สมาชิก

ข้ามาคนเดียว

ตอนที่ 1

ครุย อังคาร อดีตจ่าตำรวจผู้ซื่อสัตย์ ปรากฏตัวที่สถานีรถไฟโคราชแล้วก้มกราบพระแม่ธรณีอันเป็นแผ่นดินแม่ ท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา

เขากลับมาเพื่อทวงสิทธิ์อันชอบธรรมว่าเขาคือผู้บริสุทธิ์ไม่ได้เป็นดั่งคำกล่าวหาจนเขาต้องใช้ชีวิตที่แสนรันทดอยู่ในคุกบางขวางเป็นเวลาถึงหกปี

การกลับมาของเขาทำให้เจ้าพ่อแห่งโคราช “ยันต์ ยมราช” ถึงกับหวาดหวั่นจึงส่งสมุนเอกสามคนให้มาต้อนรับด้วยการตามล่าไม่ว่าเป็นหรือตายได้ทั้งนั้น

สมุนเอกสามคนพี่น้องคือ รามสูร ราหู สุครีพ นักเลงสามพี่น้องกำลังซุ่มตัวอยู่มุมหนึ่งของร้านเหล้าหน้าสถานีรถไฟนั่งซดเหล้ากันเพื่อรอเวลาตามล่าคู่อริของเจ้าพ่อโคราช

สาลิกา นางเอกหมอลำ ลูกสาวเจ้าของคณะหมอลำชาวอีสานผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง มีนิสัยห้าว แกร่ง ตรงไปตรงมา มีความทะนงและภาคภูมิในความเป็นสายเลือดศิลปินอีสาน เชี่ยวชาญทั้งเพลงลำเพลินและลำซิ่ง สาลิกานำคณะไปเปิดการแสดงที่โคราชในวันที่ครุย อังคาร ออกจากคุกและกลับมาเมืองโคราช ครุยถูกสมุนเจ้าพ่อไล่ล่าไปจนถึงงานวัด จึงกระโดดขึ้นบนเวทีหมอลำไปแทรกตัวอยู่ในกลุ่มหางเครื่อง

สมุนเจ้าพ่อตามมาไล่ยิงครุยถึงเวที เกิดความโกลาหลขึ้นจนวุ่นวาย ครุยคว้าตัวสาลิกาหลบจากวิถีกระสุน ทำให้สองคนต่างล้มลงและตกจากเวทีกอดกันกลม ครุยรอดชีวิตออกมาได้ สาลิกาโกรธเขามากที่เป็นต้นเหตุทำให้การแสดงหมอลำหยุดลง

ครุยเดินทางไปหาเพื่อนที่เป็นเจ้าของคณะหมอลำ ดาว ด่านเกวียน เมื่อพบกับดาวยังไม่ทันจะทักทายกัน สามพี่น้องสมุนของเจ้าพ่อโคราชก็ปรากฏตัวที่หน้าสำนักงานวงดนตรีของดาว ฝ่ายสาลิกาที่กลับจากงานแสดงจะมาบอกพ่อเรื่องการแสดงที่ต้องหยุด เมื่อเห็นลูกน้องเจ้าพ่อสาลิกาก็เข้าทางประตูหลังและได้เจอกับครุย ดาวให้สาลิกาพาครุยหนีออกไป สมุนของเจ้าพ่อเข้าไปค้นแต่หาไม่พบ จึงออกตามล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย

สาลิกาพาครุยหนีออกมาทางด้านหลังได้แล้วตัวเองก็กลับไปที่สำนักงานเพราะกลัวสมุนเจ้าพ่อจะทำร้ายพ่อของตน ส่วนครุยที่หนีออกมาผ่านไปเจอสัปเหร่อโข่งเพื่อนเก่า เมื่อรู้ว่าครุยถูกตามล่ามีทางเดียวที่จะรอดพ้นจากสมุนของเจ้าพ่อได้จึงให้ครุยลงนอนในโลงศพของคนที่เพิ่งตายเมื่อคืนนี้ สมุนเจ้าพ่อเมื่อตามมาไม่พบก็กลับไปรายงานด้วยความเจ็บใจ

วันที่ครุยนั่งรถไฟกลับมาที่โคราช ในขบวนเดียวกันมี อินทร์ ดาวดึงส์ รวมอยู่ด้วย อินทร์เป็นตำรวจป่าไม้เพิ่งย้ายมาแทนคนเก่าที่เป็นไข้โป้งตาย ท่าทางอินทร์เอาเรื่องจริงจังกับงาน เพียงวันแรกที่มาถึงอินทร์ก็บุกไปตรวจสอบโรงเลื่อยของเสี่ยบุญยิ่งและได้รับการต้อนรับจากกลอยใจลูกสาวเสี่ยอย่างไม่เป็นมิตร

ที่ตลาดในโคราชเช่นกัน มไหศวรรย์ ข้าราชการหนุ่มปลอมตัวเป็นพ่อค้าเร่ นำรถค้าของเร่เข้ามาขายแต่ความจริงแอบสอดส่องความเลวร้ายของสมุนเจ้าพ่อจนเกิดปะทะกันวุ่นวาย สมุนเจ้าพ่อสู้ไม่ได้จึงแจ้งจ่าโง่นมาจับพ่อค้าเร่ข้อหาทำร้ายร่างกายพวกตน ทั้งที่ไม่ผิดแต่มไหศวรรย์ก็โดนจ่าโง่นยัดเข้าห้องขัง เพราะจ่าโง่นคือเครือข่ายของยันต์ ยมราช นั่นเอง

ยันต์ ยมราช ยังตามล่าครุยไม่ลดละ ไม่ว่าได้เบาะแสจากทางไหนเขากับสมุนจะเร่งไปไม่หยุดหย่อน ส่วนครุยก็ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว แม้พรรคพวกเพื่อนเก่าอาสาช่วยเหลือแต่ครุยไม่ต้องการ

สัปเหร่อโข่งได้เล่าเรื่องที่คำสีเมียของครุยถูกเจ้าพ่อโคราชโกงบ้านที่ดินและจับตัวไปเป็นเมีย เมื่อไม่พอใจก็ทารุณกรรมจนเธอเสียสติหนีเตลิดไปอาศัยอยู่ที่วัดบ้างที่อนุสาวรีย์ย่าโมบ้าง แต่ทุกๆวันคำสีจะมากราบไหว้ย่าโมมิได้ขาด มากราบขอพรให้ได้พบลูกและสามี ส่วนสีหมอกลูกชายบวชเป็นสามเณรน้อยอยู่กับหลวงตา และจะคอยมาดูแลแม่อยู่เป็นประจำ

ครุยนำรูปถ่ายของคำสีไปถามหาผู้คนที่บริเวณอนุสาวรีย์แต่ไม่มีใครเคยพบ เพราะในรูปคำสีสวยงามไม่ใช่คนเสียสติอย่างทุกวันนี้ที่ผมเผ้ารุงรัง เนื้อตัวสกปรกมอมแมม

เมื่อไม่เจอคำสี ครุยคุกเข่าลงตรงหน้าย่าโม พนมมืออธิษฐานอยู่ข้างสาวสวยคนหนึ่งแต่ไม่ได้ใส่ใจ

“ท่านย่าโม...ช่วยผมด้วย ผมครุย อังคาร ผมกลับมาแล้ว ผมจะกลับมาตามหาลูกเมีย ตามหาความยุติธรรมให้ตัวเอง ขอคุณพระศรีรัตนตรัย ขอคุณบารมีของท่านย่าปกป้องคุ้มครอง ครุย อังคารด้วย”

หญิงสาวได้ยินชื่อนั้นก็เงยหน้ามองแปลกใจบอกว่าตนเคยได้ยินชื่อเขา

“คุณรู้จักผมหรือ เมียผมในรูปนี่ คุณเคยเห็นคำสีมั้ย”

“คำสี...ฉันไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น ฉันแค่เคยได้ยินชื่อของคุณ”

“เคยได้ยินชื่อผม งั้นคุณก็คงจะเป็น...” แววตาครุยหวาดระแวง มองไปเห็นสมุนเจ้าพ่อ เขารีบหลบออกไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของหญิงสาว

บุญท้วมรีบวิ่งเข้ามาหานายสาว แขมแข ลูกสาวสุดรักของเสี่ยไพบูลย์ที่กำลังจะร่วมทุนทำธุรกิจกับยันต์ ยมราช ที่สำคัญเสี่ยต้องการให้ลูกสาวตกร่องปล่องชิ้นกับเจ้าพ่อโคราชเพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจกัน แต่แขมแขยังลังเลว่าจะทำเพื่อพ่อดีหรือไม่ เพราะเธอไม่ได้รักยันต์ ยมราช เมื่อเห็นพวกสมุนของยันต์ไล่ล่าครุยกับตาในวันนี้ แขมแขยิ่งคิดหนัก

กลอยใจลูกสาวเสี่ยบุญยิ่งต่างหากที่หลงรักยันต์ เธอหวังจะได้แต่งงานกับเขา จึงอิจฉาแขมแข โดยมีกระถินสาวใช้คนสนิทเป็นแรงยุ

ooooooo

คำม่วน เจ้าของค่ายมวยเกียรติ์กำแหง ทราบข่าวครุยพ้นโทษกลับมาโคราชก็พากันดีใจไปกับมะตูม ลูกสาว และเก่งกับเฮง ลูกน้องในค่าย

มะตูมโตเป็นสาวทะมัดทะแมง ต่อยมวยเก่งกาจไม่แพ้ชายอกสามศอก มะตูมรู้จักมักคุ้นกับครุยตั้งแต่เธอเป็นเด็ก เรียกเขาว่าอา เธอมีความรักและเป็นห่วงครุยมาก พอรู้ว่าเขาถูกตามล่าก็ยิ่งเป็นกังวลไม่เป็นอันกินอันนอน บ่นกับพ่อด้วยความกระวนกระวาย

“พ่อ...อาครุยยังไม่ส่งข่าวมาอีกหรือว่าตอนนี้เขาหลบอยู่ที่ไหน ตั้งแต่พลัดพรากจากกันที่สถานีรถไฟ ฉันติดต่ออาครุยไม่ได้เลยนะ เบอร์โทร.ไม่รับสาย เฟซก็ไม่มี ไลน์ก็ไม่เล่น โฮ้ย...”

“เอ็งไม่ต้องห่วงครุยมันหรอก มันหายเงียบไปยังงี้น่ะดีแล้ว พ่อว่าป่านนี้มันคงคิดหนัก”

“เรื่องลูก เรื่องเมีย เรื่องบัญชีแค้นที่อาครุยเขาต้องชำระกับไอ้พวกที่สร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายเขาที่กรุงเทพฯใช่ไหม”

“ใช่...หกปีในคุก ยันต์ ยมราชยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน สร้างเครือข่ายค้าไม้ร่วมมือกับโรงเลื่อยดังๆ ทำไม้แปรรูปส่งนอก ไอ้ยันต์เอ๊ย...ลูกหลานจะไม่รู้จักไม้ป่า ไม้โมงหรือไม้พะยูงแล้ว อีกหน่อยเถอะวะ พวกลูกหลานคงถามว่าไม้พะยูงหน้าตาเป็นยังไง”

“ก็เอารูปให้เด็กดูสิพ่อ” เก่งอวดฉลาด แต่กลายเป็นโดนมะตูมแยกเขี้ยวใส่

“ฟังไม่ตลก เอ็งหัวเราะลงหรือวะ ไอ้เก่ง”

“พี่มะตูมจะให้ฉันทำยังไง ลุกขึ้นมาสู้กับยันต์ ยมราชหรือ”

“อาครุยกลับมาแล้ว เขาต้องกลับมาล้างแค้นไอ้ยันต์แน่ๆ ถ้าอาครุยเขาต้องการตัวช่วย ฉันพร้อมจะร่วมมือกับอาครุย”

“เฮ้ย! นังมะตูม เอ็งหาเรื่องตายนะ”

คำม่วนโวยวาย มะตูมหาได้หวั่นเกรง ตบไหล่พ่อแล้วดีดนิ้วให้อย่างทะเล้น กล่าวเน้นหนักว่า

“พ่อ...ฉันพร้อมจะตายเพื่ออาครุย”

ooooooo

ฝ่ายครุยยังคงหนีการตามล่าของสมุนเจ้าพ่อหัวซุกหัวซุก แต่ก็รอดพ้นเงื้อมมือพวกมันทุกครั้ง

ล่าสุดครุยหนีลอยนวลไปได้อีกทั้งที่ไม่มีผู้ช่วย สร้างความหนักใจให้กับยันต์เมื่อสมุนกลับมารายงาน ยันต์ ยมราช เจ้าพ่อโคราชเกรี้ยวกราดใส่สมุนภายในคฤหาสน์ของตน

“พวกแกปล่อยมันยังงั้นหรือ แกรู้ไหมว่าแกปล่อยเสือเข้าป่าไปแล้ว ถ้าเก็บไอ้ครุยในเมืองโคราชไม่ได้ เราต้องตามไปเก็บมันที่อื่น แล้วอีสานน่ะกว้างแค่ไหนแกก็รู้ โธ่โว้ย! ไม่น่าปล่อยให้มันรอดไปได้เลย”

“ไอ้ครุยมันก็แค่...เอ่อ...แค่โชคดีน่ะครับ”

“แล้วพวกแกกับฉันโชคร้ายหรือยังไง แกรู้ไหมไอ้ครุยออกจากคุกคราวนี้มันต้องออกมาคิดบัญชีแค้นฉันแน่ แล้วถ้ามันหาหลักฐานมัดฉันเรื่องใส่ความมันได้ ฉันซวยแน่ เพราะฉันกำลังฟอกตัวให้สะอาดเพื่อลงการเมืองท้องถิ่น”

“ผมจะตามไปเก็บไอ้ครุยครับคุณยันต์”

“แกรู้หรือว่ามันอยู่ที่ไหน” จ่าโง่นย้อนถามยงทันควัน ยงสบสายตาท้าทายของจ่าอย่างไม่ลงรอย แล้วถามว่า “จ่ารู้หรือว่ามันอยู่ที่ไหน” จ่าโง่นตอบรับชัดถ้อย ชัดคำพลางจ้องตอบยงราวกับตัวเองเหนือชั้นกว่า

ooooooo

สาลิกายังข้องใจเรื่องครุยไม่หาย ซักถามพ่อว่าเขาติดคุกเรื่องอะไร แล้วทำไมถึงโดนสมุนเจ้าพ่อโคราชไล่ล่า

“เอ็งจะสนใจทำไม ไม่ใช่เรื่องของเอ็งสักหน่อย เรื่องจ่าครุยน่ะ คนเขารู้กันทั้งนั้นว่าไปเดินชนตอเลยสะดุดตอเข้าคุก”

“แล้วเมียของครุย? ที่เราเจอที่ลานคุณย่าโมใช่ไหมพ่อ ผู้หญิงที่เป็นบ้าเป็นบอ ที่ไปร่ายรำถวายคุณย่าโมน่ะ”

“ใช่...พอจ่าครุยเข้าคุก เมียก็ถูกฉุดถูกคร่าไปข่มขืน แม่ลูกก็พลัดกันไปคนละทางไม่รู้อยู่ไหน จนทุกวันนี้กลายเป็นคนหายสาบสูญ เขาว่าเป็นฝีมือของยันต์ ยมราช”

“ยันต์ ยมราช” สาลิกาทวนชื่อนั้นด้วยความสนใจใคร่รู้...

คืนเดียวกัน ครุยเป็นฝ่ายบุกรังของยันต์ ยมราช หลังจากคืนก่อนเขาโดนไล่ล่าถึงป่าช้าแหล่งพักพิงของสัปเหร่อโข่ง

ครุยลุยเดี่ยวเข้ามาแต่ไม่สามารถเล่นงานยันต์ได้ เพราะสมุนของเขาเต็มไปหมด แต่ครุยก็ไม่เพลี่ยงพล้ำ แถมล้มสมุนของยันต์ได้หลายคนก่อนจะหลบหนีออกไป ทิ้งความเจ็บแค้นใจไว้ให้เจ้าพ่อที่โดนล้วงคอถึงถิ่น...

เช้าวันรุ่งขึ้น จ่าโง่นเปิดห้องขังบนโรงพักให้มไหศวรรย์ ชายหนุ่มลุกขึ้นบิดขี้เกียจ สีหน้าไม่สลด ทักทายจ่าอย่างกวนๆ

“สวัสดีครับจ่า ได้เวลาปล่อยตัวผมแล้วหรือครับ ผมโดนจับข้อหาก่อเหตุวิวาท ทำตัวเป็นอันธพาลรังแกคนไม่มีทางสู้ ถูกปรับแต่ไม่มีเงินจ่าย”

“ไม่ต้องพูดมาก จะออกหรือไม่ออก ไม่ออกจะได้ขังต่อ”

“อ๊ะๆๆ ออกสิครับจ่า ไอ้นอนห้องกรงนี่มันก็ดีตรงที่มีข้าวเลี้ยงสามมื้อ แต่มันไม่ดีตรงที่ผมเสียเวลาทำมาหากิน อ้อ จ่าโง่นครับ”

“ทำไมวะ”

“แล้วไอ้สามตัวที่เป็นคู่กรณีของผมน่ะ ทำไมผมไม่เห็นมันเลยล่ะครับ”

“แกถูกกล่าวหา ไอ้พวกนั้นเป็นเจ้าทุกข์”

“โห...มันคงทุกข์หนักนะครับจ่า สามรุมหนึ่ง มันสามคน ผมคนเดียว แต่มันกลับเป็นเจ้าทุกข์ แทนที่ผมจะเป็น ทั้งที่ผมหัวเดียวกระเทียมลีบ ไหนสินค้าเร่ของผม สากกระเบือเอย เรือรบเอย เสียหายหมด”

“นี่...อย่ามารู้ดีกว่าฉัน ฉันเป็นตำรวจ เป็นเจ้าของคดี มันอยู่ที่หลักฐานว่าฉันจะให้ใครเป็นคนผิด ใครเป็นคนถูก”

“เอ๊ะ เป็นเพราะไอ้สามตัวนั่นมันเป็นสมุนยันต์ ยมราช หรือเปล่าครับ จ่าเข้าข้างไอ้สามตัวนั่นก็หมายความว่าจ่าก็เป็นขี้ข้าของยันต์ ยมราชด้วย”

“ไอ้...”

“อย่านะครับจ่า ผมร้องดังนะ เงื้อได้ครับแต่อย่าลงมือ ลงไม้ก็ไม่ได้ ลงไม้เมื่อไหร่ล่ะก็...ฮ่าๆๆ เจอข้อหาทำร้ายประชาชนคนทำมาหากิน ผมเจ็บผมร้องนะ ผมเป็นคนเสียงดัง ถ้าเสียงของผมดังไปถึงผู้ใหญ่ส่วนกลาง...”

“เอาตัวไอ้นี่ออกไป!” จ่าโง่นตวาดลั่นแล้วผละไปด้วยความโกรธ มไหศวรรย์ก้าวออกมาจากห้องขัง มองตามไปด้วยรอยยิ้มยั่วโทสะ

เวลานั้น สุครีพ รามสูร และราหู คู่กรณีทั้งสามของมไหศวรรย์เกาะราวบันไดอยู่หน้าโรงพัก พอมไหศวรรย์เดินร้องเพลงลูกทุ่งอีสานลงมาก็เพ่งมองนัยน์ตาขุ่นขวาง

“ไงวะไอ้ไห นอนห้องกรงเสียสามคืน โทษฐานรังแกคนไม่มีทางสู้อย่างพวกข้าสามคน”

“ใช่...เอ็งจะได้หลาบจำว่าเข้ามาเมืองนี้เอ็งต้องยกมือไหว้ใคร”

“พวกข้าจำได้ว่ามัวแต่จัดบาทาปาร์ตี้ต้อนรับเอ็งเลยยังไม่ได้รับไหว้เอ็ง ข้าก็เลยมาเพื่อรับไหว้แบบ เฉพาะกิจว่ะ”

“ไหว้ข้าสามคนซะดีๆ”

“ไหว้ทำไมครับพี่”

“ก็เพราะเอ็งมาจากที่อื่น พวกข้าใหญ่อยู่ที่นี่”

“อ้อ...ต้องการความนับถือ พี่ครับ พี่ที่เคารพ ถ้าพี่ทั้งสามต้องการความนับถือ ไปทางไหนต้องการให้ผู้คนยกมือไหว้ แม้แต่หมายังต้องกระดิกหางต้อนรับ...ไม่ยาก... พี่ก็ทำสิ่งดีๆสิครับ เคยได้ยินมั้ย เขาว่าความดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง ทำเป็นมั้ยครับพี่ ความดีน่ะ”

“ไอ้ไห!” รามสูรเจ็บจี๊ด โผนเข้าใส่มไหศวรรย์ ตามด้วยสุครีพกับราหู

สามรุมหนึ่งอีกแล้ว! แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม มไหศวรรย์ต่อสู้ด้วยหมัดและชั้นเชิงมวยไทยก่อนโยนร่างทั้งสามคนลงไปนอนทับกัน ราหูแผดเสียงดังลั่นฟ้องจ่าโง่นว่าตนถูกรังแกอีกแล้ว...

ooooooo

วันเดียวกัน ครุยกลับมาที่ป่าช้าแล้วโดนสัปเหร่อโข่งตำหนิที่บุกเดี่ยวเข้าไปในคฤหาสน์ของยันต์

“เอ็งเข้าไปในรังไอ้ยันต์คนเดียว ดีนะที่รอดมาได้ บ้านไอ้ยันต์น่ะรั้วสูงยังกับกำแพงคุก สมุนมันยังกับกองทัพ เอ็งทำอะไรไอ้ครุย”

“ฉันอยากรู้เรื่องคำสี มันต้องตอบคำถามของฉัน”

“เอ็งจะลงมือล้างแค้นไอ้ยันต์น่ะมันไม่ง่ายหรอก มันมีทั้งเงิน ทั้งคน ทั้งอาวุธพร้อม มันสร้างอิทธิพลจนใหญ่คับอีสานไปแล้ว”

“อีสานกว้างใหญ่ไม่มีใครหยั่งรู้ดินฟ้าหรอก ผมเชื่อว่าคนอีสานหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง เขาไม่ยอมให้ใครเอาเชือกมาจูงจมูกเขาง่ายๆ ผมเจ็บปวด ผมต้องเสียอนาคต เสียเมีย เสียลูก เพราะไอ้ยันต์ ยมราช”

“เอ็งต้องค่อยๆคิด ต้องหาคนที่คิดเหมือนเอ็งเป็นแนวร่วม วิธีการสู้คนเดียวเอาชนะมันไม่ได้หรอก”

อ่างกับฮวดเสนอหน้าเข้ามาว่าพวกตนอยู่ข้างครุย พร้อมสู้กับพี่ แต่ครุยก็ยืนยันคำเดิมว่าคนเดียวไหว...

ด้วยความเป็นห่วงครุยเอามากๆ มะตูมทนนิ่งเฉยไม่ไหว จับมอเตอร์ไซค์คันเก่งออกจากบ้านไปพร้อมเก่งกับเฮงโดยได้รับความเห็นชอบจากคำม่วนที่ห่วงครุยเช่นกัน

ระหว่างทางไม่คิดว่าจะเจอยันต์ ยมราชที่กำลังโอ้อวดรถยนต์กันกระสุนราคาหลายสิบล้านนำเข้าจากเยอรมันแก่แขมแขที่เพิ่งถอยมาใหม่เอี่ยม เป็นคันแรกและคันเดียวในโคราช เลอค่าสำหรับแขมแขเป็นที่สุด

“ฉันหรือคะ ฉันไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถกันกระสุนหรอกค่ะ ใช้รถกระบะบ่อยๆ เพราะต้องออกไปตรวจงานโรงเลื่อยแทนคุณพ่อค่ะ”

ยันต์หน้าเจื่อนไปนิด พยายามปั้นยิ้มเอาใจหญิงสาว ทันใดนั้นรถมอเตอร์ไซค์มะตูมที่ซ้อนสามแล่นใกล้เข้ามา ราหูรีบออกไปขวางถนนโบกมือไล่เพื่อโอ้อวดอิทธิพลของยันต์

“เฮ้ย...หลีกไปทางโน้นโว้ย เดี๋ยวฝุ่นปลิวมาเกาะรถกันกระสุนของนาย”

ช้าไปเสียแล้ว มะตูมขับมาด้วยความเร็วเบรกไม่ทัน รถมอเตอร์ไซค์พุ่งขึ้นบนฝากระโปรงรถกันกระสุนของยันต์ ทุกคนต่างกระโดดหนีกันกระจาย

แขมแขห่วงพวกมะตูม กระตุ้นยันต์ให้พาพวกเขาส่งโรงพยาบาล แต่ยันต์ห่วงรถราคาแพง ดุด่ามะตูมยกใหญ่ก่อนจะรู้จากสมุนชื่อยงว่าเธอเป็นลูกสาวครูคำม่วนเจ้าของค่ายมวย จากนั้นเรียกจ่าโง่นมาพามะตูมไปโรงพักเจรจาเรื่องค่าเสียหายเพราะรถของเขามีรอยขีดข่วน แขมแขพยายามไกล่เกลี่ยก็ไม่เป็นผล

มะตูมโมโห ยอกย้อนยันต์ทุกคำแถมยังเตะรถไปหนึ่งป้าบ ก่อนบอกว่าคนมีรถกันกระสุนแสดงว่ามีโจทก์เยอะ...คำพูดนี้ทำให้แขมแขสะดุดหู เก็บเอามาขบคิดด้วยความไม่สบายใจ

ในที่สุดมะตูม เก่งและเฮงก็โดนจ่าโง่นควบคุมตัวไปโรงพักจนได้

“ไป...เข้าไปนอนรอในห้องขังจนกว่าครูคำม่วนจะมาประกันตัวแล้วจ่ายค่าเสียหายให้คุณยันต์”

“จ่าทำยังงี้ไม่ถูกนะ ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะหนี”

“หนีโดนอีกข้อหา หลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงาน ติดคุกหัวโต” จ่าโง่นชี้หน้าขู่มะตูมก่อนเดินออกไป

เก่งกับเฮงหน้าม่อย ถามมะตูมว่ารถกันกระสุนของยันต์ราคาหลายสิบล้านแล้วค่าเสียหายจะเท่าไหร่

“ไม่ใช่ความผิดของเรานี่หว่า นี่ถ้าไอ้ราหูมันไม่ออกไปยืนขวางถนน รถเราจะเสียหลักได้ยังไง”

“แต่ซ้อนสามนี่เป็นความผิดทางกฎหมายนะพี่”

“ยังไงเราก็มาไม่เสียเที่ยว ไอ้ยันต์สั่งรถกันกระสุนเข้ามาคงรู้ว่าอาครุยต้องคิดบัญชีแน่”

มไหศวรรย์ซึ่งอยู่ในห้องขังเดียวกันเงี่ยหูฟังด้วยความสนใจ มะตูมหันมาเห็นเขาก็สะดุ้งสุดตัว ร้องลั่นว่าที่นี่เขาขังผู้ต้องหาไม่แยกหญิงชายหรือไง ขังรวมแบบนี้จะไม่มีการข่มขืนเหรอ

“ไม่มีครับ สบายใจได้ ผมเป็นเกย์ครับ” มไหศวรรย์ตอบแล้วขยับเข้ามาถามเสียงแผ่วว่ายันต์ ยมราชมีรถกันกระสุนด้วยหรือ มะตูมนิ่วหน้าสงสัยว่าอีกฝ่ายอยากรู้ไปทำไม?

ooooooo

อินทร์เข้าไปสำรวจไม้ในป่าลึกแล้วพบว่าไม้พะยูงถูกตัดจนโล่งเตียน จึงเพ่งเล็งไปที่เสี่ยบุญยิ่งเจ้าของโรงเลื่อยชื่อดัง แต่วันที่อินทร์เข้ามาที่โรงเลื่อยไม่เจอเสี่ยพบเพียงกลอยใจลูกสาวและกระถินสาวใช้คนสนิทของเธอ

เมื่ออินทร์ยื่นความจำนงค์ว่าต้องการตรวจสอบบัญชีไม้ย้อนหลังห้าปี กลอยใจไม่พอใจ ถามว่าจะตรวจให้ได้อะไรขึ้นมา ไม้พวกนั้นแปรรูปไปหมดแล้ว

“ผมไม่ได้มาขอตรวจไม้ เพราะผมรู้ว่าไม้เป็นของร้อนต้องรีบแปรรูปแล้วเคลื่อนย้าย แต่ผมขอตรวจบัญชีไม้ที่ถูกตัดย้อนหลัง เราจะได้รู้ว่าคุณตัดไม้อย่างถูกต้องตามกฎหมายไปเท่าไหร่”

“ให้ตรวจไม่ได้”

“ทำไมครับ”

“คุณจะทำให้มันยุ่งยากทำไม คุณต้องการเท่าไหร่”

“เท่าไหร่?” อินทร์ทวนคำ เลิกคิ้วด้วยความสงสัย กลอยใจยิ้มเยาะก่อนขยายความอย่างเหยียดหยัน

“เราทำโรงเลื่อยมานาน แค่คุณอ้าปาก ฉันก็ได้กลิ่นน้ำนม แล้วก็เห็นลิ้นไก่ของคุณ ฉันเป็นคนตรงไปตรงมา เพราะเวลาของฉันมีค่า เราทำธุรกิจก็ต้องโอนอ่อนผ่อนปรนกันบ้าง...เท่าไหร่”

“อ้อ...ผมเข้าใจแล้ว คุณคงหมายถึงสินบน”

“เท่าไหร่” กลอยใจสะบัดเสียง กระถินไม่เห็นด้วยเรียกชื่อนายสาวปราม แต่กลับโดนเธอตวาดใส่ว่าไม่ต้องยุ่ง ตนกำลังเจรจากับนายคนนี้ว่าเขาต้องการเงินเท่าไหร่

“เท่าไหร่ดีน้า...แหม ตอนผมเกิดผมกินนมแม่ก็จริง แต่ต่อจากนั้นก็เปลี่ยนมากินนมวัว แต่เป็นวัวพันธุ์ดีแพงหน่อย พอเข้าโรงเรียนพ่อแม่ผมก็ส่งผมเข้าโรงเรียนดีๆ เข้ามหาวิทยาลัยก็มีค่าเทอม ค่าอาหารเสริม ค่าหน่วยกิต คุณจะจ่ายไหวเร้อ ชีวิตผมทั้งชีวิต อนาคตผมทั้งหมดแลกกับคุก เกียรติ ความเป็นผู้ชาย ชื่อเสียงของชาติตระกูลผม คุณต้องจ่ายแพงล่ะ”

“นายอินทร์!” กลอยใจฮึดฮัดโกรธจัด อินทร์ไม่สนใจลุกขึ้นยืนอย่างองอาจ กำชับจริงจังก่อนจะจากไป ให้เธอเตรียมหลักฐานทั้งหมดไว้ให้ตนตรวจสอบ ไม่อย่างนั้นไปเจอกันในศาล...กลอยใจและกระถินคิดไม่ถึงว่าจะเจอ คนจริง มองตามชายหนุ่มไปด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ooooooo

ในที่สุดคำม่วนก็ต้องเดินทางมาประกันตัวมะตูม เก่ง และเฮงที่โดนจ่าโง่นจับยัดห้องขังข้อหาขับรถโดยประมาททำให้รถเจ้าพ่อโคราชเสียหาย คำม่วนเคืองลูกสาวกับลูกน้อง บ่นอุบตั้งแต่บนโรงพักจนไปถึงหน้าตลาด

“มั้ยล่ะ ข้านึกแล้วไม่มีผิดว่าเอ็งต้องก่อเรื่องเดือดร้อน ข้าเอาค่ายมวยมายื่นประกันเจรจาค่าเสียหายเรื่องรถไอ้... เอ๊ย...เจ้ายันต์ ยมราช โธ่ๆๆ ชนรถใครไม่ชน ไปชนรถผู้มีอิทธิพล”

“รถกันกระสุนด้วยนะพ่อ”

“มันจะกันอะไรก็ช่างเหอะ ที่แน่ๆข้าเสียเงิน”

“พ่อ...เงินน่ะถึงคราวดวงซวยมันต้องเสีย ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย ถ้าคนของนายยันต์ไม่ออกมายืนขวางถนน ฉันก็ไม่เสียหลักชนหรอก มันทำอย่างกับมันเป็นเจ้าของถนน ดาวน์ถนนเอาไว้ผ่อนแบบเช่าซื้อ”

“นั่นสิ ใหญ่โตจริงๆนะพ่อ พี่มะตูมไม่ได้โกหกพ่อนะ”

“ฉันเป็นพยานได้”

เก่งกับเฮงยืนยันเสียงดังลั่น มไหศวรรย์ที่ถูกปล่อยตัวเดินออกมายืนฟังด้วยความสนใจ แล้วได้ยินมะตูมสำทับอีกคนว่า

“นายยันต์สั่งรถกันกระสุนมาใช้ คงกลัวอาครุยจนขี้ขึ้นสมอง ถ้าอาครุยเขาไม่แน่จริง เขาคงไม่เอาชีวิตรอดมาจากคุกหรอก พ่อ...งานนี้ฉันว่ามีลุ้น!”

แน่นอนว่าครุยคือเป้าหมายของยันต์ที่ต้องการกำจัดโดยเร็ว ยันต์ส่งสมุนตามล่าไม่เว้นวัน ไม่ว่าครุยไปโผล่ที่ไหนเป็นต้องโดนสมุนของยันต์เล่นงาน

หูตาของผู้มีอิทธิพลอย่างยันต์เต็มโคราชไปหมด ครุยจึงอยู่ยากเพราะอันตรายรอบตัว แต่ครุยขอยืนหยัดด้วยตัวเองเพราะไม่ต้องการให้คนรู้จักมักคุ้นเดือดร้อน แม้แต่มไหศวรรย์ที่เพิ่งเจอกันวันนี้ขณะครุยโดนสมุนของยันต์ไล่ล่าแล้วเขาเข้ามาช่วยเหลือ

มไหศวรรย์จากไปโดยไม่ได้แนะนำตัวกับครุย ส่วนครุยเดินทางกลับมาหาสัปเหร่อโข่งที่ท้ายวัด แล้วโดนโข่งบ่นอีกตามเคย

“ขืนเอ็งทำอะไรไม่คิดยังงี้คงได้ตายเข้าสักวัน คนของไอ้ยันต์ยังกับแย้ แล้วหูตาของมันอีกล่ะ เอ็งโผล่ที่ไหนมันรู้ทันที นี่...โทรศัพท์มีทั้งถ่ายรูปได้ มีทั้งส่งข่าวกันได้ มันถึงได้ส่งสมุนมาตามฆ่าเอ็งไงล่ะ”

“ผมจะอยู่นิ่งๆ โดยไม่ตามหาคำสีกับลูกได้ยังไง”

“ก็ต้องหาวิธีใหม่ ข้าเชื่อว่าคำสียังไม่ตาย มีคนเห็นคำสีที่นั่นที่นี่ สามเณรสีหมอกก็บวชอยู่กับหลวงพ่อที่วัดโคกอีแร้ง”

“ผมอยากพบลูก”

“พบตอนนี้ประโยชน์เกิดหรือเปล่า เอ็งกำลังหนีตาย เขาไล่ล่าทั่วทุกมุมเมือง จะเอาภัยไปให้ลูกเสียเปล่าๆนะ...ข้ารู้มาไอ้ยันต์จะร่วมหุ้นทำไม้แปรรูปกับเสี่ยไพบูลย์ เสี่ยไพบูลย์เป็นเจ้าของโรงไม้ที่อุบล ถ้ายันต์ ยมราชไปร่วมโคตรกับเสี่ยไพบูลย์จะรวยหนักขึ้นไปอีก”

“ร่วมโคตร?”

“ก็แต่งงานกับลูกสาวของเสี่ยไพบูลย์น่ะสิ เงินต่อเงิน อิทธิพลต่ออิทธิพล”

“ถ้าเราไม่รีบกระชากหน้ากากของมันออกมา เงินจะต่อปีกต่อหางให้มันบินสูงขึ้น คนชั่วพอมันได้ใส่สูทมันก็ยิ่งมีโอกาสโกงชาติ สมบัติของลูกหลานเราก็จะร่อยหรอลงจนไม่เหลือ...ผมจะโค่นไอ้ยันต์ให้ได้” ครุยประกาศกร้าว แววตามุ่งมั่น

ooooooo

ข้ามาคนเดียว

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด