ตอนที่ 20
ตอนที่ 20 วิถีหอกยาวมวลน้ำแข็งขั้นที่หนึ่ง
จงหลิงลงมาจากที่สูง มองเห็นผืนป่าเละเทะราวกับถูกสัตว์ประหลาดทำลาย ในใจก็เต็มไปด้วยความกังวล
“เสวี่ยอิง ต้องไม่เป็นอะไรนะ เจ้าต้องไม่เป็นอะไรนะ” จงหลิงตามรอยความเสียหายนั้นไปอย่างรวดเร็ว ดวงใจที่เป็นกังวลของเขากระตุก “สมควรตาย สมควรตาย ทำไมถึงวันนี้ข้าจึงไม่ได้สำเร็จเป็นอัศวินดาวตกนะ หากข้าบรรลุแล้ว วันนี้ข้าก็คงช่วยเหลือเสวี่ยอิงได้แล้ว คงไม่ปล่อยให้เสวี่ยอิงตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เป็นแน่”
ตงป๋อเลี่ย ม่อหยางอวี๋ เพื่อนรักร่วมเป็นร่วมตายของเขาถูกจับไป ได้ฝากฝังไว้กับเขา หวังว่าเขาจะดูแลบุตรชายทั้งสองอย่างดี
เห็นเสวี่ยอิงตั้งแต่ยังแบเบาะร้องอุแว้ ๆ จนเติบใหญ่เพียงนี้ ความรู้สึกที่จงหลิงมีต่อเสวี่ยอิงนั้นลึกซึ้งมานานมากแล้ว
มองเห็นผืนป่าเละเทะตรงหน้า จงหลิงก็ตื่นตระหนกและเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ
“อย่าเป็นอะไรนะ”
“อย่าเป็นอะไร”
จงหลิงทะยานไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง
ฟิ้ว
ทะยานไปครั้งหนึ่ง หางงูก็ฟาดลงบนกิ่งไม้ด้านข้าง ทะยานไปทีหนึ่งก็หลายสิบเมตร เมื่อจงหลิงอยู่กลางอากาศ ก็เห็นเงาร่างสายหนึ่งของหนุ่มน้อยชุดดำยืนอยู่แต่ไกลแล้ว
ชั่วขณะที่เห็นเงาร่างของหนุ่มน้อยชุดดำนั้น จงหลิงก็โล่งใจ จึงผ่อนลมหายใจยาวออกมาเฮือกหนึ่ง
“เสวี่ยอิง” จงหลิงรีบวิ่งไป
“ท่านอาจง” ตงป๋อเสวี่ยอิงกำลังนำซากเสือดาวเงามืดออกมาจากด้ามหอก
“เจ้าฆ่าเสือดาวเงามืดหรือ” จงหลิงมองซากนั้น รู้สึกไม่อยากเชื่ออยู่บ้าง นี่เป็นถึงนักล่าที่น่ากลัวที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วเชียวนะ
ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มพูดว่า “เพราะโชคช่วย เป็นเพราะโชคช่วยจริง ๆ อีกนิดเดียว…คนที่ตายก็เป็นข้าแล้ว”
นี่เป็นครั้งที่เขาเฉียดตายมากที่สุด
ถึงแม้แต่ก่อนจะเคยต่อสู้กับสัตว์มารมาแล้ว กรงเล็บและคมเขี้ยวของสัตว์มารเหล่านั้นก็เคยเฉียดผ่านร่างกายของตนมาบ้าง และทำให้เขารู้สึกถึงกลิ่นอายของความตายเช่นกัน แต่นั่นก็เป็นเพียงการล้อมโจมตีเป็นฝูง หากเป็นตัวต่อตัวแล้ว ตนล้วนเป็นฝ่ายได้เปรียบมาตลอด แต่ครั้งนี้เสือดาวเงามืดแม้จะมีเพียงตัวเดียว กลับรับมือตนเองได้รอบด้าน
