ตอนที่ 16
มงคลกับโตมรมาพบกอบคุณตามนัดเพื่อเจรจาเรื่องการซื้อขายเหมือง กอบคุณรับรองแข็งขันว่าพรุ่งนี้คณะกรรมการเซ็นลงนามให้ตนอย่างแน่นอน พอมงคลถามว่าจะขายเหมืองทองเท่าไหร่ กอบคุณตอบทันทีว่าพันล้าน แล้วจะไม่มายุ่งอีกเลย
โตมรไม่พอใจพยายามต่อรองให้ลดราคาลงมาครึ่งหนึ่ง แต่กอบคุณไม่ยอม ถ้าสองพ่อลูกไม่ตกลงตนจะขายให้คนอื่น มงคลอยากได้เหมืองนี้มาแต่ไหน
แต่ไร หลายครั้งที่พยายามลอบฆ่าวิวัฒน์แต่ไม่สำเร็จ แน่นอนว่าเมื่อโอกาสได้ครอบครองเหมืองมาถึงเขาไม่ปล่อยหลุดมือแน่
“เดี๋ยวก่อนสิ...ใจเย็น...ตกลง พันล้านก็พันล้าน ผมจะจ่ายเงินยังไง”
“ทันทีที่ผมเป็นประธาน แล้วผมจะบอก ขอตัวนะ เจอกันพร้อมข่าวดีพรุ่งนี้”
กอบคุณจากไปอย่างผู้ชนะ โตมรร้อนใจบอกพ่อว่าเราต้องรีบเอาเงินจากเสี่ยโชคชัยมาให้ได้
“อย่าห่วง มีคนทวงให้แล้ว” มงคลทิ้งท้ายสีหน้าเจ้าเล่ห์ นึกถึงใครบางคน
ที่แท้คนที่มงคลกล่าวถึงก็คืออีวานั่นเอง เธอเดินทางมาพร้อมเปีย รายงานมงคลว่าจ่านนท์ตายแล้ว โตมรตกใจและทำหน้างุนงง มงคลจึงขยายความว่า
“แปลกใจล่ะสิ ฉันเรียกอีวามาทำงานนี้ก็เพื่อกำจัดจ่านนท์นี่แหละ ตายไปก็ดีแล้ว ขืนปล่อยไว้นับวันมันบังอาจขึ้นเรื่อยๆ อาจคุมไม่อยู่”
“แบบนี้นี่เอง...แล้วหมอนี่ล่ะ ลูกน้องจ่านนท์ไม่ใช่หรือ”
“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว” อีวาตอบแล้วสังเกตเห็นสีหน้ามงคลสงสัยเหมือนจะถาม เธอจึงรวบรัดตัดบทเสียก่อนว่า “ฉันต้องมีผู้ช่วย...มาคุยเรื่องนายสุพจน์กันดีกว่า”
ค่ำวันเดียวกันนี้ที่เซฟเฮาส์ โชคชัยแสดงความเสียใจกับสุพจน์ที่สูญเสียเอื้อมพรที่เป็นลูกเลี้ยง
“มันเป็นเวรกรรม ช่างมันเถอะ แล้วเรื่องของเราจะว่ายังไง”
“ถึงเราเป็นเพื่อนกันมานานก็จริง แต่ฉันก็มีความจำเป็น บอกใครไม่ได้แม้แต่แก...รู้ไหมทำไมฉันถึงยังไม่กล้าเอาเงินมาใช้ เพราะฉันรู้ดี ถ้าบัญชีฉันเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ มันอาจถูกตรวจสอบว่าเส้นทางการเงินมันไหลไปที่ใครบ้าง และทุกคนที่รับเงินไปก็จะถูกสงสัย”
“ฉันเข้าใจ แต่ตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว”
“ใช่...ถึงเวลาแล้วที่ต้องคืนเงินเขาไป” โชคชัยพูดจริงจัง...ตรงข้ามกับสุพจน์ที่ไม่พอใจแต่เก็บซ่อนอาการไว้
ooooooo
วีนัสพาดารินและภูผาไปอาศัยบ้านเพื่อนสาวคนเดิมที่เคยมาพักพิง ปะเหมาะพอดีแฟนของเพื่อนคนนี้อยู่ในทีมบอดี้การ์ดที่ดูแลเสี่ยโชคชัย ภูผาจึงขอแฝงตัวเข้าไปอยู่ด้วย โดยให้เขาบอกคนในทีมว่าเป็นน้องใหม่
ส่วนที่บริษัทของวิวัฒน์ในเช้านี้กอบคุณรอคอยเวลาให้คณะกรรมการเซ็นรับรอง แต่แล้วมาศจันทร์เข้ามาพร้อมรัตนาและยุทธ เธอมาในฐานะกรรมการคนหนึ่งและจะไม่เซ็นรับรองให้กอบคุณ
“แต่ผมทราบข่าวมาว่าใช้กรรมการสองในสามก็รับรองได้แล้วไม่ใช่หรือครับ ผมว่ากรรมการทั้ง 5 ท่านนี่ก็น่าจะมีเสียงข้างมากพอนะครับ”
มาศจันทร์นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนขอร้องกรรมการทั้ง 5 คนไม่ให้เซ็น พ่อของตนไม่มีวันโอนหุ้นให้กอบคุณอย่างแน่นอน กรรมการทุกคนเห็นใจเธอแต่จำเป็นต้องว่ากันไปตามเอกสาร
ทันทีที่กรรมการทั้งห้าเซ็นลงนามรับรองให้กอบคุณรับตำแหน่งประธานคนใหม่ สิ่งแรกที่กอบคุณบอกทุกคนก็คือเขาจะขายเหมืองให้คนที่บริหารธุรกิจนี้เป็น...พูดขาดคำ มงคลกับโตมรก็ปรากฏตัว สองพ่อลูกกระหยิ่มยิ้มย่องมั่นใจว่าเหมืองไม่หลุดมือแน่
แต่แล้วสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น วิวัฒน์ พายุ และหมู่รงค์ก้าวเข้ามาในห้องประชุมในสภาพร่างกายปกติ ทุกคนตกใจมาก โดยเฉพาะกอบคุณถึงกับอุทานว่าเป็นไปได้ยังไง
มงคลกับโตมรหน้าเจื่อน ชิงหาทางออกบอกสองฝ่ายให้ตกลงกันก่อน เรียบร้อยแล้วค่อยมาบอกตน หลังจากสองพ่อลูกกลับออกไปแล้ว พายุก็ลำดับเหตุการณ์วันที่รถระเบิดให้กอบคุณและทุกคนฟัง
พายุปลดระเบิดออกจากวิวัฒน์ได้สำเร็จแล้วช่วยกันกับหมู่รงค์พาวิวัฒน์ออกจากรถโดยทิ้งระเบิดเอาไว้ แต่หมวดกับจ่าลูกน้องของกอบคุณไม่รู้จึงวิ่งสวนเข้าไป เมื่อกอบคุณกดรีโมตรถก็ระเบิดเป็นจุณ ไฟครอกสองคนนั้นไหม้เกรียม
กอบคุณผงะกับสิ่งที่ได้ยิน ขณะที่วิวัฒน์รีบชี้แจงความจริงกับกรรมการบริษัททุกคนว่า
“เรียนกรรมการทุกท่าน ผมได้เซ็นโอนหุ้นให้กับรัตนาเอาไว้ก่อนที่กอบคุณจะมาบังคับให้ผมเซ็น ดังนั้นผมจึงใช้ลายเซ็นอีกลายเซ็นเอาไว้ เพราะผมจะไม่รับรองลายเซ็นนี้ เพราะฉะนั้นรัตนาคือผู้ที่ได้รับโอนหุ้นอย่างถูกต้อง”
“สารวัตรมีสิทธิ์โดนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว
และพยายามฆ่าด้วยนะ” หมู่รงค์ระบุข้อหา กอบคุณถึงกับหน้าซีดหาทางออก
“ใคร...ใครกันแน่ที่จะต้องถูกตั้งข้อหา แกสองคนต่างหาก มีคดีเพียบ ส่วนข้อหาของฉันไปหาหลักฐานมาสิ...ไหนล่ะหลักฐาน เชิญคุณอาวิวัฒน์ไปแจ้งความได้เลย”
“แกยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าอาอีกหรือ”
“ผมยังให้เกียรตินะครับ ตกลงคราวนี้ผมพลาดเอง ผมควรจะไปเสียที แต่งานนี้ไม่จบง่ายๆหรอก”
กอบคุณผลุนผลันออกไป หมู่รงค์ทำท่าจะก้าวตามแต่พายุรีบห้ามไว้
วิวัฒน์ส่งคืนการ์ดหลักฐานเอาผิดกอบคุณให้
มาศจันทร์ที่ฝากไว้ พร้อมกล่าวขอบใจพายุที่ทำให้เราสองพ่อลูกได้กลับมาเห็นหน้ากันอีก
“มันเป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำครับท่าน”
“ดีล่ะ เอาหลักฐานไปแฉกอบคุณได้เลย คราวนี้เขาคงดิ้นไม่หลุด”
“ยังนอนใจไม่ได้หรอกค่ะคุณพ่อ กอบคุณเป็นคนเจ้าเล่ห์มาก”
“จริงครับ ขนาดนี้เรายังเอาผิดเขาไม่ได้เลย”
“แต่ยังไงคนผิดก็ย่อมเป็นคนผิด ฉันเชื่ออย่างนั้น ตามสบายนะ ฉันขอไปจัดการเรื่องหุ้นส่วนก่อน”
วิวัฒน์ผละไป พายุกับมาศจันทร์สบตากันอย่างมีความสุข พากันออกไปกินข้าวสองต่อสอง พายุสารภาพจากใจว่าตั้งแต่รู้จักกันมาวันนี้เป็นวันที่ตนรู้สึกสบายใจที่สุด เพราะพ่อของหญิงสาวเข้าใจตน
“คุณพ่อท่านเข้าใจพายุมานานแล้ว แต่ท่านยังคงต้องดูพฤติกรรมของกอบคุณ ท่านถึงยอมปกปิดที่เดินไม่ได้ จนถึงแอบโอนหุ้นให้ป้ารัตนาเพื่อเก็บไว้ให้ฉัน”
“คุณพ่อคุณเก่งจริงๆ”
“แล้วพ่อนายล่ะ รู้หรือยังว่าคือใคร”
“ยังครับ แต่ผมต้องรู้เข้าสักวัน”
“ฉันจะเป็นกำลังใจให้ เราจะเอาการ์ดนี่เริ่มต้นที่ไหนดี”
“วีนัส” พายุตอบอย่างมั่นใจ
ooooooo
ดารินกระวนกระวายใจที่ปล่อยภูผาไปสืบเรื่องเสี่ยโชคชัยเพียงคนเดียว วีนัสก็เช่นกันเพราะรู้ว่าภูผาใจร้อนและมุทะลุแค่ไหน เมื่อดารินตัดสินใจจะไปดูลาดเลา วีนัสจึงขอไปด้วย
แต่แล้วมีเหตุให้วีนัสต้องเปลี่ยนใจ เพราะเพื่อนที่รับฝากเรื่องตรวจดีเอ็นเอไว้โทร.มาแจ้งว่าผลออกแล้ว
“สงสัยเธอต้องไปคนเดียวแล้วล่ะ” วีนัสบอกดาริน
เพื่อนสาวของวีนัสซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเสนอตัวไปกับดารินเองเพราะวันนี้เธอหยุดงาน ขณะเดียวกันนั้นอีวากับเปียก็กำลังมุ่งหน้าไปหาเสี่ยโชคชัยตาม
แผนของมงคล อีวาเตรียมยากล่อมประสาทมาด้วยเพื่อทำให้มงคลพูดความจริงเรื่องเงินประกันก้อนโต
เมื่ออีวากับเปียไปถึง แน่นอนว่าถูกสกัดขัดขวางโดยภูผาที่แฝงตัวอยู่ในทีมบอดี้การ์ด แต่อีวาก็เก่งกาจลุยเข้าไปฉีดยากล่อมประสาทใส่โชคชัยก่อนคาดคั้นให้บอกรหัสสี่ตัวมา ปรากฏว่าโชคชัยจำไม่ได้เพราะเป็นอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้น
“งั้นแกก็ต้องจดเอาไว้ แกจดเอาไว้ที่ไหน”
“ให้ ผอ.สันติกับสุพจน์ไปแล้ว”
อีวาผิดหวังและโกรธจนฟิวส์ขาด หักคอโชคชัยตายคาที่แล้วหลบหนีไปพร้อมเปีย ฝ่ายดารินกับเพื่อนสาวของวีนัสไม่รู้ความเคลื่อนไหวภายในเซฟเฮาส์เพราะแอบติดตามสุพจน์กับสันติไปก่อนหน้านี้
สองสาวตามประกบไปถึงร้านกาแฟ ซุ่มแอบฟังสุพจน์กับสันติคุยกันเรื่องกุญแจไขเซฟที่โชคชัยมักจะเก็บติดตัวไว้ตลอดเวลาเพราะเขาเป็นอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้น
“ทำไมเขาไม่ให้กุญแจผมมาเลย”
“โชคชัยไม่โง่หรอก”
ขาดคำของสุพจน์ เสียงโทรศัพท์มือถือสันติดังขึ้น บอดี้การ์ดโทร.มาแจ้งข่าวมีคนบุกเข้ามาฆ่าโชคชัยตาย สันติตกใจอุทานเสียงดังจนคนแอบฟังได้ยินชัด เขากำชับห้ามทำอะไรกับศพอย่างเด็ดขาดจนกว่าตนจะไปถึง สุพจน์แตกตื่นไม่แพ้กัน ออกจากร้านไปไล่เลี่ยกับสันติ เช่นเดียวกับดารินและเพื่อนสาวก็ตื่นตัวในเรื่องนี้
ภูผาเก็บกุญแจเปิดเซฟที่หล่นอยู่ใกล้ศพโชคชัยไว้ได้ก่อนหน้าสันติจะมาถึง แต่พอสันติรู้สึกผิดสังเกตจึงสั่งคนของตนควบคุมบอดี้การ์ดหน้าใหม่ไว้และให้ค้นตัวด้วย ภูผาหัวไวรีบยัดกุญแจใส่กระเป๋าเสื้อแจ็กเกตของแฟนเพื่อนวีนัสโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง
เมื่อค้นตัวแล้วไม่พบกุญแจ แต่สันติก็ยังไม่ปล่อยภูผาไป ทางด้านอีวากับเปียที่กลับไปหามงคลและโตมรด้วยความผิดหวัง อีวามั่นใจว่าโชคชัยให้รหัสสุพจน์ไปแล้ว โตมรจึงอาสาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
สุพจน์ไม่ได้ตามสันติกลับไปที่เซฟเฮาส์ แต่เขานัดพบกอบคุณเพื่อส่งข่าวเรื่องโชคชัยตายและสันติกำลังตามหากุญแจอยู่ กอบคุณไม่ไว้ใจคนตงฉินอย่างสันติ แต่พอสุพจน์ยืนยันว่าเงินอยู่เหนือทุกอย่าง ตนกับสันติตกลงกันไว้ดิบดีแล้ว กอบคุณก็คลายใจ
“ถ้ามันเป็นแบบนั้นได้ก็ดี ให้เศษเงินมันไป”
“ตอนนี้เราต้องรอ ผมคงต้องกลับไปนครสวรรค์ก่อน งานศพเอื้อมพรยังไม่จบ แล้วอย่าลืมสัญญาล่ะว่าจะช่วยตามหาคนที่ฆ่าเอื้อมพร”
“แน่นอน...ทันทีที่เงินถึงมือฉัน”
ooooooo
บอดี้การ์ดหนุ่มแฟนของเพื่อนวีนัสกลับมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พวกวีนัสฟัง โดยไม่รู้ว่าภูผาแอบยัดกุญแจเซฟใส่เสื้อแจ็กเกตเขาไว้
ตามรูปการณ์แล้ววีนัสแน่ใจว่า ผอ.สันติร่วมมือกับสุพจน์หลังเคลมเงินประกัน ดารินเสริมว่ามันต้องเอากุญแจไปไขรหัสที่ธนาคาร
งานนี้ทุกคนเชื่อว่าสันติไม่ปล่อยภูผาไว้แน่ เพราะเขาอยู่กับศพเป็นคนสุดท้าย ดารินให้ช่วยกันคิดถ้าภูผาจะซ่อนกุญแจควรซ่อนไว้ที่ไหน แต่ทุกคนจนปัญญา แล้วอดคิดไม่ได้ว่าบางทีภูผาอาจจะไม่เจอกุญแจ
ทันใดนั้นมีเหตุด่วนแจ้งเข้ามาที่บอดี้การ์ดหนุ่ม เขาลุกไปคว้าเสื้อแจ็กเกตที่แขวนไว้มาสะบัดก่อนใส่ ทำให้กุญแจร่วงลงมาต่อหน้าทุกคน วีนัสดีใจมากจะนำกุญแจนี้ไปแลกตัวภูผากลับมา
ทางฝ่ายวิวัฒน์ หลังจากโอนหุ้นจากรัตนามาให้มาศจันทร์เรียบร้อยแล้ว เขาให้พายุกับยุทธกลับไปดูแลงานที่เหมือง ส่วนตัวเขากับมาศจันทร์และรัตนาจะยังอยู่กรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัย เมื่อพายุมาถึงเหมืองก็ได้พบกำนันไผ่ และมีโอกาสรู้ผลตรวจดีเอ็นเอพร้อมกันหลังจากวีนัสโทร.มาบอกกำนันไผ่ พร้อมกับแจ้งว่าเธอกำลังจะเอากุญแจไปแลกกับภูผาที่ถูกสันติควบคุมตัวอยู่
เมื่อความจริงปรากฏว่าพายุคือลูกของสุพจน์ และสุพจน์เองก็รู้มาตลอดแต่ไม่ยอมรับเพราะโกรธแค้นนิ่มที่หนีไปกับกำนันไผ่ จึงเอาความแค้นนี้มาลงที่พายุ
ฝ่ายสันติหลังได้รับการติดต่อจากวีนัสที่จะเอากุญแจเซฟมาแลกตัวภูผา เขารีบบอกต่อไปยังสุพจน์ที่ตกลงจะแบ่งเงินประกันให้รอฟังข่าวดีวันพรุ่งนี้ โตมรล่วงรู้เพราะได้ยินสุพจน์คุยโทรศัพท์ เขาตั้งใจฆ่าสุพจน์ด้วยความแค้นเรื่องมีสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับเอื้อมพร และเฉลยว่าเขาเองที่ฆ่าเอื้อมพรตาย
สุพจน์นึกอยู่แล้วว่าโตมรคือฆาตกร เขาจะล้างแค้นให้เอื้อมพร แต่กลายเป็นโดนโตมรซ้อมปางตาย ก่อนที่พายุซึ่งตั้งใจจะมากราบพ่อบังเกิดเกล้าเข้ามาเจอแล้วเกิดการต่อสู้กันดุเดือด โตมรตั้งใจยิงพายุแต่สุพจน์พุ่งเข้ามารับกระสุนแทน และสิ้นใจตายหลังจากสองพ่อลูกได้ปรับความเข้าใจกันดีแล้ว ส่วนโตมรกระเสือกกระสนหนีไปจนได้
โตมรกลับมาเล่าให้มงคลฟังว่าตนฆ่าสุพจน์ตายและความจริงคือสุพจน์เป็นพ่อแท้ๆของพายุ จากนั้นสองพ่อลูกก็วางแผนใช้อีวาไปแย่งกุญแจเซฟจากพวกภูผาที่จะแลกเปลี่ยนกับสันติในวันพรุ่งนี้
ด้านกอบคุณก็ไม่ยอมแพ้วิวัฒน์ เขาอยากได้เหมืองทองจึงพยายามตามตัววิวัฒน์กับมาศจันทร์โดยให้ลูกน้องไปคาดคั้นยุทธและซ้อมเขาสะบักสะบอม ที่สุดยุทธก็ยอมบอกแหล่งซ่อนตัวของสองพ่อลูก หลังจากนั้นไม่นานกอบคุณจึงมาปรากฏตัวแล้วฆ่าวิวัฒน์กับรัตนาอย่างโหดเหี้ยม ก่อนนำตัวมาศจันทร์ออกจากบ้านไป
พายุตั้งใจไปล้างแค้นให้สุพจน์และเอื้อมพรที่โดนโตมรฆ่าตาย แต่เมื่อเขากับกำนันไผ่และหมู่รงค์บุกเข้าไปในบ้านกลับไม่พบทั้งมงคลและโตมร คาดคั้นลูกน้องได้ความว่าสองพ่อลูกเข้ากรุงเทพฯ เรื่องไปแลกตัวภูผา กำนันไผ่ร้อนใจเป็นห่วงลูกชายรีบเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมพายุและหมู่รงค์
การแลกเปลี่ยนเริ่มขึ้น! วีนัสกับดารินเผชิญหน้ากับ ผอ.สันติที่มาพร้อมลูกน้องซึ่งควบคุมตัวภูผาไว้ ข้อตกลงแลกเปลี่ยนคือยื่นหมูยื่นแมว แต่ไม่สำเร็จเพราะอีวากับเปียโผล่มายิงลูกน้องสันติดับดิ้น โดยมีมงคลกับโตมรมาด้วย พวกภูผาจะชักปืนเตรียมสู้ แต่เปียพูดโพล่งอย่างเหนือกว่า
“อย่าดีกว่า แกไม่ทันฉันหรอกภูผา”
อีวาเก็บลูกกุญแจไว้กับตัว มงคลเห็นดังนั้นเร่งหญิงสาวให้ส่งมา แต่อีวาแววตาเจ้าเล่ห์ เยาะหยันมงคลว่าเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ส่งกุญแจมา” โตมรตวาดลั่น
เปียกับอีวากลัวซะที่ไหน เปียส่งสัญญาณให้ลูกน้องที่ซุ่มอยู่ออกมาแล้วยิงใส่พวกสันติตายเรียบ
“แกหักหลังฉัน” โตมรแผดเสียงอย่างสุดแค้น
“แกต่างหากที่หักหลังพวกเรา” อีวาสวนทันควัน ขณะที่มงคลถามว่าพวกแกหมายความว่ายังไง “เงินนี้เป็นของนายใหญ่ พวกแกกะจะฮุบใช่ไหม”
“ฉันพนันอะไรก็ได้ว่าเธอคงไม่มีวันเอาเงินไปส่งให้นายใหญ่อะไรนั่นหรอก จริงไหมอีวา”
อีวาหันปืนมาทางภูผาทันที “แกไม่รู้อะไรหุบปาก ไปเลย”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ยิงทิ้งให้หมดเลย”
เปียตัดบทแล้วเตรียมยิงพวกภูผา แต่ทันใดนั้นกลุ่มของพายุมาช่วยทันเวลา ยิงลูกน้องเปียร่วงหลายคน โตมรกับมงคลใช้จังหวะชุลมุนหนีไป ฝ่ายพายุแม้จะได้เปรียบแต่ก็บอกทุกคนว่าถอยดีกว่า ขืนอยู่เรื่องใหญ่แน่
พอดีเสียงไซเรนรถตำรวจดังแว่วมา พวกพายุทยอยจากไป อีวากับเปียและลูกน้องที่เหลือหันรีหันขวาง
“ไปกันเถอะ...ตำรวจมาแล้ว” เปียเร่ง
“จะไปทำไม ในเมื่อตำรวจก็พวกเรา”
คำพูดของอีวาทำให้เปียชะงัก สีหน้างุนงง...ห่างออกไปจากบริเวณนั้นมีสายตาใครบางคนจับจ้องมองมาด้วยความเคียดแค้น
กลุ่มของพายุตั้งใจไปหาวิวัฒน์กับมาศจันทร์ยังบ้านที่ซ่อนตัว แต่สิ่งที่เห็นทำให้ทุกคนตกใจแทบช็อก วิวัฒน์กับรัตนากลายเป็นศพ วีนัสตรวจสอบแล้วบอกว่าเพิ่งตายได้ไม่นาน คนอื่นๆช่วยกันค้นทั่วบ้านแต่ไม่พบมาศจันทร์
ภูผาสงสัยว่าฝีมือใคร หมู่รงค์คาดเดาว่าเป็นกอบคุณ พายุขบกรามแน่นคำรามในลำคอด้วยความแค้นสุดขีด
“มันเลวจริงๆ”
วีนัสบอกว่ามันไม่ทิ้งร่องรอยหรือหลักฐานอะไรไว้เลยทำอะไรมันยาก กำนันไผ่สงสัยว่ามันจับมาศจันทร์ไปไว้ที่ไหน พายุพอจะเดาได้
“เหมือง...ยังไงมันก็ต้องกลับไปที่นั่น”
ooooooo