ตอนที่ 14
นำพลปักหลักริมถนนไม่ไกลจากโรงงานมากนัก ส่วนดิลกไปหารถไว้เพื่อใช้เป็นพาหนะหลบหนี ระหว่างนี้นำพลโทร.หาอัศวินเพื่อขอความช่วยเหลือ อัศวินจึงให้นำพลส่งพิกัดมาแล้วจะส่งทีมของตนไปช่วย โดยมอบหมายให้ธานีเป็นหัวหน้าทีมดูแลงานนี้
นำพลกับดิลกช่วยพิมพ์จันทร์กับอาคมรอดเงื้อมมือพวกโภคัยมาได้ ในขณะที่ธนุสก็พายุวดีหลบหนีพวกแทมมี่ได้เหมือนกัน
ยุวดีนั่งรถมากับธนุสสองคน ท่าทางเธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ บอกว่าสะใจที่ทำให้ปราบโกรธจนหน้าเขียว
“มันคงนึกไม่ถึงว่าจะเจอคุณกับผมอยู่ด้วยกัน”
“ป่านนี้มันคงเจ็บจนแทบคลั่งตายแน่ๆ ได้เวลาเอาคืนของฉัน”
เสียงไลน์ในโทรศัพท์ธนุสดัง นำพลส่งรูปอาคมและพิมพ์จันทร์มาให้ดูเป็นการยืนยันว่าสองคนนี้ปลอดภัย ธนุสโล่งอกรีบบึ่งรถไปยังโรงแรมของนำพลเพื่อรวมกลุ่มกับพรรคพวก
ส่วนที่โรงงานร้าง ปราบกำลังโกรธแค้นที่โดนธนุสหยามและยุวดีเยาะเย้ย แถมเชลยสองคนก็พากันหนีไปได้อีก
“ตอนพบศพนังยุวดี ฉันก็นึกสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าศพที่เห็นไม่น่าจะเป็นตัวจริง แล้วมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิด”
“ผมว่าตอนนี้เราคงต้องรีบหนีออกจากที่นี่แล้วครับนาย”
“อีกไม่นานพวกบราโว่ก็คงเข้ามาที่นี่”
โภคัยกับแทมมี่แสดงความเห็น แต่ปราบไม่เล่นด้วย ตะเบ็งเสียงว่าตนไม่ไปไหนทั้งนั้น แทมมี่ทำท่าจะท้วงแต่ปราบไม่เปิดโอกาส
“ฉันรู้ว่านังยุวดีมันต้องการอะไร พวกมันจะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม”
ปราบเดินไปมุมหนึ่ง หยิบปืนเวบลีย์แอนด์สก็อตออกมาใส่ไก่ปืนทองคำเข้าไป โภคัยกับแทมมี่ไม่เข้าใจว่าเจ้านายจะทำอะไร แต่ก็เดินตามเขาไปที่มุมกำแพง
ปราบลั่นกระสุนใส่กำแพงจนมันแยกออกจากกันเผยให้เห็นภายในมีห้องอีกห้องหนึ่ง แล้วสั่งโภคัยกับแทมมี่ไปบอกทุกคนให้มาหลบที่นี่ จะไม่มีใครหาเรา พบแน่!
ooooooo
ปราบกับลูกน้องซ่อนตัวมิดชิดในห้องลับภายในโรงงานร้าง เมื่อทีมบราโว่ที่นำโดยธานีมาถึงจึงพบแต่ความว่างเปล่า ทุกคนไม่เชื่อว่าพวกปราบจะหนีได้เร็วมากเลยยังปักหลักวนเวียนป้วนเปี้ยนไม่ไปไหน
พวกธนุสที่กลับมารวมตัวกันที่โรงแรมก็พากันแปลกใจ หลังได้ดูความเคลื่อนไหวที่โรงงานร้างผ่านกล้องถ่ายทอดสดที่พวกบราโว่ติดไว้
ยุวดีรู้เรื่องห้องลับแต่ไม่ปริปากบอกใคร ส่วนดิลกพยายามจะหาพิกัดจากสัญญาณโทรศัพท์ของพวกปราบแต่ไม่สำเร็จ เพราะปราบไหวตัวปิดโทรศัพท์ทุกเครื่องทั้งของตัวเองและลูกน้อง แล้วคอยจับตาดูผู้บุกรุกผ่านกล้องวงจรปิดอย่างใจเย็น ต่างจากโภคัยหงุดหงิดบ่นอุบที่ศัตรูปักหลักเฝ้าโรงงาน
หากมัวแต่ซ่อนตัวในห้องลับแทมมี่เกรงว่าพวกเราจะอดตาย แต่ปราบบอกว่าตนไม่โง่ขนาดนั้น ห้องหลังกำแพงยังมีทางเชื่อมให้หนีออกไปได้อีก ถ้าพวกเขาต้องการรถ ตรงทางออกมีรถพร้อมน้ำมันเตรียมไว้บริการ
“งั้นเราจะหนีกันเลยไหมครับ”
“ไม่! พวกแกทุกคนยังไปไหนไม่ได้ และเพื่อความปลอดภัย ฉันจะยึดโทรศัพท์ของพวกแกเอาไว้ก่อน เสร็จงานเมื่อไหร่พวกแกจะมีเงินระดับเศรษฐีกันทุกคน”
ลูกน้องทุกคนพยักหน้าพอใจ ปราบเดินนำโภคัย กับแทมมี่ไปยังมุมส่วนตัวที่มีเครื่องดักฟังโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องอำนวยความสะดวกน้อยชิ้น
“อยากให้แกสองคนช่วยกันดักฟังมือถือจะได้รู้ความเคลื่อนไหวข้างนอก”
“ได้ค่ะ เรื่องนี้แทมมี่รับอาสาเอง”
“พวกมันทำฉันเจ็บ คอยดูเถอะ มีโอกาสเมื่อไหร่ฉันเอาคืนพวกมันแน่” ปราบเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้น
ooooooo
คริสติน่าและดลฤดีอยู่กับหลุยส์ที่ภูเก็ตและยังปักหลักถอดรหัสกันต่อไป ซึ่งทุกคนไม่รู้ว่าถูกจับตามองโดยสตีเว่นที่ปลอมตัวมาในคราบนักท่องเที่ยว
ยุวดีแอบโทร.หาสตีเว่น สั่งให้รายงานสถานการณ์ที่ร้านของหลุยส์ แต่สตีเว่นไม่พอใจยอกย้อนว่าตนไม่ใช่ลูกน้องของเธอ
“แต่เราเป็นหุ้นส่วนกันไม่ใช่เหรอ”
“โอเค...ถ้าในฐานะหุ้นส่วน เธออยากรู้อะไร”
“นังดลฤดีมันได้รหัสอะไรหรือยัง”
“น่าจะยัง พวกมันยังนั่งกันอยู่ที่เดิม ไม่มีอะไรผิดปกติ”
“บอกตามตรงนะ ฉันไม่ค่อยวางใจ มีลางสังหรณ์ว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่”
“ไม่ต้องห่วง อยู่ทางโน้นหน้าที่ของเธอก็คือหาวิธีเอาไกปืนทองคำมาครอบครอง ส่วนทางนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ฉันจะตัดสินใจเอง”
“ก็ได้ แต่อย่าทำให้เสียเรื่องก็แล้วกัน”
วางสายจากยุวดีแล้วสตีเว่นเดินไปมาอยู่ภายในซอยเกสต์เฮาส์ คริสติน่าโผล่มายืนมองสงสัย เธอจำไม่ได้ว่าเขาคือสตีเว่น แต่สงสัยในพฤติกรรมที่ลับๆล่อๆพิกล แล้วอีกครู่ก็ได้ข้อมูลจากหลุยส์ว่าฝรั่งคนนี้เข้ามาอยู่ได้สองสามวัน คริสติน่าบ่นว่าเหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อน หลุยส์จึงอาสาจะให้คนของตนสืบดู
ทางด้านยุวดีพักในโรงแรมของนำพลที่กรุงเทพฯ เธอแอบเข้ามาในห้องพักของธนุสเพื่อค้นหาไกปืนทองคำ จังหวะนี้ธนุสกลับมาที่ห้อง ยุวดีหยุดการรื้อค้น ทำเนียนลงนอนบนเตียงด้วยท่าทียั่วยวน
“เตียงคุณนี่อุ่นสบายดีจัง”
“คุณเข้ามาได้ยังไง”
“ฉันว่าเราข้ามประเด็นนั้นไปเถอะค่ะ” ยุวดีลุกขึ้นมายืนประจันหน้าธนุส เริ่มลูบไล้เนื้อตัวเขาไปมา “ฉันรู้ว่าร่างกายของคุณต้องการรีแล็กซ์ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเองนะคะ”
ยุวดีจงใจค้นหาไกปืนทองคำจากตัวธนุส แล้วเธอก็ได้มันมาสมใจ โดยที่ไม่รู้ว่านี่คือแผนของธนุสนั่นเอง ธนุสเต็มใจให้ของสิ่งนั้นแก่ยุวดี แต่ไม่ยอมมีสัมพันธ์สวาทกับเธออย่างเด็ดขาด
เมื่อผลักไสยุวดีออกจากห้องไปแล้วธนุสพยายามติดต่ออัศวิน แต่เวลานี้อัศวินกำลังพูดคุยกับมาลีที่มารายงานเรื่องพลายกับลำเพามีปัญหาชีวิตคู่
“เรื่องชีวิตคู่ระหว่างพลายกับลำเพา ผมว่าบางทีเราไม่ควรเข้าไปยุ่ง ต้องปล่อยให้พวกเขาปรับความเข้าใจกันเอง”
“ค่ะ แต่น่าเห็นใจลำเพามากเลยนะคะ ดูเธอไม่มีความสุขเลย”
“มันก็น่าเห็นใจทั้งพลายทั้งลำเพานั่นแหละ ใจเย็นๆนะมาลี”
เสียงโทรศัพท์ดังบ่อยครั้งทำให้อัศวินต้องหยิบมาดู พอเห็นเป็นธนุสก็รีบรับ “ว่าไงแดน”
“เสธ.ครับ ผมมีเรื่องต้องรบกวน”
“มีอะไร”
“ผมรู้มาว่าตอนนี้ลำเพากำลังถูกปองร้าย ผมอยากให้ เสธ.ส่งคนของบราโว่ไปช่วยดูแลลำเพาให้ทีครับ”
“ได้สิ คุณเล่ารายละเอียดมาผมฟังอยู่”
ธนุสเล่าเรื่องนี้ที่รู้มาจากยุวดีให้อัศวินฟัง เสร็จแล้วอัศวินได้มอบหมายงานให้ลูกน้องซึ่งเป็นคนละทีมกับธานี โดยให้มาลีเป็นหัวหน้าทีม
“ตอนนี้ธานีกับคนอื่นๆเฝ้าอยู่ที่โรงงาน ผมไม่อยากดึงพวกเขาออกมาจากพื้นที่ จึงต้องรบกวนพวกคุณให้รับภารกิจนี้”
“ได้ค่ะ เสธ. ฉันรู้จักบ้านลำเพาเป็นอย่างดี ฉันขอนำทีมออกปฏิบัติภารกิจนี้เอง”
“ผมขอย้ำนะว่าปฏิบัติการนี้เป็นปฏิบัติการลับ ห้ามพลายกับลำเพารู้เรื่องเด็ดขาด”
“ทำไมคะ เสธ.”
“พลายเป็นคนมุทะลุ ผมเกรงว่าถ้าเขารู้เรื่องนี้ เขาจะตัดสินใจอะไรผิดๆ”
“ค่ะ รับทราบปฏิบัติค่ะ”
“โอเค ถ้างั้นก็ลงมือได้ ขอให้ภารกิจสำเร็จ”
มาลีและลูกทีมทำความเคารพอัศวินแล้วออกไปปฏิบัติงานทันที
ooooooo
สตีเว่นฉวยโอกาสในงานฟูลมูนปาร์ตี้ริมชายหาดในคืนนี้ก่อกวนให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนก่อนจะโปะยาสลบลักพาตัวดลฤดีหายไป
คริสติน่ากับหลุยส์ตามหาจนทั่วก็ไม่พบ หลุยส์ให้ลูกน้องของตนช่วยสืบไม่นานก็ได้เบาะแสว่าน่าจะเป็นฝรั่งที่เพิ่งมาเช่าอยู่ที่เกสต์เฮาส์ ตอนนี้มันย้ายออกไปอย่างกะทันหันพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง คาดว่าคงเข้ากรุงเทพฯ
คริสติน่านึกถึงฝรั่งคนเดิมที่เห็นมาป้วนเปี้ยนแถวร้านของหลุยส์ เธอร้อนใจรีบขับรถเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างทางก็โทร.บอกธนุสว่าดลฤดีหายไป สงสัยจะโดนจับตัว
ธนุสตกใจถามว่าฝีมือใคร
“เดี๋ยวจะส่งภาพคนร้ายให้คุณทางไลน์ มีคนแจ้งเบาะแสว่ามันจับตัวคุณดลฤดีขึ้นรถมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ หลุยส์เลยหารถให้ฉันขับตามเผื่อจะทันกัน”
“ระวังตัวไว้ด้วย ผมเป็นห่วงคุณนะ”
“ค่ะแดน แล้วเจอกัน” คริสติน่าวางสายแล้วกดส่งรูปฝรั่งผู้ต้องสงสัยไปให้ธนุส
ไม่ช้าไม่นานหน้าจอคอมพิวเตอร์ของดิลกก็ปรากฏภาพนักท่องเที่ยวฝรั่งที่หลุยส์ถ่ายไว้ ดิลก นำพล และธนุสเพ่งมองเขม็งอย่างรู้สึกคลับคล้ายคลับคลา
“มันใส่วิก...ปลอมตัว”
“ถอดวิกมันออกได้ไหมดิลก”
“ครับ เดี๋ยวผมลองดู แต่ต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ”
ดิลกเริ่มลงมือเพื่อค้นหาหน้าตาที่แท้จริงของฝรั่งในรูปถ่าย ในเวลาเดียวกันนี้สตีเว่นกำลังพาดลฤดีที่ยังไม่รู้สึกตัวมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ
ooooooo
บรรยากาศยามเช้าภายในค่ายทหารร่มรื่นสดชื่นเย็นสบาย แต่จิตใจพลายยังไม่หายขุ่นมัวและหม่นหมองทั้งที่ทะเลาะกับลำเพาผ่านมาหลายวัน
พลายไม่ยอมนอนร่วมห้องกับลำเพาเหมือนแต่ก่อน ลำเพาเป็นห่วงคอยสอดส่องแอบดูเขาตามช่องลม ครั้นเช้าวันนี้เห็นเขาเข็นรถพาตัวเองออกจากห้อง เธอรีบมาถามว่าอยากกินอะไรไหมตนจะทำให้ พลายกลับมีท่าทีเย็นชาเมินเฉย พูดแทบไม่มองหน้ากันเลย
“ต่อจากนี้เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ผมจะไม่ทรมานคุณอีกต่อไป”
“หมายความว่าไงคะพลาย”
“เราแต่งงานกันแต่ในนาม ความรักอย่างเดียวมันคงไม่ทำให้ชีวิตคู่ไปรอดหรอก ถ้าคุณต้องการจะไปเมื่อไหร่ผมก็ยินดี”
“นี่ฉันคงทำให้คุณเข้าใจความรู้สึกของฉันไม่ได้แล้วสินะ”
“อย่าหลอกตัวเองกันต่อไปเลย”
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะไม่หลอกตัวเอง แต่จะอยู่กับความจริงเท่านั้น ให้การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์เถอะค่ะ”
ลำเพาจนปัญญาจะทำให้พลายเลิกคิดมาก แต่เธอยังคงทำหน้าที่ภรรยาดูแลเรื่องอาหารการกินให้เขาต่อไปแม้จะน้อยใจสักเพียงใดก็ตาม ฝ่ายพลายมัวแต่คิดในมุมของตัวเองว่าไม่อยากโดนลำเพาทิ้งทีหลัง ถ้าจะเจ็บให้เจ็บตั้งแต่ตอนนี้เพราะไม่เชื่อว่าสามีภรรยาที่อยู่กันโดยไม่มีเซ็กซ์จะอยู่กันรอด เขาจึงเย็นชาและเมินเฉยเพื่อให้เธอตัดสินใจไปจากเขาง่ายขึ้น
มาลีนำทีมบราโว่เข้ามาในเขตบ้านพักของลำเพากับพลายเพื่อจัดการกับคนของยุวดีที่รอคำสั่งทำร้ายสองคนนั้น แต่ท่าทางไม่ง่ายเสียแล้วเพราะฝ่ายตรงข้ามเริ่มไหวตัว หลังจากนั้นไม่นานมาลีกับลูกทีมก็ถูกกลุ่มคนของยุวดียิงตายเรียบด้วยปืนเก็บเสียง
ทางด้านดลฤดีที่โดนสตีเว่นโปะยาสลบจับตัวมา เธอรู้สึกตัวขณะที่สตีเว่นแวะปั๊มน้ำมันไปเข้าห้องน้ำ จึงฉวยโอกาสลงจากรถหลบไปแอบโทรศัพท์หาดิลกแต่พูดคุยกันติดๆขัดๆเพราะสัญญาณไม่ดี ดิลกแนะนำให้เธอแชร์โลเกชั่นมาแล้วค่อยส่งข้อความ เขาจะได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
ดลฤดีรีบทำตาม แชร์โลเกชั่นไปก่อนพิมพ์คำว่า “ลิ้นช้าง” ซึ่งเธอมั่นใจว่ามันคือรหัสส่งให้ดิลก ส่งเสร็จเธอโดนสตีเว่นแย่งโทรศัพท์และอุ้มขึ้นรถไปอีก
เมื่อรู้ว่าดลฤดีอยู่แถวชานเมืองและคนที่จับเธอไว้น่าจะเป็นสตีเว่น พวกธนุสจะรีบไปช่วย แต่ต้องไม่ให้ยุวดีรู้เรื่องนี้ อาคมกับพิมพ์จันทร์อาสารับงานนี้เอง เพราะอาคมมีแก๊งเด็กแว้นที่พร้อมทำงานเพื่อชาติอยู่แถวนั้น
สตีเว่นโกรธมากเมื่อเช็กมือถือดลฤดีแล้วพบว่าเธอแชร์โลเกชั่นและส่งรหัสไปให้พรรคพวก ฝ่ายคริสติน่าที่ขับรถมาคนเดียวก็ติดต่อพูดคุยกับธนุสเป็นระยะ กระทั่งใกล้โรงงานของปราบทำให้แทมมี่จับสัญญาณโทรศัพท์ได้ ปราบจึงสั่งโภคัยไปเอาตัวคริสติน่ามา
ธนุสมอบหมายให้นำพลช่วยตนจัดการเรื่องรหัส ส่วนดิลก อาคม และพิมพ์จันทร์ให้ไปสมทบกับคริสติน่าแล้วชิงตัวดลฤดีมาจากสตีเว่นให้ได้ โดยที่ทุกคนยังไม่รู้ว่าเวลานี้คริสติน่าโดนโภคัยจับตัวไปแล้ว
ยุวดีแอบเห็นธนุสกับนำพลใช้รหัส “ลิ้นช้าง” เปิดข้อมูลลับของปราบสำเร็จ เธอหัวเสียเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับสตีเว่นที่พยายามใช้รหัสเดียวกันนี้แต่เข้าไม่ได้เพราะมีการใช้รหัสซ้ำซ้อน ก็เลยยิ่งโกรธดลฤดีจนแทบจะบีบคอเธอให้ตายคามือ พอยุวดีโทร.มาต่อว่าเขามัวทำอะไรอยู่ งุ่มง่ามจนพวกธนุสได้รหัสไปแล้ว สตีเว่นโวยวายว่าตนรู้แล้ว
ดลฤดีใช้จังหวะนี้สะบัดหลุดจากสตีเว่นแล้วเปิดประตูรถลงวิ่งหนี สตีเว่นแค้นใจไล่ยิงอย่างบ้าระห่ำ โชคดีที่ดิลกมาช่วยเธอทันเวลา ฝ่ายยุวดีรีบขับรถออกจากโรงแรม ธนุสรู้จากนำพลก็รีบร้อนตามเธอไปโดยลืมโทรศัพท์มือถือทิ้งเอาไว้
อาคมกับพิมพ์จันทร์และกลุ่มเด็กแว้นช่วยกันเล่นงานสตีเว่นด้วยการต้อนรถเขาไปเสยกับรถสิบล้อตายคาที่ ฝ่ายยุวดีจำใจต้องจอดรถข้างถนนลงมาเผชิญหน้ากับธนุสที่ไล่บี้มาทัน
“ยุวดี...คุณจะไปไหน”
“เรื่องของฉัน คุณไม่เกี่ยว”
“ไหนว่าเราเป็นหุ้นส่วนกัน”
“หุ้นส่วนงั้นเหรอ คุณมันทรยศ คุณได้รหัสแล้วก็เปิดฮาร์ดดิสก์ไปแล้วโดยไม่บอกฉันสักคำ”
“แต่คุณยังกลับตัวกลับใจได้นะ บอกความลับทุกอย่างกับผมให้หมด ผมเชื่อว่าคุณจะถูกกันไว้เป็นพยานในชั้นศาล”
“เป็นคนดีแล้วอดตาย แล้วไงล่ะ”
ธนุสรู้ว่าคงเปลี่ยนใจยุวดีไม่ได้แน่จึงใช้ปืนบังคับเธอให้ส่งไกปืนทองคำคืนมา
“ก็เลือกเอานะแดน ระหว่างไกปืนทองคำกับชีวิตของลำเพา”
ยุวดียิ้มอย่างเป็นต่อ โทรศัพท์สั่งงานคนของตน “ถ้าภายใน 20 นาที ฉันไม่ยกเลิกคำสั่ง แกจัดการนังลำเพาได้เลย” พอวางสายก็พูดกับธนุสด้วยความโมโหว่า “อย่าคิดนะว่าการที่คุณแอบส่งคนไปจัดการคนของฉันแล้วฉันจะไม่รู้”
ว่าแล้วเธอให้ธนุสดูภาพในโทรศัพท์ที่พวกมาลีถูกคนของเธอฆ่าตาย พร้อมกับต่อรองว่า
“คุณจะยิงฉันหรือจะรีบไปช่วยลำเพาดีล่ะ
แต่ฉันว่าปล่อยฉันไปก่อนเถอะ เรื่องของฉันเอาไว้ทีหลังก็ได้ คุณยังมีเวลาจัดการกับฉันอีกนาน บางทีถ้าคุณไว้ชีวิตฉัน อีก 20 นาที ฉันอาจจะยกเลิกคำสั่งก็ได้นะ”
ธนุสโกรธจนพูดไม่ออก ยุวดีเห็นสีหน้าท่าทีของเขาก็รู้คำตอบ เธอเดินกลับมาขึ้นรถขับออกไป ส่วนธนุสรีบขึ้นรถของตนเพื่อไปช่วยลำเพา
ooooooo
โภคัยจับคริสติน่ามาให้ปราบที่ห้องลับในโรงงาน ปราบตบตีเธอปากแตกแล้วให้แทมมี่ถ่ายรูปส่งไปปั่นหัวธนุส ขู่จะฆ่าเธอให้ตายถ้าพวกเขาไม่มาที่นี่...เป้าหมายของปราบก็คือต้องการให้พวกธนุสยกโขยงกันมาตาย
ธนุสลืมโทรศัพท์ไว้จึงไม่เห็นรูปและข้อความนั้น แต่นำพลซึ่งเก็บโทรศัพท์ของธนุสไว้รู้เห็น จึงระดมสมองกับพวกดิลกที่ไปช่วยดลฤดีกลับมาได้อย่างปลอดภัยว่าจะทำอย่างไรดี
ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็คิดออก นำพลโทร.หายุวดีแล้วให้ดิลกใช้เครื่องดักจับสัญญาณ ยุวดีเห็นเบอร์ธนุสก็รีบรับ แต่พอรู้ว่าเป็นนำพลก็สบถด่าแล้วตัดสายทิ้งทันที
แต่เพียงเท่านี้ผู้เชี่ยวชาญการดักจับสัญญาณอย่างดิลกก็รู้แล้วว่ายุวดีอยู่ไม่ไกลจากโรงงานของปราบ แสดงว่าธนุสต้องอยู่แถวนั้นด้วย
“แต่โรงงานนี้พวกบราโว่เฝ้าพื้นที่อยู่นี่ครับ คุณยุวดีจะไปที่นั่นทำไม”
“ยุวดีเป็นเมียคุณปราบ เธอต้องรู้อะไรดีๆแน่”
“จริงอย่างคุณดลฤดีว่า...บางทีเราคงต้องรายงานเรื่องนี้ให้ เสธ.ทราบ”
ดิลกเห็นด้วยกับนำพล เราจะได้ขอกำลังเสริมจากบราโว่ นำพลจึงโทร.ติดต่ออัศวินทันที
ooooooo










