ตอนที่ 2
ธนุสตัดสินใจทำตามคำขอร้องของยุวดีโดยเดินทางไปที่สมุย แต่กว่าจะถึงจุดหมายก็มีอุปสรรคมากมายจากลูกน้องของปราบที่สะกดรอยตามพยายามลอบฆ่า
เมื่อนางเคลือบ รูปโอ ได้รับจดหมายก็ได้มอบของปริศนาบางอย่างกลับมาให้ธนุส นั่นคือไกปืนทองคำ โดยบอกว่าให้เอาไปคืนยุวดี แม้ธนุสจะบอกว่ายุวดีตายไปแล้วแต่นางเคลือบก็ไม่สนใจ และไม่ยอมรับไกปืนทองคำกลับคืน ธนุสจึงต้องเก็บรักษาเอาไว้โดยหา
รู้ไม่ว่ามันคือบัตรเชิญของมัจจุราชที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาเขานั่นเอง
สมภพไม่ละความพยายามที่จะฆ่าธนุสตามคำสั่งของปราบ เขาวางสมุนดักไว้ทั้งท่าเรือและสนามบิน แต่ธนุสหูไวตาไวรู้แกวไปเสียหมด อีกทั้งได้คริสติน่าช่วยเหลือจึงรอดพ้นเงื้อมมือพวกสมภพมาได้อีก
“นี่เป็นครั้งที่สองที่คุณช่วยผมไว้”
“นั่นสิ คุณนี่คงจะนิสัยไม่ดีมากๆเลย ถึงได้มีเรื่องไปทั่วแบบนี้”
“โจทก์เก่าจากภูเก็ตน่ะครับ มันมาตามล่าผมถึงที่นี่ แต่แปลกดีนะที่คุณก็มาสมุยเหมือนกัน”
“คงจะเป็นแมจิคที่ทำให้ฉันเช่ารถข้ามฝั่งมาเที่ยวบนเกาะ แล้วก็บังเอิญมาเจอคุณ”
“คราวนี้คุณคงบอกชื่อผมได้แล้วใช่ไหม”
“ก็ได้ค่ะ ฉัน...คริสติน่า”
“ผมแดน...ยินดีที่รู้จัก”
คริสติน่ายิ้มน้อยๆ เหยียบคันเร่งรถทะยานต่อไปจนกระทั่งใกล้ถึงท่าเรือ ธนุสแน่ใจว่าโจทก์ของตนดักรออยู่ มันคงไม่ปล่อยให้ตนออกจากเกาะไปง่ายๆ คริสติน่ากลับไม่ยี่หระ บอกว่าตนมีวิธี
หญิงสาวให้ธนุสปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ประจำรถมูลนิธิที่มารับศพฝรั่งถูกยิงตายคาชายหาด ส่วนเธอ อ้างตัวเป็นญาติคนตายเล่นละครร้องห่มร้องไห้ด้วยความอาลัย
แผนการของคริสติน่าทำให้ธนุสรอดตาพวกสมภพสามารถขึ้นเรือออกจากเกาะได้พร้อมเธอ แถมโบกมือเย้ยสมภพที่ยืนอยู่ท่าเรือ
“พวกมันคงแค้นมากเลยนะคะที่เราขึ้นเรือได้”
“แล้วคุณทำยังไง พวกเจ้าหน้าที่มูลนิธิถึงได้ร่วมมือกับคุณแบบนี้”
“ฉันมาเที่ยวเกาะสมุยทุกปี มันก็ต้องรู้จักคนท้องถิ่นกันบ้าง”
“ผมเป็นหนี้คุณอีกครั้ง”
“ชิลล์ๆค่ะ ไม่ต้องคิดมาก” คริสติน่ายิ้มหวาน ธนุสพอใจแต่ยังเก็บความรู้สึกเอาไว้...
สองคนเข้ากรุงเทพฯพร้อมกันด้วยรถที่คริสติน่าเช่าไว้ใช้งาน แต่คราวนี้ธนุสขับให้ตอบแทนน้ำใจของเธอ
“คุณไม่แวะเที่ยวที่ไหนแล้วใช่ไหม”
“กลับกรุงเทพฯเลยดีกว่าค่ะ ฉันมีธุระที่สถานทูต”
“คุณทำงานอะไร”
คริสติน่านิ่งคิดหาวิธีตอบคำถามนี้ “นักเขียน...แล้วคุณล่ะ” เธอแกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าธนุสเป็นใคร แต่ที่ถามเพราะอยากรู้ว่าเขาจะตอบยังไง
“ตอนนี้ผมตกงาน”
“ดีสิ งั้นมาทำงานกับฉันไหม”
“งานอะไร”
“ก็ขับรถไง พาฉันไปโน่นไปนี่ที่อยากจะไประหว่างที่ฉันอยู่เมืองไทย”
“อย่าเลย เดี๋ยวคุณจะเดือดร้อน โจทก์เก่าผมเยอะ”
คริสติน่าอมยิ้ม แอบรู้สึกพึงใจในตัวผู้ชายคนนี้
ooooooo
หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนพาไอรีณมาให้ปราบดูตัวถึงบ้าน วันนี้พี่หอยจึงไปปรากฏตัวที่ห้องพักภายในคอนโดหรูที่ปราบจัดหาให้ไอรีณ
สภาพห้องหับสวยหรูทำให้พี่หอยตื่นตาตื่นใจ ไม่นึกว่าไอรีณจะโชคดีขนาดนี้
“ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพี่หอยแหละค่ะ”
“จ้า ขอบใจนะที่ไม่ลืมพี่ แหม...โซฟาใหม่นุ้มนุ่ม” พี่หอยทิ้งตัวลงนั่งแล้วเด้งตัวเล่นไปมาบนโซฟา
“แล้วเมื่อไหร่คุณปราบเขาจะมาหาหนูล่ะ”
“ต๊าย...นี่เขายังไม่มาหาเธอเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ หนูก็รอร้อรอมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ”
“แสดงว่ายัง...” พี่หอยไม่พูดต่อ แต่ยิ้มลามกจนไอรีณเขินอาย “นี่หล่อน ไม่ต้องทำเขิน ทำอย่างกับฉันไม่รู้ประวัติเธองั้นแหละ จะให้สาธยายไหมว่าผ่านมากี่คนแล้ว”
“พี่หอย...อย่าให้มันมากนักนะ อดีตก็คืออดีต ตอนนี้คือปัจจุบัน อย่าลืมว่าพี่สร้างภาพให้หนูเป็นสาวพรหมจารีย์ ต่อสู้ชีวิตเพื่อครอบครัว พี่จะพูดเรื่องที่ผ่านมาเพื่ออะไร”
“เออจริง ฉันลืมไป ขอโทษ”
“แล้วพี่มาทำไมเนี่ย”
“ต๊าย...เกือบลืม คือพี่จะมาวางคิวเดือนนี้ให้ ตอนนี้บริษัทหนังเขาตกลงจะรับเธอเป็นดาราในสังกัดแล้วนะ เธอต้องเริ่มไปเรียนการแสดง แล้วก็เริ่มถ่ายแบบลงหนังสือ อีกสองวันเขาจะนัดไปเซ็นสัญญา”
“จริงเหรอคะพี่”
“ย่ะ เขาจะเริ่มโปรโมตเธอว่าเป็นนางเอกใหม่แล้ว ไปเอาสมุดคิวมา เดี๋ยวพี่ลงคิวให้”
“ขอบคุณค่ะพี่ หนูจะไม่ลืมพี่เลยจริงๆ” ไอรีณกอดขอบคุณแล้วรีบไปเอาสมุดคิวมาเพื่อให้พี่หอยลงคิวงาน
เวลานั้นที่โถงชั้นล่าง ปราบมาพร้อมโภคัย แล้วเจอแบมโดยบังเอิญ เธอกำลังจะออกไปซื้อของ พอเห็นปราบมาก็ออดอ้อนจะให้ไปที่ห้องของตน
“วันนี้ฉันมาหาคนอื่น”
คำตอบของปราบทำให้แบมผิดหวัง ตัดพ้อว่าเขาคงเบื่อตนแล้ว ปราบไม่เบื่อแต่ย้ำว่ายังไม่ถึงคิว พูดแล้วก้าวเข้าลิฟต์ไป แบมหน้าง้อหันมาถามโภคัยว่าวันนี้ท่านมาหาใคร
“คุณไอรีณ”
“นังเด็กใหม่นั่นสินะ” แบมกระแทกเสียงหงุดหงิดเดินปึงปังออกไป...
ปราบกดกริ่งหน้าห้องไอรีณ พี่หอยมาเปิดแล้วดีดดิ้นร้องว้ายยกมือไหว้สวัสดีเชิญเขาเข้าข้างใน
“คือวันนี้หอยมาลงคิวงานให้น้องค่ะ ตอนนี้น้อง ได้เซ็นสัญญาแล้ว ต้องมีคิวเรียนการแสดงเลยมาทำคิวกัน”
“แล้วไอรีณอยู่ไหน”
“ห้องน้ำค่ะท่าน น่าจะอาบน้ำอยู่”
ปราบยิ้มน้อยๆ พี่หอยรู้ใจจะรีบชิ่ง
“เอ้อ...ตอนนี้ลงคิวกันเสร็จแล้ว หอยขอตัวนะคะท่าน ลาล่ะค่ะ”
พี่หอยพนมมือไหว้ปราบด้วยท่าทีอ่อนน้อมแล้วเดินก้นบิดออกจากห้องไป
ooooooo
ปราบนั่งรอไม่นานก็ได้คลอเคลียนัวเนียไอรีณที่พร้อมมากอยู่แล้ว แต่หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ หญิงสาวกลับนอนร้องไห้เพื่อความสมจริงในบทสาวพรหมจารี
ตอนแรกปราบไม่เข้าใจ นึกว่าเธอไม่ชอบเขา ถามมาถามไปถึงรู้ว่าครอบครัวเธอหัวโบราณ ถ้าพ่อแม่รู้คงรับไม่ได้เพราะแม่สอนให้ลูกสาวรักนวลสงวนตัว
ไอรีณร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่เลิกจนปราบเริ่มรำคาญจะเขียนเช็คหนึ่งแสนชดใช้ค่าเสียหายให้
แต่เธอปฏิเสธไม่รับ แค่ให้ที่อยู่ที่กินก็เพียงพอแล้ว...
ความน่ารักแสนดีของไอรีณทำให้ปราบพอใจ เริ่มซุกไซ้หาความสุขจากเธออีกครั้ง
สมควรแก่เวลา ปราบเตรียมตัวกลับและบังคับไอรีณให้รับเช็คหนึ่งแสนไว้พร้อมกำชับว่าทั้งสัปดาห์เธอต้องว่างตนจะมาอยู่ด้วย ไอรีณลอบยิ้มสมใจ เดินตามไปส่งเขาหน้าประตู แบมที่อยู่ห้องถัดไปออกมายืนมองหมั่นไส้เด็กใหม่ของปราบ เธอจงใจเข้ามาหักหน้าด้วยการขอให้เขาค้างกับตนคืนนี้
“แต่พรุ่งนี้ฉันมีงานเช้า”
“เดี๋ยวแบมปลุกท่านเองค่ะ”
“ฉันเหนื่อย”
“แบมเข้าใจค่ะ เดี๋ยวแบมนวดให้นะคะ แบมแค่อยากให้ท่านได้พัก แบมไม่ได้ต้องการอะไรจากท่านหรอกค่ะ ขอให้แบมได้ปรนนิบัติท่านบ้าง”
แบมตื๊อหนักจนปราบใจอ่อนเดินเข้าห้องเธอไป แบมก้าวตามแต่ไม่วายหันมายิ้มเย้ยไอรีณอยู่ในที
ไอรีณเจ็บใจที่โดนหยาม กลับเข้าห้องตัวเองก็กรีดร้องอาละวาดด่าทอแบมอย่างอาฆาต
ooooooo
ค่ำวันเดียวกัน ธนุสกลับถึงบ้านที่กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพด้วยรถเช่าของคริสติน่า
“ขอบคุณมากที่กรุณากับผม”
“แล้วเราจะเจอกันอีกไหม”
“ผมคงต้องไปมีเรื่องอีก แล้วคุณก็จะโผล่มาช่วยเอาไว้เหมือนสองครั้งที่ผ่านมา”
“พรุ่งนี้กลางวันฉันไม่มีเพื่อนกินข้าว คุณว่างมั้ย”
ธนุสคาดไม่ถึงว่าคริสติน่าจะขอเดท แต่ก็ตอบรับเพื่อเป็นการเลี้ยงขอบคุณที่เธอช่วยเขาไว้
แม้จะรู้สึกดีกับหญิงสาวที่เพิ่งพบกัน แต่ในใจของธนุสยังคงมีลำเพาไม่เคยเปลี่ยน เขาเก็บภาพถ่ายของเธอไว้ในบ้าน ภาพนั้นเธอยิ้มสดใส ยิ่งมองก็ยิ่งคิดถึงเธอเหลือเกิน
แต่เวลานี้ลำเพาแทบไม่เหลือเค้าคนเดิม ตั้งแต่เธอไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศก็มีแต่ทรุดโทรมทั้งร่างกายและจิตใจ ชีวิตในต่างแดนเหมือนตัวคนเดียวโดดเดี่ยวและว้าเหว่
พลายแอบรักลำเพา พอได้มาเห็นกับตาก็รู้สึกสงสารและเป็นห่วง พลายเดินทางมาเพราะเรื่องงานที่อัศวินมอบหมาย โดยมีมาลีสายลับสาวอีกคนมาอยู่ก่อนที่ลำเพาจะมา
เมื่อเผชิญหน้ากัน พลายแสดงความจริงใจต่อลำเพา แต่เธอก็ปฏิเสธเขาเหมือนเดิมเพราะใจเธอให้ธนุสไปหมดแล้ว พลายจึงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น ขอร้องเขาเลิกพูดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
พลายหน้าสลด จำใจเปลี่ยนมาคุยเรื่องงานที่ได้รับมอบหมายมา “ผมได้ข่าวว่าตอนนี้คุณแทรกตัวเข้าไปอยู่ที่บ้านมิสเตอร์ฮันส์สำเร็จแล้ว”
“ค่ะ ฉันปลอมตัวเข้าไปทำงานเป็นแม่บ้าน มีหน้าที่ทำความสะอาดบ้านมิสเตอร์ฮันส์”
“งั้นผมจะบรีฟให้ฟังว่าทางหัวหน้าอยากให้คุณเก็บหลักฐานอะไรบ้างในบ้านหลังนี้”
พลายเริ่มจริงจังกับงาน แต่ท่าทางลำเพาเลื่อนลอยไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควร หลังจากคุยงานกันเสร็จสองคนไปเดินเล่น ก่อนที่มาลีจะมาสมทบและบอกเล่าพลายเมื่อลำเพาแยกตัวไป
“ลำเพาเหม่อลอยแบบนี้ตั้งแต่มาอยู่ใหม่ๆแล้วค่ะ”
“ผมเป็นห่วงลำเพา อยากให้เธอกลับมาเป็นลำเพาคนเดิม”
“แต่ท่าทางเหม่อ เหมือนคนอกหักอย่างงี้แหละค่ะที่ทำให้มิสเตอร์ฮันส์วางใจรับเข้าทำงาน”
“เธอทำงานในถ้ำเสือ แต่สติกลับไม่เต็มร้อย อันตรายจริงๆ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ถ้ามีอะไรฉันจะรีบโทร.บอกคุณทันที...ไปนะคะ” มาลีบอกลาแล้วเดินตามลำเพาไป
ooooooo
ที่กรุงเทพฯ ธนุสนำไกปืนทองคำไปให้ปรากรมเพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตช่วยตรวจสอบว่ามีความหมายอะไรพิเศษหรือไม่
ปรากรมเต็มใจช่วยเพื่อน กระตือรือร้นเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มเสิร์ชจากกูเกิ้ลคำว่าไกปืน ไม่ช้ารูปไกปืนปรากฏขึ้นมามากมาย ปรากรมเอาไกปืนทองคำเทียบกับไกปืนในจอแล้วบอกธนุสว่าคงต้องใช้เวลา
“ตามสบาย แล้วนี่ร้านเป็นไง รายได้ดีมั้ย”
“แค่พอจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเหลือหรอก หมดยุคคอมพิวเตอร์ไปแล้ว”
“อ้าว...แล้วนี่มันยุคอะไร”
“ก็ยุค 4 จีไง ตอนนี้ใครๆก็ใช้โทรศัพท์แทนคอมฯ ร้านคอมฯก็เจ๊งกันระนาว ดีนะที่ผมมีจ๊อบอื่นมาช่วยไม่งั้นอดตาย”
“โอเค งั้นอีกสองสามวันจะโทร.มาถามนะ”
ธนุสรีบไปเพราะมีนัดกินอาหารกลางวันกับคริสติน่า พอได้รับคำชมจากเธอว่าตรงเวลาดีจัง ชายหนุ่มก็พูดทีเล่นทีจริงว่าเดทกับสาวทั้งที ถ้ามาสายก็เสียฟอร์ม
“นี่เราเดทกันเหรอ”
“เอ๊ะ ผู้หญิงนัดมาทานข้าวแบบนี้ไม่เรียกว่าเดทแล้วจะเรียกว่าอะไร”
“โอเคเดท...กินอะไรกันดีล่ะ”
คริสติน่าส่งสัญญาณเรียกบริกรมาสั่งอาหาร
กินไปคุยไปผูกมิตรกันมากขึ้น หลังอาหารมื้อนั้น
สองคนไปเดินเล่นโดยไม่รู้ว่ากำลังถูกจับตาจากคนของปราบ
แจ็คที่รับคำสั่งโดยตรงจากสมภพกับเพื่อนอีกสามคนรอจังหวะเป้าหมายเผลอเพื่อหาทางจัดการอย่างเงียบเชียบ ธนุสกับคริสติน่าเดินเรื่อยไปเจอรถตุ๊กๆ
ฝ่ายชายนึกสนุกอยากขับรถให้เธอนั่ง
“มาเมืองไทยทั้งที ถ้าไม่ได้ขึ้นตุ๊กๆก็เหมือนไม่ได้มา วันนี้ผมจะพาคุณเที่ยวด้วยรถตุ๊กๆ อยากไปที่ไหนบอกมาเดี๋ยวจัดให้”
หญิงสาวก้าวขึ้นรถด้วยความเต็มใจ พอธนุสเคลื่อนรถออกไปก็มองทางกระจกส่องด้านหลังเห็นมอเตอร์ไซค์สองคันขับตาม ความระแวงบังเกิดทันที เขาบอกหญิงสาวว่าทริปของเราคงต้องจบลงแค่นี้ก่อน คริสติน่าสงสัยว่าทำไม แต่ไม่ได้คำตอบนอกจากเสียงย้ำเตือนให้เธอจับรถดีๆ
การไล่ล่าระหว่างรถตุ๊กๆกับมอเตอร์ไซค์เป็นไปอย่างน่ากลัว ท่ามกลางสายตาผู้คนที่พากันหวาดเสียว และมีบางช่วงที่อกสั่นขวัญผวาเพราะสองฝ่ายเกิดปะทะกันด้วยปืน
ทั้งธนุสและคริสติน่าต่างก็มีปืน ชายหนุ่มคาดไม่ถึง แต่สำหรับหญิงสาวนั้นไม่แปลกใจสักนิด เพราะรู้อยู่แล้วว่าธนุสมีอาชีพอะไร
แจ็คกับเพื่อนล่าเป้าหมายจนมุม ธนุสกับคริสติน่าเลยต้องทิ้งรถแล้ววิ่งหนีเข้าตรอกซอกซอย จนกระทั่งไปเจอขบวนเชิดสิงโตกลุ่มใหญ่ สองคนปนเปไปกับเขา แต่นึกไม่ถึงว่าจะทำให้หนึ่งในคนเชิดสิงโตถูกพวกแจ็คยิงตาย
ผู้คนแตกตื่นโกลาหล ธนุสกับคริสติน่าจำเป็นต้องสังหารพวกแจ็คก่อนพากันวิ่งหนีไปเพราะมีคนตาย อีกไม่ช้าตำรวจต้องมาแน่
สองคนคิดถูก ชาวบ้านชี้เบาะแสให้ตำรวจตามพวกเขามาถึงบ้านร้าง แต่โชคดีที่คริสติน่าหัวไวพาธนุสซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าเก่าจนรอดตาตำรวจได้
ความใกล้ชิดของทั้งคู่ทำให้ต่างฝ่ายต่างหวิวไหว คริสติน่ากลบเกลื่อนความรู้สึกด้วยการแกล้งทดสอบว่าเขาเป็นชายหรือไม่ ทำเป็นถึงเนื้อถึงตัว แต่พอเขาทำท่าจะห้ามใจตัวเองไม่ได้ก็ตัดบทเสียดื้อๆว่าเชื่อแล้วแมนเต็มร้อย
ธนุสไม่ชอบใจนักกับความขี้เล่นเกินเหตุของเธอ แต่ไม่รู้ทำไมถึงโกรธเธอไม่ลง พอทั้งคู่ออกจากบ้านร้าง นึกว่ารอดจากตำรวจแต่ดันมาเจอเกือบถึงหน้าปากซอย เขาและเธอวิ่งหนีขึ้นรถเมล์ไปจนหมดระยะ จากนั้นลงเดินต่อ แล้วจู่ๆคริสติน่าก็ถามเขาว่ามีแฟนหรือยัง
เขายอมรับว่าเคยมี เธอเลยรวบรัดแสดงว่าตอนนี้โสด ธนุสนิ่งไปนิดเพราะไม่อาจลืมลำเพาจากหัวใจง่ายๆ
“ก็ไม่เชิง”
“คุณยังลืมเธอไม่ได้ใช่ไหม”
“ครับ ผมยังลืมคนรักของผมไม่ได้”
คริสติน่าแอบหลงเสน่ห์ชายหนุ่มถึงกับใจหล่นวูบ แต่พยายามข่มใจพูดออกไป
“ดีแล้วค่ะ ขอบคุณที่พูดกับฉันตรงๆ ฉันจะได้ทำใจ”
ธนุสจับน้ำเสียงและท่าทีของเธอได้ “ขอโทษนะคริสติน่า ถ้าผมไม่มีใคร คุณจะเป็นคนแรกที่ผมคิดถึง”
“เราเป็นเพื่อนกันได้ค่ะ”
คริสติน่ายิ้มปลอบใจตัวเองแล้วเดินต่อ ธนุสทิ้งระยะเล็กน้อย แต่คาดไม่ถึงว่าระยะห่างแค่นี้จะทำให้เขาช่วยเหลือเธอไม่ทัน!
รถตู้คันหนึ่งวิ่งมาจอด ชายชุดดำลงมาอุ้มคริสติน่าขึ้นรถแล้วขับหนีไปต่อหน้าต่อตา ทิ้งธนุสยืนเคว้งแต่ยังตาไวจำเลขทะเบียนรถได้ แล้วไปขอความช่วยเหลือจากปรากรมในเช้าวันถัดมา จนรู้ว่ารถคันนั้นเป็นของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลฯที่มีอัศวินกุมบังเหียน
เมื่อแน่ใจว่าอัศวินต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ธนุสบุกไปพบทันที อยากรู้ว่าเขาให้คนจับตัวคริสติน่าทำไม กำลังจะทำอะไรกันแน่
“ผมไม่ทำร้ายเธอก็แล้วกัน”
“งั้นก็ปล่อยเธอออกมาสิครับ จับตัวเอาไว้ทำไม”
“ดูคุณจะเป็นห่วงคริสติน่าจังเลยนะ หรือว่าลืมลำเพาไปแล้ว”
“หยุดนะ เสธ.ไม่มีสิทธิมาพูดกับผมแบบนี้”
“ผมก็แค่ล้อเล่น รอสักครู่คริสติน่ากำลังจะมา”
ขาดคำ ประตูห้องเปิดออก พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินนำคริสติน่าเข้ามา
“คุณคริสติน่ามาแล้วค่ะ”
คริสติน่าอยู่ในชุดเสื้อผ้าใหม่สวยสง่า ไม่มีท่าทีถูกทำร้ายแต่อย่างใด แดนรีบเข้าไปถามด้วยความห่วงใย
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ค่ะ ฉันไม่เป็นไร ลูกน้องเสธ.อาจจะทำรุนแรงในตอนอุ้มขึ้นรถ แต่เมื่อถึงบราโว่ ทุกคนก็ปฏิบัติกับฉันดีทุกอย่าง”
“ไอ้คนที่ให้ไปเชิญตัวคริสติน่ามันซื่อบื้อไปหน่อย ผมต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจ”
“นี่มันอะไรกันครับ”
ธนุสงุนงง มองหน้าอัศวินและคริสติน่ารอคำอธิบาย...อัศวินยืนยันตัวตนของคริสติน่าด้วยภาพของเธอในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งเป็นภาพที่เธอปลอมตัวไปเป็นสายลับในหลายประเทศ ธนุสมองภาพเหล่านั้นด้วยสายตาทึ่งจัด
“ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกความจริงแต่แรก ความจริงฉันเป็นสายลับคนหนึ่งที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติการในเมืองไทยอย่างไม่เป็นทางการ”
“คริสติน่าถูกส่งตัวมาสืบเรื่ององค์กรของมิสเตอร์ฮันส์ในเมืองไทย ซึ่งบังเอิญที่คุณไปมีเรื่องกับนายปราบเข้าพอดี เส้นทางการทำงานก็เลยโคจรมาเจอกัน”
“แล้วที่เสธ.ต้องเชิญตัวฉันมาก็เป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อวานที่ฉันยิงลูกน้องนายปราบตาย ตามกฎแล้วฉันไม่สามารถใช้อาวุธในประเทศไทยได้”
“เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันตัวเองจากเหตุอันจะทำให้ถึงแก่ชีวิต”
ธนุสรีบอธิบายว่าตนเป็นพยานได้ เหตุการณ์เมื่อวานถ้าคริสติน่าไม่จัดการมัน เราทั้งคู่อาจตายได้
“ฉันเชื่อนาย และตอนนี้ฉันก็ให้คริสติน่าทำเรื่องชี้แจงไปยังหน่วยงานรับผิดชอบในรัฐบาลแล้ว คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรอีก”
“แล้วเรื่องตำรวจ?”
“ผมจะรีบสั่งถอนเรื่องออกมา พวกคุณจะได้ใช้ชีวิตกันตามปกติ”
“แล้วตอนนี้ฉันไปได้แล้วนะคะ”
“ตามสบาย แต่เมื่อใดที่คุณต้องการให้บราโว่ช่วยเหลือก็ติดต่อเข้ามาได้ทันที ทีมของเราพร้อมเสมอ”
“ขอบคุณค่ะ” คริสติน่าส่งยิ้มให้อัศวินอย่างเป็นมิตร
ooooooo










