ตอนที่ 13
เช้าขึ้นดลฤดีทำอาหารให้พวกดิลกกิน เสร็จแล้วจะเริ่มค้นหารหัสกันต่อ ยุวดีเสนอตัวเข้ามาช่วยอ้างว่าตนเป็นเมียปราบอาจมีข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง นำพลรู้เห็นเหตุการณ์เมื่อคืนพยายามจะกันยุวดีออกห่าง แต่หลุยส์กลับเต็มใจให้เธอช่วย
เวลาเดียวกันนั้น ธนุสกับคริสติน่าวิ่งออกกำลังกายที่ชายหาด สองคนตกลงกันได้หลังจากเปิดใจไปเมื่อคืน ธนุสรักจริงหวังแต่ง แต่ฝ่ายหญิงท้วงว่าไม่เร็วไปหน่อยหรือ
“แต่เราก็ไม่ได้เพิ่งรู้จักกันนะ แล้วอย่าลืมว่าผมกับคุณแอบปิ๊งกันเงียบๆมาตั้งนานแล้ว หรือคุณว่าไม่จริง”
“คุณนี่บ้าจริงๆ เกิดมาฉันไม่เคยเห็นใครพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาตรงๆแบบคุณเลย”
“ผมก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนพูดตรงแบบคุณเหมือนกัน”
“ฉันไม่ชอบโลกสวย แต่ชอบที่จะอยู่กับความเป็นจริงค่ะ”
“ผมก็ชอบความจริงแบบไม่อ้อมค้อม ถ้ามีปัญหาเคลียร์กันแล้วก็จบแบบที่เกิดขึ้นเมื่อคืน”
“ก็ไม่รู้สินะ วันนี้เราชอบกัน แต่วันข้างหน้าไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะเข้าใจคุณให้มากที่สุด จะพยายามฟังและไม่เข้าข้างตัวเอง”
“ฉันก็จะภาวนาขอให้ความรักของเราจบลงด้วยดี มาค่ะ อย่าอู้นาน วิ่งต่อเร็ว”
คริสติน่าวิ่งนำไป ธนุสบ่นเหนื่อยแต่ไม่กล้าขัดใจเธอ เสร็จจากออกกำลังกายสองคนไปเดินเล่นดูร้านรวงในซอยใกล้ที่พัก แต่สักครู่ธนุสรู้สึกเหมือนมีชาวต่างชาติแอบถ่ายรูปจึงชวนคริสติน่ากลับ แล้วมาเล่าให้หลุยส์ฟัง ปรากฏว่าหลุยส์หัวเราะชอบใจราวกับฟังเรื่องตลก ถามสองคนว่าเพิ่งสังเกตเห็นหรือ
“นี่หมายความว่าพวกที่ถ่ายรูปเรา เขาเป็นพวกสายลับใช่ไหม”
“ใช่ หลังพวกคุณมาอยู่ไม่กี่วัน ซอยนี้ก็มีคนแปลกหน้าเข้ามาพักเพิ่มขึ้น ลักษณะไม่ใช่นักท่องเที่ยวปกติ และไม่ใช่สายลับที่ผมเคยรู้จักมาก่อน”
“แล้วเป็นพวกไหน”
“ผมเดาว่าเป็นสายลับที่ทำงานอิสระ ไม่มีสังกัด แต่หาข่าวไปขายให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและให้กับพวกองค์กรชั่วร้าย”
“แสดงว่าพวกผมถูกจับตามองมาตลอดตั้งแต่เข้ามาในซอยนี้”
“พวกคุณทุกคนกำลังเป็นที่สนใจของพวกสายลับทั่วโลก ข่าวของพวกคุณกำลังมีมูลค่า”
