icon member

อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตอนที่ 32

ตอนที่ 6 ไม่ฆ่าเจ้า ขอสาบานว่าจะไม่เป็นคน

  ภาคที่ 2 ตระกูลซือแห่งตำบลชิงเหอ

ตงป๋อเสวี่ยอิงเข้ามาทางประตูหลังของปราการเมืองแล้วเข้ามายังห้องของตนในหอหลักของปราการเมืองด้วยความเร็วดั่งเงา เขาวางหอกเทพหิมะเหินลงแล้วรีบเดินตรงมายังโถงรับแขกข้างล่าง

    ในโถงรับแขก

จงหลิงกำลังรับรองใต้เท้าซืออาน

    “นี่เพิ่งจะผ่านไปได้เพียงเดือนเดียว บนภูเขาศิลาหิมะก็มีหอนักเวทย์เพิ่มขึ้นมาแล้ว” ใต้เท้าซืออานหยิบชาร้อนขึ้นมา“อัศวินและนักเวทย์ที่เก่งกาจที่สุดในเมืองอี๋สุ่ยของเราล้วนรวมตัวกันอยู่ที่ภูเขาศิลาหิมะแล้ว”

    “แค่เมืองอี๋สุ่ยเท่านั้น หากเทียบกับยอดฝีมือทั่วยุทธภพแล้ว ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงเลย” จงหลิงพูดยิ้มๆ

    ฟิ้ว

    ลมพัดวูบหนึ่ง หนุ่มน้อยชุดดำเดินเข้ามา

ใต้เท้าซืออานหันไปมอง ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วยิ้มพูดว่า “ท่านเจ้าแดน”

“ใต้เท้าซืออาน” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ย “ไม่ต้องเกรงใจ เชิญนั่งเถิด”

เมื่อรอเขานั่งลงแล้ว ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ถามขึ้นทันทีว่า“ใต้เท้าซืออาน เรื่องสถานการณ์ของท่านพ่อท่านแม่ข้า…”

    “ท่านต้องเชื่อมั่นในความสามารถในการหาข่าวของหอภูผามังกรของพวกเรา” ใต้เท้าซืออานพูด “แต่ข้าต้องขอเตือนท่านก่อนว่า ต้องสงบจิตสงบใจเสียหน่อย”

“สงบจิตสงบใจหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้สึกคันยิบในใจ จงหลิงที่อยู่ข้างๆ ก็หน้าถอดสี

        “เชิญพูดมาเถิด” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

      ใต้เท้าซืออานรู้ดีว่าในใจของท่านเจ้าแดนวัยเยาว์ผู้นี้ย่อมสงบไม่ลงแน่ เขาลอบถอนหายใจ แล้วพูดตรงๆ ว่า “สภาพของมารดาท่านยังดีหน่อย นางเป็นทายาทสายตรงของตระกูลม่อหยาง อีกทั้งม่อหยางเชินพี่ชายนางยังเป็นปรมาจารย์เวทย์ชั้นจันทร์เงินที่อายุน้อยที่สุดในตระกูลคนหนึ่งอีกด้วย ดังนั้นมารดาท่านจึงเพียงถูกจองจำใน “คุกวารีสายฟ้า”  คุกใต้ดินแห่งหนึ่งของตระกูลม่อหยาง แม้จะเปล่าเปลี่ยวไปบ้าง แต่จะกินจะดื่มก็ไม่ต้องกังวล ทั้งยังสามารถทุ่มเทจิตใจให้กับการค้นคว้าเวทมนตร์ได้ด้วย ได้ยินว่า มารดาท่านบรรลุถึงปรมาจารย์เวทย์ชั้นดาวตกแล้ว”

“พรสวรรค์ของอาอวี๋ดียิ่งมาตลอด ในที่สุดก็ได้บรรลุถึงชั้นดาวตกก่อนใครในหมู่พวกเราดังคาด” จงหลิงพยักหน้าน้อยๆ