“สวบ ๆๆ” ตงป๋อเสวี่ยอิงยืดมือซ้ายออกมา ทันใดนั้นกลางฝ่ามือก็ปรากฏย่ามหอกใบหนึ่งขึ้นในย่ามหอกมีหอกสั้นถึงสิบสองเล่ม แต่เดิมแล้วย่ามหอกนี้เก็บอยู่ภายในจี้เก็บของ
“เข้าไป” เขาวางย่ามหอกลง แล้วนำซากเสือดาวเงามืดขึ้นมา ทั้งยังงอร่างของมันให้เล็กลงด้วย
ฟิ้ว
ซากเสือดาวเงามืดหายวับไร้ร่องรอย พื้นที่ภายในจี้เก็บของเกือบถูกยัดเต็ม เหลือเพียงที่ว่างเล็ก ๆ ตรงมุมบ้างเท่านั้น
“ท่านอาจง พวกเรารีบไปเถอะ เกรงว่ากลิ่นคาวเลือดเหล่านี้คงจะดึงดูดสัตว์มารมา” ตงป๋อเสวี่ยอิงสะพายย่ามหอก มือจับหอกเทพหิมะเหิน
“ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลนักหรอก กลิ่นอายของเสือดาวเงามืดฟุ้งไปรอบด้าน สัตว์มารธรรมดาไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ว่าผ่านศึกใหญ่ครั้งนี้มา เจ้าคงต้องพักผ่อนให้เต็มที่เสียแล้ว” จงหลิงยิ้มพูดอย่างผ่อนคลาย
เดินไปบนเส้นทางกลับ
ตงป๋อเสวี่ยอิงอารมณ์ดียิ่ง แม้จะผ่านศึกระหว่างความเป็นความตายที่อันตรายมา แต่ราคาของเสือดาวเงามืดตัวหนึ่งเกินกว่าแสนตำลึงทอง ขนลื่นดุจผ้าต่วนของเสือดาวเงามืด มีคุณวิเศษในการซ่อนเร้น เป็นวัสดุฝึกซ้อมอันล้ำค่า แน่นอนว่าขนของเสือดาวเงามืดส่วนใหญ่นั้นตกอยู่ในมือของพวกเศรษฐีและชนชั้นสูง นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาชมชอบที่สุด สวมเสื้อหนังเสือดาวเงามืดทั้งสวยงามทั้งได้หน้า ทำให้คนอิจฉาตาร้อนได้ตั้งเท่าไหร่
สำหรับเสวี่ยอิงแล้ว จะสนไปทำไมกัน ได้ราคาดีก็พอแล้ว
……
ณ ที่ตั้งค่ายในแนวเขาทำลายล้าง
เมื่อตงป๋อเสวี่ยอิงและจงหลิงใช้เวลาราวสองชั่วยามเร่งกลับไปยังที่ตั้งค่าย ท้องฟ้าก็มืดแล้ว กินข้าวเย็นไปได้หน่อยหนึ่ง จงหลิงก็พักผ่อนแล้ว ส่วนตงป๋อเสวี่ยอิงกลับไม่
“เปรี๊ยะ ๆ”
กองไฟในที่ตั้งค่ายลุกโชนอยู่ตลอดเวลา ขับไล่ความหนาวเย็นออกไป
ตงป๋อเสวี่ยอิงนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างกองไฟ หอกหิมะเหินวางราบอยู่บนตักของเขา เขาหลับตานั่งขัดสมาธิเงียบ ๆ ความสว่างของกองไฟส่องทาบบนใบหน้าของเขา
เงียบงัน...
