สมาชิก

ขิงก็รา ข่าก็แรง

ขิงก็รา ข่าก็แรง
  • แนว:

    ดราม่า-โรแมนติก

  • บทประพันธ์โดย:

    โสภี พรรณราย

  • บทโทรทัศน์โดย:

    ภาวิต

  • กำกับการแสดงโดย:

    ประทุม มิตรภักดี

  • ผลิตโดย:

    บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

  • ช่องออกอากาศ:

    สถานีโทรทัศน์ช่อง 7

  • นักแสดงนำ:

    วศิน อัศวนฤนาท,ปภาวดี ชาญสมอน

เรื่องย่อละคร

ณิช อมรเกียรติ์ (ปภาวดี ชาญสมอน) นักข่าวสาวไฟแรง เธอเพิ่งเรียนจบนิเทศฯ และได้งานเป็นนักข่าวสมใจ ณิชมีพี่สาวชื่อ ภรณี (วรัญภรณ์ พัฒน์ช่วย) ทั้งคู่กำพร้าพ่อ-แม่ตั้งแต่อายุประมาณ 10 กว่าขวบ สองพี่น้องจึงต้องมาอยู่ในความอุปการะของ แม่ชีสุดา (อัจฉรา ทองเทพ) น้องสาวของพ่อ แม่ชีสุดานั้นบวชตั้งแต่ยังสาวด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง แม่ชีพาณิชและภรณีไปอยู่โรงเรียนประจำ และพยายามส่งเสียให้ดีที่สุด แต่ก็เป็นภาระแทบจะเกินกำลังของแม่ชีที่ไม่มีรายได้อะไรมากนัก แม้ทั้งคู่จะเรียนเก่งจนได้ทุนเรียนดีทั้งคู่ทุกปี แต่เมื่อต้องเรียนระดับอุดมศึกษา ภรณีก็ตัดสินใจเสียสละให้ณิช ภรณีเลือกเรียนสายวิชาชีพ ภรณีทำงานและเรียนไปด้วยเพื่อช่วยส่งเสียให้ณิชซึ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะนิเทศศาสตร์เรียนจนจบ ณิชเองก็เรียนไปและทำงานไปด้วยเช่นกัน

ภรณีนั้นสวยอ่อนหวาน วันหนึ่งเธอมีโอกาสรู้จักกับ ไพรุต (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) นักธุรกิจคราวพ่อ ไพรุตสนใจภรณี แม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้วกับ วรกานต์ (มัณฑนา หิมะทองคำ) แต่ชีวิตครอบครัวก็ไม่อบอุ่น ไพรุตและวรกานต์มีลูกสาวอยู่ในวัยใกล้เคียงกับภรณีชื่อ เพียงเพ็ญ (ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) ความสัมพันธ์ระหว่างไพรุตและภรณีพัฒนาอย่างรวดเร็ว ภรณีรักไพรุตและยอมเป็นเมียเขาด้วยความที่ภรณีกำพร้าพ่อมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขเมื่ออยู่กับไพรุตมากกว่าหนุ่มๆ วัยเดียวกัน นอกจากนั้นเธอคิดว่าไพรุตนั้นรวยมากคงจะช่วยผ่อนภาระในการส่งณิชให้เรียนได้จนจบ ที่แน่ๆ คือความเป็นอยู่ของทั้งคู่ดีขึ้น ไพรุตเองก็รักและหลงภรณีไม่น้อย นอกจากความสาวความสวยแล้ว ภรณียังอ่อนหวานช่างเอาใจปรนนิบัติเขาทุกอย่าง ต่างกับวรกานต์อย่างลิบลับ วรกานต์นั้นอารมณ์ร้ายเอาแต่ใจ และขาดเหตุผลรวมทั้งขี้หึงอีกต่างหาก ยิ่งอายุมากวรกานต์ก็อารมณ์ร้ายมากขึ้น ที่ไพรุตเบื่อและหนักใจก็คือวรกานต์เริ่มติดการพนันเธอสามารถอยู่ในบ่อนได้เป็นวัน ๆ โดยไม่เบื่อ วรกานต์นั้นไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเพราะพ่อ-แม่ทิ้งมรดกไว้ให้มหาศาล อีกทั้งไพรุตเองก็เป็นนักธุรกิจที่เก่งและขยัน ฐานะทางการเงินของครอบครัวนี้จึงมั่นคงมาก แต่ไพรุตกับเพียงเพ็ญก็อยากให้วรกานต์เลิกเล่นการพนัน ทั้งคู่รู้ดีว่าการพนันมีแต่จะทำให้ชีวิตตกต่ำ เงินมีมากเท่าใดก็หมดได้ถ้าผีการพนันเข้าสิง ไพรุตกับเพียงเพ็ญขอร้องจนเหนื่อยวรกานต์ก็ไม่ยอมเลิก แม้จะเคยถูกตำรวจจับบ่อยครั้งแค่ไหนก็ตาม และไพรุตก็ต้องตามไปประกันตัวและใช้อิทธิพลทุกอย่างเพื่อปิดข่าว ทั้งหมดก็เพราะเพียงเพ็ญ ลูกสาวคนเดียวเท่านั้น

เมื่อไพรุตมีภรณีซึ่งแตกต่างกับวรกานต์ราวฟ้ากับดินเขาจึงรักภรณีมาก ไพรุตซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ น่ารักให้ภรณีอยู่กับณิช ด้วยความเขี้ยวและเค็มตามประสานักธุรกิจ ไพรุตไม่ยอมโอนบ้านให้เป็นชื่อของภรณี เรื่องนี้ณิชเคยนึกหมั่นไส้พี่เขยที่งกทั้งที่รวย ภรณีเองก็แสนจะน่ารักดูแลเอาใจใส่สารพัด ด้วยความรักพี่สาวณิชจึงไม่ค่อยชอบไพรุตมากนัก ทั้งที่รู้ว่าเขามีบุญคุณที่ซื้อบ้านให้ภรณีและเธอได้อยู่กันอย่างสบาย

เมื่อณิชเรียนจบและได้งานทำเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์เล็ก ๆ ฉบับหนึ่ง เธอจึงภูมิใจมาก ส่วนไพรุตเองก็ไม่ค่อยชอบณิชเช่นกัน เพราะณิชคล่องแคล่วฉลาดเหมือนจะรู้ทันเขาทุกอย่าง อีกประการหนึ่งณิชค่อนข้างจะแข็งกระด้าง เธอชอบใส่เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งและกางเกงยีนส์เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน แต่ไพรุตมองเหมือนเป็นผู้ชายมากกว่า ภรณีในฐานะคนกลางหนักใจกว่าใคร เธอรักไพรุตมากและรู้ว่าณิชนั้นเป็นสาวมั่นอาจจะดูแข็งกระด้าง แต่จริง ๆ แล้วณิชมีเมตตาและอ่อนโยนเสมอกับคนที่ดีกับเธอประเภทใครดีก็ดีด้วย ใครร้ายก็ร้ายตอบและค่อนข้างปากจัด ณิชไม่พูดหยาบคายแต่คำพูดของเธอก็เชือดเฉือนเหน็บแนมให้คู่กรณีต้องขาดสติอาละวาดได้เสมอ

เมื่อหลานสาวในอุปการะโตและดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ แม่ชีสุดาก็มักเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัดบ่อย ๆ ในเรื่องของภรณีเมื่อภรณีพาไพรุตมากราบเชิงสู่ขอแม่ชีก็ไม่สบายใจ เพราะไม่อยากเห็นหลานต้องผิดศีล ทว่าเมื่อภรณีสมัครใจแม่ชีก็รู้ได้ว่าเป็นกรรมของเธอเอง นอกจากการไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัดแล้ว ถ้าพอมีเวลาแม่ชีสุดามักจะไปที่โรงพยาบาลโรคจิต เธอไปช่วยดูแลคนไข้ทั้งหมด

มีคนไข้หญิงวัยกลางคนชื่อ รุ่งทิพย์ (สาวิตรี สามิภักดิ์) ซึ่งดูจะถูกอัธยาศัยกับแม่ชีมากเป็นพิเศษ โดยปกติแล้วรุ่งทิพย์จะไม่ค่อยพูดกับใครแม้กับหมอและพยาบาล แต่กับแม่ชีสุดาแล้วรุ่งทิพย์ยอมคุยด้วยนาน ๆ รุ่งทิพย์ต้องมารักษาอาการทางจิตก็เพราะความเจ้าชู้ของสามี รุ่งทิพย์แต่งงานกับ สารนาถ พิเศษพงศ์ (ดิลก ทองวัฒนา) นักธุรกิจชื่อดัง มีกิจการเดินเรือสินค้าและเรือท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ด้วยความที่รุ่งทิพย์เป็นคนจริงจังกับชีวิต ในช่วงหนึ่งที่สารนาถหลงไปกับความมีชื่อเสียงและเงินทอง เมื่อร่ำรวยและรูปหล่อ สารนาถจึงมีผู้หญิงสนใจมากมาย แม้จะรู้ว่าเขาแต่งงานและมีลูกแล้ว รุ่งทิพย์ทนพฤติกรรมเจ้าชู้ของสามีไม่ไหวเธอจึงปิดกั้นตัวเองไม่พูดจากับใคร เหม่อลอยอยู่ในโลกของเธอตามลำพัง สารนาถตกใจและเสียใจมากที่รุ่งทิพย์ต้องเป็นอย่างนี้ เขาหยุดความเป็นเพลย์บอยทุกอย่างส่งรุ่งทิพย์มารักษาตัวอย่างเต็มที่ และเลี้ยง ปวีร์ ลูกชายคนเดียว อย่างสุดความสามารถ

สารนาถมัวแต่มุ่งมั่นทำงานโดยมี วศิน (ปราบ ยุทธพิชัย) น้องชาย เป็นผู้ช่วยจนกิจการเจริญรุ่งเรือง ปวีร์เองก็เรียนจบจากต่างประเทศ และกลับมาช่วยบิดาทำงานอย่างตั้งใจ ทั้งสารนาถและปวีร์จึงมาเยี่ยมรุ่งทิพย์น้อยครั้งมาก ในช่วงระยะเวลาสิบกว่าปีที่เธอเข้าโรงพยาบาล รุ่งทิพย์ปลื้มใจกับปวีร์มากที่สุด เธอมักจะย้ำกับเขาเมื่อเขามาเยี่ยมว่าอย่าเจ้าชู้เป็นอันขาด ลูกของเธอต้องเป็นสุภาพบุรุษและไม่เจ้าชู้ ในเรื่องความเกลียดความเจ้าชู้นั้นแม่ชีสุดาทราบดีเพราะเป็นเรื่องที่รุ่งทิพย์พูดซ้ำซาก แม้อาการด้านอื่นจะดีขึ้น แต่ในเรื่องความฝังใจในความเจ้าชู้ของสารนาถยังฝังใจรุ่งทิพย์เสมอ

วันหนึ่งณิชต้องอยู่เวรที่โรงพิมพ์เพื่อเตรียมทำข่าวเผื่อมีเหตุการณ์คืนนั้น ดึกมากแล้วเมื่อ ภัทรา (ฑรัญภัค เศรษฐีธร) เพื่อนสนิท โทร. มาบอกว่ามีข่าวใหญ่ให้ณิชมาพบเธอโดยเร็ว เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงของคนดังระดับประเทศ ณิชรีบไปทันทีพร้อมกล้องคู่ใจ ณิชอึ้งเมื่อถึงที่เกิดเหตุ รถ 2 คันชนประสานงากันอย่างแรง รถเบนซ์สีขาวคันหรูยับย่นไปครึ่งคันราวกับกระดาษ คนขับตายทั้งคู่ ณิชไปถึงเมื่อหน่วยกู้ภัยเริ่มทำงานแล้ว เธอถ่ายรูปอย่างรวดเร็วก่อนที่ตำรวจจะมา ภัทราบอกเธออย่างมั่นใจว่าคนขับรถเบนซ์คือ สารนาถ พิเศษพงศ์ นักธุรกิจคนดัง ณิชพยายามถ่ายภาพคนขับแต่ก็ยากเต็มที อีกประการสภาพศพก็ทำให้ดูลำบาก ณิชเชื่อว่าภัทราจำสารนาถได้ เพราะภัทราเป็นคนที่ชอบอ่านประวัติชีวิตคนดัง นักธุรกิจ มหาเศรษฐี และจำแม่นมากเข้าขั้นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่ง ณิชเชื่อสนิทใจ เธอรีบกลับโรงพิมพ์เขียนข่าวส่งภาพตามหน้าที่อย่างรวดเร็ว

ที่บ้านพิเศษพงศ์ เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสารนาถ ปวีร์ และวศินต้องปวดหัวเพราะมีโทรศัพท์มาแสดงความเสียใจ และถามข่าวตลอดเวลา สารนาถโกรธมากที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นที่ณิชทำงานอยู่ลงข่าวผิดพลาด เขาถือว่าทำให้ธุรกิจของเขาต้องได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สารนาถสั่งให้ปวีร์จัดการเรื่องนี้โดยเร็วและเฉียบขาดที่สุด ปวีร์เองก็โกรธมากเช่นกันที่นักข่าวที่ทำข่าวขาดความรับผิดชอบ เขาติดต่อบรรณาธิการและยื่นคำขาดให้จัดการกับเรื่องนี้  บก. พยายามขอโทษและรับว่าจะรีบลงแก้ข่าวให้โดยเร็วแต่ปวีร์ก็ยังไม่พอใจ เขาขู่ไปว่าถ้าขืนยังรับนักข่าวอ่อนหัดอย่างนี้หนังสือพิมพ์คงต้องถูกฟ้องรายวันแน่ ปวีร์พูดแกมขู่จน บก. รับปากว่าจะไล่นักข่าวต้นเหตุออกจากงาน ส่วนณิชนั่งรออยู่ที่กอง บก. อย่างกระวนกระวาย เธอเจ็บใจที่ทำงานพลาดและพร้อมที่จะรับโทษ ณิชมีเพื่อนรุ่นพี่หลายคนที่เข้าใจและเห็นใจเธอ ยกเว้น เบญจรัตน์ (กุสุมา ตันสกุล) นักข่าวสาวรุ่นพี่ที่หมั่นไส้ณิชมานาน และรอโอกาสที่ณิชจะพลาดอย่างนี้อย่างสะใจ เบญจรัตน์จึงพูดจาเหน็บแนมกระทบกระแทกจนณิชแทบทนไม่ไหว เบญจรัตน์บอกว่าโทษร้ายแรงอย่างนี้ บก. คงไล่ณิชออกแน่ ณิชใจหาย แต่เมื่อ บก. บอกเธอว่าเขาจำเป็นต้องไล่เธอออกเพราะปวีร์ ลูกชายสารนาถ ไม่ยอมจบเรื่องและรับคำขอโทษใด ๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะไล่เธอออกจากงาน ณิชเจ็บใจมากขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสะใจของเบญจรัตน์ จะอย่างไรก็ตามณิชตัดสินใจจะไปขอโทษสารนาถ เธอพร้อมจะรับผิดชอบในการกระทำของเธอเสมอ

เย็นวันนั้นณิชจึงไปดักรอสารนาถที่หน้าบ้าน เมื่อรถเบนซ์สีขาวคันหรูแล่นมาณิชก็กระโดดขวางหน้าทันที ปวีร์ลงจากรถโดยที่สารนาถและวศินอยู่ในรถ เมื่อปวีร์รู้ว่าสาวห้าวทอม ๆ คนนี้ชื่อณิช เขาก็ไม่ฟังอะไรอีก เขาไล่เธอด้วยถ้อยคำรุนแรงจนณิชโกรธย้อนกลับแรง ๆ บ้าง ณิชโกรธมากขึ้นเมื่อปวีร์กลับขึ้นรถและขับรถเข้าบ้านอย่างไม่สนใจเธออีก ณิชโกรธที่ปวีร์ทำเหมือนเธอไม่ใช่คน เรื่องดูหมิ่นเกียรติศักดิ์ศรี และเคารพความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกันนี้ณิชถือมาก เธอจะโต้ตอบกลับรุนแรงทุกครั้งที่ถูกทำเหมือนดูถูก วันรุ่งขึ้นณิชไปขอพบสารนาถหรือปวีร์ที่บริษัท แต่เลขาฯ ของทั้งคู่ไม่ยอมให้พบ เพราะปวีร์สั่งห้ามอย่างเด็ดขาด ณิชรออย่างอดทนที่มุมรับแขกหน้าห้องทำงานของสารนาถและปวีร์ ระหว่างรอเธอเห็นไพรุตมากับเพียงเพ็ญ เสียงพูดคุยของทั้งคู่ทำให้ณิชรู้ว่าเพียงเพ็ญเป็นลูกของไพรุต ณิชมองเพียงเพ็ญอย่างนึกชมที่หญิงสาวแต่งตัวเก๋ดูเป็นสาวหวานและมีบุคลิกมั่นใจ ไพรุตแยกไปพบสารนาถ ส่วนเพียงเพ็ญเดินเข้าห้องปวีร์อย่างคุ้นเคย ณิชนั่งรออย่างอดทนแม้เลขาฯ ของปวีร์จะมาบอกเธอว่าให้กลับไปก่อนเพราะปวีร์คงไม่เสร็จธุระง่าย ๆ แต่ณิชปฏิเสธ ในห้องทำงานของสารนาถ ไพรุตถามเรื่องข่าวหนังสือพิมพ์อีกทำให้สารนาถโมโหบอกว่าปวีร์จัดการเรียบร้อยแล้ว นักข่าวชื่อณิชถูกไล่ออกแต่ก็พยายามมาพบเขา ซึ่งสารนาถและปวีร์คิดว่าคงมาขอร้องให้ช่วยเรื่องงาน ซึ่งทั้งสารนาถและปวีร์ไม่ต้องการให้ณิชมาวุ่นวายกับชีวิตของเขาอีก ชื่อของณิชทำให้ไพรุตเอะใจว่าจะเป็นน้องของภรณี

ส่วนปวีร์และเพียงเพ็ญนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นที่รู้กันทั่วไป ทั้งบริษัท และแวดวงไฮโซว่าเป็นแฟนกัน เพียงเพ็ญรักปวีร์มากและมั่นใจว่าเขาก็รักเธอเช่นกันแม้ปวีร์จะไม่เคยบอกรักเลย ทั้งคู่คุยกันอยู่นานจนถึงเวลาอาหารกลางวัน ปวีร์จึงชวนเพียงเพ็ญเดินออกมาหาสารนาถเพื่อรับออกไปกินข้าว เพียงเพ็ญคลอเคลียร์ปวีร์ไม่ห่างเหมือนจะประกาศให้สาว ๆ เลขาฯ หน้าห้องรู้ว่าเธอเป็นแฟนของปวีร์ ก่อนถึงห้องสารนาถ ณิชฉวยโอกาสเดินมาหาปวีร์อย่างค่อนข้างจะจู่โจม เธอกลัวว่าจะพลาดโอกาสได้พบเขาการพรวดพราดเข้ามาของณิชทำให้ทั้งคู่ตกใจ ปวีร์โกรธณิชและไล่เธออีกอย่างรุนแรง เพียงเพ็ญมองณิชที่แต่งตัวตามสไตล์ถนัดคือเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์อย่างดูถูกว่าเธอเป็นนักข่าวกระจอกจริง ๆ ปวีร์ยิ่งเสียงดังมากขึ้นเมื่อณิชไม่ยอมไปง่าย ๆ เธอพยายามพูดกับปวีร์อย่างใจเย็นและขอให้เขาฟังเธอบ้าง ทว่าปวีร์ไม่ยอมแถมยังสั่งให้ รปภ. มาลากตัวเธอออกไปจากบริษัทอีกต่างหาก  การกระทำที่รุนแรงของปวีร์ยิ่งทำให้ณิชเกลียดและอยากเอาชนะมากขึ้นอีก

เย็นนั้นไพรุตแวะมาหาภรณี เมื่อพบณิชเขาพูดดูถูกกึ่งตำหนิในความดื้อและการทำงานที่สะเพร่าของเธอ แถมยังซ้ำเติมว่าการที่เธอถูกไล่ออกจากงานนั้นเหมาะสมแล้ว คำพูดของไพรุตยิ่งทำให้ณิชยิ่งแค้น เธอขยับปากจะตอบโต้เขาบ้าง ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดใจ และแววตาขอร้องของพี่สาว ณิชก็ตัดใจเดินหนีเข้าห้องส่วนตัว เธอไม่อยากให้ภรณีต้องเสียใจหรือมีเรื่องทะเลาะกับไพรุตเพราะเธอ ณิชรู้ว่าภรณีรักไพรุตมาก เวลาผ่านไปปวีร์ดีใจที่ณิชไม่ได้ตามตอแยหรือวุ่นวายกับเขาและบิดาอีก ปวีร์ไม่รู้ว่าณิชนั้นเป็นคนที่ดื้อ มุ่งมั่น และเอาจริงมากแค่ไหน เมื่อตั้งใจจะทำอะไรแล้วเธอต้องทำให้ได้

ณิชไปสืบจากภัทราจนรู้ว่าสารนาถกับปวีร์ชอบมาออกกำลังที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งทุกวันหยุด ดังนั้นเช้ามืดวันเสาร์ณิชในชุดกีฬาจึงไปซุ่มรออยู่ที่บริเวณหน้าสวนสาธารณะแห่งนั้น ปวีร์พาสารนาถมาจริง ๆ ตอนแรกปวีร์และสารนาถวิ่งเบา ๆ ไปด้วยกัน สักพักหนึ่งปวีร์ก็เร่งความเร็ววิ่งนำหน้าบิดาไป สารนาถนั้นอายุมากแล้วแม้จะแข็งแรงกว่าคนวัยเดียวกันแต่ก็สู้ลูกชายไม่ได้ ณิชเดินแกมวิ่งมาห่าง ๆ เมื่อเห็นว่าปวีร์วิ่งห่างสารนาถไปไกลมากแล้ว ณิชก็วิ่งขึ้นมาคู่กับสารนาถทันที ณิชทักสารนาถอย่างสดใส สารนาถตกใจที่จู่ ๆ ณิชก็วิ่งมาใกล้ เขาหยุดวิ่งและมองเธออย่างรำคาญ ทว่าณิชทำให้เขาแปลกใจมากขึ้นเมื่อเธอบอกว่าเธอมาดักรอเขาเพื่อจะขอโทษที่ลงข่าวผิดพลาด ทำให้เขาเสียหาย ณิชไหว้สารนาถอย่างอ่อนโยนและเรียบร้อยผิดกับท่าทางห้าวและเปรี้ยวที่สารนาถเคยพบ ท่าทางณิชดูจริงใจจนสารนาถเชื่อและยอมให้อภัย เธอก็สบายใจ ณิชทำท่าจะวิ่งจากไปแต่สารนาถกลับชวนคุยว่าเธอรู้ได้อย่างไรว่าเขาและปวีร์ชอบมาที่นี่ ณิชยิ้มให้อย่างแจ่มใสตาเป็นประกาย ก่อนจะบอกว่าอาชีพของเธอคือนักข่าว เรื่องแค่นี้ถ้าทำไม่ได้เธอก็ไม่ควรเป็นนักข่าวอีกต่อไป ณิชเอ่ยปากลาอีกครั้ง ทว่าอะไรบางอย่างในตัวณิชทำให้สารนาถนึกเอ็นดู เขาชวนเธอวิ่งเบา ๆ ต่อไปด้วยกัน ณิชทำตามอย่างดีใจ เธอถือว่านี่คือการยอมรับคำขอโทษและให้อภัยเธออย่างแท้จริง ณิชรักษาจังหวะวิ่งให้พอดีกับสารนาถและคอยชำเลืองดู เผื่อสารนาถจะเหนื่อยเกินไป เธอดูแลเขาเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ส่วนปวีร์เมื่อรู้สึกตัวว่าวิ่งห่างจากบิดามากเกินไปเขาก็วิ่งย้อนกลับมาด้วยความเป็นห่วง ภาพของณิชที่วิ่งคู่อยู่กับสารนาถทำให้ปวีร์โกรธขึ้นมาอีก ในสายตาของเขาแล้วณิชคือตัวป่วน ตัวอันตราย สำหรับเขาและบิดา ปวีร์วิ่งกลับมาหาสารนาถด้วยสีหน้าบึ้งตึง เมื่อถึงตัวสารนาถ ณิชก็ยิ้มยั่วปวีร์อย่างผู้ชนะก่อนจะหันไปลาสารนาถอีกครั้ง พูดยิ้ม ๆ ว่าคราวนี้คงต้องไปจริง ๆ ก่อนที่ปวีร์จะจับเธอหักเป็นท่อน ๆ ณิชวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ปวีร์ทำท่าจะวิ่งตามไปเอาเรื่องกับเธอ แต่สารนาถกลับห้ามไว้ สารนาถดูอารมณ์ดีจนปวีร์แปลกใจ สารนาถบอกปวีร์ว่าเข้าใจณิชผิดไป จริง ๆ แล้วณิชเพียงต้องการขอโทษเท่านั้น เขาชมณิชให้ปวีร์ฟังอีกว่าณิชเป็นคนที่มุ่งมั่น เอาจริงเอาจังรับผิดชอบเกินอายุ ปวีร์ฟังอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

ระหว่างที่ณิชตกงานเธอจึงมีเวลาไปกราบแม่ชีบ่อยขึ้น แม่ชีจึงชวนณิชไปโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อทำบุญ แม่ชีบอกว่าเป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่ง และตัวณิชจะได้รู้สึกดีขึ้นเมื่อพบพวกเขา ณิชตามแม่ชีไปอย่างเต็มใจ ระหว่างที่แม่ชีติดต่อกับเจ้าหน้าที่ณิชนั่งรออยู่มุมหนึ่งมองบรรยากาศทั่ว ๆ ไป ภาพของคนไข้ที่นั่งเหม่อหรือนั่งพูดคนเดียวเหมือนมีโลกส่วนตัวอย่างสนใจ ณิชนั่งเพลินจนเห็นรถเบนซ์สีขาวที่คุ้นตาแล่นเข้ามาในโรงพยาบาล เธอจำได้ว่าเป็นรถของสารนาถ ณิชหลบไปแอบมองจนเห็นว่าทั้งสารนาถและปวีร์มาด้วยกัน วิญญาณนักข่าวเข้าสิงทันที เธอแอบเดินตามทั้งคู่ไปจนถึงห้องพักของรุ่งทิพย์ สารนาถ ปวีร์ และหมอเข้าไปในห้อง ณิชรีบไปดูชื่อคนไข้อย่างว่องไว เสียงพูดคุยในห้องทำให้ณิชงง เพราะเสียงรุ่งทิพย์ไล่สารนาถอย่างเกรี้ยวกราดเกลียดชัง ขณะที่สารนาถพยายามง้อ เสียงปวีร์ที่เรียกรุ่งทิพย์ว่าแม่ทำให้ณิชยิ่งงง รุ่งทิพย์เรียกปวีร์ว่าลูกอย่างสุดรักสุดหวง เธอเขย่งดูตรงช่องประตูอย่างสนใจ เธอจำได้ว่าสารนาถเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นม่าย ภรรยาตายไปหลายปีแล้ว ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นผู้หญิงในห้องนี้เป็นใคร ณิชเขย่งดูอย่างสนใจ จังหวะพอดีที่รุ่งทิพย์เกรี้ยวกราดไล่สารนาถอีก ปวีร์จึงพาสารนาถออกมา ณิชรีบหาทางหลบอย่างตกใจแต่ไม่ทัน ปวีร์และสารนาถเห็นเธอเต็มตา ปวีร์โกรธอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นกล้องถ่ายรูปและเทปในมือของณิช ปวีร์และสารนาถเข้าใจผิดว่าณิชแอบตามเขามา ปวีร์ก้าวเข้ามาหาณิชอย่างพร้อมจะอาละวาด ณิชจึงแกล้งยกกล้องถ่ายรูปขึ้น เธอกดแฟลชเฉย ๆ ติด ๆ กัน ปวีร์และสารนาถยกมือปิดหน้าให้ชุลมุนไปหมด ณิชฉวยโอกาสวิ่งหนีแต่ปวีร์ก็ตามจนทัน เขาขอฟิล์มจากเธออย่างคุกคาม ข่มขู่ ณิชซึ่งเกลียดปวีร์อยู่แล้วก็ยิ่งยั่วและไม่ยอมให้ ปวีร์จึงเข้าแย่งกล้องจากมือณิชทันที ทั้งคู่ยื้อยุดฉุดกระชากกันสุดฤทธิ์ ณิชสู้แรงปวีร์ไม่ได้ เธอถูกเขาผลักจนกระเด็นหงายหลังก้นกระแทกอย่างแรง ณิชเจ็บร้าวไปทั้งหลัง แต่ก็กัดฟันลุกขึ้นโวยวายเมื่อเห็นปวีร์เปิดกล้องกระชากม้วนฟิล์มและดึงออกมาอย่างสะใจ ปวีร์มองณิชอย่างเกลียดชังและสะใจก่อนจะโยนกล้องถ่ายรูปคืนให้เธอ ณิชโกรธจนอยากจะฆ่าปวีร์ให้ตายคามือ เธอแค้นมากและหาทางแก้แค้นปวีร์อย่างชนิดที่ปวีร์ต้องจำไปจนตาย

รุ่งขึ้นณิชไปขอพบปวีร์ เมื่อเลขาฯ ทำท่าจะไม่ให้พบ เธอก็บอกเลขาฯ ให้ไปบอกปวีร์ว่าถ้าไม่ยอมพบเธอในวันนี้ ตระกูลพิเศษพงศ์ได้ดังทั้งเมืองแน่ ณิชเตรียมปะทะกับปวีร์อย่างใจเย็น คำขู่ของเธอได้ผล ปวีร์ยอมให้เธอพบเขา เมื่อพบกันปวีร์ขอซื้อข่าวเรื่องมารดาทันที แต่ณิชกลับยั่วยอกย้อน บอกว่าเธอยังไม่ได้คิดจะเขียนตอนนี้ แต่ที่มาก็เพื่อขอค่าชดใช้สำหรับฟิล์ม ปวีร์กัดฟันเปิดกระเป๋าหยิบเงินโยนให้เธอประมาณ 500 บาท แต่ณิชไม่ยอม เธอต้องการ 5,000 บาท ปวีร์กัดฟันหยิบให้และพยายามรวบรัดว่า 5,000 บาทนี้เป็นค่าข่าว ทว่าณิชไม่ยอมรับปาก เธอยั่วโมโหจนปวีร์แทบคลั่ง ณิชไปกราบแม่ชีอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เธอส่งเงิน 5,000 บาทให้แม่ชีและบอกว่าเป็นเงินบริจาคซ่อมหลังคาอุโบสถ ณิชขอให้แม่ชีออกใบอนุโมทนาบัตรในนามของ ปวีร์ พิเศษพงศ์ เรื่องที่ณิชบังเอิญพบกับสารนาถและปวีร์ที่โรงพยาบาลโรคจิตกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างไม่น่าเป็นไปได้ สารนาถกลัวว่าณิชจะทำข่าวจึงบอกไพรุตซึ่งเคยหลุดปากบอกเขาว่ารู้จักณิช ให้ไปของร้องณิชว่าอย่าทำข่าวเรื่องนี้ ไพรุตไปขู่ภรณี เรื่องจึงวนกลับมาหาแม่ชีสุดาอีกจนได้ แม่ชีให้ณิชมาพบและพาเธอไปพบกับรุ่งทิพย์ ทั้งที่คราวก่อนณิชยังไม่มีโอกาสพบกับรุ่งทิพย์ด้วยซ้ำไป สภาพของรุ่งทิพย์ทำให้ณิชอึ้งด้วยความสงสารจับใจ แม่ชีปล่อยให้ณิชคุยกับรุ่งทิพย์ตามลำพัง ด้วยความอ่อนโยนและมีเมตตาอยู่ในใจอยู่แล้วณิชจึงคุยกับรุ่งทิพย์อย่างอ่อนโยน อบอุ่น เธอหาเรื่องสนุก ๆ มาคุยให้รุ่งทิพย์ฟังจนรุ่งทิพย์ติดใจ อารมณ์แจ่มใสเป็นพิเศษ รุ่งทิพย์บอกให้ณิชมาหาเธอบ่อย ๆ ระหว่างนั่งรถกลับวัดกับแม่ชี ณิชเงียบขรึมอย่างผิดปกติ เมื่อถึงวัดณิชบอกแม่ชีว่าเธอสงสารรุ่งทิพย์มาก และจะไม่ทำข่าวเรื่องรุ่งทิพย์เด็ดขาด การที่ได้คุยกับรุ่งทิพย์ทำให้ณิชเกลียดสารนาถและปวีร์มากขึ้นไปอีก เมื่อรุ่งทิพย์เล่าให้เธอฟังว่า 2 พ่อลูกไม่ค่อยจะมาเยี่ยมเธอ ณิชเข้าใจดีว่ารุ่งทิพย์ขาดความรักความอบอุ่นทางใจโดยเฉพาะจากสามีและลูกชาย

เวลาผ่านไปณิชไปเยี่ยมรุ่งทิพย์แทบทุกอาทิตย์ ความช่างคุยและอ่อนโยนของณิชทำให้อาการของรุ่งทิพย์ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเรียกได้ว่าสามารถกลับไปอยู่บ้านได้ สารนาถและปวีร์รู้ข่าวจากหมอที่รักษารุ่งทิพย์อย่างดีใจ ทว่าเมื่อสารนาถและปวีร์ไปรับเข้าจริง ๆ รุ่งทิพย์กลับไม่ยอมกลับบ้าน ณิชแวะไปเยี่ยมตามปกติพร้อมหนังสือธรรมะจากแม่ชี ณิชชะงักเมื่อเห็นสารนาถและปวีร์อยู่ในห้อง ณิชกำลังจะหลบ ทว่ารุ่งทิพย์เห็นเสียก่อน เธอเรียกณิชมาหาอย่างคุ้นเคยและดีใจ ปวีร์ตะลึงมองภาพรุ่งทิพย์กอดณิชด้วยความรักและเอ็นดู เขานึกว่าฝันไปเพราะณิชเองก็ดูอ่อนโยนกับรุ่งทิพย์ราวกับเป็นคนละคนกับนักข่าวสาวห้าวจอมบู๊ จอมกวนที่เขารู้จัก ตกลงวันนั้นรุ่งทิพย์ไม่ยอมออกจากโรงพยาบาล เธอคงยืนยันว่าเกลียดสารนาถ คำพูดของรุ่งทิพย์ทำร้ายจิตใจของสารนาถมากเขารู้สึกผิด และอยากรับรุ่งทิพย์กลับมาอยู่บ้าน สารนาถให้ปวีร์ขอร้องให้ณิชช่วย ปวีร์ฝืนใจทำตามคำขอของบิดา ทว่าณิชปฏิเสธไม่ใช่เพราะเล่นตัว เธออยากให้สารนาถและปวีร์พิสูจน์ความรัก  ความจริงใจให้รุ่งทิพย์รู้ด้วยตัวเองมากกว่า ทว่าปวีร์ไม่เข้าใจ ทั้งคู่ทะเลาะกันอีกจนได้ ทั้งที่ปวีร์อุตส่าห์เลือกสถานที่ในการคุยธุระสำคัญเป็นร้านอาหารหรู บรรยากาศดี ตัวณิชเองก็แต่งตัวสวยน่ารักดูเผิน ๆ ทั้งคู่เป็นหนุ่มสาวคู่รักที่เหมาะสมกันมาก ปวีร์โชคไม่ดีที่เบญจรัตน์บังเอิญมาพบเข้า เธอเข้าใจผิดปวีร์อย่างอยากรู้อยากเห็น ณิชจึงแกล้งทำยั่วประสาทด้วยการทำสวีตกับปวีร์เป็นพิเศษ เธอปรามปวีร์ด้วยสายตาว่าถ้าเขาขัดคอเธอเรื่องของรุ่งทิพย์เป็นอันจบกัน ปวีร์แทบคลั่งเพราะรู้ว่าเบญจรัตน์ต้องบอกเพียงเพ็ญแน่ ๆ

ละครแนะนำ

ใจขังเจ้า

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด