ตอนที่ 27
ตอนที่ 1 รายนามคมมีดโลหิตและรายนามภูผามังกร
ภาคที่ 2 ตระกูลซือแห่งตำบลชิงเหอ
ณ ศาลาบนระเบียงแห่งหนึ่งในปราการเมือง
ตงป๋อเสวี่ยอิงและใต้เท้าซืออานนั่งตรงข้ามกัน บ่าวรับใช้นำขนมและชาร้อนมาวาง คนอื่นๆ อย่างจงหลิง ถงซานและโหยวถูล้วนรออยู่ที่ระเบียงนอกศาลานั้น
ใต้เท้าซืออานประคองจอกชาร้อนแล้วค่อยๆจิบช้าๆ พลางมองไปยังหิมะหนักที่โปรยปลิวอยู่ข้างนอก
“ท่านเจ้าแดน ที่นี่ช่างดีเสียจริง ทั้งเงียบสงบ ทั้งเป็นอิสระ ในเมืองนั้นวุ่นวายเกินไป มีผู้คนขวักไขว่ตลอด ขนาดจะนอนยังได้ยินเสียงรบกวนจากข้างนอกเลย” ใต้เท้าซืออานยิ้มพูด “รอข้าปลดเกษียณก่อน ต้องหาสถานที่สงบๆอยู่ให้ได้”
ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มพูด “คนตั้งเท่าไหร่อยากจะอยู่ในตำแหน่งสูงๆ แต่ก็ไม่มีปัญญาขึ้นไปถึง”
“ตำแหน่งสูงๆ หรือ ก็แค่ผู้ดูแลหอภูผามังกรแห่งเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งเท่านั้น ตำแหน่งสูงที่ไหนกัน” ใต้เท้าซืออานพูดพลางพลิกมือทีหนึ่ง แล้วล้วงเอาตั๋วเงินปึกเล็กๆ ออกมา “นี่เป็นเงินแปดร้อยตำลึงทอง เป็นเงินรางวัลที่สังหารก้ายปินได้ ถึงแม้จะน้อยไปสักนิด แต่ก็ยังต้องให้”
ตงป๋อเสวี่ยอิงรับมา
นักโทษตามหมายจับของอาณาจักรนั้น โดยทั่วไปต้องเป็นชั้นดวงดาราหรือว่าความผิดสูงเทียมฟ้าเท่านั้นจึงจะมีเงินรางวัลให้ โจรธรรมดาๆ ไม่มีค่าพอให้มอบรางวัลนำจับ
“นี่คือคำสั่งเหล็กดำ” ซืออานพลิกมืออีกทีหนึ่งก็หยิบป้ายคำสั่งสีดำอันหนึ่งออกมา ด้านบนมีคำว่า “ภูผามังกร” อยู่ “ปกติแล้วไพร่ฟ้าทั้งอาณาจักรนั้น หากพลังถึงชั้นดาวตกแล้วก็จะได้รับป้ายคำสั่งเหล็กดำอันหนึ่ง”
“พลังชั้นดาวตกหรือ คำสั่งเหล็กดำหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงครุ่นคิด
“ป้ายคำสั่งแบ่งเป็นสองประเภท” ซืออานพูดสบายๆ “ประเภทหนึ่งคือคำสั่งเหล็กดำ อีกประเภทคือคำสั่งสำริด พลังถึงชั้นดาวตกแล้วก็จะได้รับป้ายคำสั่งเหล็กดำ หากพลังถึงชั้นสมญาแล้วจึงจะได้รับคำสั่งสำริด…เหนือกว่านั้นก็คือชั้นเหนือธรรมดาแล้ว ชั้นเหนือธรรมดาจึงจะเป็นพลังแห่งเผ่าเจิ้นที่แท้จริงของทั้งชนเผ่าเซี่ยและทั้งอาณาจักรของเรา แน่นอนว่านั่นเป็นอีกโลกหนึ่งแล้ว คงไม่ต้องพูดอะไรมากอีก”
“รับไว้เถิด นี่คือคำสั่งเหล็กดำของท่านแต่เพียงผู้เดียว มันมีประโยชน์มากมายนัก” ซืออานวางคำสั่งเหล็กดำลงตรงหน้าตงป๋อเสวี่ยอิง
ตงป๋อเสวี่ยอิงมองดูโดยละเอียด บนป้ายคำสั่งสีดำนั้นนอกจากคำว่า “ภูผามังกร” แล้วก็เป็นลวดลายซับซ้อน ลวดลายนั้นดูเป็นธรรมชาติและผสมผสานกันอย่างลงตัวยิ่ง มองดูแล้วก็รู้สึกว่างดงามนัก
ซืออานพลิกมือสบายๆ อีกครา แล้วส่งม้วนสาส์นข่าวมาให้ “นี่คือสาส์นข่าวอาณาจักรที่หอภูผามังกรของเราทำขึ้น ปกติแล้วจะบันทึกเรื่องใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในอาณาจักรแค่ไม่กี่เรื่อง โดยหลักแล้วก็คือแนะนำเรื่องราวสำคัญในตำบลชิงเหอโดยละเอียด อย่างเช่นเรื่องที่ท่านสังหารราชันย์หมาป่าจันทร์เงิน หรือว่ากำจัดกองมีดโค้งทั้งกองได้ด้วยตัวคนเดียว ก็จะมีบันทึกอยู่ในสาส์นข่าวอาณาจักรฉบับหน้า ผู้แกร่งกล้าทั้งตำบลชิงเหอก็จะได้เห็น”
“เอ๋” ตงป๋อเสวี่ยอิงรับมาพลิกดู
ทั้งสาส์นข่าวนั้นมีทั้งหมดสิบกว่าแผ่น กระดาษที่บันทึกเรื่องราวนอกตำบลชิงเหอมีเพียงแผ่นเดียวเท่านั้น นอกนั้นล้วนเป็นเรื่องราวภายในตำบลชิงเหอทั้งสิ้น
“วันที่ 19 เดือน 11 ศักราชหลงซานปี 9623 กองทหารที่ห้าประจำตำบลชิงเหอที่เข้าสู่หุบเขาทำลายล้างเป็นวันที่สามนั้น ได้พบกับ “หมีปีศาจทะมึน” สัตว์มารขั้นหกตัวหนึ่งที่เพิ่งฟื้นจากห้วงนิทรา ทัพใหญ่กำลังกว่าสองพันนายเข้ากำจัดอย่างสุดกำลัง…”
“วันที่ 10 เดือน 11 ศักราชหลงซานปี 9623 ในเขตเมืองเทียนผิง ตำบลชิงเหอ น่าตกตะลึงว่าปรากฏผู้แกร่งกล้าเหนือธรรมดาขึ้น เป็นลักษณะของชายชราผมขาวแซมเทาสวมอาภรณ์ขาดวิ่นเดินเท้าเปล่าอย่างยากลำบาก…”
“วันที่ 5 เดือน 11 ตระกูลซือและตระกูลจางแต่งงานเกี่ยวดองกัน…”
……
สิ่งที่บันทึกไว้ในสาส์นข่าวนั้นล้วนเป็นข่าวสำคัญในพื้นที่ต่างๆ ของตำบลชิงเหอ ซึ่งทั้งสำคัญและเป็นทางการยิ่ง แม้กระทั่งศักราชก็ยังต้องเขียนเอาไว้
ส่วนข่าวจิปาถะในแต่ละพื้นที่นั้น บันทึกไว้ตามอำเภอใจกว่ามากมายนัก
ตงป๋อเสวี่ยอิงเหมือนได้เปิดหูเปิดตา ที่แท้ในพื้นที่กว่าหมื่นลี้ของตำบลชิงเหอ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายถึงเพียงนี้
“ใต้เท้าซืออาน ในเขตเมืองเทียนผิงมีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมดาปรากฏขึ้นจริงหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงถามด้วยความอยากรู้
“ก็แค่ปรากฏกายครู่หนึ่งแล้วก็หายตัวไป” ใต้เท้าซืออานยิ้มพูด “บรรดาสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมดานั้นล้วนแต่สูงส่ง สิ่งที่พวกเขาใฝ่หานั้น ไม่เหมือนกับสิ่งที่คนธรรมดาอย่างพวกเราใฝ่หา การเดินเท้าอย่างยากลำบากไปในใต้หล้านี้...ยังมีให้เห็นบ่อยครั้ง ที่บันทึกลงในสาส์นข่าวก็เพื่อให้ผู้กล้าตระกูลต่างๆ ได้ระวังเอาไว้ อย่าหลับหูหลับตาไปล่วงเกินพวกเหนือธรรมดา!หากล่วงเกินแล้วคงเหมือนฟ้าถล่ม ไม่แน่ว่าทั้งตระกูลอาจถูกทำลายล้างก็เป็นได้”
ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า
ใช่สิ
หากไปกลั่นแกล้งยาจกข้างทางคนหนึ่งตามอำเภอใจ แต่จู่ๆ ก็พบว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมดาขึ้นมาเสียอย่างนั้น จะไม่ตกใจตายหรือ
“สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมดามีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ทั่วแว่นแคว้นทั้งสิบเก้าของอาณาจักร พวกเหนือธรรมดาก็มีเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น อย่างตำบลชิงเหอของเราก็นับว่าใหญ่โตมากแล้ว แต่ไม่มีชีวิตเหนือธรรมดาในท้องถิ่นเลยสักคน!” ใต้เท้าซืออานส่ายศีรษะ “สาส์นข่าวอาณาจักรนี้ ออกเป็นรายเดือน เดือนละหนึ่งฉบับ หากไม่มีธุระอะไรก็หมั่นอ่านดูเสียหน่อย ก็นับว่าเป็นการเข้าใจเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในอาณาจักรให้มากขึ้นบ้าง และยังได้รู้ด้วยว่า พลังเช่นใดที่มิอาจไปล่วงเกิน”
“สาส์นข่าวเป็นเพียงเรื่องสนุกๆ”
“จากนี้ไปสิ่งที่จะมอบให้ท่านนั้นจะยิ่งสำคัญขึ้นเรื่อยๆ”
“สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับสอง นั่นก็คือรายนามสองชุด!” สีหน้าของใต้เท้าซืออานจริงจังขึ้นมา เมื่อพลิกมือ คัมภีร์สองเล่มก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือของเขา เล่มแรกปกสีดำ ด้านบนมีคำว่าภูผามังกรอยู่ อีกเล่มหนึ่งนั้นปกสีแดงโลหิต ด้านบนมีเพียงภาพคมมีดที่มีเลือดหยดวาดเอาไว้
“รายนามสองชุดหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองอย่างสนใจ
“เล่มนี้คือรายนามภูผามังกร เขียนขึ้นโดยหอภูผามังกรของเรา ส่วนอีกเล่มหนึ่งคือรายนามคมมีดโลหิต เขียนขึ้นโดยหอสุราคมมีดโลหิต” ใต้เท้าซืออานพูด
ตงป๋อเสวี่ยอิงรับคัมภีร์เล่มหนาทั้งสองเล่มมา
เขาพลิกเปิดรายนามภูผามังกรเล่มสีดำก่อน ในนั้นเป็นรายชื่อเริ่มตั้งแต่อันดับหนึ่งแล้วไล่เรียงไปเรื่อยๆ นอกจากจะมีรายชื่อแน่นขนัดแล้ว ด้านข้างยังมีหมายเหตุแนะนำสั้นๆ ด้วย
“รายนามคมมีดโลหิตเป็นรายนามมือสังหาร!” ประโยคนี้ของใต้เท้าซืออานทำเอาตงป๋อเสวี่ยอิงตกตะลึง
“รายนามมือสังหารหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองไปยังคัมภีร์สีแดงโลหิตด้านข้าง
“ถูกต้อง เบื้องหลังของหอสุราคมมีดโลหิตนั้นเป็นปริศนายิ่ง หอภูผามังกรของข้าเองก็ยังไม่กล้าไปหาเรื่อง ที่คูเมืองทุกแห่งทั่วอาณาจักรไม่ว่าที่ไหนก็ล้วนมีหอสุราคมมีดโลหิตด้วยกันทั้งสิ้น” ใต้เท้าซืออานพูด “หอสุราคมมีดโลหิตเขียนรายนามเล่มนี้ขึ้นตามผลงานการต่อสู้ของเหล่ามือสังหาร ชื่อบนรายนามนี้ เกือบทั้งหมดล้วนเป็นนามแฝง!อย่างไรเสียพวกมือสังหารโดยปกติก็ปกปิดชื่อแซ่กันอยู่แล้ว”
“รายนามภูผามังกรอีกเล่มนั้นมีอิทธิพลมากกว่า ผู้แกร่งกล้าทั้งอาณาจักรให้ความสนใจมากกว่า” ใต้เท้าซืออานเผยสีหน้าภาคภูมิใจออกมา “รายนามภูผามังกรนี้เขียนโดยหอภูผามังกรของเรา รวบรวมรายนามผู้แกร่งกล้าชั้นสำริดทั่วแว่นแคว้นทั้งสิบเก้าของอาณาจักรสามพันคนแรกเอาไว้” ใต้เท้าซืออานเอ่ย “ตั้งแต่อันดับที่หนึ่งถึงอันดับที่สามพัน ล้วนแล้วแต่ผ่านการพินิจพิจารณาจากหอภูผามังกรของข้า จัดอันดับโดยอาศัยผลการต่อสู้และด้านอื่นๆ อีกหลายด้าน”
“ผู้แกร่งกล้าสามพันคนของทั้งอาณาจักรหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงตาเป็นประกายขึ้นมา
ชั้นสำริด
ต้องมีพลังถึงชั้นสมญา จึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะได้รับคำสั่งสำริด!แต่ในนี้มีบันทึกมากถึงสามพันรายชื่อ
“สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมดาในอาณาจักรมีเพียงหยิบมือเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องเขียนรายนามขึ้นมา” ใต้เท้าซืออานพูด “แต่พวกชั้นสมญาที่ถัดจากเหนือธรรมดาลงมานั้น ห่างจากเหนือธรรมดาเพียงก้าวเดียว บางคนยอดเยี่ยมเสียจนเทียบเท่ากับพลังของพวกเหนือธรรมดา เมื่อมองทั้งอาณาจักร ถ้าเทียบกันแล้วจำนวนของชั้นสมญาก็นับว่ามีมากทีเดียว”
“ทั้งตำบลชิงเหอ มีผู้แกร่งกล้าชั้นสำริดทั้งหมดสิบสองคน ที่ถูกจัดให้อยู่ในรายนามภูผามังกรนี้มีทั้งหมดห้าคน” ใต้เท้าซืออานกล่าว
ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้าเล็กน้อย รายนามภูผามังกรจำกัดไว้แค่สามพันรายชื่อ มิใช่ว่าชั้นสำริดทุกคนจะได้เข้าอยู่ในรายนามนี้
“ในห้าท่านนี้”
“ผู้ที่อยู่ในอันดับห้า มีนามว่าฉางชิงเจ๋อ จัดอยู่ในรายนามภูผามังกรอันดับที่ 2895”
“ผู้ที่อยู่ในอันดับสี่ มีนามว่าจางยง จัดอยู่ในรายนามภูผามังกรอันดับที่ 2822”
“ที่อยู่ในอันดับสาม มีนามว่าตานเฉิน จัดอยู่ในรายนามภูผามังกรอันดับที่ 1259”
“ผู้ที่อยู่ในอันดับสอง มีนามว่าซือเหลียงหง จัดอยู่ในรายนามภูผามังกรอันดับที่ 569”
“ผู้ที่อยู่ในอันดับหนึ่ง มีนามว่าเซี่ยงผางอวิ๋น จัดอยู่ในรายนามภูผามังกรอันดับที่ 525”
ใต้เท้าซืออานประกาศนามของทั้งห้าอันดับนี้ออกมาได้อย่างสบายๆ