ราตรีช่างเงียบงันนัก…
ตงป๋อเสวี่ยอิงรับรู้ถึงร่างกายของตนเองอย่างละเอียด รับรู้ถึงเส้นเอ็น กระดูกและกล้ามเนื้อทุกจุด รับรู้ถึงการหดและขยายของหัวใจภายในร่าง เลือดดุจสายน้ำเซาะไหลอย่างมีพลัง…
ในระหว่างความเป็นความตายเมื่อก่อนนั้น เขาเข้าถึงขอบเขตของพลังครบสมบูรณ์เป็นหนึ่งในยามนี้รู้สึกได้ถึงการรวมพลังที่คุ้นเคย
“ลุกขึ้น”
ตงป๋อเสวี่ยอิงลุกขึ้นมาในทันใด มือถือหอกหิมะเหินเริ่มต้นฝึกวิถีหอกยาว
คนและหอกรวมเป็นหนึ่ง ราวกับกลายร่างเป็นมังกร
เงาหอกแปลบปลาบ เกล็ดหิมะปลิวว่อน
“ยอดหอก ยอดหอก”
ตงป๋อเสวี่ยอิงหยุดลง มองดูหอกยาวหิมะเหินในมือ สีหน้าเต็มไปด้วยความปีติ
ตาของมนุษย์มีการหยุดการมองเห็นชั่วคราว หากหอกยาวไวพอ ตาของมนุษย์ก็จะมองเห็นหอกยาวหลายด้ามโจมตีเข้ามาพร้อมกันได้ในขณะเดียวกัน
แน่นอนว่าการหยุดการมองเห็นชั่วคราวของมนุษย์คนละคนนั้นไม่เหมือนกัน
อัศวินธรรมดา อัศวินชั้นดิน อัศวินชั้นฟ้า……การหยุดการมองเห็นชั่วคราวนั้นธรรมดายิ่ง
ชั้นดวงดารา การหยุดการมองเห็นชั่วคราวก็ยิ่งสั้นมากแล้ว
ชีวิตเหนือธรรมดา…การหยุดการมองเห็นชั่วคราวก็ยิ่งสั้นลงอีก
เมื่อมาถึงแนวเขาทำลายล้างในครั้งนี้ ความเร็วของวิถีหอกยาวของตงป๋อเสวี่ยอิงไปถึง“แดนห้าหอก” อาศัยการหยุดการมองเห็นชั่วคราวด้วยตาเปล่าของผู้แกร่งกล้าชั้นดวงดารา ก็จะสามารถมองเห็นด้ามหอกได้ถึงห้าด้าม ต่อให้พลังของสายเลือดโบราณกาลระเบิดออก…ก็จะเข้าใกล้ “แดนเจ็ดหอก” ได้อย่างพอถูไถ
แต่ในตอนนี้
พลังครบสมบูรณ์ดุจหนึ่ง สามารถควบคุมพลังทุกสายในร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อให้ไม่ระเบิดพลัง ก็สามารถไปถึง “แดนเจ็ดหอก” ได้อย่างสบาย ๆ
ส่วนหอกหิมะเหิน ในฐานะที่เป็นอาวุธเทพชิ้นหนึ่ง เมื่ออยู่ในมือของปรมาจารย์วิถีหอกยาวจึงสามารถแสดงส่วนที่น่าพิศวงของมันออกมาได้ ภายในด้ามหอกหิมะเหินก็เหมือนกับเส้นเลือดในกายมนุษย์ เมื่อหอกยาวกระทบกับอาวุธของศัตรู หรือว่าหอกยาวถูกดึงกลับมาอย่างรวดเร็วก็ล้วนสร้างสายพลังสวนกลับได้ สายพลังเหล่านี้หากอยู่ภายในหอกยาวทั่วไปก็อาจกระจัดกระจายสูญหายไปได้
แต่ภายในหอกเทพหิมะเหินกลับส่งทอดพลังเช่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ระยะเวลาสั้น ๆ ก็จะไม่กระจัดกระจายไป
ยอดฝีมือหอกยาวทั่วไปอาจไม่สนใจสายพลังสะท้อนกลับในด้ามหอก หรือแม้กระทั่งรู้สึกขัดหูขัดตาด้วยซ้ำ
แต่ในฐานะที่เป็นปรมาจารย์วิถีหอกยาว กลับสามารถใช้ประโยชน์จากพลังเช่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์ และถึงขั้นอาศัยพลังนี้โจมตีได้รวดเร็วขึ้น
“พลังครบสมบูรณ์ดุจหนึ่ง ข้าก็เข้าถึงแดนเจ็ดหอกแล้ว”
“หอกเทพหิมะเหินสามารถใช้พลังทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้พลังหอกยิ่งมากขึ้น ความเร็วเพียงอย่างเดียวยิ่งสามารถไปถึงแดนแปดหอกได้”
“พอข้าระเบิดพลังและเส้นเลือดได้ เช่นนั้นก็ถึงแดนสิบหอกแล้ว”
ตงป๋อเสวี่ยอิงตื่นเต้นดีใจ
เสือดาวเงามืดไม่ตายเปล่า
เวลานั้นที่ตงป๋อเสวี่ยอิงโจมตีสุดชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ความเร็ววิถีหอกยาวก็ไปถึงขั้น “แดนสิบหอก” อันน่ากลัวแล้ว ครั้งนี้สามารถควบคุมความเร็วหอกยาวอันน่ากลัวของอัศวินจันทร์เงินได้อย่างสมบูรณ์ เกรงว่าอัศวินจันทร์เงินที่อ่อนแอหน่อยคงต้านได้แค่ไม่กี่หอกก็ถูกปลิดชีวิตไปเป็นแน่
“นี่ยังไม่ใช่ขีดสุดของข้า ความเร็ววิถีหอกของข้ายังเร็วได้มากกว่านี้อีก” ตงป๋อเสวี่ยอิงเริ่มฝึกทักษะหอกจากวิถีหอกยาวมวลน้ำแข็งของชีวิตเหนือธรรมดาที่บิดาทิ้งไว้ให้เขาเล่มนั้น
ความรู้ขั้นสุดยอดแห่งอัศวินเหนือธรรมดาที่ยิ่งใหญ่
เข้าถึงชั้นปรมาจารย์วิถีหอกยาว จึงจะเรียนขั้นที่หนึ่งได้
“ฟิ้ว”
“พลังการต่อสู้ในกายพลิกหมุน ช่วยเสริมการปล่อยพลังในกาย หอกยาวพลิกหมุนดุจงูหลามตัวใหญ่ ความโค้งเมื่อหอกยาวแทงออกไปยิ่งชวนให้ตะลึงมากยิ่งขึ้น
เมื่อเก็บกลับมา ต้องหมุนพลิกย้อนทิศเก็บกลับ
การแทงออกไปหนึ่ง เก็บกลับหนึ่งนั้น
การพลิกหมุนอันแข็งแกร่ง และสามารถพลิกย้อนได้…สามารถทำให้พลังพลิกหมุนที่เก็บซ่อนอยู่ภายในมีพลังแข็งแกร่งได้เช่นนี้ ยอดฝีมือวิถีหอกยาวธรรมดาอาจถึงขั้นรู้สึกมือชา ด้ามหอกหลุดมือออกไป
แต่ว่าวิถีหอกยาวมวลน้ำแข็งต้องใช้พลังเช่นนี้
“ไม่ถูก”
“ออกแรงไม่ถูก”
“สายพลังพลิกหมุนบริสุทธิ์ไม่พอ”
ตงป๋อเสวี่ยอิงฝึกทักษะหอกครั้งแล้วครั้งเล่า
ย่าห์…
ย่าห์...
ค่ำคืนในที่ตั้งค่าย เสียงหวีดหวิวระลอกนั้น ทำให้เหล่าทหารที่เฝ้าเวรกลางคืนล้วนรู้สึกหนังศีรษะชาวาบ พวกเขามองเจ้าแดนวัยเยาว์ของตนที่ฝึกวิถีหอกยาวอยู่ข้างกองไฟ ยิ่งรู้สึกเคารพยำเกรงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“ท่านเจ้าแดนก็คือท่านเจ้าแดน เยี่ยมยอดนัก”
“มาถึงแนวเขาทำลายล้างแล้ว กลางคืนยังฝึกหอกอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ มิน่าเล่าถึงเก่งกาจถึงเพียงนี้”
“เมื่อเจ้าแดนอายุแปดปีคลั่งฝึกเป็นมารเชียว ข้าแทบทนความลำบากนี้ไม่ไหว”
ทหารเหล่านั้นแอบวิพากษ์วิจารณ์เบา ๆ
...…
ตงป๋อเสวี่ยอิงกทักษะหอกยาวมากมายจากวิถีหอกยาวมวลน้ำแข็งขั้นที่หนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าผู้อาวุโสอัศวินมวลน้ำแข็งกู่หยวนหานจะอธิบายไว้อย่างละเอียดมากแล้ว แต่เมื่อได้เรียนขึ้นมาจริง ๆแล้วยังคงยากยิ่ง โชคดีที่ในฐานะที่ตงป๋อเสวี่ยอิงเป็นปรมาจารย์วิถีหอกยาวคนหนึ่ง สามารถควบคุมพลังได้อย่างละเอียดนัก จึงมีความหวังที่จะเรียนได้สำเร็จ
ราตรีพ้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้าเริ่มปรากฏแสงรำไร
“แคว่ก...”
หอกยาวพุ่งออกไป
ประหนึ่งงูหลามตัวใหญ่ที่เลื้อยหมุนออกไปในทันควัน เสียงกลางอากาศนั้นสั้นมาก ไม่ใช่เสียงฟู่ธรรมดา แต่เป็นเสียง “แคว่ก” สั้น ๆ เสียงหนึ่ง เมื่อเก็บกลับมาทั้งด้ามหอกพลิกหมุน เกิดเป็นมุมโค้งที่ตาเปล่าสามารถมองเห็นได้ ต่อจากนั้นจึงแทงออกไปอีกครั้งอย่างรวดเร็วยิ่ง
ตงป๋อเสวี่ยอิงเผยสีหน้ายินดี ทันใดนั้นรอบกายของเขาก็ปรากฏไอสีแดงโลหิตซีดจาง พลังระเบิดอย่างสมบูรณ์ แสดงทักษะหอกยาวอันน่ากลัวออกมาอย่างสุดแรง
ฟิ้ว ๆๆๆๆ…
เกล็ดหิมะรอบด้ามหอกกำลังปลิวว่อน ส่วนลายหอกที่ปลายหอกสร้างขึ้นก็หยุดชั่วขณะกลางอากาศราวกับเกล็ดหิมะ
เกล็ดหิมะลายหอกถึงสิบสองดอกหยุดอยู่ขณะกลางอากาศจากนั้นก็สลายไป
ในที่สุดก็มาถึงขั้น “แดนสิบสองหอก” อันน่ากลัวได้
วิถีหอกยาวมวลน้ำแข็งขั้นแรก หิมะปลิว ไม้ตายกระบวนนี้เพิ่มความเร็วให้วิถีหอกยาวเป็นอย่างมาก วิถีหอกยาวของอัศวินมวลน้ำแข็งกู่หยวนหานนั้น...แท้จริงแล้วมีชื่อเสียงด้วยความเร็ว ขั้นที่สอง ขั้นที่สามต่อไปนั้น ยังต้องยิ่งเร็ว ยิ่งเพิ่มความยากขึ้นไปอีก
“แดนสิบสองหอก” ตงป๋อเสวี่ยอิงเผยรอยยิ้มออกมา “วิถีหอกยาวมวลน้ำแข็งขั้นที่หนึ่ง หิมะปลิวในที่สุดก็ฝึกสำเร็จแล้ว”
เมื่อสำเร็จเป็นปรมาจารย์วิถีหอกยาว เริ่มฝึกวิถีหอกยาวมวลน้ำแข็งแล้ว พละกำลังของตงป๋อเสวี่ยอิงก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนชวนตะลึง