมองพ่อในชุดนักโทษที่หน้าตาอิดโรย กินซุปได้ไม่ถึงสามคำก็วางช้อนบอกว่าไม่หิว

เหว่ยซานขอโทษนีล่าที่ทำให้ลูกต้องอับอายขายหน้าคนทั่วไป นีล่าพูดอย่างไม่ยี่หระว่า

“ไม่หรอกค่ะ หนูไม่อายใครหรอกพ่อ แล้วหนูก็รู้ว่าพ่อทำเพราะพ่อรักและหวังดีกับหนู”

“แต่สิ่งที่พ่อทำมันเลวร้ายเกินกว่าที่จะให้อภัย ถ้าหมอชามินต์ไม่เตือนสติ ป่านนี้พ่อก็คงยิงตัวตายหนีไปจากลูกแล้ว”

“ไม่นะพ่อ พ่อต้องไม่ทำอย่างงั้นนะ ถ้าพ่อตายหนูจะอยู่กับใคร ไม่ว่าพ่อจะเป็นยังไง จะเลวร้ายในสายตาใคร แต่สำหรับหนู พ่อก็คือพ่อที่รักและหวังดีกับหนูตลอดชีวิต สัญญากับหนูนะคะพ่อ ว่าพ่อจะไม่คิดสั้นจะไม่ทำร้ายตัวเอง นะคะพ่อ พ่อต้องมีชีวิตอยู่เพื่อหนู หนูสัญญาว่าหนูจะมาเยี่ยมพ่อทุกวัน”

ผู้คุมมาบอกว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้ว นีล่าเดินจากมาน้ำตาอาบแก้ม ส่วนเหว่ยซานถูกผู้คุมจับหันหลังเดินกลับเข้าไป

นีล่าเดินร้องไห้ออกมา เจอเดนิสยืนรออยู่ เขาถามว่าท่านเหว่ยเป็นอย่างไรบ้าง เธอตอบสั้นๆว่า “ก็ดีค่ะ”

เดนิสถามว่าจะกลับบ้านเลยใช่ไหมตนจะไปส่ง เธอปฏิเสธ เขาบอกว่าวันนี้ตนไม่มีงานที่ไหน ชวนไปหาโลแกนกินข้าวเที่ยงด้วยกัน นีล่าบอกว่าอยากกลับบ้าน เดนิสจะไปส่ง เธอบอกว่ากลับเองได้แล้วจะผละไป เดนิสคว้ามือไว้ถามว่าทำไมไม่ให้ตนไปส่ง

“ฉันขอร้องล่ะพี่เดนิส ตอนนี้ฉันอยากอยู่คนเดียว ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น”

ความขรึมเศร้าของนีล่าทำให้เดนิสจำต้องปล่อยมือ มองเธอเดินจากไปอย่างไม่เข้าใจและเป็นห่วง...

ooooooo

ชามินต์เอาช่อดอกไม้ไปเยี่ยมคลาก ขอบคุณที่เขาช่วยชีวิตโลแกนไว้ คลากพูดตรงๆว่าที่จริงตนไม่อยากช่วยแต่ในสถานการณ์นั้นมันเป็นไปโดยอัตโนมัติมากกว่า

แต่ชามินต์ก็ขอบคุณ บอกว่าถ้าโลแกนว่างคงจะหาเวลามาเยี่ยม คลากไม่เชื่อว่าโลแกนจะมาเพราะรู้ว่าเขาเกลียดตนมาก ชามินต์เชื่อว่าคงหายโกรธแล้วเพราะรู้ความจริงเรื่องเขากับไลลาแล้ว

“ผมไม่ได้สนใจหรอกครับว่า เขาจะโกรธหรือให้ อภัย วันนี้ผมดีใจ ได้รู้ว่าคอลินเป็นลูกของผมมากกว่า”

ระหว่างที่ชามินต์เยี่ยมคลากอยู่นั้น โลแกนก็มาที่โรงพยาบาล เหม่ยหงบอกว่าหมอชาร์มขึ้นไปเยี่ยมคลาก ครูเกอร์ อยู่ ถามว่าเขาจะขึ้นไปไหมตนจะพาไป

“อ๋อ ไม่ละครับ ผมรอที่นี่ดีกว่า” โลแกนเดินไปนั่งที่โซฟาโทร.หาชามินต์ถามว่าเธอไปเยี่ยมคลาก ครูเกอร์ หรือ

“ใช่ เขาปลอดภัยดีแล้ว อีกสองวันหมอก็ให้กลับบ้านได้ นี่คุณอยู่ไหนคะ” โลแกนบอกว่ารออยู่ที่แผนกเธอ ชามินต์เลยชวน “งั้นคุณก็ขึ้นมาเยี่ยมเขาเลยสิคะ” โลแกนปฏิเสธทันที ชามินต์ติงว่า “แต่ที่เขาถูกยิงเพราะช่วยชีวิตคุณนะ”

“แต่ผมไม่ได้ขอร้องให้เขาช่วย” ตอบแล้วตัดบทถามว่า “นี่คุณเยี่ยมเขาเสร็จหรือยัง ผมจะมารับคุณไปกินข้าว ผมรอคุณอยู่นะ”

“ผมบอกคุณแล้วไงว่าคนอย่างโลแกนเขาไม่สนใจใครหรอก” คลากย้ำ

“พอดีเขามีธุระต้องรีบไปน่ะค่ะ ยังไงฉันก็จะให้เขามาเยี่ยมคุณ ขอตัวก่อนนะคะ”

คลากขอบคุณสำหรับดอกไม้ แต่พอชามินต์ออกไป อาฟงก็ยุให้คลากจีบชามินต์สั่งสอนโลแกนเสียเลย เพราะนายหล่อกว่าโลแกนเยอะ คลากหัวเราะบอกว่าตรุษจีนนี้จะให้แต๊ะเอียอาฟงสักสามเดือนเลย อาฟงยิ้มกว้างรีบขอบคุณล่วงหน้า

ooooooo

ชามินต์ลงมาพบโลแกน เขาไม่พอใจที่เธอไปเยี่ยมคลาก เธอบอกว่าแค่เอาดอกไม้ไปเยี่ยมเพราะคลากช่วยชีวิตเขาไว้

โลแกนยังคงพูดอย่างทิฐิว่าตนไม่ได้ขอให้ช่วย คลากอยากโชว์เธอให้เห็นว่าเขาเป็นคนดี คนเก่งเองต่างหาก บอกให้เลิกพูดถึงคนคนนี้ เร่งให้ไปกินข้าวเพราะตนหิวแล้ว

ไปถึงร้านอาหารไม่นาน เดนิสก็มาถึง โลแกนถามว่าแล้วนีล่าล่ะ

“เธอไม่มา ไม่รู้เป็นอะไร ตั้งแต่เกิดเรื่องพ่อเธอ เธอไม่ยอมพบผม ผมโทร.ไปก็ไม่รับสาย จะไปรับหรือ ไปส่งเธอก็บอกว่าไม่ต้อง”

โลแกนคาดว่าเธอคงเสียใจเรื่องพ่อเลยไม่อยากพบใคร ชามินต์เห็นด้วยเพราะถ้าเป็นตนก็คงไม่กล้าพบเขาสองคน เดนิสถามอย่างเข้าใจไม่ได้ว่า “ทำไมล่ะครับ ในเมื่อพวกเราก็เป็นเพื่อนรักกันแล้วผมก็เป็นคนรักของเธอ”

“หมอเดนิสอย่าลืมนะคะ พ่อเธอสั่งฆ่าพ่อแม่พวกคุณแล้วก็คุณไลลาอีก มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะคะ ที่เธอจะทำใจยอมรับได้ และที่สำคัญ เธอต้องกลัวว่าคุณสองคนต้องโกรธและเกลียดพ่อเธอมาก อาจรวมไปถึงตัวเธอด้วยก็ได้”

แม้เดนิสจะบอกว่าถ้าเขาเกลียดเธอจะไปหาและโทร.ถึงทุกวันทำไม ชามินต์ว่าเธอคงเข้าใจแต่คงเป็นเรื่องยากที่เธอจะปรับความรู้สึกได้ง่ายกับเรื่องเลวร้ายขนาดนั้น โลแกนตัดบทว่าตนเข้าใจเรื่องที่พูดกันแล้ว กินข้าวเสร็จเราไปหานีล่ากันดีกว่า

ooooooo

กลับจากเยี่ยมเหว่ยซาน นีล่าไปไหว้พระ เสร็จแล้วไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม พอหันมา เธอชะงักเมื่อเห็นโลแกน ชามินต์และเดนิสยืนอยู่ โลแกนบอกว่าไปหาเธอที่บ้าน คนที่บ้านบอกว่าเธอมาไหว้พระเลยอยากมาไหว้ด้วย

ทุกคนทักทายนีล่าอย่างอบอุ่นเป็นปกติ เดนิสชวนเธอไหว้พระด้วยกัน นีล่าบอกว่าตนไหว้แล้ว

“ถึงไหว้แล้วก็ไหว้อีกได้ พี่อยากขอพรให้เราสองคนมีแต่ความสุข”

ชามินต์เห็นด้วย นีล่าจึงเดินเข้าร่วมกลุ่ม ทั้งสี่ยืนเรียงกัน โลแกนเป็นผู้กล่าวคำอธิษฐานแทนทุกคนว่า

“ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดดลบันดาลให้พวกเราทั้งสี่ มีแต่ความสุขและสมหวังทุกๆสิ่ง”

นีล่าน้ำตาไหลเอ่ยขอโทษเดนิสแล้ววิ่งไป เดนิสวิ่งตามไป เธอขอโทษเขาและทุกคนบอกว่าตนไม่คู่ควรกับเขา เดนิสบอกว่าเธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากท่านเหว่ยคนเดียว

“แต่ฉันเป็นลูก ฉันก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พ่อทำ จะให้ฉันยิ้มรับแล้วบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันทำไม่ได้หรอกพี่เดนิส ลืมฉันเสียเถอะ วันนี้ฉันไม่เหมาะสมกับพี่แล้ว”

เดนิสขอให้เธอแยกให้ออก เรื่องของเราคือเรื่องของเรา ตนเคยรักเธออย่างไรก็ยังคงรักเธอเหมือนเดิม

“แต่ฉันสิ ฉันไม่เหมือนเดิมแล้วพี่เดนิส วันนี้ฉันเป็นลูกฆาตกรที่อำมหิต ฆ่าได้แม้กระทั่งเพื่อน จากนี้ไปไม่มีใครไว้ใจและยอมรับในตัวฉันอีกต่อไปแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะพี่เดนิส”

ชามินต์กับโลแกนวิ่งตามมา ชามินต์บอกนีล่าว่าอย่างน้อยเธอก็ยังมีพวกเรา โลแกนเสริมว่าพวกเรายังคงถือว่าเธอเป็นน้องสาวเป็นเพื่อนรักของพวกเราเหมือนเดิม นีล่ามองโลแกนน้ำตาไหลถามว่า

“แต่พี่โลแกนก็จะไม่มีวันยกโทษให้พ่อฉันใช่ไหม” โลแกนอึ้ง “เห็นไหมล่ะ ถึงยังไงพี่ก็ไม่ยกโทษให้พ่อฉันอยู่ดี พี่ก็เหมือนกันใช่ไหมพี่เดนิส พี่จะไม่มีวันยกโทษให้พ่อฉัน” เดนิสติงว่ายังไงท่านเหว่ยก็ทำผิด “พอแล้วพี่เดนิส พี่ไม่ต้องพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว” นีล่าร้องไห้โฮ ผลักเดนิสแล้ววิ่งออกไป

เดนิสวิ่งตามไปร้องเรียกแต่เธอวิ่งเตลิดไป เขาจึงหยุดชะงัก โลแกนกับชามินต์เดินตามไป โลแกนกับเดนิสมองหน้าด้วยความรู้สึกเดียวกัน ชามินต์มองสองหนุ่มเงียบๆอย่างหนักใจ

ooooooo

ทั้งสามไปนั่งในร้านกาแฟ ชามินต์มองสองหนุ่มอย่างหนักใจ จนเดนิสที่นั่งคนกาแฟครุ่นคิดอยู่เอ่ยขึ้นว่า

“ฉันคิดว่าเราควรจะลืมเรื่องที่เหว่ยซานทำกับครอบครัวเราให้หมด”

“ลืมงั้นเหรอ” โลแกนถามทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “นายอาจจะลืมได้เพราะนายรักนีล่า แต่ฉันลืมไม่ได้ ฉันลืมคนที่ฆ่าพ่อแม่ แล้วก็ฆ่าน้องสาวฉันไม่ได้ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่พวกเขาต้องตายด้วยเรื่องอะไรก็ไม่รู้ เพียงเพราะความบ้าอำนาจของเหว่ยซาน ฉันไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด”

“แต่ถ้านายไม่ให้อภัย นีล่าก็ไม่สามารถเข้ามาหาเราได้นะ” เดนิสติง โลแกนมองหน้าพูดอย่างทำใจไม่ได้ว่า

“แต่จะให้ฉันลืมเรื่องนี้ ฉันทำไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยเดนิส” โลแกนลุกขึ้นจะไป ชามินต์คว้ามือไว้ขอร้องว่า

“เดี๋ยวสิคะโลแกน ฉันว่าเราค่อยๆคิดหาทางออกดีไหมคะ”

“ฉันไม่ว่าหรอกนะถ้าจะให้อภัย เพราะฉันเข้าใจความรู้สึกที่นายมีต่อนีล่า แต่สำหรับฉัน ฉันจะขอเก็บมันไว้ กลับเถอะ ชามินต์” โลแกนพูดกับเดนิสแล้วเดินออกไปเลย ชามินต์มองอึ้ง เดนิสมองหน้าชามินต์ถามว่า

“ถ้าคุณเป็นผมกับโลแกน คุณจะทำยังไง”

“ฉันคิดไม่ออกจริงๆค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ชามินต์เดินตามโลแกนออกไป

เดนิสพยักหน้าอย่างเข้าใจ มองตามชามินต์และโลแกนไป หยิบช้อนคนกาแฟยกดื่มอย่างกลัดกลุ้ม

ooooooo

วันนี้คอลินดูรูปตนถ่ายกับโลแกน ถ่ายกับชามินต์ และถ่ายกับนีล่าจากไอแพด ถามป้าหวาว่าทำไมเจ๊นีล่าไม่มาบ้านเราเลย ป้าหวาบอกว่าเธอคงไม่ค่อยว่าง ถ้าคอลินคิดถึงก็ให้โทร.ไปหา ตนจะต่อสายให้

เมื่อนีล่ารับสาย คอลินดีใจมากถามว่าทำไม

เจ๊นีล่าไม่มาหาตนเลย ตนอยากชวนเจ๊ไปกินไอติมในห้าง นีล่าบอกว่าว่างเมื่อไหร่จะไปหา

“จริงนะครับ ผมจะรอ” ก่อนตัดสาย คอลินย้ำว่า “เจ๊อย่าลืมมาหาผมนะ ผมคิดถึงเจ๊ที่สุดเลย”

“เจ๊ก็คิดถึงนาย” นีล่าร้องไห้เมื่อกดปิดโทรศัพท์แล้วเธอรำพึงเสียงสะอื้น “คอลิน เจ๊คงไม่ได้เจอนายอีกต่อไปแล้ว”

ส่วนคอลินบอกป้าหวาอย่างมีความหวังว่าเจ๊นีล่าบอกว่าว่างแล้วจะมาหา แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ป้าหวาบอกคอลินว่า

“ถ้าช่วงนี้คุณนีล่ายังไม่ว่าง คุณคอลินก็โทร.ไปชวนคุยบ่อยๆ ดีไหมคะ”

“ครับ”

ป้าหวามองโทรศัพท์นึกถึงนีล่าอย่างเห็นใจ...

ooooooo

ที่บ้านโลแกน...ดึกแล้วเขายังนั่งดื่มที่เคาน์เตอร์บาร์เงียบขรึม ชามินต์เดินมาทักว่าดึกแล้วยังไม่นอนหรือ ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม โลแกนบอกว่าได้เธอ จึงนั่งคุย

“ฉันอยากให้คุณลืมเรื่องเหว่ยซานได้ไหมคะ” โลแกนมองหน้าบอกว่าตนไม่สามารถลืมเรื่องนี้ได้ “ถ้าคุณลืมเรื่องนี้ไม่ได้ นีล่าก็จะไม่มีวันเข้าหน้าคุณติดไปตลอดชีวิตนะ”

เขาตอบอย่างไม่แยแสว่าคงช่วยไม่ได้ ชามินต์เปลี่ยนใหม่ ถามว่า

“แล้วถ้าเป็นฉันละ ถ้าพ่อฉันฆ่าพ่อแม่คุณแล้วก็น้องสาวคุณ คุณจะยอมลืมเรื่องนี้ไหมคะ” โลแกนโต้ว่าเหว่ยซานไม่ใช่พ่อเธอ “ก็ถ้าเราลองสมมติว่าเขาเป็นพ่อฉันจริงๆ คุณจะทำยังไง เลิกกับฉันงั้นหรือคะ”

“ไม่ผมไม่มีวันเลิกกับคุณ”

“แต่ถ้าคุณไม่ให้อภัยพ่อฉัน ฉันก็คงอยู่กับคุณไปอย่างไม่มีความสุข แล้วคุณจะทนเห็นฉันไม่มีความสุขได้หรือ ไหนคุณบอกว่ารักฉันไงคะถ้าคุณรักฉันจริงแล้วก็รักนีล่าเหมือนน้องสาว ฉันว่าคุณก็ควรจะให้อภัยพ่อเขา”

“แล้วพ่อแม่ผมน้องสาวผมล่ะ พวกเขาต้องตายฟรีงั้นหรือ”

“ถึงยังไงเหว่ยซานก็ต้องได้รับโทษที่เขาทำ ส่วน คุณ คุณจะได้ไม่ต้องแบกความโกรธและความแค้นเอาไว้ วางมันลงเถอะค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ผ่านไปแล้ว ฉันเชื่อว่าถ้าพ่อแม่คุณและน้องสาวคุณรู้ว่าคุณยังแบกความแค้นนี้เอาไว้ พวกเขาคงไม่มีความสุขหรอก”

โลแกนมองหน้าชามินต์อึ้ง เธอแตะมือเขาพูดอ่อนโยน จริงใจว่า

“ฉันรักคุณนะคะ แล้วก็อยากเห็นคุณมีความสุข คุณลองคิดดูสิ ถ้าวันนี้ความจำคุณไม่ได้กลับมาเหมือนเดิม คุณก็จะไม่มีวันรู้เรื่องพ่อแม่คุณ แล้วก็ไม่มีวันจะรู้จักเหว่ยซานด้วย จริงไหมคะ” โลแกนอึ้ง สีหน้าและแววตาอ่อนลง ชามินต์ตอกย้ำว่า “วันนี้ชีวิตคุณก็จะไม่มีความโกรธแค้นอยู่ในใจ”

โลแกนอึ้ง ฟัง คิด และทบทวนสิ่งที่ชามินต์พูด เขายอมรับว่า

“ถูกของคุณ วันที่ผมสูญเสียความทรงจำ วันนั้นผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคือใคร มาจากไหน ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของตัวเอง” เขายิ้มพูดด้วยแววตาตื่นเต้นดีใจว่า “ขอบคุณมากนะชามินต์ที่คุณให้สติผม ผมควรจะจบเรื่องนี้เสียที”

โลแกนดึงชามินต์เข้าไปกอด เป็นสัมผัสที่อบอุ่นอย่างประหลาด ใบหน้าที่แนบชิดเกยบนไหล่ของกันและกัน ยิ้มอย่างปลอดโปร่ง เหมือนยกภูเขาออกจากอก

ooooooo

วันต่อมา โลแกน เดนิส ไปเยี่ยมเหว่ยซาน พอเหว่ยซานเห็นทั้งสองก็ชักสีหน้าถามว่าสองคนมีเรื่องอะไรก็ว่ามาเลย

เดนิสบอกว่าเราสองคนมาเยี่ยมท่านเหว่ย ถามว่าท่านสบายดีหรือ

“ถ้าเธอสองคนมาเพื่อเยาะเย้ยฉันละก็ ฉันขอตัว” เหว่ยซานขยับจะไป เดนิสบอกว่าเราสองคนตั้งใจมาเยี่ยมท่านจริงๆ เหว่ยซานจึงนั่งลง เดนิสมองโลแกนอย่างรู้กัน โลแกนเอ่ยว่า

“ที่เราสองคนมาวันนี้ ก็เพื่ออยากจะบอกให้ท่านเหว่ยรู้ว่า เราขออโหสิกรรมให้กับสิ่งที่ท่านเหว่ยได้ทำกับครอบครัวของพวกเรา” เหว่ยซานมองระแวง โลแกนยืนยันว่า “ผมพูดจากใจจริงครับ วันนี้เราไม่ได้ถือโทษหรือโกรธท่านเหว่ยอีกต่อไปแล้ว”

นีล่าเดินเข้ามาในห้องควบคุม เธอชะงักเหลือบมองลำโพงด้านบนเมื่อได้ยินเสียงโลแกน โลแกนยังคงพูดต่อไปว่า

“ผมและเดนิสให้อภัยในสิ่งที่ท่านเหว่ยได้ทำลงไป” เหว่ยซานอึ้ง ถามว่าสองคนพูดจริงหรือ “จริงครับ ถ้าเรายังโกรธและคิดเคียดแค้น มันคงทำให้เราทุกคนไม่มีความสุขหรอกครับท่านเหว่ย และคนที่จะเจ็บปวดมากกว่าใครเลยทั้งหมดก็คงเป็นนีล่า ผมมาวันนี้ก็เพื่ออยากจะให้ท่านเหว่ยได้บอกกับนีล่า ถึงความรู้สึกของเราสองคนที่มีต่อท่านเหว่ย”

“ใช่ครับ ผมรักนีล่า ผมไม่อยากเสียเธอไป ช่วยผมด้วยนะครับ ช่วยอธิบายให้เธอเข้าใจว่าเราทุกคนไม่มีใครเกลียดหรือโกรธท่านเหว่ยอีกต่อไปแล้ว” เดนิสวิงวอน เหว่ยซานมองทั้งสองน้ำตาซึม

ooooooo

พิรุณพร่ำรัก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด