สมาชิก

กาลครั้งหนึ่งในหัวใจ

ตอนที่ 11

ที่ตลาดสด แดเนียลเดินหิ้วตะกร้าเลือกซื้อของสดตามรายการที่กวินทร์สั่งอย่างสนุกสนาน แต่เกิดเห็นเหตุการณ์ที่พวกนักเลงตามทวงหนี้จากแม่ค้าขายผักด้วยความรุนแรง เขาอดไม่ได้ที่จะช่วยเหลือโดยไม่ฟังคำทัดทานจากแม่ค้าคนอื่นๆ

“พ่อหนุ่มอย่าไปยุ่ง ไอ้นักเลงพวกนี้มันน่ากลัว เดี๋ยวจะพลอยซวยไปด้วย”

ขณะนั้นนักเลงยื้อแย่งกระเป๋าเงินจากแม่ค้า แต่เธอไม่ยอมจึงเกิดการตบตีกันขึ้น แดเนียลโผเข้าไปกระชากมือนักเลงแล้วผลักจนมันกระเด็นล้มลง เสียงนักเลงตวาดใส่ว่าไม่ใช่เรื่องของคนอื่น อย่ามายุ่งเสียดีกว่า มาเฟียหน้าหยกสวนว่า

“เรียกตัวเองว่าเป็นนักเลง...ของจริงเขาไม่เอาเปรียบคนไม่มีทางสู้หรอก”

เท่านั้นเอง พวกนักเลงถลาเข้ารุมแดเนียลทันที แต่ไฉนจะสู้ฝีมือระดับเจ้าพ่อได้ เพียงแค่สองสามนาทีต่อมา พวกนั้นก็ถูกจัดการจนราบคาบ ชายหนุ่มจับหัวหน้านักเลงล็อกกับพื้นขู่ว่าถ้าขืนกล้ากลับมารีดไถที่นี่อีก ตนจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด พวกนักเลงต่างหวาดกลัวรีบวิ่งหนีไป ในขณะที่แดเนียลเดินเก็บข้าวของที่ตกเกลื่อนกลาดใส่ตะกร้าอย่างใจเย็น

เมื่อกลับมาถึงร้านอาหารของบ้านฟ้าใส กวินทร์หยิบข้าวของที่เสียหายออกจากตะกร้าด้วยความโมโห แดเนียลพยายามชี้แจงว่าตนอยากจะซื้อให้ใหม่ แต่ไม่มีเงินสดติดตัวเลย พ่อฟ้าใสกระชากเสียงถามว่าไปมีเรื่องกับใครมาหรือไม่ ชายหนุ่มพยักหน้ารับ กวินทร์หมดสิ้นความอดกลั้นพูดกับลูกสาวเสียงดังลั่นว่า

“ทีนี้ฟ้าเข้าใจพ่อหรือยัง ว่าทำไมพ่อถึงไม่อยากให้ฟ้ายุ่งกับเขา คนเคยเป็นนักเลงอันธพาลไปอยู่ที่ไหนก็จะมีแต่เรื่อง คุณไปเลยนะ ออกไปจากบ้านผมได้แล้ว!”

ทันใดนั้นเองมีเสียงรถสามล้อจอดตรงหน้าบ้าน พวกแม่ค้าที่ตลาดแห่กันเข้ามา ในมือถือข้าวของกันพะรุงพะรัง พอเห็นหน้าแดเนียล พวกนั้นก็ส่งเสียงร้องทักอย่างดีใจ ชวนชมซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น พวกแม่ค้าเล่าถึงวีรกรรมการเป็นฮีโร่ของแดเนียลที่ช่วยเหลือให้รอดพ้นจากนักเลงรีดไถ ฟ้าใสกับชวนชมหน้าบานกับคำชมพวกนั้น ในขณะที่กวินทร์ซีดจ๋อยเพื่อเป็นการไถ่โทษจากการตำหนิโดยไม่รับฟังคำอธิบาย กวินทร์ทำอาหารเลี้ยงมาเฟียหน้าหยกชุดใหญ่ แดเนียลยิ้มมีความสุขบอกกับฟ้าใสว่า

“ถ้าผมเลือกได้ ผมอยากมีครอบครัวเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นอย่างครอบครัวคุณ สักวันหนึ่ง...ผมจะเลือกชีวิตของผมเองแน่นอน แต่ตอนนี้ผมต้องสะสางปัญหาที่ค้างคาให้จบสิ้นก่อน”

ฟ้าใสทำหน้างุนงงว่าปัญหาอะไรกัน แต่ยังไม่ทันได้อธิบายก็มีสายเรียกเข้ามือถือของแดเนียล ปลายสายแจ้งว่ามีใครคนหนึ่งฟื้นแล้ว สีหน้ามาเฟียหนุ่มดีใจตอบว่าตนจะรีบไปเดี๋ยวนี้...ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทั้งแดเนียลและฟ้าใสเดินทางมาถึงเซฟเฮาส์ที่อยู่ท่ามกลางป่ากล้วยรกชัฏ จิวออกมาต้อนรับและนำทั้งคู่เข้าไปในบ้านเพื่อพบกับคนเจ็บ เขาก็คือโอลิเวอร์ ฟาน ตำรวจสากลที่ถูกพวกแก๊งเสือขาวรุมฆ่า แต่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์จากการช่วยเหลือตามคำสั่งของแดเนียล...

ooooooo

เช่นเดียวกับเฉินเปียวที่นอนกระสับกระส่ายเพราะพิษไข้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยจากบาดแผลของการถูกซ้อมโดยพวกหวังเฟย เขาหลับฝันเห็นแต่ภาพครอบครัวตนเองถูกฆ่า ก่อนจะสะดุ้งตื่นมองไปรอบตัวอย่างงุนงง

ทันใดนั้นเฉินเปียวได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก สติเตือนให้เขาตื่นตัวระวังภัย หยิบปืนขึ้นมากระชับมั่นแล้วค่อยๆแง้มประตูย่องออกไป ที่นอกห้อง ปุยฝ้ายหน้ามันแผล็บวุ่นวายกับการทำอาหารให้ชายหนุ่ม ภาพนั้นทำให้เฉินเปียวคลายใจลดปืนในมือลง แววตาเต็มตื้นกับความมีน้ำใจของหญิงสาว เพียงครู่เดียว ปุยฝ้ายก็หันมาเห็นเขาจึงส่งเสียงทักทาย

“ตื่นแล้วเหรอ...ถือปืนอีกแล้ว ฉันบอกแล้วไงว่าคุณอยู่กับฉันที่นี่จะปลอดภัย...รับรองฉันดูแลคุณได้ มาทานซุปกัน”

เฉินเปียวเอื้อมมือจะตักซุปกิน แต่แล้วนิ่วหน้าเจ็บแผล ปุยฝ้ายสงสารจึงป้อนให้ ชายหนุ่มรู้สึกดีมากที่หญิงสาวคอยดูแลไม่ห่าง ยิ่งพอปุยฝ้ายเล่าชีวิตอันรันทดแต่หนหลังของเธอ มันทำให้เฉินเปียวได้คิด...โดยไม่คาดฝัน เขารวบตัวเธอมากอดและจูบอย่างอ่อนโยน ปุยฝ้ายหลับตาพริ้มเคลิ้ม เสียงกระซิบของชายหนุ่มดังขึ้นที่ข้างหูว่า

“ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้...ว่าผมต้องเข้มแข็งเพื่อใคร”

รุ่งเช้าที่ร้านอาหาร กวินทร์มองดูภรรยาเดินหิ้วตะกร้าที่เต็มไปด้วยของกินมากมายเข้ามา เขาทักว่าทำไมวันนี้ถึงซื้อของมากขนาดนี้ ชวนชมยิ้มขำบอกว่าตนไม่ได้ซื้อแต่เป็นอภินันทนาการจากพวกแม่ค้าที่แดเนียลเคยช่วยเหลือ เวลานั้นหมออิฐกำลังจะเดินเข้ามาจึงทันได้ยินสิ่งที่ชวนชมพูด เขานิ่วหน้าไม่พอใจและยืนแอบฟังการสนทนา เสียงกวินทร์เตือนว่า

“แม่ไปรับของเขามา แสดงว่าเรายอมรับว่าคุณแดเนียลเป็นว่าที่ลูกเขยเรา”

“แม่รับไปตามมารยาท ส่วนเรื่องที่คุณแดเนียลจะได้เป็นลูกเขยเราหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ฟ้าตัดสินใจคนเดียวเท่านั้น เพราะแม่มั่นใจว่าเขาเท่านั้นที่เป็นตัวจริงของยายฟ้า แม่เอาของไปเก็บที่บ้านก่อนนะ”

หมออิฐมีสีหน้าไม่สบายใจ และตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ จึงเดินเข้าไปหากวินทร์อย่างมีแผน

“อิฐจะให้เงินลุงยืมทำไมกัน...ลุงก็อยากยืมนะ แต่ไม่เอาดีกว่า ไม่อยากสร้างหนี้”

“ผมอ่านข่าวที่คุณแดเนียลถูกจับคดียาเสพติดก็เลยรู้ว่าเขาเป็นมาเฟียคู่อริกับคุณเฉินหมิงเจ้าหนี้ของลุง และผมก็มองออกด้วยว่าสองคนนั้นชอบฟ้า วันดีคืนดี เขาอาจจะฆ่ากันเพื่อแย่งฟ้า ผมว่าลุงเอาเงินผมไปใช้หนี้เขาเถอะนะครับ เฉินหมิงจะได้ไม่มีข้ออ้างมายุ่งวุ่นวายที่นี่อีก ส่วนคุณแดเนียล...เดี๋ยวเรามาช่วยกันคิดว่าจะไล่เขาไปจากเรายังไง”

“ที่จริงลุงว่าพวกเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรกันเลยนะ เพราะถ้าเขาคิดไม่ดีกับยายฟ้า เขาคงไม่ปล่อยมาจนถึงตอนนี้”

กวินทร์ขอบใจหมออิฐที่ตั้งใจช่วยเหลือ แต่ตนเองไม่อยากมีปัญหาในเรื่องนี้ หมอหนุ่มเจ็บใจแต่ต้องทำทีเป็นนิ่งเฉย เมื่อเดินออกมาจากร้าน หมออิฐยิ้มสะใจที่อย่างน้อยก็เป่าหูกวินทร์ได้ในระดับหนึ่ง ภายในใจครุ่นคิดถึงแผนขั้นต่อไป

ooooooo

ตกเย็นวันเดียวกัน แดเนียลขับรถพาฟ้าใสมาส่งที่บ้านหลังเลิกงาน หญิงสาวลอบมองหน้าชายหนุ่มที่บ่งบอกถึงความกลุ้มใจกับปัญหารอบด้าน เธอตัดสินใจบอกว่า

“พรุ่งนี้ไม่ต้องไปรับ ฉันกลับเองได้นะคะ...อย่าเพิ่งน้อยใจ ฉันแค่อยากให้คุณเอาเวลาไปจัดการปัญหาต่างๆ ให้เสร็จ แล้วคุณจะได้เลือกใช้ชีวิตอย่างที่คุณต้องการได้”

“รู้ใช่ไหม...ชีวิตที่ผมต้องมีคุณ และเมื่อถึงเวลานั้น คุณจะยังอยู่กับผมใช่ไหม”

ฟ้าใสยิ้มหวานพยักหน้ายืนยัน แดเนียลมองเธออย่างซาบซึ้งแล้วขอตัวไปหากวินทร์กับชวนชมที่ร้านอาหาร ขณะนั้นเอง หมออิฐก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางกวนประสาท พยายามพูดหาเรื่องกระตุ้นให้แดเนียลแสดงพฤติกรรมร้ายออกมา

“ขยันมาทำคะแนนนะครับ...เดี๋ยวจะมีนักเลงหรือแก๊งทวงหนี้โผล่มาอีกไหมครับเนี่ย ผมอยากเป็นฮีโร่บ้าง”

นอกจากแดเนียลไม่ตอบโต้แล้ว เขายังส่ายหน้าเอือมระอาเพราะรู้เท่าทันเกม หมอหนุ่มฮึดฮัดครุ่นคิดหาทางแก้เกม จนกระทั่งเห็นกวินทร์กับชวนชมเดินเข้ามา เขารีบพูดยุหาเรื่อง

“ผมคิดแล้วว่าพวกมาเฟียมีแต่เรื่องเลวๆ ผมจะไม่ยอมให้ฟ้าใสตกเป็นเหยื่อคนชั่วเช่นคุณหรอก...แต่ผมสงสัยว่าพวกคุณเคยมีอะไรกันแล้วใช่ไหม คุณถึงได้หลงเธอมากขนาดนี้ เหมือนกับที่ผมเคยหลงเพราะเธอทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ผมทิ้ง”

แดเนียลหน้าแดงตาลุกวาวด้วยความโกรธ ก่อนจะชกหน้าหมออิฐอย่างแรงจนล้มลงกองกับพื้น ทั้งกวินทร์และชวนชมตกใจกับการกระทำนั่นจึงร้องโวยวายห้ามปรามเสียงลั่น มีชาวบ้านโผล่หน้ามาดูกันสลอน ฟ้าใสวิ่งหน้าตื่นเข้ามา

“ถ้าผมได้ยินคุณพูดแบบนั้นให้ใครฟังอีก ผมจะตามไปฆ่าคุณ” แดเนียลคำรามขู่เสียงกร้าว

หมออิฐได้ทีแกล้งทำท่าหวาดกลัวแล้วเอ่ยว่าตนแค่ชวนคุยเรื่องฟ้าใสแต่ทำไมเขาถึงโมโหรุนแรง หรือว่ามีลมเพชรหึง กวินทร์จ้องหน้าแดเนียลเหมือนต้องการคำอธิบาย แต่เพราะเห็นมีกลุ่มชาวบ้านซุบซิบนินทา มาเฟียหนุ่มตัดสินใจยอมรับผิดและขอโทษที่ใจร้อน

ฟ้าใสอึ้งไม่เชื่อในคำพูดนั้น กวินทร์ข่มอารมณ์โมโห พูดอย่างใจเย็นที่สุดว่า

“คุณกลับไปได้แล้ว แล้วถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้วนะ พวกผมขอใช้ชีวิตกันอย่างสงบ อิฐ...เข้าไปทำแผลในบ้านก่อนเถอะ ส่วนฟ้าใส เข้าบ้านเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องมาต่อรองอะไรกับพ่ออีก”

ชวนชมอ่อนใจกับท่าทางของสามี พยักพเยิดบอกให้แดเนียลกลับไปก่อน หมออิฐแอบยิ้มร้ายสมน้ำหน้าให้มาเฟียหน้าหยก หลังจากทุกคนเข้าบ้านแล้ว ท่าทีนิ่งเงียบของแดเนียลก็แปรเปลี่ยนเป็นคอตกเศร้าใจ

กวินทร์พยายามลากตัวลูกสาวขึ้นบ้าน แต่ฟ้าใสยื้อยุดไม่ยอมง่ายๆพลางอ้อนวอนขออนุญาตคุยกับแดเนียลให้รู้เรื่อง หมออิฐสบโอกาสพูดใส่ไฟว่าพวกมาเฟียนิยมความรุนแรง ควรอยู่ห่างไว้จะดีกว่า หญิงสาวโวยวายว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด จนกวินทร์ต้องใช้ไม้นวม

“เขาจะดีเลิศประเสริฐยังไง แต่เขาเป็นมาเฟียที่ทำแต่เรื่องผิดกฎหมาย อย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะลูกพ่อขอร้อง”

ฟ้าใสพูดไม่ออกได้แต่ทำท่าฮึดฮัดวิ่งขึ้นบ้านไป ชวนชมรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นความขัดแย้งระหว่างพ่อลูกถี่ขึ้นเรื่อยๆอันมีสาเหตุมาจากคนรักของลูกสาว แดเนียลเองก็หนักใจเพราะความใจร้อนทำให้ตนเองตกหลุมพรางที่ดักไว้ เมื่อเห็นหญิงคนรักตรงหน้าต่าง เขายิ้มดีใจต่อสายหาทันที

“ไม่คิดจะถามผมเหรอว่าผมทำร้ายร่างกายหมออิฐทำไม”

“ไม่ถาม ฟ้ารู้ว่าคุณมีเหตุผล ฟ้าอยากให้คุณชกหน้าพี่อิฐมากกว่านี้ด้วยซ้ำ...คุณเป็นอะไรมากไหมคะ”

“ไม่เป็นไรนะฟ้าใส ไม่ต้องกังวล เป็นหน้าที่ผมต้องทำให้พ่อแม่คุณใจอ่อน ผมจะกลับแล้วขอกำลังใจหน่อยสิ”

สิ่งที่ฟ้าใสทำเพื่อให้กำลังใจก็คือการทำแขนเป็นรูปหัวใจ ทั้งสองหัวเราะกับความเอื้ออาทรที่มีต่อกัน...

ooooooo

วันถัดมาที่บ้านแดเนียล หวังเฟยนึกประหลาดใจในความเก่งของเทียนคงที่สามารถซื้อที่ดินได้มาในราคาถูกมาก ทั้งๆที่พวกเขาเคยพยายามติดต่อขอซื้อ แต่เจ้าของกลับปฏิเสธการขาย

“ผมบอกแล้วไงครับ ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อพวกเรา แล้วเถ้าแก่ล่ะครับ ทำเพื่อผมได้หรือยัง”

“เรื่องสมุดปกดำ แดเนียลยังไม่ยอมบอกฉันเลยว่าเขาเอามันไปไว้ที่ไหน...แต่ฉันไว้ใจนาย เอาเป็นว่าถ้าแก๊งเสือขาวอยากทำอะไรแล้วไม่อยากออกหน้า

แก๊งมังกรทองยินดีจะออกหน้าให้เอง ไม่ต้องห่วงเรื่องผลประโยชน์ ฉันเกลียดการคดโกงที่สุด แล้วฉันให้สัญญาเลยนะว่าสมุดปกดำจะไม่มีทางตกไปอยู่ในมือของคนอื่นนอกจากแก๊งเสือขาว”

“ผมเดาไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ คุณแดเนียลไม่เคยไว้ใจแก๊งเสือขาว ถึงต้องยึดสมุดปกดำไปไว้เป็นตัวประกัน ส่วนข้อเสนอของคุณ ผมคงต้องบังคับนายน้อยให้ทำตามเพราะแก๊งเสือขาวจะอ่อนแอไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

ขณะนั้นเองพริมาเปิดประตูเอาของว่างมาให้สามีและแขกในห้อง เธอได้ยินชื่อเฉินหมิงเข้าพอดี ทำให้รู้สึกเป็นห่วง เช่นเดียวกับเทียนคงที่เห็นท่าทีผิดปกติของเธอ เขาขอตัวออกมาทำธุระนอกห้อง แต่ที่จริงแล้วต้องการมาเผชิญหน้ากับพริมา

“คนของผมบอกว่าวันก่อนนายหญิงไปเยี่ยมคุณชายใหญ่ ผมอยากเตือนว่าไม่ควรไปใกล้เพราะเขากำลังไม่สบาย และนายน้อยกับพวกลูกน้องก็กำลังเกลียดชังแก๊งมังกรทองอยู่ พวกนั้นพร้อมจะสร้างอันตรายให้นายหญิงได้”

“รวมทั้งนายด้วยหรือเปล่า สำหรับฉัน...พวกเขาเป็นเหมือนลูกหลาน จึงมีความห่วงใยให้มากกว่าความกลัว และถ้าฉันรู้ว่าใครหน้าไหนจะทำร้ายพวกเขา ฉันก็จะไม่ปล่อยมันไว้เหมือนกัน”

ตกดึกคืนนั้น พริมาร้อนใจแทบนั่งไม่ติดที่ พอเห็นลูกชายกลับถึงบ้าน เธอสาวเท้าตรงดิ่งเข้าไปหาแล้วเล่าถึงสิ่งที่ได้ยินมาเกี่ยวกับพวกตระกูลเฉิน แดเนียลตกใจครุ่นคิดหาวิธีช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

เวลาเดียวกันนั้นที่บ้านเฉินหมิง ชายหนุ่มรับรู้เรื่องการหายตัวไปของหมอนพด้วยความตกใจ เขายืนยันกับตำรวจว่า

“เมื่อวานเขามาที่นี่และเรานัดกันไว้ว่าวันนี้เขาจะมารับพี่ชายผมไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อนที่เขาจะกลับไป พวกคุณเอาภาพในกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านผมไปเป็นหลักฐานก็ได้”

หลังตำรวจกลับไป เฉินหมิงนิ่งคิดอยู่คนเดียวเงียบๆ แม้แต่เฉินเซียวเหยาก็รับรู้ได้ถึงอาการที่แปลกไปของน้องชาย จึงยกมือขึ้นแตะที่หน้าของเขา มาเฟียหน้าหวานรู้สึกตัวกระซิบเบาๆว่า

“ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ ผมกำลังรู้สึกเหมือนว่ามีใครบางคนไม่อยากให้พี่ใหญ่หาย”

พลันมีสายเรียกเข้ามือถือตัวเอง เฉินหมิงนิ่วหน้าไม่ชอบใจเพราะมันเป็นสายมาจากแดเนียล เสียงทางโน้นบอกว่า

“ออกมาหาฉันทีสิ ฉันมีใครบางคนอยากให้นายเจอ แล้วนายจะเข้าใจทุกอย่างว่าใครที่ดีหรือเลวกับนาย นายต้องเชื่อฉัน...ยี่สิบกว่าปีที่เราเป็นเพื่อนกันฉันไม่เคยขออะไรนาย ฉันขอนายครั้งนี้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

เฉินหมิงนิ่งชั่วครู่ก่อนตัดสินใจทำตามคำขอร้องนั่น แต่คนทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าการสนทนานั่นถูกดักฟังโดยเทียนคงกับฟง สีหน้าของเทียนคงเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาสั่งฟงให้ไปตามสถานที่ที่แดเนียลบอกเพื่อดูว่าคนสำคัญคนนั้นคือใคร ส่วนตัวเองเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องของเฉินเซียวเหยา เทียนคงยิ้มเหี้ยมชักมีดสั้นออกมาโชว์ต่อหน้าชายหนุ่ม

เท่านั้นเองเฉินเซียวเหยาเกิดอาการคลุ้มคลั่งร้องตะโกนโวยวายอย่างหวาดกลัว เฉินหมิงได้ยินเสียงพี่ชายก็ตกใจวิ่งกลับขึ้นมาชั้นบนอีกครั้ง ทันทีที่เขาเปิดประตู เฉินเซียวเหยาพุ่งจู่โจมพร้อมมีดฟันเข้าที่มือของเฉินหมิง ก่อนวิ่งหนีเตลิดไป

“พี่ใหญ่! ช่วยกันจับพี่ใหญ่ไว้!”

เฉินหมิงและลูกน้องต่างล้อมจับ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเฉินเซียวเหยากวัดแกว่งมีดเข้าใส่ทุกคนที่พยายามเข้าใกล้ เทียนคงยืนมองดูเหตุการณ์วุ่นวายนั่นอย่างสบายใจ ไม่คิดช่วยเหลือ พลันมีสายเรียกเข้ามือถือของเขาเพื่อแจ้งว่าคลิปที่สั่งให้หา...ส่งไปเรียบร้อยแล้ว เทียนคงยิ้มร้ายแล้วกดส่งคลิปต่อไปยังมือถือของแดเนียล

มาเฟียหน้าหยกแปลกใจที่จู่ๆก็มีคลิปส่งมายามค่ำคืนเช่นนี้ แต่พอกดดูสีหน้าเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นความเคียดแค้นเพราะในคลิปเป็นภาพเฉินเซียวเหยาข่มขืนโบตั๋นซึ่งไม่มีทางสู้เพราะถูกมัดมือไพล่หลัง เสียงกรีดร้องดังบาดลึกเข้าไปในความรู้สึกของแดเนียล

“ทำหน้าดีๆสิจ๊ะที่รัก ไอ้แดเนียลจะได้เห็นว่าฉันทำให้เธอมีความสุขมากแค่ไหน”

“เฉินเซียวเหยา...แดเนียลจะฆ่าแก”

“ก่อนที่มันจะฆ่าฉัน มันคงขาดใจตายไปก่อน ถ้าเธอไม่อยากให้มันเห็นคลิปนี้ก็ต้องทำตามที่ฉันสั่ง ไปขโมยความลับของแก๊งมังกรทองมาให้ฉัน!”

โบตั๋นร้องไห้โฮอย่างคนที่หมดสิ้นหนทาง แดเนียลพบกับคำตอบแล้วว่าทำไมเธอจึงยอมถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ สติของเขาขาดผึงร้องตะโกนเรียกชื่อเฉินเซียวเหยาด้วยความคั่งแค้นแสนสาหัส...ขว้างปาข้าวของทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าจนปลิวว่อนทั่วห้อง พริมากับหวังเฟยได้ยินเสียงนั่นก็วิ่งตรงไปยังห้องลูกชายทันที

แดเนียลทั้งเสียใจและโกรธแค้นเฉินเซียวเหยาเปิดลิ้นชักหยิบปืนเพื่อออกไปจัดการคนชั่ว แต่สายตากวาดไปพบกับกล่องใส่สร้อยของโบตั๋นและจดหมายที่เธอเขียนทิ้งไว้ เขาหยิบขึ้นมาอ่านใหม่อีกครั้ง

“ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันอยากให้คุณเอาชนะศัตรูและคนที่คิดร้ายกับคุณด้วยการให้อภัย”

ถ้อยคำในจดหมายนั่นฉุดรั้งสติของแดเนียลให้กลับคืนมา เขาคลายความโกรธแล้วเดินไปเปิดประตูด้วยสีหน้าบึ้งตึงปะปนกับคราบน้ำตา พริมาละล่ำละลักถามลูกชายอย่างเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น

“ผมเพิ่งรู้ว่าสาเหตุที่โบตั๋นเคยทรยศเรา เพราะเธอถูกคนในตระกูลเฉินขู่กรรโชก...ผมจะไปสะสางปัญหานี้ให้จบ”

ทั้งหวังเฟยและพริมาตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน อารมณ์ของแดเนียลเหมือนดั่งพายุร้าย เขาขับรถด้วยความเร็วสูง ภายในใจเฝ้าโทษตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องอดีตคนรักจากเรื่องเลวร้ายนั้นได้ ภาพการข่มขืนคอยตามหลอกหลอนไปตลอดทาง ชายหนุ่มวนเวียนคิดถึงแต่การแก้แค้นและการฆ่า และแล้วแวบหนึ่ง เขานึกถึงคำพูดของโบตั๋นก่อนถูกยิงตายว่า

“ฉันรักคุณนะคะแดเนียล...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ...คุณต้องเอาชนะศัตรูด้วยการให้อภัย”

แดเนียลรู้สึกสับสนกับความคิดของตัวเอง สุดจะทนอดกลั้นต่อไปไหว เขาเหยียบเบรกห้ามล้อรถอย่างแรงแล้วปลดปล่อยตัวเองให้ร้องไห้อย่างสิ้นอาย จากนั้น จิตใต้สำนึกของเขาพาร่างกายมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านของฟ้าใส เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นหญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าต่างพอดี

ฟ้าใสตกใจในท่าทีอันเศร้าหมองของมาเฟียหนุ่มจึงรีบเดินลงมาหา ปฏิกิริยาแรกของแดเนียลคือการโผเข้ากอดเธออย่างหวงแหนราวกับว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย หญิงสาวยืนตัวแข็งกระซิบถามว่าเป็นอะไร ไม่มีคำตอบนอกจากอ้อมแขนที่กระชับแน่นขึ้น ชวนชมมองภาพนั้นสะท้อนใจไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาสามีไม่ปลื้มมาเฟียนี้ได้อย่างไร...มันคงต้องใช้เวลา

หลังจากแดเนียลระงับสติอารมณ์ได้แล้ว เขาคลายกอดจากฟ้าใส หญิงสาวยกมือปาดน้ำตาบนแก้มชายหนุ่มถามว่า

“คุณร้องไห้ทำไม มันเกิดอะไรขึ้นคะ”

“คุณต้องดูแลตัวเองให้ดีนะฟ้าใส ถ้าใครมาทำร้ายคุณ...คุณต้องบอกผม...อย่าปิดบัง อย่ากลัวว่าผมจะเสียใจ”

แม้ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่แดเนียลพูดนัก แต่ฟ้าใสไม่ซักไซ้ไล่เรียงอะไรต่อ เธอตบหลังเขาเบาๆแทนคำปลอบใจ...ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ตกอยู่ในสายตาของฟงที่แอบติดตามดูอยู่ห่างๆตามคำสั่งของเทียนคง เขาคอยรายงานให้ลูกพี่ทราบเป็นระยะ แต่สัญชาตญาณระแวดระวังภัยของมาเฟียหนุ่มยังคงดีเยี่ยม เขาแสร้งขับรถกลับบ้านเหมือนเป็นปกติเพื่อหลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามตายใจว่าสะกดรอยได้อย่างมืออาชีพ

ไม่นานนัก รถของแดเนียลที่มีโจวเป็นผู้ขับก็ออกจากคฤหาสน์ตระกูลหวังอีกครั้ง คราวนี้มุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่พวกนั้นเฝ้ารอ...เซฟเฮ้าส์! รถของฟงขับติดตามอย่างไม่ลดละโดยไม่รู้เลยว่าผู้ตามล่ากำลังจะสลับหน้าที่เป็นผู้ถูกล่าแทน เขาจอดรถตรงปากทางเข้าแล้วใช้การเดินแทน สายตาฟงเห็นรถเป้าหมายจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ข้างในเปิดไฟสว่างเหมือนมีคนอยู่

ฟงชะล่าใจชักปืนมากระชับมั่นแล้วตัดสินใจย่องเข้าไปดู แต่แล้วเขาต้องตะลึงเมื่อพบว่าโจวนอนยิ้มกวนตีน รออยู่ข้างใน เสียงทักทายของลูกน้องแก๊งมังกรทองดังขึ้นว่า

“ตามมาเร็วดีนี่...รนแส่หาเรื่องแท้ๆเลยแก ไอ้สุนัขรับใช้!”

ยังไม่ทันที่จะได้คิดแก้ไขสถานการณ์ มีเสียงปืนขึ้นลำกล้องดังที่ด้านหลังของฟง พอหันขวับไปดูก็เห็นแดเนียลยืนยิ้มเหี้ยมพร้อมกับจู่โจมเข้าหาแบบไม่ให้ตั้งตัว ฟงเสียท่าถูกจับล็อกไว้ได้ในที่สุด

เวลาเดียวกันนั้นที่บ้านเฉินหมิง ชายหนุ่มเพิ่งจับตัวเฉินเซียวเหยาได้และปลอบพี่ชายจนสงบ เทียนคงทำทีเป็นห่วงใยเตือนให้รีบทำแผล แต่เฉินหมิงกลับจ้องหน้าด้วยสายตาดุดันตะคอกถามว่าใครเอามีดเข้าไปในห้องพี่ใหญ่ หยางกับลูกน้องคนอื่นๆนิ่งเงียบเพราะไม่รู้เรื่อง ต่างจากเทียนคงที่เอ่ยปากชี้แจงว่า

“คุณชายใหญ่อาจจะคลุ้มคลั่งแล้วไปหยิบมาเอง ไม่มีอะไรหรอกครับ”

“แต่พี่ใหญ่นอนหลับไปแล้ว เขาจะไม่ตื่น ถ้าไม่มี ใครไปทำให้เขาตื่น”

พลันมีเสียงส่งข้อความในมือถือของเฉินหมิง เขากดเปิดดูแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นรูปฟงถูกซ้อมหน้าตาบอบช้ำ...

ไม่กี่วินาทีให้หลัง แดเนียลก็โทร.หาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า

“เห็นรูปที่ฉันส่งไปแล้วใช่ไหม...ช่วยถามคนของนายว่าทำไมต้องส่งคนของเขามาสะกดรอยตามฉัน”

เฉินหมิงชำเลืองมองที่แผลบนมือของตัวเอง นิ่วหน้าคิดวนเวียนไปมาจนแน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่ชายใหญ่คือการถ่วงเวลา เขาหันขวับไปหาลูกน้องคนสนิทแต่กลับพบว่าเทียนคงเล็งปืนมาที่เขาแล้วลั่นไกยิงใส่ขาของเฉินหมิงทันที เสียงปืนทำให้แดเนียลตกใจรีบวิ่งไปขึ้นรถขับมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลเฉินโดยด่วน

ooooooo

เมื่อไปถึงที่บ้านเฉินหมิง แดเนียลกลับไม่พบใครนอกจากพวกลูกน้องแก๊งเสือขาว เขาร้อนใจออกตามหาอดีตเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง...ไม่ไกลจากที่นั้น เฉินหมิงกับเฉินเซียวเหยาถูกนำตัวมาที่ศาลเจ้า

เสียงสวดมนต์ของเทียนคงค่อยๆปลุกเฉินหมิงให้รู้สึกตัวตื่นขึ้น ภาพพี่ชายตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัวปลุกเร้าให้ชายหนุ่มคลั่งแค้นแทบกระอักเลือดเพราะคาดไม่ถึงว่าคนใกล้ตัวจะคิดทรยศหักหลังถึงเพียงนี้ เทียนคงยิ้มเหี้ยมปราดเข้าเตะไม่ยั้ง

“ผู้นำที่อ่อนแออย่างนายน้อย ใครจะอยากฝากชีวิตไว้...ไม่ใช่อ่อนแอแค่นายน้อย แต่เป็นตระกูลเฉิน!”

เท่านั้นเอง เฉินหมิงก็ปะติดปะต่อเรื่องได้ทั้งหมด เขาคำรามพูดลอดไรฟันว่า

“พวกแกทรยศตระกูลเฉิน...เป็นฝีมือแกสินะที่ฆ่าป๊ากับทำร้ายพี่ใหญ่ แล้วโยนความผิดให้แก๊งมังกรทอง”

“ในที่สุดนายน้อยของผมก็ฉลาดสักที ผมชั่วเพราะรักเสือขาว แต่นายใหญ่เฉินชั่วกว่าที่ไม่เคยรัก

ใครเลยนอกจากลูกชายงี่เง่าทั้งสองคนของตัวเอง นายใหญ่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าผมเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำเสือขาวมากที่สุด แต่มันก็ไม่เคยเห็นหัวฉัน”

“เพราะแกไม่มีเลือดเสือขาว ต่อให้พยายามมากแค่ไหน แกก็จะเป็นได้แค่หางเสือ...ไอ้เนรคุณ!”

เทียนคงกระชากคอเสื้อเฉินหมิงแล้วระดมหมัดใส่ไม่นับ ส่วนปากก็คำรามสั่งให้ชายหนุ่มขอขมาที่หยามศักดิ์ศรีต่อหน้าลูกน้องคนอื่นๆ นอกจากจะไม่ทำตามแล้ว เฉินหมิงยังถุยน้ำลายใส่หน้าเทียนคงอีก นั่นทำให้สติของคนทรยศขาดผึงสั่งการเสียงกร้าวให้จัดการเฉินเซียวเหยาโดยไม่ปรานี

ภาพพี่ชายถูกรุมทำร้ายอย่างไม่มีทางสู้ก่อให้เกิดความเคียดแค้นมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งเทียนคงโยนมีดส่งให้ลูกน้องเพื่อใช้แทงเฉินเซียวเหยา ชายหนุ่มทนไม่ได้จำใจยอมแล้วคลานเข่าเข้าหามัน มือของเขากำแน่นด้วยความโกรธแค้น เทียนคงหัวเราะสะใจตะโกนลั่นว่าในที่สุดตระกูลเฉินก็ต้องก้มหัวให้ตน ลูกน้องคนอื่นๆปราดเข้ารุมกระทืบเฉินหมิงไม่ยั้ง ภาพนั้นกระตุกความทรงจำของเฉินเซียวเหยาให้นึกถึงวันที่ถูกทำร้าย เขาสะดุ้งเฮือกยันตัวลุกขึ้นแล้วคว้าเก้าอี้ทุ่มใส่คนพวกนั้นอย่างบ้าเลือดเพื่อปกป้องน้องชาย เขาตะโกนสั่งว่า

“หนี! หนี! พาป๊าไปด้วย...มันจะมาฆ่าป๊า หนีไป! ไป!”

“ผมสัญญา...ผมจะกลับมาช่วยพี่ เราต้องได้เจอกันอีก ผมสัญญา...”

เฉินหมิงจ้องมองพี่ชายอย่างเป็นห่วง ก่อนจะตัดสินใจพาร่างอันบอบช้ำวิ่งหนี เทียนคงมองตามราวกับว่าจะหนีไปไหนพ้น เฉินหมิงวิ่งโซซัดโซเซมาจนถึงบ้านร้างแล้วล้มลงกองกับพื้นเพราะหมดแรง เทียนคงตามเข้ามาเหยียบและเยาะเย้ยว่า

“อย่าหนีให้เหนื่อยเลยครับนายน้อย...ลาก่อน ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว ถึงคราวฉันเป็นใหญ่เสียที”

เทียนคงกระซวกมีดเข้าที่ท้องของเฉินหมิงอย่างแรง ความเจ็บปวดทำให้ชายหนุ่มล้มลงแล้วหมดสติทันที โดยไม่รอช้า เทียนคงตะโกนสั่งลูกน้องให้จัดการเก็บหลักฐานให้หมด ก่อนจะเดินออกมาดูผลงานชิ้นต่อไปซึ่งก็คือการระเบิดบ้านร้าง เปลวไฟสีแดงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเหมือนเป็นการสั่งลาลูกชายคนเล็กของตระกูลเฉิน

ooooooo

แดเนียลขับรถมาตามทางเพื่อค้นหาเฉินหมิง พอเห็นเปลวไฟลุกโหมที่บ้านร้าง เขาสังหรณ์ใจว่าต้องมีเรื่องร้ายเกิดกับเพื่อนรัก แต่แล้วทันใดนั้น เขาเห็นร่างใครคนหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายหนีอยู่บนถนนห่างออกไปไม่ไกลนัก

มาเฟียหน้าหยกวิ่งถลาเข้าไปใกล้ แล้วถอนหายใจโล่งอกที่พบว่าเป็นเฉินหมิง เขารีบลากเพื่อนรักขึ้นรถเพื่อกันไม่ให้เทียนคงรู้ว่าปฏิบัติการไม่สำเร็จ ขณะนั้น เทียนคงกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องเข้าใจว่าลูกน้องกระทำได้เรียบร้อย จึงสั่งการให้นำร่างอันไร้สติของเฉินเซียวเหยา กลับไปที่บ้านเท่านั้น ส่วนฟงถูกเทียนคงฆ่าตายเพื่อเป็นตัวอย่างของการเชือดไก่ให้ลิงดู

“ทุกคนจำเอาไว้...นับจากนี้แก๊งเสือขาวภายใต้การปกครองของฉันต้องการคนที่แข็งแกร่งและฉลาดเท่านั้น”

หยางและเหล่าลูกน้องคุกเข่าลงแสดงความเคารพเทียนคงที่ยิ้มพอใจ...นี่คือสิ่งที่เขารอคอยมาทั้งชีวิต

ด้านเฉินเปียว หลังจากได้พยาบาลดีคอยดูแล อาการของเขาก็หายวันหายคืนตามลำดับ แม้ว่าใจอยากจะอยู่ที่คอนโดปุยฝ้ายต่อ แต่เมื่อโจวรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบอสและเฉินหมิง ทำให้เขาต้องสละความสุขส่วนตัวกลับไปเคียงข้างนาย

“ผมดีขึ้นมากแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ขอบคุณมากที่ดูแลผม ผมมีความสุขมากนะคุณปุยฝ้าย”

ปุยฝ้ายยิ้มหวานรู้สึกดีกับบรรยากาศรอบตัว กระซิบตอบว่าตนเองก็มีความสุขเช่นกัน เฉินเปียวอดไม่ได้ ก้มหน้าจะจูบลา ปุยฝ้ายรอคอยหลับตาพริ้ม แต่ทันใดนั้นนุตราก็เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาต่อว่าเรื่องไม่มีใครรับโทรศัพท์ สองคนผละออกจากกันด้วยท่าทีเขินๆ

ที่บ้านริมน้ำของแดเนียล เฉินหมิงนอนไม่ได้สติ หน้าตาเขียวช้ำและมีผ้าพันแผลรอบลำตัว มาเฟียหน้าหยกเฝ้ามองดูเขาด้วยแววตาห่วงใย เช่นเดียวกับเฉินเปียวที่มีอาการตกใจกับสภาพของญาติหนุ่ม

“เขาเป็นยังไงบ้างครับ ไอ้เทียนคงลงมือหนักขนาดนี้เลยเหรอครับ ทั้งๆที่รู้ว่าบอสยังมีสมุดปกดำเป็นตัวประกัน”

“โชคดีของเฉินหมิงที่ทั้งกระสุนและคมมีดไม่โดนจุดสำคัญ เทียนคงทำเพราะอยากขึ้นเป็นผู้นำแก๊งแทน แถมยังมีป๊าฉันคอยสนับสนุนอีก...ปล่อยให้มันมีความสุขกับชัยชนะของมันไปก่อน แล้วฉันจะจัดการให้มันรู้รสความพ่ายแพ้เอง”

รุ่งเช้าเฉินเปียวทนคิดถึงปุยฝ้ายไม่ไหวจึงหาเรื่องโทร.เชิญเธอมาที่สวนสาธารณะโดยอ้างว่าอยากจะขอบคุณที่ดูแลเขาเป็นอย่างดีในระหว่างเจ็บป่วย ชายหนุ่มซักซ้อมการพูดขอบคุณด้วยท่าทางแข็งๆตามสไตล์มาเฟียหน้านิ่งและมีดอกกุหลาบในมือ ปุยฝ้ายแอบย่องมาข้างหลังถามว่ากำลังพูดอะไรอยู่ เฉินเปียวสะดุ้งตกใจหันไปชนหญิงสาวจนกุหลาบปลิวหลุดมือตกพื้น เหมือนเคราะห์ซ้ำเพราะดันมีนักวิ่งผ่านมาพอดีจึงเหยียบเสียจนดอกเละเหลือแต่ก้าน ปุยฝ้ายตะลึงกระซิบถาม

“ดอกไม้นั่น...นายเอามาให้ฉันหรือเปล่า...โธ่! ดอกไม้ดอกแรกในชีวิตฉัน”

“คุณชอบดอกไม้ใช่ไหม เดี๋ยวผมไปซื้อให้ใหม่”

“ไม่ต้องหรอก ฉันชอบใช้เวลาอยู่กับคุณมากกว่า ...แล้วที่นัดมาวันนี้เพื่อตอบแทนฉัน จะทำยังไงเพราะดอกไม้พังเสียขนาดนี้ หรือฉันเปลี่ยนเป็นคำขอร้องจากคุณสามข้อดีกว่า...ข้อแรก พวกเราไปร้องคาราโอเกะกัน”

เฉินเปียวทำสีหน้าปั้นยาก เขาร้างลาเวทีไปตั้งแต่สูญเสียครอบครัว แต่ปุยฝ้ายดึงดันจะไปให้ได้ ชายหนุ่มอ่อนใจยอมทำตาม เสียงร้องเพลงอย่างมั่นใจของหญิงสาวดูเหมือนกระตุ้นให้เขาไม่มีอารมณ์ร่วม แต่เท้าขยับตามจังหวะเพลง สีหน้ายังนิ่งตามเคย ปุยฝ้ายหรี่ตายิ้มเจ้าเล่ห์สั่งให้มาเฟียหนุ่มเต้นรำกับเธอเป็นข้อที่สอง เฉินเปียวแสร้งทำหน้าดุขืนตัวไม่ยอม แต่แล้วในที่สุดก็ยอมเต้นด้วยท่าทีเมามันตามเสียงเพลง ทั้งสองคนต่างใช้ช่วงเวลานี้หาความสำราญจนอิ่มสุข

ส่วนข้อสุดท้ายที่ปุยฝ้ายขอจากชายหนุ่มก็คือก่อนเข้านอนทุกวัน เขาต้องคิดถึงเธอ เฉินเปียวยิ้มหวานยื่นหน้าเข้าไปกระซิบใกล้หูว่าเรื่องนั้นไม่ต้องขอ ทำเป็นประจำอยู่แล้ว ปุยฝ้ายรู้สึกว่าหัวใจพองโตคับอก ยืนตะลึงทำอะไรไม่ถูก...พลันมีสายเรียกเข้ามือถือเฉินเปียวมาจากโจวเพื่อปรึกษาเรื่องซื้อของใช้สำหรับเด็กทารก มาเฟียหนุ่มยืนงง เสียงปลายสายชี้แจงว่า

“อาเหมยคลอดลูกได้หลายเดือนแล้ว แต่ผมไม่ได้บอกเพราะผมเห็นว่าทางนี้มีเรื่องเครียดๆ ถ้าผมบอก...พี่กับบอสต้องไล่ผมกลับไปหาลูกแน่ๆ ผมอยากทำงานตอบแทนก่อนจึงจะกลับไปได้”

ooooooo

ที่ฮ่องกง เทียนคงเสนอให้มีการประชุมด่วนว่าด้วยเรื่องนายน้อยแห่งแก๊งเสือขาวหายตัวไป หลังจากได้รับโทรศัพท์จากแดเนียลให้ออกไปตกลงเรื่องคลิปการขู่กรรโชกของเฉินเซียวเหยาที่มีต่อโบตั๋น

“ผมคิดว่าคลิปนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้นายน้อยหายตัวไป ผมมีมือถือของนายน้อยเป็นหลักฐานว่าคุณแดเนียลโทร.มา”

“คุณกำลังกล่าวหาว่าคุณแดเนียลฆ่าคุณเฉินหมิงเพื่อแก้แค้นให้โบตั๋นใช่ไหม” หนึ่งในห้าผู้นำแก๊งถาม

เทียนคงยิ้มใจเย็นตอบว่าตนแค่พูดไปตามสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงผู้นำทุ่มเถียงกันถึงเรื่องผลประโยชน์ ถ้าหากขาดผู้นำแก๊งเสือขาวไปในเวลานี้ หวังเฟยตัดบทแต่งตั้งเทียนคงให้ทำหน้าที่รักษาการผู้นำแก๊งเสือขาวแทนไปก่อน...ซึ่งตรงตามแผนของเทียนคงในที่สุด ขณะที่เขากำลังดื่มด่ำกับชัยชนะของตัวเอง หวังเฟยเดินเข้ามาหาพูดเบาๆพอได้ยินกันแค่สองคนว่า

“ถ้าคุณมีสายเลือดเสือขาวอยู่ในตัว คุณจะทำให้แก๊งเสือขาวเป็นแก๊งน่ากลัวมากที่สุด แต่ผมรู้จักลูกชายตัวเองดี แดเนียลไม่มีวันฆ่าเพื่อนรักของเขา คุณจงใจให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้เฉินหมิงหายตัวไป แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทำ ผมเห็นด้วย...แค่ขอร้องว่าอย่าทำลายศรัทธาที่ทุกคนมีต่อแดเนียล เพราะวันหนึ่งเขาต้องกลับมาเป็นผู้นำอีก”

เทียนคงพยักหน้ารับทราบแต่สีหน้าแฝงความไม่พอใจยิ่งยวด ด้านแดเนียลในเวลานั้นกำลังกลุ้มใจเพราะต้องการเก็บความลับไม่ให้ใครรู้ว่าเฉินหมิงยังไม่ตาย เขาปรึกษากับเฉินเปียวว่าคงไม่จ้างพยาบาลดูแลแต่จะหาคนที่ไว้ใจได้มาทำหน้าที่นี้ คนที่แดเนียลวางตัวไว้ก็คือฟ้าใส แต่หญิงสาวจะเต็มใจรับทำงานนี้หรือไม่ยังเป็นปัญหาอยู่

รุ่งขึ้นที่สำนักพิมพ์โลลา แดเนียลเจรจากับราเมศเพื่อขอตัวฟ้าใสไปทำงานให้ชั่วคราว ราเมศตอบตกลงแต่ขอเพียงฟ้าใสส่งต้นฉบับนวนิยายมาให้ตีพิมพ์ตามกำหนดเวลาเท่านั้นเป็นพอ ด้านฟ้าใสครุ่นคิดหนักเพราะรู้ดีว่าถ้าบอกความจริงกับพ่อแม่คงเกิดเรื่อง แต่จะใช้วิธีไหนกันเล่าเพื่อเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เฉินเปียวยืนคอยรับคำสั่งที่ด้านนอกแต่สายตาสอดส่ายหาปุยฝ้ายด้วยความคิดถึง พอดีกับแดเนียลเสร็จธุระกับราเมศแล้วจึงเดินออกมาถามลูกน้องคนสนิทเกี่ยวกับเรื่องของโจว

“ผมสั่งซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนกับอาหารเสริมบำรุงแม่ส่งไปที่ฮ่องกงแล้ว ต้องขอบคุณบอสแทนอาเหมยกับอาตี๋น้อยด้วยที่มีน้ำใจให้พวกเขา”

แดเนียลยิ้มรับ ในขณะที่ปุยฝ้ายยืนตะลึงเข้าใจผิดคิดว่าเฉินเปียวแอบซุกซ่อนลูกเมียไว้โดยไม่บอกเธอ

ยิ่งพอได้ยินเขาโทร.หาอาเหมยที่ฮ่องกงสั่งความให้ดูแลลูกให้ดี ถ้าเสร็จงานทางนี้เมื่อไรจะกลับไปหาทันทีเพราะคิดถึงใจจะขาด ปุยฝ้ายหน้าเสียคาดไม่ถึงว่าเฉินเปียวจะทำเช่นนี้กับเธอ นุตราตกใจที่จู่ๆเพื่อนรักก็โผเข้ามา กอดร้องไห้โฮบอกว่า

“เฉินเปียว...เขามีลูกเมียแล้ว เขาหลอกฉัน!”

ที่บ้านริมน้ำ แดเนียลพาฟ้าใสมาดูอาการของเฉินหมิงเพื่อให้ตัดสินใจว่าจะรับทำงานนี้หรือไม่ หญิงสาวเห็นสภาพของชายหนุ่มแล้วตกใจมาก เสียงแดเนียลชี้แจงว่า

“งานใหม่ของคุณคือเป็นพยาบาลคอยดูแลเฉินหมิง แต่เรื่องนี้เป็นความลับไม่สามารถบอกใครได้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ผมให้เวลาคุณตัดสินใจ”

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฟ้าใสนอนก่ายหน้าผากครุ่นคิดทบทวนถึงคำขอร้องของแดเนียล เธอนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาพร้อมกับแดเนียล เขาช่วยเหลือเธอโดยไม่คำนึงว่าจะมีปัญหากับหวังเฟยหรือไม่ นี่คงถึงเวลาที่เธอควรจะตอบแทนเขาบ้างและดีใจที่เขาให้โอกาสคนทรยศเช่นเธอได้แก้ตัว เพียงแค่นี้ฟ้าใสก็ตัดสินใจได้ว่าตนจะรับทำงานนี้อย่างแน่นอน

แดเนียลยิ้มโล่งใจ...เขาคิดไม่ผิดที่หลงรักในตัวตนของผู้หญิงคนนี้ เธอยืนเคียงข้างเขาเสมอไม่ว่าในยามทุกข์หรือสุข หลังจากนั้นฟ้าใสก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง เธอดูแลเฉินหมิงเป็นอย่างดีโดยมีแดเนียลแอบมองอยู่เงียบๆในใจภาวนาขออย่าให้อาการป่วยของเฉินหมิงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างพวกเขาในอนาคต

เช่นเดียวกับความรักของปุยฝ้ายกับเฉินเปียวที่เริ่มมีรอยร้าวหลังจากเข้าใจว่าชายหนุ่มแอบซุกซ่อนภรรยาและลูกที่ฮ่องกง หญิงสาวหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขา หรือแม้แต่รับสายที่เขาเพียรโทร.หา เฉินเปียวรู้สึกแปลกใจ...

ooooooo

เพราะต้องดูแลเฉินหมิงอย่างใกล้ชิดทำให้ฟ้าใสต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านตัวเองกับบ้านริมน้ำของแดเนียล กวินทร์กับชวนชมเองก็แปลกใจแต่ยังคงเชื่อใจลูกสาวว่าจะไม่โกหก ต่างจากหมออิฐที่สงสัยและเริ่มสืบหาความจริง

หมออิฐทำทีเอาขนมไปแวะเยี่ยมฟ้าใสที่สำนักงานโลลา แล้วรู้จากหนูดีว่าขณะนี้หญิงสาวไม่ได้ทำงานที่นี่แล้วแต่ไปทำงานกับแดเนียลชั่วคราวที่ไหนไม่มีใครทราบ ชายหนุ่มคิดหนัก แต่ไหนแต่ไรฟ้าใสไม่เคยโกหก พอคบกับมาเฟียหน้าหยกคนนั้น พฤติกรรมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ความรู้สึกหึงหวงเริ่มจู่โจมเข้ามาทันควัน...

ที่บ้านริมน้ำ ฟ้าใสดีใจเมื่อเห็นอาการของเฉินหมิงดีขึ้นตามลำดับ วันนี้เองชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นอย่างงงๆ ถามว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หญิงสาวเล่าว่าแดเนียลแอบพามารักษาที่นี่เพื่อไม่ให้เทียนคงหรือใครๆรู้ว่า

เขามีชีวิตอยู่ เฉินหมิงนึกทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นช้าๆ แล้วกัดฟันกรอดอย่างโกรธแค้นที่ถูกหักหลังจากเทียนคง ทันใดนั้น ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ว่าเฉินเซียวเหยาตกอยู่ในอันตราย เขากระโดดผลุงลุกจากเตียงบอกว่าตนต้องไปช่วยพี่ชายก่อน ฟ้าใสแย้งว่า

“คุณบาดเจ็บอยู่ ถ้าคุณไป คุณไม่รอดแน่ แล้วคุณจะช่วยใครไม่ได้อีกเลย ตอนนี้ทุกคนคิดว่าคุณตายไปแล้วเพราะฝีมือของคุณแดเนียล เขาปล่อยให้ทุกคนคิดเช่นนั้นเพื่อที่จะคุณจะได้ปลอดภัยจากเทียนคง สำหรับเรื่องพี่ชายคุณ...แดเนียลมั่นใจว่าเทียนคงจะไม่มีวันฆ่าเขาเพราะต้องใช้พี่ชายคุณเป็นหุ่นเชิดและจะได้ขึ้นรักษาการผู้นำของแก๊งแทน”

แววตาของเฉินหมิงเป็นประกายวาวโรจน์อย่างโกรธจัด แต่ต้องจำนนกับสิ่งที่ฟ้าใสบอก...

ตกดึกคืนเดียวกัน ชายหนุ่มเฝ้าครุ่นคิดเรื่องของตัวเองกับเทียนคงวนเวียนไปมา เสียงฟ้าร้องเหมือนพายุใหญ่กำลังจะมา เฉกเช่นเดียวกับสิ่งที่อยู่ในใจเขา เมื่อฟ้าใสนำอาหารมาให้ในอีกสองสามชั่วโมงต่อมา ภายในห้องก็ว่างเปล่าเสียแล้ว

ฟ้าใสวิ่งกระหืดกระหอบออกตามหาอดีตหัวหน้าแก๊งเสือขาวท่ามกลางฝนตกหนัก เธอมองเห็นรอยเลือดเป็นทางยาวมุ่งหน้าออกไปข้างนอก เท่านั้นเองหญิงสาวใจหายวาบวิ่งฝ่าสายฝนตามไปทันที...ที่ข้างนอก ราวกับว่าแดเนียลจะอ่านใจเพื่อนรักออก เขาซุ่มดักดูเหตุการณ์เงียบๆ จนกระทั่งเห็นเฉินหมิงเดินลากสังขารล้มลุกคลุกคลานมาตามถนนแถวบ้าน

“นายจะไปไหน อย่าใจร้อน นายยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น...นายต้องอยู่ที่นี่”

นอกจากเฉินหมิงจะไม่ฟังแล้ว เขาตวาดไม่ให้ยุ่งและชกหน้าแดเนียลทันที มาเฟียหน้าหยกไม่ตอบโต้แค่หลบเลี่ยงแล้วจับตัวเพื่อนรักล็อกไว้ สุดท้ายเฉินหมิงต้องยอมแพ้สังขารตัวเองร้องไห้เกลือกกลิ้งบนพื้นดินโคลนเหมือนคนสิ้นหวัง ปากพร่ำพูดว่าตนเองโง่ที่ถูกหลอก

แดเนียลมองเขาด้วยความสงสาร เช่นเดียวกับฟ้าใส

หลังจากนั้นแดเนียลเปิดเครื่องอัดเสียงของโอลิเวอร์ให้เฉินหมิงฟังความจริงที่พูดออกมาจากปากของเทียนคงว่าเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ของตระกูลเฉิน แต่ที่ยังไม่จัดการขั้นเด็ดขาดกับเฉินหมิงก็เพราะสมุดปกดำอยู่ในมือของแดเนียล อดีตหัวหน้าแก๊งเสือขาวตัวสั่นด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอย่างถ่องแท้

“นายเก็บซ่อนสมุดปกดำไว้อย่างดี ก็เพราะจะช่วยรักษาชีวิตของฉัน...ทำไมนายไม่บอกความจริงกับฉัน”

“บอกแล้วนายจะเชื่อฉันเหรอ อย่าโทษตัวเองอาหมิง ฉันเข้าใจนาย ใครจะไปคาดคิดว่าเด็กกำพร้าที่ป๊านายชุบเลี้ยงมาจะหักหลังแก๊งเสือขาวได้มากขนาดนี้... ส่วนโอลิเวอร์ ฉันส่งไปรักษาตัวที่ฮ่องกงแล้ว จะได้ห่างไกลจากเทียนคง”

“มีเรื่องอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกไหมแดเนียล”

แดเนียลสะท้อนใจเมื่อได้ยินคำถามนี้ เขานึกถึงเรื่องที่เฉินเซียวเหยาข่มขืนโบตั๋น แต่เวลานี้คงไม่เหมาะที่จะให้เฉินหมิงรับรู้ เขาจึงตัดสินใจบอกว่าไม่มีแล้ว แต่ฟ้าใสสังเกตเห็นสีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนไปแวบหนึ่ง เธอรู้สึกสงสัยอยู่ครามครัน

“ฉันรู้ว่าคุณมีเรื่องปิดบังเฉินหมิง และเรื่องนั้นทำให้คุณไม่สบายใจ...อย่าโกหกฉัน ถ้าพูดออกมาแล้วจะทำให้คุณสบายใจขึ้นก็พูดให้ฉันฟังเถอะค่ะ ให้ฉันได้แบ่งเบาความทุกข์ในใจคุณบ้าง”

แดเนียลจ้องหน้าฟ้าใสอย่างซาบซึ้งใจ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูถึงเรื่องที่เขาไม่ยอมบอกเฉินหมิง หญิงสาวหน้าตื่นถามว่าทำไมน้องชายถึงไม่เคยรู้เรื่องเลวร้ายของเฉินเซียวเหยา มาเฟียหน้าหยกบอกเหตุผลว่า

“เฉินหมิงอยู่เมืองนอกมาหลายปี และตอนนี้เฉินหมิงต้องการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่จะทำให้เขามีกำลังใจลุกขึ้นมาสู้และสิ่งนั้นก็คือพี่ชายของเขา ผมไม่แน่ใจว่าถ้าบอกเฉินหมิงไปแล้วเขาจะเป็นยังไง”

ฟ้าใสพยักหน้าเห็นด้วย และให้สัญญาว่าตนจะช่วยให้เฉินหมิงกลับไปเป็นคนเดิมให้ได้ในเร็ววัน...

ด้านเฉินหมิงนั่งเหม่อลอยครุ่นคิดถึงแต่ความโง่ของตัวเอง ฟ้าใสมองด้วยความเป็นห่วง พยายามคะยั้นคะยอให้ทานอาหารเพื่อให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์โดยเร็ว แต่ชายหนุ่มกลับนิ่งเงียบ ก่อนจะพูดว่าตนเองไร้ค่า ฟ้าใสส่ายหน้าเหนื่อยใจ

“ไม่เคยมีใครมองว่าคุณไร้ค่า มีแต่คุณเองที่ตัดสินตัวเอง ถ้าคุณอยากกินข้าวกินยาเองก็ตามใจ แต่ต้องกินให้หมดนะ”

ooooooo

ทวยเทพมาเยี่ยมนุตรากับปุยฝ้ายที่คอนโดและเล่าให้ฟังว่าคดีความของแดเนียลจบลงด้วยดีเพราะไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงเอาผิดได้ นุตราโล่งใจ ในขณะที่เพื่อนสาวหน้าเสียเมื่อได้ยินเสียงละครทีวีพูดถึงเมียหลวงเมียน้อย

ปุยฝ้ายคว้ารีโมตมาเปลี่ยนช่อง ทวยเทพไม่เข้าใจในตอนแรก แต่พอนึกถึงเรื่องราวในละครนั่น เขาโพล่งถามนุตราว่า

“นุต...ฝ้ายไปเป็นเมียน้อยใคร”

“ว้าย! ยังไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ แค่ไปหลงรักคนมีเจ้าของ...คุณเฉินเปียว ลูกน้องคุณแดเนียลไงคะ”

ทวยเทพทำหน้าอ่อนใจที่สาวๆแถวนี้ชอบแต่พวกมาเฟีย พลันมีสายเรียกเข้ามือถือของเขา ปลายสายแจ้งว่ามีเรื่องด่วนภายในท้องที่รับผิดชอบ ชายหนุ่มผลุนผลันออกไปทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ลูกน้องรายงานว่า

“สภาพศพขึ้นอืดจนมองไม่ออกว่าเขาเป็นอะไรเสียชีวิต ต้องรอผลชันสูตรจากนิติเวช แต่ผมตรวจสอบทะเบียนรถของผู้ตายแล้วเป็นของนายแพทย์นพที่ญาติแจ้งความไว้ที่ สน.อื่นว่าหายตัวไป หลังจากไปบ้านคุณเฉินหมิง”

“เฉินหมิงที่เป็นมาเฟียข้ามชาติ...ผู้นำแก๊งเสือขาว หรือศัตรูของแดเนียล...จ่าไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ที่หัวถนน และจากร้านสะดวกซื้อในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมด ผมจะหาว่าคุณหมอมาเป็นศพที่นี่ได้ยังไง”

รุ่งเช้าฟ้าใสเดือดดาลเมื่อพบว่าเฉินหมิงไม่ได้แตะต้องอาหารหรือกินยา เธอจะต้องสอนให้มาเฟียหน้าหวานรู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร แผนการที่ใช้ดัดหลังคือการทำเป็นไม่สนใจว่าชายหนุ่มจะร้องเรียกหาหรือทำกิจกรรมอะไร แม้แต่เรื่องทำแผลฟ้าใสก็บอกให้เขาทำเอง เฉินหมิงหงุดหงิดกับท่าทีของหญิงสาว ต้องถอยกลับไปอยู่เงียบๆในห้อง ฟ้าใสลอบยิ้มและโทร.หาแดเนียลเพื่อรายงานแผนนั่นและหวังว่าเขาจะคิดถึงเธอบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวัง มาเฟียหนุ่มรู้ทันไม่พูดคำหวานเหมือนเคย

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เฉินหมิงยังดื้อดึงไม่ยอมทานอาหาร ฟ้าใสรู้สึกเหนื่อยใจแต่ต้องจำทน ในเมื่อชายหนุ่มไม่กิน เธอก็ไม่กินด้วย แต่ร่างกายของผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกัน เพียงให้หลังไม่นานนัก หญิงสาวก็หน้ามืดเป็นลมจากความหิว ชายหนุ่มเห็นอาการแล้วตัดพ้อว่าทำไมทำแต่งานไม่ยอมทานอะไรเลย ฟ้าใสค้อนเขา

“ถ้าคุณลงโทษตัวเองว่าไร้ค่าด้วยการไม่กิน ฉันก็จะไม่กินเหมือนกัน ถ้าคุณจะตายเพราะไม่ยอมกินอะไรเลย ฉันก็จะตายไปด้วย คุณจะได้รู้ว่าชีวิตคุณไม่ได้ไร้ค่า แต่มันมีค่ามาก...อย่างน้อยก็สำหรับฉันคนหนึ่ง”

เฉินหมิงจ้องสีหน้าที่เอาจริงของฟ้าใส...ใจเขาค่อยๆอ่อนยวบลงและในที่สุดก็ยอมทานอาหาร หญิงสาวดีใจกุลีกุจอทำอาหารและเย้าว่าตนชอบเวลาที่เขาไม่ดื้อ ไม่เอาแต่ใจตัวเอง เฉินหมิงยิ้มรู้สึกดีขึ้น

ooooooo

เช้าวันต่อมาที่คฤหาสน์ตระกูลหวัง เทียนคงพาพรชัยมาฝากเนื้อฝากตัวกับหวังเฟย ในขณะที่แดเนียล มองอย่างไม่สบายใจเพราะรู้กิตติศัพท์ความร้ายกาจของพวกมัน พริมาเห็นกิริยาของลูกชายก็อดไม่ได้ที่จะถาม พอได้รู้เรื่องราวทั้งหมดก็บอกกับแดเนียลว่า

“แม่จะเตือนป๊าให้เองว่าคนพวกนั้นไว้ใจไม่ได้ ทางเดียวที่ลูกต้องทำคือหาทางให้ป๊าคืนตำแหน่งผู้นำแก๊งให้ได้”

“ผมมั่นใจว่าป๊ารู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว แต่เพราะพวกเขากำลังทำธุรกิจร่วมกัน ป๊าจึงเลือกเพิกเฉย ป๊าคงคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายคุมเกมของเทียนคงแต่ป๊ากำลังประมาท เทียนคงอันตรายกว่านั้นมาก ไม่อย่างงั้นเขาคงจะไม่ตบตาตระกูลเฉินได้มาหลายปี”

แดเนียลครุ่นคิดหาทางทำตามที่มารดาแนะนำ...

ตกค่ำเขาเจรจากับบิดาว่าต้องการกลับมาทำงานให้แก๊งอีกครั้ง หวังเฟยแปลกใจรีบดักคอว่า

“แกจะแก้แค้นแทนเพื่อนรักหรือไง ตั้งแต่เฉินหมิงหายไป ฉันไม่เห็นแกร้อนรนหรือเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย”

“เรื่องโบตั๋นทำให้ผมเรียนรู้...ผมไม่สามารถปกป้องชีวิตใครได้ ถ้าเขาไม่พยายามปกป้องตัวเองก่อน และบางทีเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกคนในตระกูลเฉิน...อาจจะน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่พวกมันทำกับเธอ!”

หวังเฟยมองลึกเข้าไปในดวงตาของลูกชาย เขาเห็นแต่ความโกรธแค้น ไม่มีพิรุธอื่นใด หวังเฟยจึงไม่คิดแคลงใจอะไรอีกและสั่งให้แดเนียลไปเยี่ยมเยียนผู้นำแก๊งอื่นๆเพื่อขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา แดเนียลเดินสายทำตามไม่เกี่ยงงอน ผู้นำเกือบทุกแก๊งไม่มีท่าทีรังเกียจกับการขอกลับมาทำงานของเขาโดยเฉพาะแก๊งเต่าดำ เถ้าแก่ชุนถึงกับเสนอว่าเฉินเปียวควรกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งเสือขาวมากกว่าเทียนคง แดเนียลมองหน้าเถ้าแก่ชุนอย่างมีนัยอะไร ต่างจากเฉินเปียวที่แย้งว่า

“ผมลืมมันไปหมดแล้ว ผมคือมังกรทอง ผมอยู่เพื่อบอส และจะตายเพื่อบอส ชีวิตผมเป็นของบอส”

“ชีวิตนายเป็นของนายเอง ฉันไม่เคยคิดเป็นเจ้าชีวิตใคร และถ้าวันที่นายจำเป็นต้องกลับไป ฉันก็อยากให้นายพร้อม”

ขณะที่เทียนคงกำลังภาคภูมิใจที่มีโอกาสนั่งในตำแหน่งสูงสุดของแก๊งเสือขาว พลันมีสายเรียกเข้าจากหวังเฟย

“แดเนียลขอฉันกลับมาทำงานกับแก๊งเหมือนเดิม และบอกว่าเขาเลิกสนใจเรื่องของเฉินหมิงแล้ว ฉันก็เลยอยากจะให้คุณช่วยพิสูจน์อะไรให้ทีว่าเขาคิดอย่างที่พูดจริงหรือเปล่า”

ไม่นานนักแดเนียลก็มาถึงที่ทำการแก๊งเสือขาว เฉินเปียวขยับจะตามแต่ถูกเจ้านายห้ามและให้รออยู่ข้างนอก ในขณะที่มาเฟียหน้าหยกเดินเข้าไปด้วยท่าทีนิ่งขรึม แต่แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นเฉินเซียวเหยานั่งรออยู่บนรถเข็นในห้องโถง เมื่ออยู่ตามลำพัง ภาพโบตั๋นถูกข่มขืนก็ผ่านเข้ามาในหัวพร้อมๆกับเสียงขอร้องที่เธอพร่ำบอกเขาให้อภัยศัตรู แดเนียลกำมือแน่นพยายามข่มความรู้สึกโกรธแค้น จนกระทั่งเขานึกถึงภาพตัวเองยิงสาวคนรักตายต่อหน้า...

เท่านั้นเองความรู้สึกโกรธแค้นก็เอาชนะความอดกลั้น แดเนียลทะยานเข้าไปกระชากคอเสื้อเฉินเซียวเหยา แล้วใส่หมัดไม่ยั้ง เสียงร้องไห้ด้วยความกลัวและไม่มีทางสู้ของพี่ชายเฉินหมิงดังระงม เทียนคงยืนมองเหตุการณ์นั่นอยู่เงียบๆที่ข้างบน แล้วเขาก็เห็นแดเนียลชักปืนออกมาเล็งไปที่เฉินเซียวเหยา เสียงสับไกปืนดังกริ๊ก

“คุณแดเนียล อย่าทำ...เขาตายไปไม่มีประโยชน์ สู้ให้เขาอยู่แบบนี้ถึงจะสาสมกับสิ่งที่เขาทำไว้กับโบตั๋น!”

เทียนคงส่งสัญญาณให้ลูกน้องมาลากตัวเฉินเซียว-เหยาออกไปทันที แดเนียลลอบถอนใจมองตามอย่างเป็นห่วง เมื่อกลับมาขึ้นรถ เฉินเปียวประหลาดใจที่บอสรู้ทันเกมในเรื่องนี้ แดเนียลอธิบายว่าตนเติบโตมาในดงมาเฟีย มองเห็นการทำงานของหวังเฟยมานับไม่ถ้วน เรื่องแบบนี้วิเคราะห์และเดาทางได้ไม่ยาก เวลานั้นหวังเฟยคุยโทรศัพท์กับเทียนคงอย่างอารมณ์ดี

“เขาถึงขั้นจะฆ่าเฉินเซียวเหยาเลยเหรอ แบบนี้สิถึงจะสมกับเป็นผู้นำแก๊งมังกรทอง”

ตรงกันข้ามกับความรู้สึกของเทียนคง เขาต้องฝืนพูดจาสุภาพกับหวังเฟยแต่ในใจเคียดแค้นอย่างหนัก หลังวางสาย เทียนคงกระชากเสียงเหี้ยมบอกกับพรชัยว่าตนต้องหาทางโค่นหวังเฟยให้ได้ก่อนที่แดเนียลจะกลับมา...

ooooooo

ที่บ้านริมน้ำ แดเนียลเล่าเรื่องที่ตนกระทำกับเฉินเซียวเหยาให้เฉินหมิงฟังและขอโทษที่ต้องเลือกใช้วิธีนี้เพื่อให้ทั้งเทียนคงและหวังเฟยตายใจไม่นึกระแวงตน เพื่อนรักพยักหน้าเข้าใจและบอกว่าวันหนึ่งตนจะกลับไปทวงทุกอย่างคืน

เวลาเดียวกันนั้นที่บ้านของฟ้าใส หญิงสาวย่องกลับไปเอาเสื้อผ้ามาเพิ่ม แต่ถูกหมออิฐขัดขวางถามว่าทำไมต้องหลอกคนทางบ้านว่าไปทำงานต่างจังหวัด ทั้งๆที่ไปทำงานให้กับแดเนียล ฟ้าใสหน้าเสียแต่ยังทำใจดีสู้เสือ

“พี่อิฐไม่ต้องเป็นห่วง งานที่ฟ้าทำไม่ได้ผิดกฎหมาย และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนแน่นอน...แต่ถ้าพี่อิฐบอกพ่อแม่ ฟ้าจะไม่พูดกับพี่ตลอดชีวิต”

หมออิฐจ้องฟ้าใสอย่างท้าทาย ชวนชมเดินออกมาเห็นท่าทางของทั้งคู่พอดีจึงถามว่าทะเลาะเรื่องอะไรกัน ชายหนุ่มตัดสินใจตัดไฟเสียแต่ต้นลมเพราะกลัวหญิงสาวจะมีอันตราย ฟ้องว่า

“ฟ้าไม่ยอมให้ผมบอกความจริงกับป้าชมที่ว่า...ฟ้าไม่ได้ทำงานที่สำนักพิมพ์โลลาแล้ว แต่ที่ฟ้าออกไปจากบ้านทุกวันเพราะไปทำงานให้คุณแดเนียล แล้วเป็นงานอะไรก็ไม่รู้ถึงต้องมีลับลมคมใน และต้องออกไปค้างคืนข้างนอกตลอด”

ชวนชมไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรมาก กลับบอกว่าตนรู้เรื่องนั้นนานแล้ว ถ้าไม่รู้ก็คงเป็นแม่ที่ไม่เอาไหน พร้อมกับมองลูกสาวอย่างตำหนิ ฟ้าใสคอตกก้มหน้านิ่ง ...หมออิฐหน้าเหวอ ก่อนจะได้ยินชวนชมสั่งฟ้าใสให้เข้าไปคุยในบ้าน

“แค่ไปดูแลเฉินหมิง ทำไมฟ้าต้องปิดบังแม่...แต่เอาเถอะมาจนถึงป่านนี้แล้ว อย่าเพิ่งบอกพ่อล่ะ ขานั้นเข้าใจอะไรยาก คุณแดเนียลนี่แปลกคน รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่าเฉินหมิงมีใจให้ลูก ไปอยู่ใกล้ชิดขนาดนั้น เขาไม่กลัวถูกแย่งหรือไง”

“เพราะเขารู้ว่าฟ้าจะไม่หวั่นไหวจ้ะ”

“แต่ผู้ชายเขาก็มีศักดิ์ศรีของเขานะ ที่แม่รู้เพราะพ่อเคยพูดให้ฟัง...ตกลงว่าคุณแดเนียลเขารักฟ้าจริงหรือเปล่า”

ฟ้าใสนิ่งเงียบคิดคล้อยตามมารดา เธอเพิ่งฉุกคิดได้ว่าแดเนียลมีกิริยาท่าทางเปลี่ยนไปเหมือนไม่ค่อยอยากจะพบหน้าเธอเท่าไร และยิ่งใจเสียเมื่อกลับมาถึงบ้านริมน้ำแล้วพบว่าเขาไม่อยู่รอพบเธอแม้แต่วินาทีเดียว เฉินเปียวอ้างว่าบอสมีธุระด่วน แต่พอฟ้าใสโทร.ไปก็ไม่รับสาย หญิงสาวนึกถึงสิ่งที่มารดาพูดว่าผู้ชายรักศักดิ์ศรียิ่งชีพ

รุ่งขึ้นวันต่อมา ฟ้าใสอดรนทนไม่ได้บุกไปหาแดเนียลถึงที่ทำงาน แต่ต้องผิดหวังเพราะเขาไม่ให้พบอ้างว่ามีงานยุ่งทั้งวัน หญิงสาวดึงดันที่จะนั่งรอพบให้ได้ เฉินเปียวรู้สึกสงสารแต่พอถามบอสกลับไม่มีคำตอบว่าทำไมถึงหมางเมินกับเธอ

“คุณฟ้าครับ บอสฝากให้ผมมาบอกว่าให้กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองครับ อย่ามาเสียเวลานั่งรอ”

ฟ้าใสเหลือบมองไปทางแดเนียล เธอเห็นเขาก็แอบมองอยู่เหมือนกัน ฟ้าใสน้ำตาคลอมั่นใจว่าเขาจงใจหลบหน้าเธอ ด้วยความน้อยใจและมีทิฐิ หญิงสาวเดินจ้ำเท้าออกไปอย่างเร็วโดยไม่ฟังคำทัดทานของเฉินเปียวว่าจะไปส่งที่บ้าน

หลายวันผ่านไป ฟ้าใสตัดสินใจไปหาแดเนียลที่บ้านอีกครั้ง พริมาดีใจที่ได้เจอหญิงสาว แต่แปลกใจในท่าทีของคนทั้งสองที่เหมือนมีเรื่องบางอย่างในใจ แดเนียลเดินนำเธอไปที่สวน ฟ้าใสถามอย่างมีอารมณ์ว่า

“ทำไมคุณต้องหลบหน้าฉัน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะแดเนียล...บอกเหตุผลมาตามตรงว่าคุณอยากให้ฉันรักเฉินหมิงใช่ไหม ทั้งๆที่คุณรู้ดีว่าฉันรักใคร ฉันรู้ว่าคุณสงสารเขาแต่ฉันไม่ใช่ของเล่นที่คุณจะแบ่งปันให้ใครก็ได้ ฉันคือคนที่รักคุณคนเดียว อย่าทำเฉยชากับฉันอีกเลย...มันเจ็บ”

แดเนียลดึงฟ้าใสมากอดและจูบศีรษะ มันทำให้ฟ้าใสเริ่มมีความหวังว่าสิ่งที่เธอพูดคงจะกระตุ้นความรู้สึกของเขาให้กลับมาเหมือนเดิม แต่เธอคิดผิดเพราะเขาอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่นว่า

“ผมเคยรักโบตั๋นและไม่คิดว่าจะรักใครได้อีก กระทั่งผมพบคุณ...จึงรู้ว่าเราห้ามหัวใจไม่ให้รักใครอีกไม่ได้ เชื่อผมเถอะ...ถ้าคุณรู้จักเฉินหมิงมากพอ คุณจะห้ามหัวใจไม่ให้รักเขาไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพวกคุณรักกัน...ผมจะมีความสุขมากที่สุด”

ฟ้าใสตะลึงกับความคิดของแดเนียล มันเหมือนกับมีฟ้ามาผ่าที่กลางหัวใจ เธอนิ่งจ้องเขาอยู่ชั่วครู่ราวกับคิดหาคำตอบให้กับตัวเอง ก่อนตัดสินใจเอ่ยว่า

“ถ้าคุณต้องการแบบนั้น ฉันก็จะทำเพื่อความสุขของคุณ...คนที่ฉันรักสุดหัวใจ”

เมื่อฟ้าใสกลับมาถึงบ้านริมน้ำ เฉินหมิงปราดเข้ามาถามว่าหายไปไหนมา ทำไมจึงกลับดึก หญิงสาว ไม่ตอบแต่ตาแดงก่ำ น้ำตาเริ่มเอ่อคลอ พอชายหนุ่มโอบกอดปลอบโยน เธอก็ปล่อยโฮร้องไห้อย่างอดกลั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว

เช่นเดียวกับความรู้สึกของแดเนียล เขาจำเป็นต้องตัดใจเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดกับโบตั๋น และเวลานี้ เฉินหมิงเป็นคนเดียวที่เขาไว้ใจได้ว่าจะดูแลหญิงสาวคนรักให้ปลอดภัยและมีความสุข

ส่วนความรักของเฉินเปียวกับปุยฝ้ายก็ไม่ต่างกัน เวลานี้มีแต่ความอึมครึมเพราะความเข้าใจผิดของฝ่ายหญิง เธอพยายามหลบหน้าไม่รับสาย ภายในใจมีแต่คำถามว่าที่ผ่านมา ทำไมเฉินเปียวจึงหลอกว่าเป็นโสด แท้ที่จริงแล้วแอบเก็บซ่อนทั้งเมียและลูก อย่างไรก็ตาม นิสัยของ

เฉินเปียวต่างจากบอสตรงที่ว่าเมื่อสงสัยอะไร เขาจะไม่เก็บไว้ ต้องเคลียร์ให้ชัดเจน ชายหนุ่มบุกไปหาปุยฝ้ายถึงที่ทำงานและบอกว่าให้มาเจอกันที่ร้านอาหารตอนทุ่มครึ่งคืนนี้ หญิงสาวอึ้งแต่ไม่อาจปฏิเสธได้

ด้านเทียนคงเดือดดาลใจเมื่อถูกเรียกประชุมและพบว่าเถ้าแก่ชุน ผู้นำแก๊งเต่าดำเสนอให้คืนตำแหน่งผู้นำแก๊งเสือขาวกับเฉินเปียวผู้สืบเชื้อสายทายาทที่แท้จริง หวังเฟยสบตาเทียนคงหนักใจ ก่อนจะตัดบทว่าธุรกิจกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงอะไรในเวลานี้ที่จะส่งผลกระทบต่อแก๊ง เถ้าแก่ชุนไม่ยอมแพ้แย้งว่าพวกเขาควรทำในสิ่งที่ถูกต้อง เทียนคงมองการโต้เถียงตรงหน้าแล้วคิดแผนร้ายขึ้นมาได้...

หลังการประชุม เทียนคงโทร.สั่งพรชัยให้จัดการเก็บเสี้ยนหนามของการเป็นใหญ่ เถ้าแก่ชุนถูกลอบฆ่าในโรงนวดในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ส่วนเฉินเปียวก็ไม่ต่างกันเพราะมีใบสั่งมาจากเทียนคงเช่นกัน แต่เขายังโชคดีที่โจวเผอิญผ่านมาพบรถของเขามีร่องรอยการต่อสู้จึงสามารถไปช่วยชีวิตได้ทันท่วงที เฉินเปียวสลบไปหลายชั่วโมงทำให้พลาดนัดกับปุยฝ้าย ทำให้หญิงสาวจิตตกมากยิ่งขึ้น

รุ่งเช้า หวังเฟยถูกผู้นำแก๊งต่างๆเรียกประชุมด่วน อันมีสาเหตุมาจากการตายของเถ้าแก่ชุน ผู้นำคนอื่นๆ เริ่มไม่ไว้ใจในสถานการณ์จึงเสนอว่า

“ตอนนี้เถ้าแก่หวังตกเป็นผู้ต้องหา คุณแดเนียลก็ยังมีคดีเรื่องยาเสพติดติดตัว พวกเราคิดว่าควรต้องยกตำแหน่งผู้นำของสมาชิกให้แก๊งเสือขาวดูแลไปก่อนจะดีกว่า”

ทั้งหวังเฟยและแดเนียลจ้องหน้าเทียนคงรู้ทัน... เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นแผนการของเทียนคงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไรมาค้าน หวังเฟยจำใจยอมลงจากตำแหน่ง เมื่อกลับถึงบ้าน เขาโวยวายลั่นว่าพวกนั้นรวมหัวกันโค่นอำนาจตน พริมาวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์นี้คล้ายกับตอนที่แดเนียลถูกใส่ร้ายเรื่องยาเสพติด หวังเฟยชะงักคิดคล้อยตามภรรยา ในขณะที่ลูกชายรับอาสาจัดการเรื่องนี้แทน โดยขอให้ทุกคนทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ถ้าแกหาหลักฐานมาได้ว่ามีใครใส่ร้ายฉัน ฉันจะคืนตำแหน่งผู้นำแก๊งมังกรทองให้แก”

แดเนียลยิ้มหมายมั่นว่าเรื่องนี้ไม่คณามือตนแน่นอน พลันมีลูกน้องหวังเฟยมารายงานว่าสารวัตรทวยเทพขอเข้าพบ มาเฟียหนุ่มยิ้มถูกใจ พวกตำรวจช่างเข้ามาในเวลาที่พอเหมาะพอดี ขณะนั้นที่บ้านตระกูลเฉิน เทียนคงกำลังอิ่มเอมใจกับตำแหน่งผู้นำแก๊งหลัก เขารอคอยเวลานี้มานานไม่เคยมีใครในแก๊งเสือขาวเคยทำได้ แม้แต่เฉินฮ่าว...

ooooooo

แดเนียลพาสารวัตรทวยเทพไปที่บ้านริมน้ำ ตำรวจหนุ่มแปลกใจเมื่อเจอฟ้าใสที่นั่นด้วย มาเฟียหนุ่มเริ่มเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเฉินหมิงรอดตายหวุดหวิด การใส่ร้ายคดียาเสพติด หรือการฆาตกรรมเถ้าแก่ชุน

“ผมอยากให้สารวัตรรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเรา... จะได้รู้ว่ามีคนอื่นที่ควรตกเป็นผู้ต้องสงสัยมากกว่าคุณป๊าผม”

เฉินหมิงมองหน้าทวยเทพอย่างไม่ชอบใจนัก เหตุการณ์ร้ายที่ผ่านมาสอนให้เขาไม่ไว้ใจใครอีก

แดเนียลปรามให้เขาใจเย็น เพราะเวลานี้พวกเราต้องได้รับความร่วมมือจากพวกตำรวจ และยืนยันให้ไว้ใจตนว่าจะจัดการได้เรียบร้อย

ด้านฟ้าใสพยายามสะกดท่าทีไม่ให้แสดงออกว่ายังมีเยื่อใยต่อแดเนียล เธอทำเป็นไม่สนใจเขา แต่แท้ที่จริงแอบไปยืนร้องไห้อยู่ภายในห้อง เฉินเปียวมองท่าทีของสองฝ่ายอย่างหนักใจ เขาฉุกคิดได้ว่าเรื่องความรักของเขาเองก็ยังไม่คลี่คลาย บ่ายวันเดียวกัน ชายหนุ่มจึงบุกไปหาปุยฝ้ายที่สำนักพิมพ์โลลาอีกรั้ง

“บอกความจริงกับผม ผมทำอะไรให้คุณโกรธ คุณถึงต้องทำเฉยชากับผม”

“ฉัน...ฉันไม่ค่อยมีเวลา และฉันก็ไม่อยากให้กิ๊กของฉันเข้าใจเราสองคนผิด”

เฉินเปียวโมโหก้มจูบปากปุยฝ้ายอย่างรุนแรงจนเธอเคลิบเคลิ้ม ประจวบเหมาะกับหนูดีและเจนเดินมาพบเข้า ทั้งสองคนตาโตคาดไม่ถึงว่าปุยฝ้ายจะกล้าทำอะไรเช่นนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าฝ่ายชายมีลูกมีเมียอยู่แล้ว หนูดียกมือถือถ่ายคลิปเด็ดไว้ทันที

เมื่ออารมณ์เย็นลง สติกลับมา...เฉินเปียวก็ถอนใจเบาๆแล้วยกมือเช็ดน้ำตาให้ปุยฝ้ายถามว่า

“อย่าพยายามพูดว่าคุณมีคนอื่นเพราะผมไม่เชื่อ บอกความจริงกับผมมาเถอะ ผมทำอะไรให้คุณโกรธ”

“คุณนั่นแหละ มีความลับอะไรจะสารภาพกับฉันหรือเปล่า...แล้วคนที่คุณซ่อนไว้ล่ะ”

มาเฟียหน้านิ่งยืนงงก่อนจะเข้าใจว่าหญิงสาวพูดถึงเฉินหมิง จึงตอบว่ามันเป็นหน้าที่ของตน เลือดในกายของปุยฝ้ายวิ่งพล่านด้วยความโกรธ เธอตวาดเขากลับ

“หน้าที่เรอะ พูดออกมาได้...งั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องลืมผู้ชายเลวๆอย่างคุณเอง ลาก่อนเฉินเปียว”

เฉินเปียวมองตามหลังหญิงสาวอย่างไม่สบายใจ ในขณะที่หนูดีปล่อยคลิปเด็ดเข้าสู่กลุ่มไลน์ของสำนักพิมพ์อย่างว่องไว ปุยฝ้ายวิ่งหนีเฉินเปียวมาร้องไห้ในห้องน้ำ แล้วได้ยินพนักงานคนอื่นๆนินทาว่าเธอไปจูบกับผัวชาวบ้าน

เท่านั้นเอง หญิงสาวฟิวส์ขาดเปิดประตูตามหา หนูดีทันที เมื่อพบทั้งสองเปิดศึกตบตีกลายเป็นจลาจลย่อยๆ ราเมศพยายามห้ามปราม แต่กลับโดนลูกหลงจนบาดเจ็บถึงกับต้องส่งโรงพยาบาล

ooooooo

ที่บ้านริมน้ำ ฟ้าใสนั่งหน้าเศร้าคิดถึงแดเนียล ในขณะที่เฉินหมิงเดินออกจากห้องนอนในชุดเตรียม พร้อมรบ หญิงสาวหน้าเครียดถามว่าจะไปไหน ตนไม่ให้ไปเพราะยังไม่หายดี มาเฟียหน้าหวานยักไหล่ไม่ยี่หระ

“ผมจะกลับไปที่บ้านเพื่อเอาหลักฐานมาให้แดเนียลเล่นงานเทียนคง...ก่อนที่ป๊าจะเสีย แก๊งเสือขาวเคยโกงธุรกิจจากแก๊งอื่น พวกมันส่งหมายศาลมาขู่ว่าจะฟ้องป๊ายอมจ่ายชดใช้ให้แก๊งนั้นไปเยอะมากจนพวกมันถอนฟ้อง ถ้าทุกคนได้เห็นหมายศาลฉบับนั้นก็จะรู้ว่า...แก๊งเสือขาวเคยทำผิดกฎขององค์กรที่ห้ามโกง ทำให้ไม่สมควรที่จะได้เป็นผู้นำแก๊งอื่น”

“แต่ฉันว่าคุณควรอดทนไว้...อย่าทำให้แผนทุกอย่างของแดเนียลพัง ถึงเวลาที่ร่างกายคุณพร้อม ฉันจะไม่ห้ามคุณอีกเลย ว่าแต่คุณเก็บเอกสารไว้ที่ไหนกัน”

“ลิ้นชักในห้องนอน ผมได้แต่ภาวนาว่าเทียนคงจะไม่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้”

ฟ้าใสคิดตามและมองเฉินหมิงด้วยแววตามุ่งมั่น ตัดสินใจว่าในเมื่อเฉินหมิงไปไม่ได้ ตนนี่แหละจะลองเสี่ยงเข้าถ้ำเสือดูสักครั้ง และแล้วบ่ายวันเดียวกัน หญิงสาวก็ไปปรากฏกายที่คฤหาสน์ตระกูลเฉินโดยทำทีเป็นว่ามาเยี่ยมเฉินเซียวเหยาและสอบถามถึงข่าวคราวของเฉินหมิง เทียนคงแปลกใจแต่เห็นว่าเป็นโอกาสดีเผื่อว่าแดเนียลจะใจอ่อนยอมกลับลำมาเป็นพรรคพวกจึงอนุญาตให้ฟ้าใสเข้าพบได้ตามที่ขอ พร้อมกันนั้น เขาต่อสายหาหวังเฟยรายงานว่า

“เถ้าแก่หวัง เรื่องหุ้นของเถ้าแก่ชุน ผมจะปล่อยให้เป็นเหมือนเดิม เพื่อแก๊งเขาจะได้มีเงินสนับสนุน และฝากบอกคุณแดเนียลด้วยนะครับว่า...คุณฟ้าใสแวะมาเยี่ยมคุณชายใหญ่ที่นี่”

ooooooo

กาลครั้งหนึ่งในหัวใจ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด