ตอนที่ 14
ออกจากที่พักแขมแขในคืนนั้น ครุยเจอพวกยงดักจับตัวไปให้ยันต์ ครุยไม่ขัดขืนเพราะจงใจท้าทายเจ้าพ่อซึ่งหน้าด้วยระเบิดหนึ่งลูกก่อนหนีลอยนวลออกมาได้ในที่สุด
แรงระเบิดสร้างความเสียหายบริเวณหน้าบ้าน ยันต์โกรธจนตัวสั่นด่ากราดสมุนว่าโง่ให้ครุยหลอกพาเข้ามาระเบิดบ้านตนเล่น...แต่เช้าวันถัดมา ยันต์พักเรื่องครุยไว้ก่อนเพราะมีเรื่องสำคัญเร่งด่วนกว่าคือเตรียมวางแผนพิชิตชัยชนะการเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นซึ่งต้องใช้เงินมหาศาลในการซื้อเสียง ด้วยการค้าอาวุธสงครามกับชาวต่างชาติที่คุ้นเคยกัน ขาลล่วงรู้เรื่องนี้ด้วยความกังวล
ในขณะที่ยันต์จะเลือกใช้วิธีหว่านเงิน แต่แขมแขยังเดินหน้าใช้ใจอย่างต่อเนื่อง เธอกับบุญท้วมได้แนวร่วมเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยที่รู้จักคนมากหน้าหลายตา แต่พอสมุนของยันต์รู้เห็นเจ๊ก็โดนซ้อมจนสลบคาร้านตามคำสั่งของยันต์ หากใครให้ความร่วมมือหรือสนับสนุนแขมแขให้จัดหนักจะได้หลาบจำ
บุญท้วมกับแขมแขทราบข่าวรีบไปเยี่ยมเจ๊จิ้งหรีดที่โรงพยาบาล พอเจ๊ฟื้นขึ้นมาแทนที่จะกลัวหรือหลาบจำอย่างที่ยันต์คาด กลายเป็นเจ๊ฮึดสู้จะหาแนวร่วมให้แขมแขมากขึ้นไปอีก
วันที่ยันต์นัดหมายเจรจากับหว่องและอาลีเรื่องค้าอาวุธสงคราม ครุยแอบติดตามแล้วปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารแต่เอาลูกปืนวางในถาดเป็นการท้าทาย ยันต์มั่นใจเป็นฝีมือครุยจึงสั่งสมุนตามล่าฆ่ามันให้ได้ แต่ครุยก็ใช้ความว่องไวควบมอเตอร์ไซค์หนีรอดไปได้อีกตามเคย
ยันต์กลับบ้านด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวกราด รู้สึกตนเองอยู่ในสายตาของครุยตลอดเวลา
“ไอ้จ่าครุยมันทำให้ฉันรู้สึกว่ามีฉันที่ไหน ต้องมีมันที่นั่น นี่แสดงว่าฉันอยู่ในสายตาของมัน แม้แต่เรื่องที่ฉันมีนัดสำคัญกับมิสเตอร์หว่อง”
ยงรายงานว่าตนไปตามจ่าครุยทั่วเมืองแล้วแต่ไม่พบ ขาลเชื่อว่าครุยไปมาเหมือนลมพัดเขาคงไม่ยอมทิ้งร่องรอยให้ใครแกะได้ง่ายๆ แต่ยันต์มั่นใจว่ามีอยู่สองที่ที่ครุยต้องไปคือป่าช้าสัปเหร่อโข่งกับโรงเลื่อยเสี่ยไพบูลย์
“แต่โรงเลื่อยเสี่ยไพบูลย์คุ้มกันแข็งแรง ยากที่จะบุกเข้าไปค้นตัวจ่าครุยครับ”
“แล้วป่าช้าของสัปเหร่อโข่งล่ะ พวกแกกลัวผีหลอกหรือยังไงวะ เลือกเอา...ระหว่างผีกับฉัน แกจะกลัวใครมากกว่ากัน”
ยงหน้าซีดเผือด แน่นอนว่าเขาต้องเลือกกลัวยันต์มากกว่า คืนนั้นจึงขนคนไปบุกป่าช้าแต่โดนพวกสัปเหร่อโข่งจัดหนักด้วยระเบิดขี้หมาผลิตเองจนกระเจิดกระเจิงอ้วกแตกอ้วกแตน กลับมารายงานยันต์ว่าไม่มีร่องรอยจ่าครุยที่ป่าช้า
“ไอ้สัปเหร่อโข่งนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ ถ้าจับตัวสัปเหร่อโข่งมายิงทิ้งได้เท่ากับเราตัดแขนไอ้จ่าครุยไปข้างนึง เสียดายที่ตอนนี้ฉันออกตัวเป็นข่าวไม่ได้ ไม่อย่างงั้นฉันจะแจ้งตำรวจจับสัปเหร่อโข่งข้อหาทำปืนเถื่อน... จ่าครุยไม่ได้อยู่ในป่าช้าแล้วมันอยู่ที่ไหน”
“คนของเราที่เฝ้าดูอยู่ที่โรงเลื่อยเสี่ยไพบูลย์ก็บอกว่าจ่าครุยไม่ได้ไปที่นั่นครับ”
“จ่าครุยไปมาไร้ร่องรอยก็ดีแล้ว ไปจับตัวสัปเหร่อโข่งมาเป็นๆ ส่วนแก...ขาล รอมิสเตอร์หว่องติดต่อกลับมา บอกเขาว่าฉันพร้อมจะนัดพบเขาอีกครั้ง”
ทุกคนรับคำสั่งแล้วแยกย้ายกันไป พวกยงหนักใจไม่รู้ว่าสัปเหร่อโข่งจะซ่อนอาวุธพิเรนทร์อะไรไว้บ้าง จึงเลือกตามแกะรอยพวกมันแทนที่จะเข้าไปถึงรังในป่าช้า
ooooooo
มะตูม เก่ง และฮวดนั่งเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อหาข่าวของยันต์จากหน้าเฟซบุ๊ก กลอยใจ สาลิกา มไหศวรรย์และอินทร์รุมล้อมด้วยความสนใจ
“ไอ้ยันต์มันลงเฟซทุกวัน เดี๋ยวทำบุญที่นั่น ปราศรัยที่นี่ มอบสมุดดินสอ เครื่องกีฬาให้โรงเรียนตามชนบท มันทำตัวเป็นพระเอกได้ทุกวันโดยไม่ละอายใจ”
“มันคงหาเสียงเพื่อแข่งกับคุณแขมแข แล้วมีข่าวคุณแขมแขบ้างไหม”
“มีแต่นโยบายกับตารางหาเสียงที่นั่นที่นี่”
“เสียงของคุณแขมแขเป็นยังไงบ้าง”
“ยังเป็นที่น่าหนักใจ”
ทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันคืออยากช่วยแขมแขหาเสียง พอกลอยใจเปิดประเด็นคนอื่นๆจึงเฮละโลสนับสนุน แต่ถูกสัปเหร่อโข่งเบรกเอาไว้
“ยังไม่ต้องออกไปไหน อยู่ในป่าช้านี่แหละ ข้าจะออกไปตลาดกับไอ้อ่างไอ้ฮวด”
“ปลาแดกหมดไหน่ะพี่สาลิกา พวกฉันกับลุงโข่งเลยต้องออกไปซื้อปลาแดกมาไว้เป็นอาหารหลัก”
“เห็นจะต้องยกเป็นไหล่ะ จะได้ไม่ต้องออกไปซื้อบ่อยๆ ความจริงเราอยู่ในป่าช้านี่มีหลุมว่างๆอยู่เยอะแยะเพราะเขาขุดศพไปเผาตอนล้างป่าช้า เราน่าจะเพาะปลูก ปลูกที่กิน กินที่ปลูก จะเป็นการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง”
สัปเหร่อโข่งพูดเป็นตุเป็นตะ แต่คนอื่นๆกระอัก กระอ่วนไม่เอาด้วย ให้ซื้อเขากินน่าจะดีกว่าเยอะ
