icon member

อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตอนที่ 21

ตอนที่ 21 รายงานหัวหน้า

         น้ำค้างแข็งปกคลุมทั่วพื้น จนพื้นจับตัวแข็งยิ่งนัก ด้วยแคว้นอันหยางสิงอยู่ส่วนเหนือสุดของแผ่นดินใหญ่...เมื่อถึงเหมันตฤดูก็ยิ่งหนาวจับใจขึ้นไปอีก

“วันนี้เจ้าไม่เข้าหุบเขาทำลายล้างหรือ” จงหลิงและตงป๋อเสวี่ยอิงเดินเล่นเคียงข้างกัน “เพราะว่าล่าเสือดาวเงามืดได้แล้ว จึงเตรียมจะกลับไปแล้วเช่นนั้นหรือ”

      ซากเสือดาวเงามืดมีค่านับแสนตำลึงทอง

เป้าหมายของตงป๋อเสวี่ยอิงที่มายังหุบเขาทำลายล้างในครั้งนี้ นั่นก็คือการหาค่าเรียนให้น้องชายได้บรรลุผลแล้ว

“ไม่ใช่” ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มพูด “การต่อสู้กับเสือดาวเงามืดครั้งหนึ่งนั้น ทำให้วิถีหอกยาวของข้าบรรลุแล้ว แต่ก่อนข้าฝึกฝนทั้งคืนไม่เคยได้พักผ่อน ข้าเตรียมจะฝึกวิถีหอกยาว...เดี๋ยวคืนนี้พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้พลังเต็มเปี่ยมค่อยเข้าไปในหุบเขาทำลายล้าง ไปทำลายหมาป่าจันทร์เงินฝูงนั้นทิ้งเสีย”

      “ไปทำลายหมาป่าจันทร์เงินฝูงนั้นทิ้งรึ เจ้ามั่นใจหรือ” จงหลิงสะดุ้งเฮือก

      “มั่นใจ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า

      ก่อนที่จะบรรลุขีดจำกัดนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าจันทร์เงิน  ความหวังที่จะสำเร็จมีไม่ถึงหนึ่งส่วน โอกาสที่จะสิ้นชีพนั้นสูงนัก

          แต่ตอนนี้เล่า

      วิถีหอกยาวก้าวหน้าไปเร็วยิ่ง ต่อให้สายพลังไม่ระเบิด ก็สามารถไปถึง “แดนสิบหอก” ได้

ส่วนเมื่อก่อนเป็นเพียงแค่ “แดนห้าหอก” เท่านั้น...นี่เป็นการยกระดับโดยแท้

“มีความมั่นใจมากพอก็ดีแล้ว” จงหลิงเบาใจ ได้เห็นเสวี่ยอิงแข็งแกร่งขึ้น เขาเองก็ดีใจเช่นกัน

 ……

ยามเที่ยงของวันต่อมา

      กลางผืนป่ามืดทึบของหุบเขาทำลายล้าง เสียงคำรามของหมาป่าสะท้อนรับกันดังต่อเนื่อง ทั้งตื่นกลัว ทั้งโกรธแค้น

        ซากหมาป่าจันทร์เงินตัวแล้วตัวเล่ากองอยู่ทุกหนแห่ง

      ส่วน “ราชันย์หมาป่าจันทร์เงิน” ที่มีรูปร่างใหญ่โตนั้นกำลังยืนอยู่บนหินขนาดมหึมาก้อนหนึ่งพลางคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว หมาป่าจันทร์เงินมากต่อมากกรูกันออกมาทางหนุ่มน้อยชุดดำ

      “ฆ่ามัน”

      หนุ่มน้อยชุดดำรุดหน้าไป

      เกล็ดหิมะปลิวว่อน เงาหอกหนาวยะเยือก ทุกครั้งที่มีประกายวาบขึ้นมา หมาป่าจันทร์เงินก็ล้มลงตัวหนึ่ง พวกมันล้วนถูกแทงทะลุจุดสำคัญอย่างคอหอยหรือกะโหลกด้วยกันทั้งสิ้น

วิถีหอกยาวรวดเร็วเกินไปแล้ว ต่อให้ฝูงหมาป่าจันทร์เงินโอบล้อมโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ก็ไร้ทางฝ่าวงวิถีหอกยาวของตงป๋อเสวี่ยอิงไปได้ หากกล้าเข้าใกล้ ก็ต้องตายสถานเดียวเท่านั้น

”ฝูงหมาป่าจันทร์เงิน” เหล่านี้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแถบนี้มาตลอด เหล่าสัตว์มารอื่นล้วนไม่กล้าหาเรื่องพวกมัน ต่อให้ยามกองทัพมนุษย์มากวาดล้าง...เมื่อปะทะกับฝูงหมาป่าจันทร์เงินก็ต้องบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย เพราะร่างกายของพวกหมาป่าจันทร์เงินใหญ่โต แรงโจมตีหนักหน่วง ทั้งยังใจกล้าไม่กลัวตาย จึงเทียบได้กับอัศวินชั้นฟ้าสองสามร้อยนายโอบล้อมโจมตีพร้อมกัน นับเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง

แต่บัดนี้...

ตงป๋อเสวี่ยอิงกลายเป็นฝันร้ายของหมาป่าจันทร์เงินเหล่านี้

“ตายเสียเถอะ ตายเสียเถอะ” ตงป๋อเสวี่ยอิงสังหารหมาป่าจันทร์เงินเหล่านี้โดยไร้ซึ่งความปรานีแม้แต่น้อย

สัตว์มารก็คือศัตรูของมวลมนุษย์

นี่ก็คือต้นเหตุที่ทำให้กองทัพมนุษย์ต้องมากวาดล้างครั้งแล้วครั้งเล่า ยามใดที่มวลมนุษย์อ่อนแอ เหล่าสัตว์มารก็มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นปกติเช่นกัน   

“โครม” ราชันย์หมาป่าจันทร์เงินกระโจนออกมาในที่สุด พุ่งตรงมายังตงป๋อเสวี่ยอิง

“มาได้สวยดีนี่”

ตงป๋อเสวี่ยอิงตาเป็นประกายวาบ

          “ไสหัวไปเดี๋ยวนี้” หอกยาวในมือตงป๋อเสวี่ยอิงดุจงูที่พลิ้วไหว พุ่งแทงทั้งซ้ายขวา เหล่าหมาป่าจันทร์เงินทั้งซ้ายขวา นั้นหากไม่ใช่ถูกแทงจนลอยกระเด็นไป ก็ล้มกองอยู่อีกด้านหนึ่ง

      ในฐานะปรมาจารย์วิถีหอกยาวท่านหนึ่ง เขาสามารถควบคุมวิถีหอกยาวได้อย่างละเอียด

           ก็เหมือนแหวกหญ้าหางูนั่นเอง

      ขณะที่หอกยาวพุ่งแทงนั้น เหล่าหมาป่าจันทร์เงินหลีกทางออกไปสองข้างเหมือนหญ้า ส่วนตงป๋อเสวี่ยอิงนั้นก็พุ่งตรงไปหาราชันย์หมาป่าจันทร์เงิน

ราชันย์หมาป่าจันทร์เงินตัวนั้นตกตะลึง เดิมทีนั้นมันคิดจะร่วมล้อมโจมตีพร้อมกับพวกลูกน้อง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่มนุษย์หนุ่มน้อยผู้นี้โจมตีมา มันก็สัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกสายหนึ่ง ถึงขั้นอยากจะกลับหลังหันหนีไป

      แต่ไม่ทันเสียแล้ว

      “ผลัวะ” หอกยาวพลิกหมุนแทงมาพร้อมเสียงหวีดแหลม

      ราชันย์หมาป่าจันทร์เงินทะยานขึ้นไปสุดแรงในทันที มันหลบหอกนี้อย่างว่องไว หอกยาวแทงถูกพื้นเบื้องล่างของราชันย์หมาป่าจันทร์เงินจนกลายเป็นรูโหว่

      “ลุกขึ้นเถอะ”

      ตงป๋อเสวี่ยอิงออกแรงกะทันหัน

หอกยาวเปลี่ยนจากแทงอย่างดุเดือดเป็นทิ่มแทงขึ้นด้านบนสุดแรง แทงถูกร่างของราชันย์หมาป่าจันทร์เงินที่อยู่ด้านบนเต็มแรง พลั่ก...เสียงต่ำลึกเสียงหนึ่งดังขึ้น ช่วงท้องของราชันย์หมาป่าจันทร์เงินถูกแทงอย่างสาหัส มันเปล่งเสียงโหยหวนอย่างน่าสังเวช ปากและจมูกล้วนมีเลือดสดๆ ทะลักออกมา ร่างกายของมันกลิ้งหล่นลงมาจากอีกฝั่ง

“ฟิ้ว” หอกยาวไวดังฟ้าแลบ แทงเข้าสู่คอหอยของราชันย์หมาป่าจันทร์เงินในอึดใจต่อมา ทะลุผ่านขนของมันเข้าไป

สกัดเอาราชันย์หมาป่าร่างใหญ่โตไว้กับพื้นอย่างสมบูรณ์แบบ

     ร่างของราชันย์หมาป่าดิ้นรนอย่างไร้เรี่ยวแรง

เหล่าหมาป่าจันทร์เงินที่หลงเหลืออยู่รอบๆ ร้อยกว่าตัวนั้นล่าถอยไปด้วยความตื่นตระหนก หนุ่มน้อยชุดดำผู้นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว 

     “บรู้ว” “บรู้ว” หมาป่าจันทร์เงินเหล่านี้เปล่งเสียงหอนอย่างตื่นตระหนก ถอยหนีไปคนละทิศคนละทางอย่างรวดเร็ว

      “สวยงามมาก เสวี่ยอิง นึกไม่ถึงว่าเจ้าเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าจันทร์เงินทั้งฝูงยังผ่อนคลายได้ขนาดนี้” จงหลิงปรากฏกายแล้ว

      “วิถีหอกยาวของข้าเหมาะจะรับมือการล้อมโจมตีเป็นอย่างมาก” ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มพูด

      “รีบชำแหละเก็บเอาของที่จะใช้เถอะ” จงหลิงพูดต่อ “ที่นี่มีกลิ่นคาวเลือดรุนแรงขนาดนี้ แม้โดยรอบจะเป็นแดนใต้อาณัติของฝูงหมาป่าจันทร์เงิน แต่เมื่อผ่านไปนานเข้าก็จะมีสัตว์มารอื่นๆ มาจนได้ เรื่องชำแหละยกให้ข้าเถอะ ข้าชำนาญกว่าเจ้า”

ฉึบ ฉึบ ฉึบ…

      จงหลิงชักเอามีดออกมาหกเล่มในพริบตาเดียว เมื่อหกแขนร่ายรำ ซากราชันย์หมาป่าจันทร์เงินก็ถูกชำแหละอย่างรวดเร็ว  

          “นี่คือหัวใจจันทร์เงิน” ตงป๋อเสวี่ยอิงรีบนำกล่องเหล็กใบหนึ่งมาใส่ไว้อย่างดีแล้วเก็บเข้าไปในจี้เก็บของ เนื่องจากจี้เก็บของนั้นเก็บซากเสือดาวเงามืดเอาไว้ จึงเหลือที่ว่างเพียงน้อยนิด แต่หากจะวางของเล็กๆน้อยๆก็ยังพอทำได้อยู่

      หลังเก็บเอาของล้ำค่าบางส่วนเอาไว้แล้ว

         ทั้งยังถลกเอาขนทั้งตัวของราชันย์หมาป่าจันทร์เงินออกมาด้วย

      “น่าเสียดาย เนื้อราชันย์หมาป่าจันทร์เงินก็เอาไปขายได้ราคาสูงมากเช่นกัน แต่ก็คงทำได้แค่ทิ้งไปเปล่าๆเช่นนี้เอง” จงหลิงส่ายหน้าพูด

      เนื้อราชันย์หมาป่าจันทร์เงินนั้นหนักเกือบสองหมื่นชั่ง ร่างใหญ่โตถึงเพียงนี้ จะแบกอย่างไรไหว ถึงหามเอาน้ำหนักขนาดนี้จะเดินอย่างไร อีกทั้งกลิ่นคาวเลือดย่อมดึงดูดสัตว์มารเข้ามามากยิ่งขึ้นอีก

      “ไปเถอะ”

      จงหลิงพับขนของราชันย์หมาป่าจันทร์เงิน แล้วเอาแถบผ้ามัดไว้ มันสูงกว่าคนหนึ่งคนเสียอีก

      “ขนนี่ต้องหนักเกือบสองพันชั่งเลยกระมัง” จงหลิงพูดอย่างตกตะลึง

“ข้าสะพายเอง” ตงป๋อเสวี่ยอิงมีพละกำลังมากไม่สนว่านี่จะหนักถึงสองพันชั่ง

      เขาสะพายขนของราชันย์หมาป่าจันทร์เงินที่พับแล้วขึ้นมา กะโหลกราชันย์หมาป่าห้อยไปด้านหนึ่ง ขนทั้งร่างของราชันย์หมาป่าขาวราวหิมะงดงามยิ่งนัก ทั้งยังเงาวับจับตา ความขาวนั้นขาวยิ่งกว่าหมาป่าจันทร์เงินทั่วไปถึงหนึ่งเฉด จึงเป็นวัสดุตัดเย็บอาภรณ์ที่ชนชั้นสูงมากมายชมชอบ หากนำมาปูเตียงปูพื้นก็ล้วนแต่หรูหราโอ่อ่ายิ่ง หากนำมาแขวนไว้บนกำแพงก็เป็นของสะสมที่งามวิจิตร

    ลำพังแค่ขนของราชันย์หมาป่าจันทร์เงินเพียงอย่างเดียวไม่ต้องนับของอื่นก็มีราคากว่าห้าหมื่นตำลึงทองแล้ว ย่อมต้องสะพายกลับไปเป็นธรรมดา

      “ไป กลับบ้านกันเถอะ” ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มพูด 

“อื้อ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ” จงหลิงก็เบิกบานใจมากเช่นกัน ผลที่ได้รับจากหุบเขาทำลายล้างครั้งนี้ช่างมากมายจริงๆ 

      ณ กองมีดโค้ง

รังซ่องสุมของพวกมันอยู่ในส่วนลึกของลาดเขาลูกหนึ่ง ซ่อนเร้นอย่างมิดชิดยิ่งนัก แต่แท้จริงแล้วห่างจากภายนอกของภูเขาเพียงแค่สองร้อยกว่าลี้เท่านั้น

“เจ้าหูเดียว ข้าได้ยินมาว่าครั้งนี้บ้านตระกูลหลัวไม่ยอมจ่ายเงินหรือ” โจรเถื่อนสองคนอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่งข้างรังซ่องสุม เฝ้าระวังความเคลื่อนไหวรอบตัวไปพลาง คุยเล่นไปพลาง

    “บ้านตระกูลหลัวพูดแล้วว่า จะยอมจ่ายเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น มิเช่นนั้นก็ต้องเห็นดำเห็นแดงกันไปข้าง” ชายร่างผอมซูบผู้มีหูข้างเดียวเอ่ยตอบ

      “ข้าว่าบ้านตระกูลหลัวนั่นอาจจะถูกรีดไถเสียจนเงินใกล้จะหมดแล้วหรือเปล่า”

      “บรรพบุรุษมันเถอะ หัวหน้าบอกแล้วว่าขาดไม่ได้แม้แต่แดงเดียว กล้าไม่จ่ายอย่างนั้นรึ ครั้งหน้าก็ไปบุกแดนใต้อาณัติของบ้านตระกูลหลัวแล้วลองลงมือฆ่าอย่างโหดร้ายดูสักรอบสิ เผาหมู่บ้านสักสองสามที่ เจ้าพวกบ้านตระกูลหลัวก็คงรู้จักเกรงกลัวแล้ว ไอ้พวกชนชั้นสูงสมควรตายพวกนี้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ”  โจรเถื่อนหูเดียวก่นด่าเสียงต่ำ

      “รีบไปดูเร็ว มีคนมา”

      “เอ๋ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนกล้าเข้ามาในหุบเขาทำลายล้างจริงๆ ”

      โจรเถื่อนสองคนที่มีหน้าที่เฝ้าระวังความเคลื่อนไหวตกตะลึง

รอบรังซ่องสุมมีโจรเถื่อนที่รับผิดชอบเฝ้าระวังสิบกว่าคน แต่ที่จริงแล้วมีหน้าที่ระวังสัตว์มารที่จะเข้ามาเป็นหลัก ส่วนมนุษย์นั้น ไม่มีผู้ใดเข้ามาที่รังของพวกมันมานานแสนนานแล้ว ส่วนการกวาดล้างของกองทัพมนุษย์เล่า พวกมันก็มีเพื่อนในกองทัพอยู่บ้าง พอกองทัพจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ พวกมันก็ออกจากเขาไปอยู่ข้างนอกก่อนนานแล้ว

      “รีบดูเร็ว นั่นไม่ใช่พญางูหกกรหรอกหรือ พญางูหกกรจงหลิงแห่งแดนอินทรีหิมะน่ะ” โจรเถื่อนหูเดียวจำได้ทันที พญางูหกกรผู้นี้ก็คือยอดฝีมือที่เคยประมือกับหัวหน้าของตนแล้วไม่ตายนั่นเอง

      “ขนที่หนุ่มน้อยข้างๆ สะพายอยู่ช่างสวยงามยิ่งนัก สวยกว่าขนหมาป่าจันทร์เงินธรรมดาที่พวกเราเคยเห็นตั้งมากมาย แถมผืนยังใหญ่ขนาดนั้น คงเป็นขนราชันย์หมาป่าจันทร์เงินกระมัง”

     โจรเถื่อนสองคนมองตากัน

      ขนราชันย์หมาป่าจันทร์เงินอย่างนั้นหรือ

      นั่นมีราคาสูงกว่าห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะ แดนใต้อาณัติอย่างแดนอินทรีหิมะทั้งแดน หากขายทิ้งก็คงมีราคาราวๆ นี้

     “หนังหมาป่าขาวราวหิมะที่งดงามถึงเพียงนี้ ขาวถึงเพียงนี้ ใหญ่ถึงเพียงนี้ เป็นประกายถึงเพียงนี้...แน่นอนว่าต้องเป็นของราชันย์หมาป่าจันทร์เงินอยู่แล้ว แน่นอนอยู่แล้ว”

      “เจ้าหูเดียว เร็วเข้า เจ้ารีบไปรายงานหัวหน้าเร็วเข้า ข้าจะคอยจับตาดูอยู่ตรงนี้”

โจรเถื่อนทั้งสองตื่นเต้นขึ้นมา น้ำลายแทบจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ

นี่จะต้องเป็นกำไรครั้งใหญ่แน่นอน

แต่สุดท้ายแล้วจะชิงขนราชันย์หมาป่าจันทร์เงินนี้มาหรือไม่นั้น ยังต้องให้พวกหัวหน้าเป็นผู้ตัดสินใจ

อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด