ตอนที่ 1
อัลบั้ม: ช่อง 7 ส่ง "ขุนกระทิง" ละครบู๊ลงจอ
เมฆิน นักธุรกิจเถื่อนข้ามชาติกำลังตามเล่นงานผู้กองมหาชาติกับร้อยตำรวจตรีดุจดาวแฟนสาวที่พยายามจะเปิดโปงและสกัดการซื้อขายอาวุธปืนมูลค่ามหาศาล
แม้ไม่มีคำสั่งจากเบื้องบนแต่ตำรวจทั้งสองก็เสี่ยงตายเพื่อความถูกต้องและเพื่อชาติบ้านเมือง โดยมหาชาติปลอมตัวเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ขณะที่ดุจดาวในชุดนอกเครื่องแบบแทรกซึมเข้าไปยังกลุ่มของวายร้าย แต่ทั้งคู่ต่างคนต่างมาไม่ได้นัดหมาย
จนเมื่อรู้เห็นว่าดุจดาวพลาดท่าตกอยู่ในอันตราย มหาชาติจู่โจมเข้าช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ ทั้งคู่ถูกทำร้ายปางตายจากประเทศไทยไปมาเลเซียโดยไม่รู้ตัว แม้แต่ผู้การมหาชัยพี่ชายของมหาชาติก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของน้องชาย แต่พยายามติดตามความเคลื่อนไหว โดยมีหมวดเฮี้ยวเต็มใจช่วยเหลือ
ในขณะเดียวกัน วิญญู นักธุรกิจหนุ่มหล่อเพื่อนสนิทของมหาชาติซึ่งมีญาณหยั่งรู้อันเนื่องมาจากฝักใฝ่ในพระธรรมและปฏิบัติกรรมฐานอยู่เป็นนิจ ก็กำลังนึกถึงเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนาน แล้ววันนี้เห็นรูปถ่ายของเพื่อนเกิดสังหรณ์ใจไม่ดี บ่นอยู่ไปมากับขวัญตาเลขาสาวสวย
เมฆินปักหลักอยู่มาเลเซียแต่มีสมุนแทบทุกเมืองทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งธุรกิจทุจริตอีกหลากหลายที่เติบโตสร้างรายได้จนกลายเป็นมหาเศรษฐี แม้แต่เอมมี่บุตรสาวของเขาก็เป็นอีกหนึ่งตัวแทนที่เข้าไปดูแลธุรกิจร้านเพชรอยู่ในเมืองไทย
แล้วอยู่ดีๆ วันนี้เอมมี่ก็นำโทรศัพท์เปื้อนเลือดของมหาชาติมาส่งต่อให้มหาชัยถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เธออ้างว่าแอบดูข้อความในโทรศัพท์จึงรู้ว่าเจ้าของเครื่องเป็นน้องชายของเขา ซึ่งทำงานดูแลสินค้าให้บริษัทในเครือของตนที่กรุงเทพฯ
“ถ้าคุณดูข้อมูลในโทรศัพท์นี่ก็คงจะรู้แล้วว่ามหาชาติไม่ใช่พนักงานรักษาความปลอดภัย”
เอมมี่พยักหน้ารับแล้วพูดเสียงเรียบว่า “อันที่จริงดิฉันก็ไม่เคยเจอตัวผู้กองมหาชาติหรอกนะ เห็นแต่โทรศัพท์”
คำตอบของเธอทำให้ผู้การมหาชัยและหมวดเฮี้ยวประหลาดใจ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะซักถามอะไรก็ไม่ได้ความกระจ่าง นอกจากตีความได้ว่าเธอคือพลเมืองดีที่เก็บโทรศัพท์ได้แล้วนำส่งคืนญาติเจ้าของแต่ความจริงเอมมี่มาเพื่อการบางอย่าง...เธอแอบติดเครื่องดักฟังไว้ในห้องทำงานผู้การมหาชัยตามคำสั่งของเมฆิน ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวไม่ว่ามหาชัยคิดหาทางช่วยน้องชายด้วยวิธีใดและที่ไหนบ้าง
มหาชัยกับดุจดาวถูกคุกคามตามล่าทั้งที่โดนทำร้ายไปจากเมืองไทย จนเมื่อทั้งคู่รู้ชัดว่าสถานที่ที่ตนอยู่คือมาเลเซีย มหาชัยนึกถึงวิญญูซึ่งมีธุรกิจที่เป็นสาขาอยู่ในเมืองยะโฮบารู จึงพยายามติดต่อไปยังเพื่อนรักแล้วนัดหมายสถานที่เจอกันในเมืองนั้น
หลังจากรู้ว่าเพื่อนรักกำลังต้องการความช่วยเหลือ วิญญูรีบมาพบมหาชัยและรับปากจะช่วยมหาชาติกลับมาให้ได้ โดยมีผู้ติดตามไปด้วยคือขวัญตา ช่วงเวลาที่สั่งสมุนไล่ล่าสองตำรวจไทยอยู่ในมาเลเซียแต่เมฆินก็ยังติดต่อเอมมี่ที่เมืองไทยให้จัดคนไปปล้นร้านเพชรของตนเอง เอมมี่ไม่เข้าใจพยายามสอบถามแต่ไม่ได้คำตอบอะไรนอกจากคำพูดเน้นย้ำของพ่อที่เธอต้องเชื่อฟัง
“พ่อบอกให้ทำก็ทำสิลูก แต่อย่าบอกให้พวกโจรมันรู้นะว่าเป็นร้านเรา”
“มีก๊กไหนที่กรุงเทพฯบ้างกล้าแตะธุรกิจของคุณพ่อ”
“ที่พ่อเล็งไว้ก็มีสามก๊กใหญ่ๆด้วยกัน น่าสนใจอยู่...ก๊กแรก เกลียว แสงโสม รักความหรูหราฟู่ฟ่า เหมือนจะเป็นคนดี ทำธุรกิจสุจริตหลายอย่างแต่ทุกอย่างของมันเปิดเอาไว้บังหน้าเพื่อฟอกเงิน ของเก่าของหายากเปียโนโบราณ เครื่องประดับ พระเครื่อง แต่ละอย่างไม่มีราคากลาง มันกำหนดราคาเป็นหลักล้าน หลักสิบล้านตามแต่ใจ สรรพากรภาษีไม่มีทางแตะต้องมันได้ ธุรกิจจริงๆของมันค้ายาเสพติด”
“แล้วอีกสองก๊กที่เหลือล่ะคะ”
“เสี่ยซ้ง ทรงกิจ ไอ้นี่ใหญ่มาก...สื่อในเมืองไทยมากกว่าครึ่งถือหางมัน มันเลี้ยงไว้หลายปก หลายหัวบันเทิง ทำธุรกิจเพื่อเอาเงินบาปให้กลายเป็นเงินบุญ คลุกคลีอยู่กับวงการบันเทิง ทำหนัง ซื้อหนัง ขายหนัง จริงๆแล้วก็เพื่อเป็นแหล่งที่จะโอนเงินไปโอนเงินมา เรื่องเลวไม่ออกหน้า มันได้ลูกน้องดีจริงๆเลย มันรวยเพราะค้ามนุษย์”
“สรุปว่าพ่อจะเลือกก๊กไหนให้มาปล้นร้านเพชรเรา”
“ก๊กที่โง่แล้วยังอวดฉลาดที่สุดยังไงล่ะ...สวิน ไอ้แก่แบเบาะ คนเคยใหญ่ สุดท้ายก็มาอ่อนแอเพราะเมีย ไอ้นี่มีปมด้อย เอะอะถอดเสื้อตลอด แต่ก่อนชายแดนซื้อขายรถขโมยผ่านมือมันมาทั้งนั้น หลังๆเมียกลัวผัวโดนตำรวจหมกเลยให้เพลาลงไปเยอะ นังเมียก็ไม่ธรรมดา โควตาหวยของมันทั้งนั้น ไหนจะทำเองใต้ดินอีก ตอนนี้มันก็ลดตัวมาทำเต็นท์รถ โดนนักเลงรุ่นหลังถากถางอยู่เหมือนกัน”
เมื่อได้คำตอบชัวร์ๆแล้วว่าเมฆินเลือกก๊กไหน เอมมี่ไม่รอช้า เดินทางไปยังเคหะสถานของสวินโดยทำทีเป็นลูกค้ามาซื้อหวยจากเจ๊สองเมียสวิน แต่ความจริงแอบส่งสารให้ทำงานปล้นร้านเพชร ปรากฏว่าไม่ทันข้ามวัน สวินหรือไอ้แก่แบเบาะก็ตอบรับงับเหยื่ออย่างง่ายดาย เมฆินจึงย้ำกับเอมมี่อีกครั้งว่าอย่าให้มันรู้ว่าเป็นร้านเพชรของเรา
“โอเคค่ะ”
“แล้วพวกตำรวจมันมีการเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหม”
“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าทางนั้นจะทำอะไร หนูรู้แน่ๆ”
“ดีมากลูกพ่อ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ”
“เมื่อไหร่คุณพ่อจะมาเมืองไทยคะ”
“อีกไม่นานหรอกลูก เราจะขยายกิจการทั้งหมดไปที่เมืองไทย” เมฆินทิ้งท้ายก่อนวางสายเพียงวันถัดมา เอมมี่ก็มีข้อมูลจากเครื่องดักฟังที่แอบติดไว้ในห้องทำงานมหาชัยแจ้งไปยังเมฆินว่ากำลังจะมีคนจากเมืองไทยไปช่วยคนชื่อมหาชาติ
“คนที่จะไปมาเลเซียไม่ใช่ตำรวจ มีเลขาชื่อขวัญตาลูกได้ยิน”
“ชื่ออะไรก็ช่าง ตำรวจมันคงงงๆนะ ทำไมเราล้ำหน้ามันทุกก้าว”
“ต้องขอบคุณเครื่องดักฟังที่คุณพ่อให้มานั่นแหละ”
“คนที่ชื่อขวัญตาอะไรนั่นมันจะมาพักที่ไหน”
“พักที่ไหนยังไม่รู้ แต่เห็นว่าจะไปตั้งต้นที่ธุรกิจของนายวิญญูที่อยู่ในมาเลเซีย บาดากุ ยะโฮบารูทางตอนใต้ของมาเลเซีย หนูเสิร์ชหาที่ตั้งมาแล้ว จะแชร์โลเกชั่นไปให้คุณพ่อนะคะ”
“งั้นก็เยี่ยมเลย ขอบใจมาก ตั้งใจทำงานนะลูก”
เอมมี่รับปากแข็งขัน เชื่อฟังและรักเมฆินมากที่สุด
ooooooo
วิญญูกับขวัญตาไปถึงมาเลเซียแต่ยังไม่ได้พบมหาชาติและแฟนสาวเพราะสมุนของเมฆินคอยรุกล่าไล่ตามแทบทุกฝีก้าว
ในที่สุดเมฆินก็ตัดสินใจให้ดุจดาวแยกไปยังบริษัทของวิญญูซึ่งเป็นที่นัดหมาย ส่วนตัวเขาล่อหลอกพวกวายร้ายไปอีกทาง แต่กว่าดุจดาวจะยินยอมก็เสียเวลาไปไม่น้อย เธอย้ำเตือนเรื่องแต่งงาน ขอสัญญาจากคนรักว่าเราต้องกลับไปเมืองไทยพร้อมกัน เวลานี้เราจะแยกกันชั่วคราวแค่ตรงนี้ มหาชาติไม่มั่นใจแต่ก็ให้สัญญากับเธอก่อนจากมา
มหาชาติหนีตายหัวซุกหัวซุนไม่ต่างจากดุจดาว แม้ว่าทั้งคู่จะแยกกันคนละทางแล้ว สุดท้ายดุจดาวถูกพวกมันจับขึ้นรถตู้ไปทั้งที่มาถึงหน้าบริษัทของวิญญู มหาชาติยังไม่รู้เรื่องโทร.หาวิญญูและซักถามถึงแฟนสาว วิญญูจำเป็นต้องโกหกเพราะน้ำเสียงเพื่อนรักร้อนรนมาก เขาอุปโลกน์ขวัญตาเป็นดุจดาวให้พูดเออออไปกับมหาชาติ
แต่พอมหาชาติหนีตายมาถึงกลับไม่พบแฟนสาว พร้อมกันนั้นเมฆินก็ติดต่อเข้ามาที่มือถือของมหาชาติ เจ้าตัวรับสายอย่างงงๆ ไม่รู้ว่าเขาชื่อเรียงเสียงไรแต่แน่ใจว่ามันคือวายร้ายอย่างแน่นอน
เมื่อเขาตัดสายไปแล้ว มหาชาติยิ่งร้อนรน ถามวิญญูว่าดุจดาวแฟนของตนอยู่ไหน วิญญูไม่ทันให้คำตอบ กระสุนปืนจากด้านนอกก็ปลิวเข้ามาเจาะเสา สองหนุ่มหลบเข้าที่กำบัง มหาชาติเริ่มเอะใจ ส่งสายตาคาดคั้นวิญญู
“เพื่อนขอโทษ”
“หมายความว่ายังไง ดุจดาวอยู่ไหน”
วิญญูส่ายหน้า มหาชาติลนลานแต่ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงรถตู้เบรกเอี๊ยดหน้าบริษัทแล้วทิ้งดุจดาวไว้คนเดียวก่อนจะซิ่งจากไป
มหาชาติจะวิ่งออกไปแต่วิญญูรั้งไว้ทำให้กระสุนปืนที่พุ่งเข้ามาพลาดเป้า แต่สำหรับดุจดาวนั้นเธอยืนนิ่งไม่กล้าขยับเพราะทราบดีว่าคนร้ายกำลังเล็งปืนรอเวลาลั่นไก!
การกระทำของลูกน้องอยู่ในสายตาเมฆินจอมโหดตลอดเวลา แถมเขายังเลือดเย็นโทร.หามหาชาติพูดจาเย้ยเยาะก่อนสั่งลูกน้องสังหารดุจดาวต่อหน้าต่อตาโดยที่มหาชาติไม่อาจช่วยเหลือมหาชาติถูกวิญญูกอดรัดฟัดเหวี่ยงเอาไว้ ขณะที่กระสุนจากด้านนอกพุ่งเข้ามาเป็นระยะ และสงบลงได้ก็ต่อเมื่อเมฆินสะใจแล้วถอนกำลังออกไป ทิ้งความสูญเสียไว้ให้มหาชาติที่ยากจะยอมรับได้
เขากอดศพแฟนสาวทั้งที่ร่างกายตัวเองก็ย่ำแย่สะบักสะบอม ร่ำไห้แทบขาดใจอย่างไม่อายใคร วิญญูกับขวัญตาเห็นภาพนั้นแล้วต่างสลดหดหู่ใจเป็นที่สุด
ด้านมหาชัยที่เมืองไทย หลังทราบข่าวก็รีบส่งคนไปให้ความสะดวกวิญญูเพื่อเอาตัวมหาชาติกลับมา แล้วเพียงเช้าวันถัดมามหาชาติก็มานอนอยู่ในห้องไอซียู
โรงพยาบาลที่เมืองไทย พร้อมด้วยศพดุจดาว โดยมีวิญญูกับขวัญตารอดูอาการมหาชาติด้วยความเป็นห่วง
มหาชาตินอนนิ่งไม่รู้สึกตัว มหาชัยรีบรุดมาเยี่ยมน้องชายและสอบถามวิญญูเรื่องอาการ วิญญูพูดได้แค่ว่าหนักมาก หมอบอกว่าไม่น่ารอดมาถึงเมืองไทย
“ขอบคุณมาก...น้องผมมันไม่ใช่คนหรอก มันเป็นกระทิง กระทิงไฟ”
มหาชาตินอนนิ่ง ร่างกายเริ่มกระตุกเป็นระยะคล้ายฝันร้าย วิญญูมองเพื่อนแล้วเล่าต่อไปว่าพวกมันรู้ตัวก่อนที่ตนจะไปถึงมาเลเซียเสียอีก
“เป็นไปได้ยังไง” มหาชัยสงสัย วิญญูยักไหล่ตอบไม่ได้ พอดีขวัญตากลับเข้ามาหลังจากไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว
เธอยกมือไหว้มหาชัย ก่อนได้ยินเขาพูดกับวิญญูด้วยน้ำเสียงค่อนข้างหนักใจว่า
“ทางเรายอมรับไม่ได้ว่าเขาไปปฏิบัติหน้าที่ มันกระเทือนความสัมพันธ์”
“ไอ้ที่ตาย ก็ตายฟรี...ว่างั้น”
มหาชัยนิ่งยอมรับ แล้วทุกคนก็แสดงความเสียใจต่อการจากไปของดุจดาว ขวัญตาไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน แต่รู้สึกสงสารเธอเหลือเกิน มันโหดเหี้ยมเลือดเย็นมากกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีทางสู้
“ได้เบาะแสคนยิงไหมคะ”
“ซิมโทรศัพท์ที่ใช้ไม่ได้ลงทะเบียน ใครก็ซื้อใช้ได้ที่โน่น”
ขวัญตามองมหาชาติที่นอนกระตุกร่างสะท้านจนสัญญาณวัดหัวใจเต้นถี่ เธอถามวิญญูว่าเขาน่าจะกำลังเห็นอะไรอยู่
“คงเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเห็นนะ ผมว่า”
คำตอบของวิญญูทำให้ขวัญตาหน้าสลดด้วยความสงสาร เขาถูกทำร้ายและคงช็อกรับไม่ได้กับการสูญเสียคนรักในครั้งนี้
ooooooo