ขณะที่สัปเหร่อโข่ง อ่าง และฮวดเร่งไปตลาดแล้วจะรีบกลับเพราะไม่ต้องการจ๊ะเอ๋กับสมุนของยันต์ แต่สองฝ่ายก็หนีกันไม่พ้น ครุยเห็นพวกไอ้ยงด้วยความบังเอิญจึงบิดมอเตอร์ไซค์ตามมา เลยได้ร่วมวงทะเลาะวิวาทกันกลางตลาด เขซึ่งขออนุญาตพ่อดาวมาตามหาสาลิกากับมไหศวรรย์มาประสบเหตุเข้าพอดี
หลังจากทำให้พวกไอ้ยงสะบักสะบอมงอมพระรามแล้วพวกครุยพากันกลับป่าช้า เขดีใจมากที่ได้พบสาลิกา สาวๆต่างช่วยกันตำส้มตำและทำอาหารอีสานอีกสองสามอย่าง ในขณะที่ผู้ชายคุยกันเคร่งเครียดหลังจากครุยบอกว่ายันต์ร่วมกับคนต่างชาติค้าอาวุธสงคราม
“มิสเตอร์หว่องมีประวัติอาชญากร หลบหนีเข้าประเทศ เราต้องขัดขวางมันเพราะถ้ายันต์ ยมราช ทำสำเร็จ หมายถึงเงินจำนวนมหาศาลจะเข้ามาต่อปีกต่อหางให้มัน”
“ข้อมูลของจ่าชัดเจนแล้วหรือ”
“ผมเคยเก็บประวัติอาชญากรไว้ในข้อมูลของผม ตั้งแต่ตอนที่เป็นตำรวจ”
“เรื่องมันชักจะใหญ่เกินกำลังเราหรือเปล่าครับ จ่าครุย”
“ทุกเรื่องที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ไม่เกินกำลังที่เราจะขัดขวางมันหรอกหมวด”
“แต่ต้องไม่ใช่วิธีที่เอ็งทำอยู่ มันเสี่ยงอันตรายเกินไป” สัปเหร่อโข่งติง แต่ครุยยืนยันว่าตนคุ้นกับการทำงานคนเดียว หมวดอินทร์อาสาช่วยเหลือเพราะขาของตนดีขึ้นมากแล้ว ครุยก็ยังไม่ยินยอม
“จ่านี่หัวดื้อจริงๆ” มไหศวรรย์บ่นอย่างหนักใจ มะตูมเองก็เป็นห่วงครุย ขยับเข้ามาทันทีที่เห็นเขาเตรียมตัวเดินทาง ถามว่าอาจะไปไหน สาลิกาและกลอยใจเชื่อว่าไม่ได้คำตอบจึงบอกมะตูมให้ทำใจ
มะตูมหน้าสลดแต่ยังเดินตามครุยไปที่รถมอเตอร์ไซค์ด้วยความรักและห่วงใย อยากรู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่
“ยังไม่รู้...ไม่ต้องรอ”
“มะตูมไม่เชื่อหรอก จะรอทุกวันทุกคืน รออาครุยกลับ จะได้รู้ว่าอาครุยยังไม่ตาย”
ครุยไม่พูดอะไรอีก สตาร์ตรถขับออกไป มะตูมอาวรณ์ชะเง้อมองตามจนลับสายตา
ooooooo
ยันต์ตำหนิยง ราหู รามสูร และสุครีพที่ทำงานพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าจับสัปเหร่อโข่งไม่ได้สักที
“กะอีแค่สัปเหร่อ ทำไมจับไม่ได้วะ ฉันบอกแล้วไงว่าคนพวกนี้เป็นแขนเป็นขาให้จ่าครุย ต้องตัดแขนตัดขามันทิ้ง มันอาจจะหยุดจ่าครุยได้ ถ้าจ่าครุยไม่ได้อยู่ที่ป่าช้า มันควรจะอยู่ที่ไหน ขาล...แกตอบคำถามของฉันสิ”
“ผมตอบไม่ได้หรอกครับคุณยันต์ เพราะมีคนเห็นจ่าครุยที่นั่นที่นี่ เขาคงจะเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ แบบข้ามาคนเดียว”
“เปลี่ยนที่อยู่เหรอ แล้วแกคิดว่าจ่าครุยควรจะอยู่ที่ไหน”
ยันต์ยุติเรื่องครุยเพราะยังไม่มีใครสักคนรู้ว่าเขาอยู่ไหน แล้วเปลี่ยนไปวางแผนค้าอาวุธสงครามที่กำลังรอออเดอร์มาก่อนสั่งของ ยันต์ย้ำว่าต้องเลือกกลุ่มลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธสมรรถนะเหนือคนอื่น
“ใครครับ” ขาลถาม
“พวกที่กำลังทำสงคราม ผู้ก่อการร้าย ฉันไม่สนหรอกว่ามันจะเป็นใคร มันก็แค่การทำธุรกิจ ฉันต้องใช้เงิน จ่าครุยทำลายธุรกิจที่เป็นแหล่งเงินของฉันทุกทาง ฉันไม่มีเงินแจกจ่ายซื้อเสียง ก็ต้องใช้วิธีทำธุรกรรมกับมิสเตอร์หว่อง”
“แล้วคุณยันต์จะส่งอาวุธลอตแรกเมื่อไหร่ครับ”
ยงเหลือบตามองขาล เก็บซ่อนความสงสัยไว้เงียบๆ ขณะที่ยันต์ทำท่าเหมือนจะตอบแต่แล้วเปลี่ยนใจบอกเพียงว่าไม่ใช่ตอนนี้...
แขมแขกับบุญท้วมยังคงเดินหน้าหาเสียงตามตลาดและแหล่งชุมชนในเมืองโคราชเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ไม่ปกติเพราะมีแก๊งของสาลิกาซึ่งประกอบไปด้วยมไหศวรรย์ เข กลอยใจ มะตูม เก่ง และเฮงยกโขยงมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างความคึกคักครึกครื้นเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมาก
สาลิกาไม่ได้ตะโกนหาเสียงอย่างปกติธรรมดาแต่ร้องหมอลำเชิญชวนให้เลือกแขมแขโดยมีมไหศวรรย์กับพวกมะตูมฟ้อนรำเป็นลูกคู่อย่างสนุกสนาน แขมแขตื้นตันจนพูดไม่ออก ขณะที่ยันต์ซึ่งนั่งรถมากับสมุนรู้เห็นโดยบังเอิญถึงกับเดือดดาลสั่งสมุนไปป่วนพวกมันให้วงแตก แต่ขาลชิงห้ามไว้เสียก่อน
“อย่านะครับคุณยันต์ ตอนนี้คุณยันต์กำลังจะลงเล่นการเมืองท้องถิ่น ต้องมีหน้ากากหลายๆอันไว้สวม สวมหน้ากากดีกว่าครับ สุขุม อดทน มีเมตตา แล้วก็เป็นพ่อพระ”
ยันต์มองหน้าขาลแล้วข่มใจไม่เอาเรื่องอีกฝ่ายและไม่หลงไปกับคำพูดยั่วยุของพวกสาลิกาที่ต้องการให้ยันต์กับแขมแขโต้วาทีกันต่อหน้าประชาชนที่กำลังลังเลว่าจะเลือกใครดี
ยันต์ปฏิเสธแล้วกลับไปด้วยความโกรธ ขาลไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยในการตัดสินใจของเจ้านาย ทั้งที่เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้เสนอนโยบายแข่งกับคู่แข่ง
“ขืนฉันออกแรงโต้กับพวกมัน ฉันก็แย่น่ะสิ แกดูปากของพวกมันแต่ละนางซะก่อน นังมะตูมยังงี้ นังสาลิกายังงี้ นังบุญท้วม ไอ้ไห แล้วยังกลอยใจอีก ปากแต่ละคนอย่างกับกรรไกร”
“แต่ผมเสียดาย”
“ฉันก็เสียดาย แต่นี่มันเป็นกลลวง มันจะฉีกหน้าฉันต่อหน้าคนทั้งเมืองน่ะสิ”
ยงเห็นด้วยและเสริมว่า “มีคนออกตัวเป็นพวกคุณแขมแข ก็มีคนกล้าตามออกมาเป็นพวกมันอีกครับคุณยันต์”
“ฉันถึงได้สั่งให้จัดการไง”
“อย่านะครับ”
“ทำไมวะ” ยันต์ฉุนเฉียวใส่ขาลที่ขัดอยู่เรื่อย แต่ขาลก็มีเหตุผลมาหักล้างไปได้ทุกที
“ขืนคุณยันต์ทำอย่างงั้นจะไม่เป็นการดีกับเสียงของคุณเลยนะครับ คนกำลังจ้องมองคู่แข่งของคุณยันต์อยู่ว่ามีกึ๋นแค่ไหน”
“แขมแขอาจจะมีกึ๋น แต่แขมแขไม่มีเงินเหมือนอย่างที่ฉันมี”
“ดูเหมือนโยบายของคุณแขมแขจะไม่ใช้เงิน”
“นั่นแหละคือจุดด้อยของแขมแขล่ะ สมัยนี้อะไรจะมาเสียงดังไปกว่าเงิน ฉันจะทุ่มเงินเพื่อซื้อเสียงมาให้ได้ ฉันจะต้องชนะแขมแข” ยันต์ประกาศกร้าว มุ่งมั่นมากเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะด้วยวิธีหว่านเม็ดเงิน
ooooooo
แขมแขมีความหวังที่ได้พวกสาลิกามาช่วยหาเสียง ที่สำคัญวันนี้ทุกคนทำให้ยันต์เสียหน้ากลับไปถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเยี่ยม
“ใช่...มันไม่กล้าโต้วาทีกับคุณแขมแขเรื่องนโยบาย แสดงว่ามันไม่มีนโยบาย ไม่รู้จักนโยบาย สักแต่ว่าใส่สูทแล้วดูดี คนแบบนี้เอาไปเป็นปากเสียงแล้วประชาชนจะได้อะไร”
“แล้วนี่...ไปมากันยังไง” บุญท้วมสงสัย
“พวกเรารวมกันอยู่ที่ป่าช้าสัปเหร่อโข่ง กินนอนบนโลงศพ เพราะที่นั่นเป็นที่เดียวที่ปลอดภัย”
แขมแขเห็นใจทุกคนที่เดือดร้อนลำบากเพราะครุย จึงชวนมาอยู่ด้วยกันที่โรงเลื่อยดีกว่านอนบนโลงศพ มีคนคุ้มกันแน่นหนาพอสมควร
สาลิกากับมะตูมเกรงใจแขมแขจึงให้มไหศวรรย์กับเก่งและเฮงกลับไปอยู่ป่าช้ากับลุงโข่งเหมือนเดิม ส่วนกลอยใจลังเลเพราะเป็นห่วงหมวดอินทร์ แต่พอมไหศวรรย์บอกว่าไม่ต้องห่วง ขาหมวดอินทร์ดีขึ้นมากแล้ว เรื่องส่วนตัวเก็บไว้ก่อน เรื่องสังคมต้องเดินหน้า กลอยใจก็คลายกังวลและยินดีให้ความร่วมมือ
มไหศวรรย์ เก่ง และเฮงกลับมาเล่าให้สัปเหร่อโข่งกับหมวดอินทร์ฟัง ปรากฏว่าสองคนเห็นด้วยที่พวกผู้หญิงแยกตัวไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยกว่าป่าช้า
“ก็ดีเหมือนกัน พวกผู้หญิงแยกตัวไปช่วยคุณแขมแขหาเสียง แล้วก็อยู่ที่โรงเลื่อย อย่างน้อยก็สุขสบายกว่านอนบนโลงศพ ป่าช้านี่ก็ใช่จะปลอดภัย ไม่รู้เมื่อไหร่พวกไอ้ยันต์มันจะเข้ามาถล่ม”
“ใช่ครับ ผมเห็นด้วย ขาผมดีขึ้นมากแล้ว ผมจะออกไปสืบเรื่องไม้”
“ผมก็จะออกไปสืบเรื่องไอ้ยันต์ ยมราช”
อ่างกับฮวดมองหมวดอินทร์กับมไหศวรรย์ที่ต่างก็มีหน้าที่ แล้วถามลุงโข่งว่าพวกเราล่ะจะทำอะไร เพราะพี่ครุยก็ไปคนเดียวตามประสาเขา
“เราน่ะหรือ...ก็ทำตามแผนของเราต่อไปสิวะ คือป่วนไอ้ยันต์ ยมราช อย่าให้มันมีโอกาสใส่สูทแล้ววางท่าน่าเคารพนับถือ อยู่ในที่ที่มีเกียรติ ที่ที่มีคนยกมือไหว้มัน หมวดไม่ต้องห่วงคุณกลอยใจ ตอนนี้เราทุกคนสู้ตาย”
สัปเหร่อโข่งตบท้ายปลอบใจหมวดอินทร์ เพราะลึกๆรู้ว่าเขากับกลอยใจรักกันมาก ย่อมห่วงกันมากเป็นธรรมดา
ooooooo
ที่โรงเลื่อย บุญท้วมหอบเสื้อผ้าหลายชุดพากลอยใจ สาลิกา มะตูม และเขเข้ามาในห้องนอนใหญ่
“นี่ค่ะ เดิมห้องนี้เคยเป็นของเสี่ย แต่ตอนนี้เสี่ยไม่อยู่ พวกคุณนอนที่นี่”
สาลิกากระโดดขึ้นไปนอนหงายบนเตียงด้วยความดีใจ “เฮ้อ...สบายจัง ฉันไม่ได้นอนสบายๆยังงี้มาหลายคืนแล้ว ตั้งแต่ไปอยู่ที่ป่าช้าของลุงสัปเหร่อโข่ง”
“แล้วคุณแขมแขล่ะ” กลอยใจถาม
“คุณแขมแขนอนทางห้องโน้นค่ะ ไม่สุขสบายเหมือนบ้านที่ถูกไฟไหม้ แต่ยังไงก็ต้องอยู่ นี่ค่ะเสื้อผ้า บุญท้วมเอามาให้เปลี่ยน เจ้าเก่ง เจ้าเฮง คุณแขมแขให้นอนข้างล่าง เราอยู่กันตามลำพังผู้หญิง แต่มีทีมคุ้มกันที่เสี่ยจ้างมาจากกรุงเทพฯค่ะ”
“บุญท้วม...แล้วอาครุยเขามาที่นี่บ่อยไหม”
“ไม่นี่คะ” คำตอบนั้นทำให้มะตูมที่สงสัยใคร่รู้ยิ่งประหลาดใจ
“อ้าว...ถ้าอาครุยเขาไม่ได้แอบมานอนที่นี่ แล้วที่เขาหายไป...เขาไปนอนที่ไหน?”
ครุยจงใจไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งเพื่อความปลอดภัยของตนเองจากการติดตามของพวกยันต์ ยมราช
คืนนี้แขมแขโทรศัพท์หาครุยด้วยความคิดถึงและเป็นห่วง มะตูมเพิ่งมานอนที่โรงเลื่อยเป็นคืนแรกแอบฟังและแอบดูด้วยสีหน้าเศร้าสลดเพราะยังตัดใจจากครุยไม่ได้จริงๆ
ครุยรับรู้จากแขมแขเรื่องสาลิกายกพลมาช่วยเธอหาเสียงก็หายห่วง แล้วเขาจะไปสืบเรื่องยันต์ค้าอาวุธสงครามต่อ ขณะที่อินทร์ขาเพิ่งหายแต่อยากไปสำรวจไม้พะยูงในป่า สัปเหร่อโข่งจึงให้อ่างไปเป็นเพื่อน ส่วนฮวดให้ไปกับมไหศวรรย์ที่จะสืบว่ายันต์หาเสียงไปถึงไหนแล้ว
เมื่อทุกคนมีหน้าที่กันหมด สัปเหร่อโข่งจึงฉายเดี่ยวเพราะอยากทำตัวเป็นครุย อังคาร สู้แบบข้ามาคนเดียวดูบ้าง...
แขมแขกับแนวร่วมกลุ่มของสาลิกาตระเวนหาเสียงทั่วเมืองโคราชและได้ใจผู้เฒ่าผู้แก่ไปเต็มๆ เพราะนอกจากนโยบายดีๆแล้วความสวยและจิตใจดีเอื้ออารีต่อผู้ทุกข์ยากลำบากของพวกเธอทำให้ทุกคนเกิดความประทับใจ
มไหศวรรย์กับฮวดทำตัวเป็นพ่อค้าเร่เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของยันต์ ส่วนหมวดอินทร์กับอ่างเข้าไป
สำรวจป่าไม้แล้วพบว่ามีไม้พะยูงถูกตัดเป็นท่อนจำนวนมากจึงยึดไว้เป็นของกลางนำมาซ่อนไว้ที่วัดร้างเพื่อเอาผิดยันต์ เพราะมั่นใจว่ามันคือผู้บงการ
การปรากฏตัวอย่างโดดเดี่ยวทำให้สัปเหร่อโข่งถูกพวกไอ้ยงรุมกระทืบทันทีที่เห็นอยู่กลางตลาด สัปเหร่อโข่งแทบแย่ถ้าไม่ได้พวกแขมแขและมไหศวรรย์เข้ามาช่วยได้ทันท่วงที แล้วหามแกกลับมาที่ป่าช้าเร่งทำการเยียวยาก่อนจะช้ำในตาย
ครุยรู้เห็นเรื่องหมวดอินทร์จับไม้พะยูงและปะทะกับคนงานของยันต์ เขาเตือนหมวดต้องระวังมากๆ ก่อนแยกตัวเร่ร่อนต่อไปเพื่อหลีกหนีการไล่ล่าของยันต์ ยมราช
ยันต์เจ็บแค้นใจที่นับวันมีคนรักแขมแขมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีคนเกลียดตนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาไม่ยอมแพ้แน่นอน ต้องเอาชนะแขมแขให้ได้เพื่อพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าเขาเหนือกว่าจ่าครุย เธอจะต้องได้รับบทเรียนราคาแพงที่ไปเลือกคนเร่ร่อนไม่มีอะไรเลยแม้แต่ที่ซุกหัวนอน
คืนนี้ครุยแอบเข้ามาหาแขมแขที่โรงเลื่อย มะตูมตาไวเห็นเข้าก็เศร้าหมองอีกตามเคย แต่คราวนี้ไม่ได้เศร้าอย่างเดียวเธอร้องไห้วิ่งหายออกมาจากโรงเลื่อย แล้วไปเจอขาลที่ไม่น่าจะเป็นการบังเอิญ หากแต่ฝ่ายชายจงใจอยากเจอ เขาปลอบเธอให้คลายความเศร้าเสียใจก่อนชวนไปกินน้ำเต้าหู้ที่ตลาดโต้รุ่ง
มะตูมรักฝังใจครุยจนยากที่จะตัดใจ จึงร้องไห้ออกมาเป็นระยะ ทำให้ขาลสงสารและพยายามโน้มน้าวเธอให้เลิกรักครุยแล้วหันไปรักคนที่เขารักเธอจะดีกว่า หญิงสาวไม่เข้าใจความนัยนั้น ได้แต่มองขาลอย่างงุนงง
ครุยกลับออกจากโรงเลื่อยตั้งแต่เช้าตรู่โดยที่แขมแขไม่รู้ตัว ส่วนขาลที่กลับเข้าบ้านกลางดึก เช้านี้จึงถูกยันต์ถามจับผิดว่าเมื่อคืนไปไหนมา ขาลบอกว่าตนออกไปกินน้ำเต้าหู้ที่ตลาดโต้รุ่ง จังหวะนี้ยงเข้ามารายงานยันต์ว่าไม้พะยูงที่ตัดไว้หายไปและคนงานถูกยิงตายหมด ยันต์จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องขาลอีก รีบขึ้นรถพร้อมสมุนเพื่อไปดูยังที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง
ครุยที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวบ้านยันต์ฉวยโอกาสนี้แอบเข้าห้องทำงานเปิดคอมพิวเตอร์ค้นหาใบสั่งอาวุธสงครามที่สั่งผ่านไฟล์ของยันต์แล้วถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือเก็บไว้ก่อนพาตัวเองหลบหนีออกมาอย่างสบายใจเฉิบ
ถึงจุดหมาย ยันต์สั่งสมุนสำรวจให้ทั่วว่ามือดีที่ฉกไม้พะยูงไปทิ้งร่องรอยอะไรไว้บ้าง ไม่นานยงก็พบรอยล้อรถคาดว่าเป็นรถกระบะ ยันต์จึงให้ถ่ายรูปไว้แล้วออกไปสืบตามหมู่บ้านใกล้ๆว่าใครใช้ยางรถรุ่นนี้
ooooooo
ครุยกลับมาที่ป่าช้าในตอนค่ำแต่ไม่เจอใครนอกจากมไหศวรรย์ที่เพิ่งกลับมานอนพักเอาแรง ครุยนำข้อมูลที่ได้จากบ้านยันต์มาเปิดในคอมพิวเตอร์ของเก่งที่ทิ้งเอาไว้
พ่อค้าเร่จ้องมองด้วยความสนใจและเผลอพูดสิ่งที่เห็นออกมาทั้งที่เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ครุยสงสัยว่ามไหศวรรย์คงไม่ใช่พ่อค้าเร่ธรรมดา แต่พอซักถามก็ไม่ได้คำตอบแท้จริงเพราะอีกฝ่ายเลี่ยงไปเลี่ยงมาลื่นยิ่งกว่าปลาไหล
กลุ่มของยันต์เพิ่งกลับเข้าบ้าน ยันต์เหนื่อยล้าขอตัวขึ้นนอนพักผ่อนแต่ไม่ลืมกำชับพวกยงให้ไปเค้นความจริงเรื่องรถกระบะคันนั้นมาให้ได้ในวันพรุ่งนี้
ยงรับคำแล้วชวนพวกราหูออกไปกินข้าวต้ม ทุกคนหิวโซเพราะตั้งแต่เช้าไม่มีอะไรตกถึงท้อง ขณะเดียวกันขาลก็แอบส่งไลน์ชวนมะตูมออกมากินน้ำเต้าหู้ เก่งกับเฮงเห็นลูกพี่รีบร้อนออกจากโรงเลื่อยพากันแซวว่ามีนัดกับหนุ่ม แต่กลายเป็นเรื่องจริง เลยเร่งมะตูมให้รีบไปทั้งที่ไม่รู้ว่าหนุ่มคนนั้นเป็นใคร คิดอย่างเดียวว่าลูกพี่จะได้ขายออกเสียที
สัปเหร่อโข่งกับฮวดปลอมตัวเป็นพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวมาเอาคืนพวกไอ้ยงอย่างแสบสันด้วยการเอาสลอดใส่ก๋วยเตี๋ยวให้พวกมันกินจนท้องไส้ปั่นป่วนขี้แตกทันตาเห็น แล้วหนีกลับป่าช้าอย่างสะใจ มาจับกลุ่มกับครุย มไหศวรรย์ และหมวดอินทร์ ช่วยกันคิดว่ายันต์จะใช้เส้นทางไหนในการลำเลียงอาวุธสงคราม
ooooooo
ที่ตลาดโต้รุ่ง มะตูมสงสัยว่าขาลมีอะไรถึงได้เรียกออกมากลางดึก ชายหนุ่มไม่ตอบแต่อยากรู้ว่าครุยไปที่โรงเลื่อยหรือเปล่า หญิงสาวเลยยึกยักเล่นแง่เข้าให้บ้าง
“ทำไมต้องตอบ น้าเป็นคนของยันต์ ยมราช แต่มะตูมคนนี้เป็นคนของจ่าครุย”
“นี่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้หญิงของครุย อังคาร เต็มปากเชียวหรือ เพิ่งจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง คิดฆ่าตัวตายเพราะจ่าครุยไปเมื่อไม่กี่วัน”
“น้ามีอะไรกับอาครุย หรือว่าอาสายันต์ ยมราช ทำผลงานคือจับตัวอาครุย”
“มีเรื่องที่เด็กไม่จำเป็นต้องรู้”
“เรื่องสำคัญสินะ งั้นเด็กยิ่งต้องรู้ด้วย เพื่อความปลอดภัยของอาครุย”
“จ่าครุยโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะ ที่มีผู้หญิงรุมรักเขา ให้ตายเถอะ ไม่อิจฉาเขาเลย”
มะตูมไม่สบอารมณ์ลุกขึ้นยืนพูดเสียงแข็งว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไร ไม่ต้องไลน์หาจะได้ไม่เสียเวลาออกมาพบ
“เดี๋ยวก่อน ไหนๆก็มาแล้วกินน้ำเต้าหู้เป็นเพื่อนหน่อยสิ”
มะตูมหน้าตึง นั่งลงจ้องหน้าเขา “นี่ถ้ายันต์ ยมราช หรือคนของยันต์เห็นน้ามานั่งกินน้ำเต้าหู้กับฉันจะเป็นเรื่องมั้ย”
“ไม่มีใครเห็นหรอก ก็ไม่รู้สินะ พอนอนไม่หลับ ไม่มีอะไรทำ ผมก็...คิดถึงมะตูม”
“เฮ้ย! อย่าพูดเล่น เรื่องแบบนี้เขาไม่พูดกันเล่นๆหรอก”
“ใจคอจะไม่เลิกรักจ่าครุย แล้วหันไปรักคนที่เขารักมะตูมจริงๆหรือ”
“ไม่...มันตัดไม่ได้ บอกแล้วไงว่าคนอย่างมะตูมน่ะ รักแล้วรักเลย”
ขาลฟังแล้วห่อเหี่ยวพูดไม่ออก
ooooooo
แขมแขหลับได้พักใหญ่ก่อนรู้สึกตัวลืมตาเมื่อพบว่ามีแมวขโมยตัวเดิมเข้ามาเอนกายลงข้างๆ
“จ่าครุย...นี่ได้กลิ่นธูปเหรอคะ ถึงได้มา” เธอกระเซ้าเขาด้วยรอยยิ้ม
“นี่แสดงว่าคุณจุดธูปแล้วอธิษฐานจิตถึงผม แทนที่จะใช้โทรศัพท์”
“ฉันไม่อยากทำตัวให้คุณเป็นห่วง คุณได้เรื่องอะไรมาบ้าง”
“ผมเพิ่งเข้าไปขโมยก๊อบปี้ไฟล์ของไอ้ยันต์มาได้ แล้วก็นอนไม่หลับเพราะมันใหญ่เกินกว่าที่ผมจะคิดออกว่าควรทำยังไง”
แขมแขขยับตัวจะลุกขึ้นนั่งตั้งท่าจะคุยเป็นงานเป็นการ แต่ครุยรั้งตัวและสวมกอดเธอไว้
“ช่างเถอะ ผมต้องคิดให้ออกให้ได้”
“คุณต้องคิดให้เร็วด้วย เพราะถ้ายันต์ ยมราช ได้รับเลือก เขาจะมีโอกาสกว่าที่เป็น”
“คุณต้องชนะเขา”
“เพราะอะไรคะ”
“คุณดีกว่ายันต์ ยมราช มีความพร้อมที่จะเป็นผู้รับใช้ท้องถิ่นมากกว่าเขา คุณสวย...แล้วก็น่ารักจนผมอดใจไม่ให้คิดถึงคุณไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว”
เหตุผลของครุยเล่นเอาแขมแขเขินจัด หยิกปลายจมูกเขาหยอกล้อ เสียงหัวเราะต่อกระซิกของสองคนดังลอดออกไปนอกห้อง มะตูมเพิ่งแยกจากขาลกลับเข้ามาได้ยินแว่วๆ เกิดทำใจไม่ได้ขึ้นมาอีก ตาแดงก่ำทำท่าจะเป่าปี่อีกตามเคย...
ooooooo
สมุนของยันต์สืบค้นเรื่องรถกระบะไปถึงหมู่บ้านจนเจอรถคันนั้นที่หมวดอินทร์ใช้ขนไม้
พะยูงมาซ่อนไว้ในวัดร้าง แต่ยันต์ไม่กระโตกกระตากและไม่รีบไปเอาไม้คืนมา เพราะมีแผนตลบหลังจับหมวดอินทร์ข้อหาค้าไม้เสียเอง
ยันต์ทำทีให้เบาะแสตำรวจไปดักจับหมวดอินทร์ตอนย้อนกลับมาดูไม้พะยูงที่ซ่อนไว้ หลักฐานมัดแน่นทำให้หมวดจนมุมถูกรวบตัวไปโรงพัก ทุกคนที่โรงเลื่อยทราบเรื่องพากันตกใจ โดยเฉพาะกลอยใจถึงกับร้องไห้โฮ เชื่อว่าต้องมีคนจัดฉากใส่ร้ายหมวดอินทร์
แขมแขกับสาลิกาช่วยกันปลอบกลอยใจว่าคดีนี้ไม่มีจ่าโง่นคนของยันต์ ดังนั้นเรายังพอมีหวัง เราต้องทำให้หมวดอินทร์เป็นหอกอีกเล่มทิ่มสีข้างยันต์เหมือนอย่างที่ครุยเป็น ด้วยการทำให้คนเมืองนี้สงสัยว่าเขาถูกใส่ความ ขณะเดียวกันครุยกับพวกสัปเหร่อโข่งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามหาทางช่วยหมวดอินทร์อยู่เช่นกัน
ขาลก็เป็นอีกคนที่ห่วงใยหมวดอินทร์อย่างลับๆ เขาแอบส่งคลิปเสียงยันต์วางแผนใส่ความหมวดอินทร์ข้อหาค้าไม้เถื่อนไปให้มะตูม
มะตูมเปิดคลิปให้เก่งกับเฮงฟังแล้วสรุปตรงกันว่าเป็นเสียงของยันต์จริง จึงนำหลักฐานนี้ไปให้แขมแขแต่ไม่ยอมบอกว่าใครส่งคลิปเสียงนี้มาให้ เพื่อความปลอดภัยของเขา แขมแขเห็นด้วย ย้ำกับทุกคนว่า
“ฉันต้องการให้ทุกคนปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวให้ยันต์ ยมราชรู้ตัว ให้มันคิดว่ามันทำร้ายหมวดอินทร์ได้เหมือนอย่างที่มันเคยทำร้ายจ่าครุย ไม่มีจ่าโง่นแล้วก็ไม่มีใครกล้าออกหน้าเป็นพวกยันต์ เพราะกลัวจะถูกส่วนกลางเพ่งเล็ง กลอยใจ...คุณต้องไปเยี่ยมหมวดอินทร์ ให้เขาใจเย็นไว้ ฉันจะหาทางให้ทนายจัดการเรื่องประกันตัวเขาออกมาสู้คดี”
สาลิกาข้องใจถามแขมแขว่าทำไมไม่เปิดโปงยันต์เสียเลย น่าจะเป็นผลดีกับคะแนนเสียงของแขมแขด้วย
“มีคนพยายามช่วยเรา ถึงได้ส่งคลิปเสียงนี่มาให้มะตูม เราต้องรักษาชีวิตเขาไว้ ทำตามที่ฉันแนะนำดีกว่า อยู่นิ่งๆไว้ก่อน ทำเรื่องนี้ให้เป็นคดี หมวดอินทร์จะได้อยู่ในมุมสว่าง”
รุ่งขึ้น กลอยใจไปเยี่ยมหมวดอินทร์ทั้งน้ำตา หมวดมองโลกในแง่ดีและเข้มแข็งมากปลอบใจฝ่ายหญิงให้คลายเศร้า เขาและเธอตั้งความหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันหลังจากหมวดอินทร์พ้นข้อกล่าวหา
ครุยเกาะติดเรื่องนี้จากแขมแขจึงแวะมาหาเธออีกในคืนนี้ มไหศวรรย์ลอบเข้ามาเหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าห้องสาลิกาอยู่ตรงไหน กระทั่งเห็นเธอเดินออกมาจากห้องหนึ่งจึงพุ่งเข้าใส่และปิดปากเธอด้วยปากไม่ให้ส่งเสียงร้องกลัวคนอื่นจะได้ยิน แล้วเช้าวันถัดมาสาลิกาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขร้อนใจนั่งไม่ติด พวกแขมแขต่างเป็นห่วงและสุดจะคาดเดาว่าสาลิกาไปไหน
เวลานั้นสาลิกานั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ต่อหน้าพ่อดาวที่บ้านยโสธร ดาวถามต้อนไปต้อนมาอยู่นานกว่าลูกสาวจะพูดความจริงว่าตนเสียตัวให้มไหศวรรย์แล้ว ทั้งที่ตอนนั้นตนผูกข้อมือแต่งงานกับเขาเพราะตกกระไดพลอยโจน
ดาวโกรธแค้นแล่นไปเล่นงานสัปเหร่อโข่งที่เป็นตัวการให้เข้าใจผิดจนสาลิกาต้องสูญเสียความสาวให้พ่อค้าเร่ ปะเหมาะพอดีเจอลูกเขยตัวแสบอยู่ด้วยเสียงปืนเลยเปรี้ยงปร้างลั่นป่าช้า มไหศวรรย์เปิดแน่บไม่เห็นฝุ่น
ooooooo
เพราะความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจของยันต์ที่ใช้ช่องทางในโลกโซเชียลใส่ร้ายป้ายสีหมวดอินทร์เป็นตำรวจป่าไม้แต่ทำผิดเสียเอง ทำให้แขมแขผิดหวังไม่สามารถยื่นขอประกันตัวหมวดออกมาได้
กลอยใจและทุกคนเชื่อว่าเป็นฝีมือยันต์ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันตรงหน้าโรงพักด้วยความแค้นใจ ยันต์เดินเข้ามาเผชิญหน้ากลุ่มแขมแข สมุนตามหลังเป็นพรวน
“อะไรก็มาลงที่ยันต์ ยมราช เพราะผมเป็นคู่แข่งของคุณสินะ”
“เพราะแกมันเป็นคนเลว เป็นคนที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แกใส่ร้ายหมวดอินทร์เพราะเขาขัดผลประโยชน์ของแกเรื่องไม้”
“นี่น่ะหรือผู้สมัครที่จะขอรับใช้ท้องถิ่น พูดไม่เพราะเลย ทั้งที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนไกลถึงเมืองนอก”
“ยันต์ ยมราช แกจะก่อกรรมทำเข็ญกับคนบริสุทธิ์ไปถึงไหน” กลอยใจกระแทกเสียงอย่างแค้นใจ ยันต์แสยะยิ้ม ตอบเสียงแผ่วแต่นัยน์ตาแข็งกร้าวดุดัน “ก็ต้องแล้วแต่ข้อแก้ต่างของหมวดอินทร์ว่าเขาจะแก้ตัวสำเร็จไหม แต่ผมว่าคงยากนะคุณแขมแข”
“ก็ไม่แน่ อย่าทะนงว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ฉันเห็นคนที่เข้าไปอยู่ในคุกล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลทั้งนั้น ไปเถอะกลอยใจ”
แขมแขดึงมือกลอยใจออกไป ทนายและบุญท้วมเดินตาม ยันต์สงสัยคำพูดของแขมแข เชื่อว่าต้องซ่อนอะไรบางอย่างไว้ถึงได้ทำเหมือนถือไพ่เหนือกว่าตน
กลับถึงโรงเลื่อย กลอยใจใจคอไม่ดีเป็นห่วงหมวดอินทร์ ถามแขมแขเสียงสั่นเครือว่าเราไม่มีทางช่วยเขาเลยหรือ
“ใจเย็นๆค่ะ ฉันจะใช้หลักฐานคลิปที่ได้มา แต่ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ตอนนี้เราได้ชื่อว่าถือไพ่เหนือยันต์ ยมราช เราต้องใช้ไพ่ใบนี้กวาดเขาเข้าคุกแลกกับอิสรภาพของหมวดอินทร์ แต่ขอฉันปรึกษาจ่าครุยก่อนได้ไหม”
“ฉันห่วงหมวดอินทร์ค่ะ ไม่รู้ว่าเขาอยู่ข้างในจะปลอดภัยแค่ไหน ตอนที่จ่าครุยติดคุก ยันต์ ยมราชก็สั่งคนของเขาข้างในที่ติดคุกอยู่ฆ่าจ่าครุย จ่าครุยเป็นคนมีฝีมือเขาถึงรอดมาได้”
“หมวดอินทร์เองก็เป็นคนมีฝีมือ ไม่ต้องห่วงเขาหรอกกลอยใจ ฉันเชื่อว่าเขาต้องเอาตัวรอดได้”
“แล้วนี่พวกไอ้ยันต์มันจะเดินหน้าเรื่องนี้ยังไงคะ”
“ตอนนี้เรายังเดาใจเขาไม่ได้ แต่ดูท่าทางเขากำลังเหิมเกริมเต็มที่ เพราะเขาคิดว่าเขาชนะฉันแน่...กลอยใจ คุณไม่ได้กินได้นอนมาสองวันแล้วนะ ตั้งแต่หมวดอินทร์ถูกจับ คุณไปพักก่อนไม่ดีหรือ”
“ค่ะ ฉันเหนื่อยเต็มที”
“งั้นคุณก็ไปนอนให้เต็มอิ่ม เรายังต้องสะสมกำลังไว้สู้กับยันต์ ยมราช อย่างผู้หญิง”
ทันทีที่กลอยใจเดินพ้นไป แขมแขถามบุญท้วมว่าได้ข่าวสาลิกาหรือยัง บุญท้วมเล่าว่าเขโทร.มาบอกว่าสาลิกากลับถึงบ้านที่ยโสธรแล้ว
“สาลิกาเป็นอะไร จะกลับบ้านก็ไม่บอกใครเลยแม้แต่เข มีเรื่องอะไรหรือเปล่าบุญท้วม”
บุญท้วมส่ายหน้าเพราะเขไม่ได้ลงรายละเอียด... เวลาเดียวกันนั้นที่บ้านหมอลำ เขกำลังปลอบโยนสาลิกาที่ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร เสียใจที่เสียตัวให้บักไหพ่อค้าเร่
“จะร้องไห้ให้มันเป็นอะไรขึ้นมา เสียตัวก็เสียตัวกับผัวตัวเองไม่ได้ไปเสียให้ใครที่ไหน สาลิกาแต่งงานแล้วเป็นคู่ผัวตัวเมียจะทำเรื่องให้มันเป็นเรื่องทำไม”
“ไม่รู้ล่ะ บักไหต้องกินลูกปืนของพ่อ”
“แล้วพ่อจะเป็นยังไง เข้าไปอยู่ในคุกตอนแก่ ไปเป่าแคนให้คนในคุกฟังหรือยังไง ถามหน่อย...บักไหตายแล้วจะทำยังไง”
“มีผัวใหม่”
“มีผัวใหม่...ระวังจะได้ไม่ดีเหมือนผัวเก่านะ
บักไหน่ะถึงจะไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่เขาก็เป็นคนทำมาหากิน ขายของเร่ก็ได้ เป็นพระเอกหมอลำก็ได้ เป็นนักร้องก็ได้ ผัวมีคุณสมบัติหลายอย่างในตัวยังงี้ยังจะหาผัวใหม่อีกหรือ”
“ไม่รู้ล่ะ ฉันเกลียดบักไห สาธุ...ขอให้พ่อยิงสะดือบักไหทีเถอะ” สาลิกากระฟัดกระเฟียด เขเห็นแล้วอ่อนอกอ่อนใจ...
วันเดียวกัน สัปเหร่อโข่งกับครุยช่วยกันหว่านล้อมดาวให้เลิกเข่นฆ่ามไหศวรรย์ที่เวลานี้หนีหายไปทางไหนไม่รู้
“เขาผัวเมียกัน เรื่องปลุกปล้ำกันเป็นของธรรมดา เออ ถ้าบักไหมันทุบตีสาลิกาข้าก็ไม่ยอมเหมือนกัน เพราะข้าถือว่าสาลิกาเป็นลูกหลานของข้า ไหนๆสาลิกาก็ไหนๆกับบักไหแล้ว”
“ใช่ครับ ถ้าบักไหไม่รับผิดชอบสาลิกา ผมจะตามไปลากบักไหมาให้พ่อยิง”
“ไปบอกกับมันว่าต่อไปนี้ห้ามยุ่งกับสาลิกาอีก”
“แต่เขาเป็นผัวเมียกันนะ”
ดาวปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็น ตอนนี้เลิกกันแล้ว พูดจบก็ชวนคนของตนกลับยโสธรอย่างหัวเสีย
ฝ่ายสัปเหร่อโข่งก็โดนครุยต่อว่าเจ้ากี้เจ้าการจนเรื่องลุกลามบานปลายแบบนี้ สองคนนั้นเขายังไม่มีอะไรกัน แต่ลุงโมเมว่ามีเลยจับสาลิกากับบักไหผูกข้อมือแต่งงาน
“ถ้ายังงั้นเรื่องท้องก็ไม่จริง...สาลิกาไม่ได้ท้อง ไม่ได้มีอะไรกับบักไห ตายละวากู...ตัวใครตัวมันเถอะวะบักไห”
ooooooo
หมวดอินทร์อยู่ในคุกไม่ทันไรก็โดนผู้ต้องขังชายสี่คนรุมทำร้ายหมายเอาชีวิตตามใบสั่งของยันต์ ยมราช แต่ชะตาของหมวดอินทร์ยังไม่ถึงฆาตได้ผู้คุมช่วยเหลือทันท่วงที
แม้ไม่ตายแต่หมวดอินทร์ก็บาดเจ็บไม่น้อย ร่างกายบอบช้ำเพราะโดนรุมยำทั้งมือทั้งตีนจนหมดสติและหนึ่งในสี่ผู้ต้องขังยังแอบถ่ายรูปเขาด้วยโทรศัพท์มือถือแล้วส่งออกมานอกคุก
อ่างกับฮวด สมุนของสัปเหร่อโข่งเล่นเฟซบุ๊กกันอยู่เห็นรูปอินทร์ก็พากันเอะอะเอ็ดตะโรเรียกครุยกับลุงโข่งมาดู
“มีอะไรวะ”
“พวกเอ็งส่งเสียงเอะอะยังงี้เดี๋ยวผีที่นอนอยู่ในโลงก็หนวกหูหรอก หัดมีมารยาทเสียบ้างนะ ไอ้อ่าง ไอ้ฮวด ให้เกียรติแก่ผู้ตายบ้างถึงแม้ว่าเขาจะเป็นศพไปแล้ว”
บ่นเสร็จสัปเหร่อโข่งชะงักกึก สองตาเพ่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมๆกับครุยด้วยความประหลาดใจ
“รูปหมวดอินทร์ในคุกที่พวกนักโทษแอบส่งให้คนข้างนอกลงเฟซ”
“เฮ้ย! หมวดอินทร์จริงๆด้วย หมวดอินทร์ถูกซ้อม ท่าทางจะอาการปางตายแน่”
“ต้องเป็นคนของไอ้ยันต์แน่เลยลุง”
ครุยร้อนใจเดินลิ่วไปที่มอเตอร์ไซค์ เสียงสัปเหร่อโข่งร้องถามไล่หลังว่าจะไปไหน?
“ผมจะไปพบคุณแขมแข”
“เฮ้ย...ระวังตัวนะโว้ยจ่าครุย ถ้าพวกไอ้ยันต์มันรู้ว่าเอ็งวนเวียนอยู่กับคุณแขมแข คุณแขมแขจะเดือดร้อนอีกคน”
ครุยสตาร์ตรถขับพรืดออกไป สัปเหร่อโข่งถอนใจดังเฮือก บ่นอย่างหนักใจว่ามันฟังซะที่ไหน ครุยเลี้ยวออกจากประตูวัดได้ครู่เดียวก็โดนพวกไอ้ยงเคลื่อนรถกระบะมาดักหน้า
“นั่นไงพี่ยง จ่าครุยอยู่กับสัปเหร่อโข่งจริงๆ”
ขาดคำของราหู ยงยกปืนขึ้นเล็งไปที่ครุยซึ่งนิ่งเฉยยากจะคาดเดาความรู้สึกนึกคิด ยงกระชับปืนในมือก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ วางท่าเหนือกว่า
“จ่าครุย...แกจริงๆ ฉันมาดักแกอยู่ที่นี่สองสามคืนแล้ว คุณยันต์มีคำสั่งให้แกไปตาย”
“ฉันคงไปไม่ได้...ตราบใดที่ฉันยังแก้แค้นคนที่ทำกับคำสีไม่ได้ แกบอกยันต์ ยมราชด้วย ให้มันเตรียมตัวถอดสูทแล้วลงไปนอนในโลง”
ถ้อยคำโอหังของครุยทำให้ยงฉุนขาดตั้งท่าจะเหนี่ยวไกปืน!
เวลาเดียวกันนั้น ยันต์วางสายจากใครบางคนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ขาลเฝ้ามองด้วยความสนใจ ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า
“หมวดอินทร์ไม่ตาย เขากำลังส่งตัวหมวดอินทร์ไปโรงพยาบาล แกสั่งไอ้ยงรีบกลับมา เราจะชิงตัว หมวดอินทร์”
ยงกำลังจะลั่นกระสุนเข้าใส่ครุย...ครุยหาทางรอดบิดคันเร่งอย่างแรงยกล้อพุ่งทะยานเข้าชน ยงตกใจกระโดดหนี คนอื่นพลอยหนีตายแตกกระเจิงไปคนละทิศ ครุยหมุนรถมอเตอร์ไซค์ย้อนกลับมาไล่พุ่งชนสามพี่น้อง ราหู รามสูร และสุครีพ ก่อนเร่งเครื่องออกไปด้วยความเร็ว พวกราหูวิ่งหน้าตั้งติดตาม
เสียงโทรศัพท์ยงดังขึ้น ยงรับสายจากเจ้านายด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ครับคุณยันต์...ครับ...ชิงตัวหมวดอินทร์หรือครับ”
ฟังความจบแล้วยงรีบวางสายแล้วตะโกนบอกพวกราหู “เฮ้ย...ไม่ต้องตาม คุณยันต์มีคำสั่งด่วนไปชิงตัวหมวดอินทร์”
แล้วสมุนทั้งสี่คนก็วิ่งขึ้นรถกระบะเร่งรีบออกไป มไหศวรรย์ก้าวออกจากที่ซ่อนตัวมองตามไปอย่างตื่นตระหนก พึมพำด้วยความห่วงใยหมวดอินทร์ที่จะโดนชิงตัว
ooooooo
ในรถพยาบาลร่างหมวดอินทร์นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ภายใต้เครื่องช่วยชีวิต พยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ครุยขับมอเตอร์ไซค์สวนทางกับรถพยาบาลที่เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินแล้วเหลือบไปเห็นรถติดอาวุธของยันต์และรถกระบะของพวกยงติดตามรถพยาบาล ทุกคนสวมหมวกไอ้โม่งพรางใบหน้า ครุยรีบจอดรถหันกลับไปมองด้วยความสงสัย จังหวะนี้มไหศวรรย์บึ่งรถขายสินค้าเร่มาถึงพอดี
“เร็วจ่า...พวกไอ้ยันต์มันจะชิงตัวหมวดอินทร์ ตามมาเร็ว”
ครุยเลี้ยวรถกลับอย่างว่องไวขับตามรถขายสินค้าเร่ของมไหศวรรย์ไปทันที
รถของยันต์และไอ้ยงขับปาดหน้ารถพยาบาล ก่อนที่พวกมันจะวิ่งกรูกันลงมาเปิดประตูรถสั่งพยาบาลให้หมอบลง เจ้าหน้าที่ทุกคนบนรถตระหนกตกใจและกลัวตายทำตามอย่างว่าง่าย
“เอาตัวหมวดอินทร์ออกไป”
ยันต์แผดเสียงสั่งสมุน ราหู รามสูร สุครีพ ยง จัดการถอดสายน้ำเกลือและช่วยกันยกเปลเอาร่างหมวด อินทร์ออกจากรถ ทันใดนั้นรถขายสินค้าเร่ของมไหศวรรย์กับรถมอเตอร์ไซค์ของครุยพุ่งเข้ามาขวางไว้
“เฮ้ย! ไอ้จ่าครุย” ยันต์ตะเบ็งเสียงแค้น
“จ่าเอาหมวดอินทร์ออกมาก่อน ผมจะกันไว้” บอกครุยแล้วมไหศวรรย์ชักปืนออกมายิงกราด
ขาลที่มากับยันต์ฉวยโอกาสตอนชุลมุนถีบยันต์ล้มคว่ำหน้าลงก่อนถีบเปลพยาบาลให้ไหลไปตามทางลาดของถนน ครุยไวทายาดกระโดดคว้าไว้ก่อนเปลจะตกถนน
เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว สมุนของยันต์ยิงสู้มไหศวรรย์ที่เกือบจะเสียท่า ต้องงัดบ้องไฟขนาดเล็กออกมาเป็นตัวช่วย
“มันต้องไอ้นี่”
มไหศวรรย์จุดบ้องไฟวิ่งเข้าใส่สมุนยันต์ ทุกคนต่างวิ่งหนีแรงไล่ของบ้องไฟที่กำลังจะระเบิด ครุยสบโอกาสเอาหมวดอินทร์ส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เสร็จแล้วเขากลับมาหาแขมแขที่โรงเลื่อยให้เธอช่วยทำแผลตามแขนขา
“หมวดอินทร์ถูกส่งเข้าห้องไอซียูแล้ว อาการของเขาคงหนักอยู่ พวกไอ้ยันต์มันก่อเหตุชิงตัวหมวดอินทร์เพราะมันต้องการเก็บเขา”
“ฉันจะไม่รออะไรอีกแล้ว ฉันจะเอาคลิปเสียงนั่นออกมาใช้ ถึงเวลาที่เรากับยันต์ ยมราช จะต้องแลกกันคนละหมัด”
“มันยังไม่รู้ว่าคุณมีคลิปเสียงนั่น คุณเก็บไว้ในที่ปลอดภัยนะ”
“ค่ะ ในโซเชียลมีการแชร์รูปหมวดอินทร์ในสภาพถูกซ้อม ผู้คนกำลังงงว่าเกิดอะไรขึ้น หมวดอินทร์เพิ่งจะตกเป็นจำเลยสังคม แต่ตอนนี้เขากลับเป็นผู้ถูกกระทำ”
“โลกนี้แทบจะไม่มีอะไรที่เป็นความจริง หรือมีอะไรที่เป็นเรื่องโกหก ก็สมควรแล้วที่คนไร้สติจะสับสน”
“พรุ่งนี้ฉันกับกลอยใจจะไปยื่นหลักฐานแจ้งจับยันต์ ยมราช เขาอาจจะได้ประกันหรือไม่ได้ ฉันไม่สนใจหรอกค่ะ ขอแค่ได้กระชากหน้ากากเขาให้โลกรู้ว่าเขาเป็นคนสับปลับ เป็นจอมโกหก”
“ผมอยากให้มันจบ”
“คุณจะทำอะไร...ไม่นะ คุณต้องไม่ใช้วิธีผิดกฎหมาย เราจะจับคนทำผิดส่งให้กฎหมายลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม”
“เพื่อให้พวกมันต้องโทษกันคนละสามสิบปี แล้วได้ลดโทษตามกระบวนกฎหมายที่ว่าด้วยเมตตายังงั้นหรือ อีกไม่กี่ปีคนเลวร้ายพวกนี้ก็จะออกมาเดินหัวเราะใส่หน้าผม แล้วก่อเหตุเหมือนอย่างที่มันก่อ...ผมจะจบเรื่องนี้ด้วยตัวของผมเอง”
ครุยเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดจนแขมแขนิ่งไปด้วยความวิตกกังวล
ooooooo
ภายในโรงพยาบาล หมวดอินทร์เริ่มรู้สึกตัวส่งเสียงครางจนพยาบาลรีบเข้ามาตรวจเครื่องช่วยชีวิต
“คุณรู้สึกตัวแล้ว ฉันจะเรียนคุณหมอทราบค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนครับคุณพยาบาล ผมขอพบคุณกลอยใจ”
“คุณกลอยใจมารอพบคุณตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งอนุญาตให้ใครพบคุณได้”
“ผมขอร้อง...ช่วยเรียนคุณหมอด้วยว่าผมขออนุญาตพบคุณกลอยใจ ก่อนที่ผมจะไม่มีโอกาสได้พบใคร”
พยาบาลนิ่งอึ้ง ก่อนพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป หมวดอินทร์ขยับขาด้วยความรู้สึกปวดร้าวไปทั่วร่างกาย ครู่หนึ่งกลอยใจก็เปิดประตูเข้ามา
“ทำไมพวกมันต้องทำกับคุณถึงขนาดนี้ คุณไม่เคยทำผิดคิดร้ายกับใคร ฉันกับคุณแขมแขปรึกษากันแล้วว่าวันนี้เราจะเอาหลักฐานคลิปเสียงนั่นไปมอบให้ตำรวจ โลกจะได้รู้ว่าคุณไม่ใช่คนผิด”
“อย่าครับ”
“ทำไมล่ะคะ”
“มันอาจจะเร็วไป ผมอยากให้หลักฐานนั่นมัดตัวยันต์ ยมราชได้จริงๆ มะตูมได้มันมายังไง แล้วคนที่ส่งหลักฐานนั่นมาให้มะตูมเป็นใคร อย่าลืมว่าเขาต้องปลอดภัยด้วยผมถึงจะยอมแลก”
“นี่คุณจะตายแล้วยังคิดถึงคนอื่นอีกหรือ”
“ผมจะไม่ตาย...ผมได้เห็นคุณแล้ว ผมจะไม่ตาย เวลาที่ผมอยู่ที่นี่อาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้”
“ฉันไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น ฉันจะขอคนจากคุณแขมแขมาคุ้มกันคุณ พวกยันต์ ยมราช คิดจะทำอะไรมันทำได้ทุกอย่าง ฉันไม่ไว้ใจมัน...ฉันจะประกันตัวคุณออกไปให้ได้”
ออกจากโรงพยาบาลกลอยใจไปสมทบกับแขมแข บุญท้วม และทนายความที่โรงพัก ใช้เวลาพอสมควรทั้งหมดก็พากันกลับออกมา แต่ไม่ทันขึ้นรถตรงหน้าโรงพักมีนักข่าวเข้ามารุมล้อมตั้งคำถามเรื่องหมวดอินทร์
แขมแขตั้งสติก่อนตอบอย่างมาดมั่น “ค่ะ หมวดอินทร์ได้ประกันตัวเพื่อไปต่อสู้คดีในชั้นศาล เพราะศาลท่านเชื่อว่าหมวดอินทร์จะไม่หลบหนี ฉันนำหลักทรัพย์มาค้ำประกันหมวดอินทร์เพราะฉันเชื่อว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาจะไม่หนีไปไหน”
“มีแผนอะไรในการสู้คดีครับ”
“ยังไม่มีค่ะ ไว้หมวดอินทร์อาการดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลก่อนเราค่อยเตรียมการเรื่องนี้ เราจะทำความจริงให้กระจ่าง หมวดอินทร์จะพิสูจน์ตัวเอง ว่าเขาเป็นผู้ถูกกระทำ”
ยันต์ดูการถ่ายทอดสดข่าวนี้อยู่ที่บ้าน เขากดรีโมตปิดโทรทัศน์ที่เสนอข่าวแขมแขและกลอยใจด้วยความโกรธ
“หมวดอินทร์ได้ประกันตัวเพราะข่าวในโซเชียล ไม่นึกเลยว่ามันจะกลายเป็นการสร้างกระแสบวกให้หมวดอินทร์ทั้งที่มันติดภาพลบไปแล้ว โธ่เอ๊ย! ทำไมฉันถึงได้พลาดได้นะ”
“โลกทุกวันนี้คนอาศัยหาประโยชน์จากคนไร้สติที่คิดไม่เป็น ไตร่ตรองไม่ได้ครับคุณยันต์ เพราะฉะนั้นการเล่นอะไรกับโลกโซเชียลก็จะไม่เป็นอย่างที่เราหวัง”
“โอ๊ย...ฉันปวดหัว นี่ฉันต้องหาวิธีสู้กับหมวดอินทร์ในศาลอีกหรือ เพราะดูท่าทางแขมแขมั่นใจเต็มร้อย แขมแขมีหลักฐานอะไรจะเอาฉันอยู่”
ขาลไม่แสดงความเห็นอะไรอีก ยันต์กวาดสายตามองสมุนทุกคนแล้วมาหยุดที่ขาลอย่างจงใจ
“แก...ต้องกินเหล้ากับฉัน”
ooooooo