“งั้นพวกเราก็คงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วสินะ”
“อยู่ที่ไหนคุณก็ไม่มีทางหนีรอดพวกสายลับไปได้หรอก เพียงแต่อยู่ที่นี่ก็ยังรู้เขารู้เรา ถ้าหนีไปอยู่ที่อื่นคุณก็จะเป็นเหมือนคนตาบอดที่ไม่รู้อะไรเลย”
“เหมือนจะพูดให้สบายใจ แต่ฟังแล้วก็ยังไม่สบายใจเลยนะหลุยส์”
“ฮ่ะๆ แต่มันคือความจริง ไม่ต้องเป็นกังวลหรอกน่ะ อยู่ที่นี่ต่อไป รับรองถ้ามีอะไรเกิดขึ้นผมจะมีพรายกระซิบมาเตือนก่อนเสมอ”
“โอเคครับ ผมเชื่อคุณ” ธนุสสรุปแล้วเดินตามคริสติน่าเข้าด้านในที่พัก เพราะหน้าร้านเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินขวักไขว่แอบถ่ายภาพอีกแล้ว
ooooooo
สายวันเดียวกัน อัศวินประชุมทีมบราโว่สรุปผลการปฏิบัติงานครั้งล่าสุดที่เกิดเหตุเศร้าสลดสูญเสียอัมรา
“เมื่อวานนับเป็นความสูญเสียของบราโว่ที่ประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าเราจะเสียฮาร์ดดิสก์สำคัญไปกี่ลูก แต่ก็ไม่เท่ากับการสูญเสียอัมราเพื่อนร่วมงานของเรา แต่ไม่ว่าจะเศร้าเสียใจมากแค่ไหน ผมอยากให้ทุกคนทำใจให้ได้ว่าการทำงานกับบราโว่ ก็ย่อมพบกับความสูญเสียเป็นธรรมดา ขอให้ทุกคนทำใจ ปรับอารมณ์ แล้วกลับมาสะสางงานต่อไป”
อัศวินหันมาทางไอซ์ที่ดูจะเสียใจมากกว่าใคร เพราะเธอเองที่ให้อัมราตามไปเอาฮาร์ดดิสก์จากโภคัยแล้วโดนยิงตาย
“ขอโทษค่ะ เสธ.ที่ฉันอ่อนแอ ฉันจะรีบกลับมาเข้มแข็งให้เร็วที่สุดเพื่อพี่อัม เพื่องานของเราค่ะ”
อัศวินพยักหน้าพอใจก่อนหันไปที่ปรากรม ตำหนิว่าทำเรื่องเสี่ยงตายอย่างไม่น่าให้อภัย
“ถ้าหมายถึงเรื่องที่ผมถอดชนวนระเบิดล่ะก็ ผมอยากจะอธิบายว่าผมไม่ชอบที่จะเห็นคนเลวเอาชนะพวกเราได้ด้วยวิธีแบบนี้ ผมอยากเอาชนะและอยากจะสั่งสอนพวกมันครับ”
“ผมเข้าใจ แต่มันเป็นเรื่องเสี่ยง คุณต้องเข้าใจด้วยว่าคุณคือกำลังสำคัญของหน่วยเรา บราโว่จะสูญเสียคุณไม่ได้”
“งั้นผมต้องกราบขอโทษด้วยนะครับ ต่อไปผมจะคิดให้รอบคอบกว่านี้”
“ภารกิจต่อไปของเราก็คือสืบหาที่หลบซ่อนของพวกมัน โดยเฉพาะนายปราบ ปุณโยบัติ ผมเชื่อว่ามันยังคงหลบอยู่ในประเทศ ถ้าพวกคุณได้เบาะแสอะไรก็รีบรายงานผมด่วนที่สุด ใครมีคำถามอะไรไหม”
“แล้วอาคมกับพิมพ์จันทร์ล่ะคะ” มายถาม
“อาคมกับพิมพ์จันทร์ถึงจะไม่ใช่คนของบราโว่โดยตรง แต่ผมก็ถือว่าทั้งสองคนคือส่วนหนึ่งของพวกเรา ยังไงก็จะทิ้งพวกเขาไม่ได้ ต้องช่วยออกมาเช่นกัน”
มายรับทราบและทำความเคารพหัวหน้าพร้อมกับคนอื่นๆ จากนั้นทุกคนวางแผนสืบค้นเซฟเฮาส์ของ
ปราบที่อาคมเคยให้ข้อมูลกับปรากรมไว้ แต่ตอนนั้นปรากรมไม่ได้จดที่อยู่ไว้เพราะมัวแต่ยุ่งอย่างอื่น มายจึงเสนอว่าระหว่างนี้ตนจะเอาภาพที่ได้ไปลองค้นหาดูเผื่อจะเจอว่าเป็นที่ใด แต่ไอซ์ท้วงว่าเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
“งั้นเอางี้นะ เพื่อเป็นการไถ่โทษ เฮียจะเอาเครื่องจับสัญญาณโทรศัพท์ของพวกมันมาให้ใช้ ถึงพวกมันจะเปลี่ยนซิม แต่เบอร์ญาติ พ่อแม่พี่น้องมันคงไม่เปลี่ยน เราไปดักรอที่ปลายสายแล้วไล่เช็กเบอร์ที่พวกมันติดต่อกันดู ลำบากหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร”
ทางออกนั้นของปรากรมทำให้มายกับไอซ์ค่อยใจชื้นและมีความหวัง
ooooooo
ปราบกับลูกน้องย้อนกลับมาที่เซฟเฮาส์เพื่อลำเลียงเฮโรอีนไปขายให้มิสเตอร์พอล แต่การพูดคุยตกลงกันไม่ได้ ทำให้ปราบโกรธและเปลี่ยนไปติดต่ออีกราย
พวกปรากรมเชี่ยวชาญจับสัญญาณการพูดคุยของปราบได้จึงเร่งไปที่เซฟเฮาส์เพราะกลัวพวกมันจะขนย้ายของกลางไปซ่อนที่อื่น ซึ่งอัศวินอนุญาตแต่กำชับปรากรมต้องระวังตัวให้มาก อย่าประมาทและเสี่ยงเกินไปเหมือนคราวก่อน
ปราบ โภคัย แทมมี่ และลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งขนเฮโรอีนไปขายให้วิลเลี่ยม แต่การซื้อขายยังไม่ทันสำเร็จ ธานีก็นำทีมบราโว่มาจู่โจม แต่โภคัยกับแทมมี่ก็พาปราบหลบหนีลอยนวลไปได้อีก ธานีเป็นห่วงปรากรมกับลูกทีมอีกชุดที่แยกมาที่เซฟเฮาส์ จึงนำกำลังมาสมทบ แต่ไม่สามารถช่วยชีิวิตปรากรมได้
ปรากรมตายพร้อมลูกนัท ลูกน้องผู้จงรักภักดีของปราบที่พลีชีพกดระเบิดเซฟเฮาส์ทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานสิ่งผิดกฎหมาย ข่าวการตายของปรากรมแพร่กระจายตามสื่อต่างๆ พวกธนุสเห็นแล้วพากันเศร้าใจ เสียดายเพื่อนร่วมอุดมการณ์
ลำเพากับมาลีทราบข่าวนี้เช่นกัน พวกเธอพยายามจะบอกพลายแต่เขาเก็บตัวในห้องไม่ให้ใครพบเพราะยังคิดมากหลังจากมีเรื่องระหองระแหงกับลำเพาเมื่อคืนก่อน...
ด้านปราบ โภคัย และแทมมี่พากันหลบไปกบดานที่โกดังร้างซึ่งขังอาคมกับพิมพ์จันทร์ไว้ ปราบมั่นใจว่าที่นี่ ปลอดภัย ถึงจะสกปรกและรกร้าง แทมมี่แนะนำว่าเราน่าจะหนีออกนอกประเทศ แต่ปราบไม่เล่นด้วย
“ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นจนกว่าข้อมูลในฮาร์ดดิสก์จะถูกทำลาย พวกแกยังเก็บโทรศัพท์ของนังพิมพ์จันทร์กับไอ้อาคมอยู่หรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ”
“งั้นไปถ่ายรูปพวกมันสองคนแล้วส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม บอกให้พวกมันเอาฮาร์ดดิสก์มาแลกกับชีวิตเพื่อนของมัน”
แทมมี่รับคำสั่งแล้วปฏิบัติทันที ไม่นานนักพวกธนุสก็เห็นข้อความทางไลน์กลุ่มให้เอาฮาร์ดดิสก์มาแลกกับชีวิตอาคมและพิมพ์จันทร์ แต่ยังไม่มีการนัดเวลากับสถานที่
“ถ้ามันต้องการฮาร์ดดิสก์ก็ต้องให้มันไป แต่ก่อนให้ไปเรา BACK UP ข้อมูลเอาไว้ก่อนได้ไหม”
“ได้ครับ แต่ข้อมูลอาจจะไม่สมบูรณ์ เพราะไฟล์บางไฟล์มันเขียนโปรแกรมเอาไว้ให้ก๊อบปี้ได้แค่ครั้งเดียว ซึ่งเราก็ใช้สิทธิ์นั้นมาแล้วตอนที่ก๊อปจากมาสเตอร์”
“ถ้ามันจะเอาฉบับก๊อปก็ให้มันไปเถอะครับ วันหลังเราค่อยหาวิธีไปชิงเอามาสเตอร์มาเป็นของเราดีกว่า”
“รู้เหรอคะว่าฮาร์ดดิสก์ตัวมาสเตอร์อยู่ที่ไหน”
นำพลพยักหน้าแต่ยังไม่เล่ารายละเอียดออกมา เพราะที่นี่ไม่เหมาะสมกับการพูดความลับ นำพลพาพวกธนุสออกไปคุยกันข้างนอก แต่ไม่ยอมให้ยุวดีไปด้วยอย่างเด็ดขาด
นำพล ธนุส คริสติน่า และดิลกนั่งรถไปจอดที่ชายหาดห่างไกลจนแน่ใจว่าแถวนี้ไม่มีเครื่องดักฟัง นำพลเล่าเหตุการณ์คืนก่อนที่เห็นยุวดีนัดลูกน้องเพื่อมาเอาฮาร์ดดิสก์แต่โดนสตีเว่นแย่งไป เหตุนี้ทำให้เขาไม่วางใจยุวดี
“เรื่องที่นายเล่ามา ฉันกับคริสติน่าก็พอรู้มาบ้าง ยุวดีมาติดสินบนฉันด้วยเงินสองล้านบาทเพื่อแลกกับรหัสแล้วก็ไกปืนทองคำ”
คริสติน่าตั้งข้อสังเกตว่าทำไมยุวดียังต้องการไกปืนทองคำ ทั้งๆที่มันไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ธนุสบอกว่าเรื่องนี้ตนเคยถามยุวดีแต่เธอไม่ยอมบอกความจริง
ดิลกฟังแล้วเริ่มเป็นห่วงดลฤดี นำพลเห็นด้วย เพราะเวลานี้ดลฤดีกับหลุยส์กำลังช่วยกันถอดรหัส แล้วยุวดีก็นั่งอยู่ใกล้ๆ ซึ่งพวกเราไม่ควรปล่อยให้เป็นแบบนี้ ธนุสจึงวางแผนแยกยุวดีออกห่างเพื่อความปลอดภัยของสองคนนั้น
ooooooo
ธนุสวางแผนเพื่อแยกยุวดีออกจากกลุ่มของตนด้วยการจัดฉากว่าตัวเองทะเลาะกับคริสติน่าเรื่องความรักที่เพิ่งจะเริ่มต้น แล้วชวนนำพลกับดิลกเข้ากรุงเทพฯเพื่อตกลงกับปราบเรื่องช่วยพิมพ์จันทร์กับอาคม
ยุวดีหลงกลขอไปกับพวกธนุส ส่วนคริสติน่ากับดลฤดียังอยู่กับหลุยส์ที่ร้านนี้ต่อ ด้านพิมพ์จันทร์กับอาคมที่โดนคุมขังก็พยายามหาทางหนีแต่ยังไม่สบโอกาส เพราะโภคัยให้ลูกน้องเฝ้าไว้ตลอดเวลา หนำซ้ำวันนี้ปราบยังให้โภคัยพาพิมพ์จันทร์มาให้ลูกน้องตบตีทำร้ายร่างกาย โดยที่อาคมหมดทางช่วยเหลือ
พวกธนุสจับทางมาตามพิกัดที่ปราบให้ กอปรกับยุวดีจำเส้นทางนี้ได้ว่าไปโรงงานร้างของปราบ ทำให้ถึงจุดหมายปลายทางเร็วกว่าที่คิด
ธนุสกับยุวดีลงรถที่หน้าโรงงาน ฝ่ายนำพลกับดิลกนั้นลงไปก่อนหน้านี้แล้วเพื่อดูลาดเลาและหาทางช่วยเหลือหากมีเหตุไม่ชอบมาพากล แทมมี่เห็นยุวดีก็รีบเข้ามารายงานปราบให้รู้ตัว ปราบโมโหมากที่ยุวดี
กล้ามาถึงที่นี่ เขาเดินนำโภคัยกับลูกน้องกลุ่มหนึ่งออกไปเผชิญหน้า ถามอดีตภรรยาว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือแผนของเธอกับชู้รักใช่ไหม
“มันก็ไม่เชิงนะปราบ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับแดน เขาเรียกกันว่าพรหมลิขิตต่างหาก”
“แพศยา!”
“โกรธหรือคะ ขอโทษด้วยที่ฉันไปเจอผู้ชายที่หนำใจกว่า ทีเด็ดมากกว่า คนลีลาไม่ถึงอย่างคุณก็เลยต้องถูกกำจัด”
ยุวดีหัวเราะเยาะเสียงดังด้วยความสะใจ ในขณะที่ปราบโกรธจัดชักปืนจะยิงเธอ ธนุสตวาดห้ามทันที
“เดี๋ยว! ถ้ายังอยากได้ฮาร์ดดิสก์อยู่ล่ะก็...เก็บปืนซะ”
“แล้วฮาร์ดดิสก์อยู่ไหน”
ธนุสดึงฮาร์ดดิสก์ออกมาโชว์ พวกโภคัยกระชับปืนเตรียมพร้อมยิง เพียงแต่รอคำสั่งจากปราบ
“ถ้าคิดจะยิงฉันทิ้งล่ะก็ทบทวนให้ดี ถ้าไม่เหนือกว่าฉันคงไม่บุกเข้ามาแบบนี้แน่นอน...จำข้อตกลงของเราได้ใช่ไหม ถ้าอยากได้ฮาร์ดดิสก์ก็เอาพิมพ์จันทร์กับอาคมมาแลก”
“ก็ได้ แต่ฉันจะให้นังพิมพ์จันทร์ไปแค่คนเดียวจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าฮาร์ดดิสก์เป็นของจริง ฉันถึงจะปล่อยไอ้อาคม”
หลังจากตกลงกันแล้ว โภคัยสั่งลูกน้องไปแก้มัดเชลยที่อยู่ข้างใน แต่ปรากฏว่าเวลานั้นพิมพ์จันทร์กับอาคมแก้มัดให้ตัวเองได้แล้วและกำลังจะหนี
พิมพ์จันทร์ไม่รอให้เป็นรอง เธอยิงสกัดพวกมันเพื่อให้อาคมหนีไปก่อน แล้วตัวเองค่อยตามมาสมทบ ลูกน้องปราบสู้ไม่ได้จึงวิ่งกลับออกมาหน้าโรงงานรายงานเจ้านาย
พวกปราบรีบเข้าไปดูข้างในและสามารถสกัดพิมพ์จันทร์กับอาคมไว้ได้ แต่แล้วเพราะความกล้าบ้าบิ่นของอาคมทำให้เขาพาพิมพ์จันทร์หนีออกจากโรงงานไปได้ แต่พวกโภคัยก็ยังไล่ล่าไม่ลดละ
ooooooo