“แล้วท่านพ่อข้าเล่า” ตงป๋อเสวี่ยอิงเริ่มกังวล

ท่านแม่ไม่เป็นอะไร เช่นนั้นคนที่เป็นอะไรก็คือท่านพ่ออย่างนั้นหรือ 

 “บิดาท่าน…” ใต้เท้าซืออานลังเลอยู่บ้าง “เนื่องจากตอนนั้นมารดาท่านไม่ยอมรับงานแต่งงานที่เตรียมการเอาไว้แล้วหนีมาจากตระกูล ภายหลังตระกูลม่อหยางได้เลือกทายาทสาวสายตรงอีกคนให้แต่งออกไป บิดาของหญิงสาวคนนี้มีนามว่า “ม่อหยางเฉินไป๋” ตอนนั้นม่อหยางเฉินไป๋ไม่สามารถปกป้องบุตรสาวเอาไว้ได้ จึงคับข้องใจมาตลอด นับตั้งแต่บุตรสาวของเขาแต่งออกไป เขาฝึกฝนอย่างหนักถึงยี่สิบปี จนบัดนี้บรรลุถึงชั้นอัศวินจันทร์เงินแล้ว อีกทั้งอาศัยเกราะแปรธาตุของตระกูลทำให้สามารถดึงเอาพลังชั้นสมญาออกมาใช้ได้ หอภูผามังกรของเราก็ส่งคำสั่งสำริดไปให้อันหนึ่ง”

“ม่อหยางเฉินไป๋เก็บความแค้นเรื่องนี้ไว้ในใจเสมอมา และเคืองแค้นมารดาท่านเป็นอย่างยิ่ง เชื่อว่าเป็นเพราะมารดาท่านหนีออกมาจึงทำให้บุตรสาวของเขาต้องแต่งให้กับตาเฒ่าคนหนึ่ง” ใต้เท้าซืออานพูด

“เรื่องนี้จะโทษท่านแม่ได้อย่างไรกัน หลังท่านแม่ข้าหนีออกมา บุตรสาวของเขาต้องแต่งออกไป...ไม่ใช่พวกผู้ใหญ่ของตระกูลม่อหยางจัดการหรอกหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดอย่างโกรธเคือง

“เขาไม่กล้าท้าทายอำนาจของผู้นำตระกูล ได้แต่โยนความผิดให้มารดาท่าน” ใต้เท้าซืออาน “มารดาท่านมีท่านลุงของท่านปกป้องอยู่ จึงถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินวารีสายฟ้า เขาก็ไม่มีทางอื่น แต่บิดาท่านกำลังถูกใช้แรงงานหนักอยู่...ดังนั้นม่อหยางเฉินไป๋จึงระบายโทสะเอากับบิดาท่าน”  

    ตงป๋อเสวี่ยอิงใบหน้าเขียวคล้ำ นิ้วที่จับที่วางแขนอยู่นั้นเริ่มเจาะลึกเข้าไปในเนื้อไม้แล้ว     

“บิดาท่านถูกตัดสินโทษให้เป็นแรงงานหนักร้อยปี ม่อหยางเฉินไป๋มักจัดคนไปทรมานบิดาท่าน อีกทั้งยังจงใจให้นักเวทย์ในโรงหลอมรักษาบิดาท่านครั้งแล้วครั้งเล่า ให้บิดาท่านไม่เสียชีวิต” ใต้เท้าซืออานพูด“หากไม่ได้นักเวทย์รักษาครั้งแล้วครั้งเล่าแล้ว น่ากลัวว่าบิดาท่านยืนหยัดอยู่ในโรงหลอมแปรธาตุได้ไม่ถึงสามปีก็ต้องสิ้นชีวิตแล้ว”

“ปัง” 

    ในที่สุดที่วางแขนที่นิ้วของตงป๋อเสวี่ยอิงจับอยู่นั้นก็ระเบิดออกทั้งอัน ดวงตาทั้งคู่ของตงป๋อเสวี่ยอิงเต็มไปด้วยแววแห่งปีศาจร้าย “สมควรตาย สมควรตาย”

ท่านพ่อในความทรงจำที่องอาจแข็งแกร่งดังหินผา...

    ไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อที่อบรมสั่งสอนตนอย่างเข้มงวด หรือท่านพ่อที่รักทะนุถนอมตน...

“ม่อหยางเฉินไป๋!ตระกูลม่อหยาง!”เลือดทั้งกายตงป๋อเสวี่ยอิงพลุ่งพล่าน กลิ่นอายดุร้ายสายหนึ่งแผ่กระจายออกมาจากกายเขา

จงหลิงก็โกรธแค้น สีหน้าย่ำแย่แทบดูไม่ได้

แม้ใต้เท้าซืออานจะพูดโดยย่อมากแล้ว    

แต่พวกเขาก็ฟังออกว่า เดิมทีการเป็นแรงงานหนักก็คือการทรมานอยู่แล้ว ยังจงใจส่งคนไปทรมานอีกหรือ อาศัยร่างกายของอัศวินชั้นฟ้าตงป๋อเลี่ยยังยืนหยัดไม่ไหว จำต้องส่งนักเวทย์ไปรักษาครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนั้นหรือ

    เพลิงโทสะสุมแน่นเต็มทรวงตงป๋อเสวี่ยอิง ความแค้นเคืองกำลังพลุ่งพล่าน

    “ม่อหยางเฉินไป๋ หากข้าไม่ฆ่าเจ้า ขอสาบานว่าจะไม่เป็นคน” รังสีเข่นฆ่าในใจตงป๋อเสวี่ยอิงแผ่ซ่าน แต่ด้านข้างมีคนนอกอยู่ ตงป๋อเสวี่ยอิงมิอาจตะโกนสิ่งเหล่านี้ออกมาโดยตรงได้

    ตะโกนออกมานั้นไร้ประโยชน์

    ต้องทำออกมาต่างหาก

    “แล้วตระกูลม่อหยางเล่า ม่อหยางเชินเล่า ได้แต่ดูท่านพ่อถูกทรมานอย่างนั้นหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

    “ตระกูลม่อหยางไหนเลยจะสนใจว่าบิดาท่านจะเป็นหรือตาย ส่วนม่อหยางเชินนั้น แม้จะเคยสั่งให้คนไปคอยดูแลบิดาท่านแต่ก็ไร้ประโยชน์ อย่างแรกคือม่อหยางเชินเองก็ต้องทุ่มเทจิตใจให้กับการค้นคว้าเวทมนตร์ อย่างที่สองคือม่อหยางเฉินไป๋สามารถได้คำสั่งสำริดมาได้ สถานะในตระกูลก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าม่อหยางเชินเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเขาจงใจส่งคนไปทรมาน ม่อหยางเชินย่อมไม่สามารถปกป้องบิดาท่านได้ตลอดเวลาอยู่แล้วกระมัง”

    ใต้เท้าซืออานพูดต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ม่อหยางเชินยินดียินร้ายกับน้องสาวของเขา ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับบิดาท่านทั้งนั้น”

ตงป๋อเสวี่ยอิงฟังแล้วก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

    เขาเข้าใจ

    เขาเข้าใจดีทั้งหมด

    แต่เขาเกลียดนี่นา ยอมไม่ได้นี่นา

    “ทำอย่างไรจึงจะช่วยท่านพ่อท่านแม่ข้าได้” ตงป๋อเสวี่ยอิงถาม

    “ตามข่าวที่พวกเราสืบหากันมา ตระกูลม่อหยางเข้มงวดกับกฎตระกูลอย่างยิ่งยวด ใครก็ไม่สามารถฝ่าฝืนได้ อีกทั้งมารดาท่านถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน บิดาท่านก็อยู่ที่โรงหลอมแปรธาตุแห่งทะเลสาบหอมบูรพาในตระกูล คนนอกย่อมไม่มีทางเข้าไปได้ จึงไร้หนทางช่วยบิดาท่าน”ใต้เท้าซืออานพูด “วิธีอาศัยโชคเสี่ยงดวงล้วนไร้ความหวัง”

    “แล้วถ้าไม่อาศัยโชคเสี่ยงดวงเล่า” ตงป๋อเสวี่ยอิงถาม

    “หากเทียบกับวิธีอื่นแล้ว วิธีที่ง่ายที่สุดคือ สร้างบรรดาศักดิ์ “โหวเจวี๋ยกิตติมศักดิ์”ให้บิดาท่าน” ใต้เท้าซืออานพูด “บรรดาศักดิ์โหวเจวี๋ยนั้นมีสถานะสูงส่งยิ่ง ต่อให้อภิสิทธิ์ของพวกเหนือธรรมดาก็จับไม่ได้ จะจองจำหรือสังหารโหวเจวี๋ยสักคนน่ะหรือ เสมือนเหนือธรรมดาท่านนั้นของตระกูลม่อหยางก็คงรับผลที่ตามมาไม่ไหวหรอก”

โหวเจวี๋ย

เป็นบรรดาศักดิ์ที่ค่อนข้างจะพิเศษ

          เพราะบรรดาศักดิ์ป๋อเจวี๋ยและหนานเจวี๋ยที่อยู่ถัดจากโหวเจวี๋ยลงมาล้วนสามารถใช้เงินซื้อได้อย่างง่ายดาย แต่โหวเจวี๋ยนั้นซื้อไม่ได้ โหวเจวี๋ยถึงขั้นหาได้ยากยิ่ง

 โดยปกติแล้ว ขอเพียงในตระกูลหนึ่งเกิดชีวิตเหนือธรรมดาขึ้นสักคน ชีวิตเหนือธรรมดา สามารถกำหนดให้คนในตระกูลคนหนึ่งได้รับบรรดาศักดิ์โหวเจวี๋ย บรรดาศักดิ์นี้สามารถสืบทอดต่อกันได้ถึงพันปี หลังจากพันปีแล้วก็จะลดขั้นเหลือเพียงป๋อเจวี๋ย

ดังนั้น... 

โหวเจวี๋ยทั่วไปนั้น เป็นตัวแทนของหัวหน้าตระกูลของพวกเหนือธรรมดาในนาม สำหรับตัวผู้แกร่งกล้าเหนือธรรมดาเองเล่า ก็คงไม่ต้องการบรรดาศักดิ์แล้ว

ดังนั้นโหวเจวี๋ยจึงห้ามถูกจองจำ ถูกฆ่าตีหรืออื่นๆ เสมือนเหนือธรรมดาย่อมไม่มีคุณสมบัติพอจะทำเช่นนี้อยู่แล้ว ต่อให้เป็นเหนือธรรมดา หากทำเช่นนี้ก็ต้องชดใช้ด้วยราคาสูงลิ่ว

  ……

 โหวเจวี๋ยกิตติมศักดิ์นี้ไม่มีทางสืบทอดต่อ โดยทั่วไปแล้วจะต้องทำคุณูปการใหญ่หลวงให้แก่อาณาจักร อำนาจของโหวเจวี๋ยกิตติมศักดิ์และโหวเจวี๋ยสืบทอดนั้นใกล้เคียงกัน ต่างกันเพียงไร้ทางสืบทอดต่อเท่านั้น

“หากบิดาท่านเป็นโหวเจวี๋ยกิตติมศักดิ์ มารดาท่านเป็นฮูหยินโหวเจวี๋ยแล้ว เช่นนั้นพวกตระกูลม่อหยาง ก็ต้องหยุดการลงโทษใดๆทันที การกักขังจองจำหรือเป็นแรงงานหนัก ก็ล้วนต้องหยุดลงทั้งสิ้น ทั้งยังไม่สามารถล่วงเกินได้แม้แต่น้อย” ใต้เท้าซืออานพูด

“ทำเช่นไรถึงจะได้บรรดาศักดิ์โหวเจวี๋ยกิตติมศักดิ์มาหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงถาม

อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด