ตอนที่ 1
ธนุส นิราลัย หรือแดน...เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับบราโว่ รูปหล่อ มีเสน่ห์ เก่งการต่อสู้ทั้งมือเปล่าและอาวุธทุกชนิด วันนี้เขากับเพื่อนร่วมทีมพากันบุกรังโจรภายในตึกร้าง
การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้อยู่ในสายตาของพลโทอัศวิน ผู้บังคับบัญชาการหน่วยบราโว่ จากกล้องติดตัวลำเพา หญิงสาวหนึ่งในทีมปฏิบัติงาน
แม้ลำเพาจะเป็นผู้หญิงแต่ก็เก่งในเรื่องการต่อสู้ ลักษณะเธอคล้ายทอมบอย แต่ความจริงเธอเป็นผู้หญิงเต็มร้อยและเป็นแฟนกับธนุส จนฝ่ายชายคิดว่าความรักสุกงอมจึงตั้งใจขอเธอแต่งงานหลังเสร็จภารกิจในวันนี้
ภารกิจจับโจรร้ายเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะมีระเบิดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทีมของธนุสต้องวางแผนรัดกุมเพราะมีลำเพาเป็นตัวประกันอยู่ในมือโจร
พลาย สายลับหนุ่มซึ่งอยู่ในทีมของธนุสหาทางเข้าถึงตัวลำเพา เขาแอบหลงรักเธอถึงขนาดยอมเสี่ยงชีวิตเข้าช่วย โดยมีแดนใช้เครื่องร่อนบินมารับลำเพาไปจากยอดตึก พลายตามออกมาด้วยเครื่องร่อนเช่นกัน เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไล่หลังมาติดๆ
เช้าวันถัดมา ธนุสนำทีมเพื่อนฝูงและแฟนสาวไปที่สนามบีบีกัน เล่นสนุกซุ่มต่อสู้กันตามมุมต่างๆของฐาน คู่ต่อสู้ของลำเพาประกอบด้วย นำพล ดิลก พิมพ์จันทร์ ทั้งสามคนทำงานเป็นสายลับนอกราชการ ขณะที่อาคมเคยเป็นพลทหารแล้วขอมาทำงานรับใช้นำพลและสนิทกับทุกคน ซึ่งทุกคนเคยเป็นลูกน้องเก่าของธนุสมาก่อนจึงรู้จักสนิทสนมกับลำเพาด้วย
ลำเพาเป็นผู้ชนะในเกมการแข่งขัน ขณะที่เธอชักธงแห่งชัยชนะขึ้นสู่เสา ปรากฏว่ามีแหวนวงหนึ่งหล่นลงมาจากปลายเสา ไหลเลื่อนตามเส้นเชือกลงมาหยุดที่มือของเธอ
หญิงสาวมองแหวนด้วยความแปลกใจ พลันเห็นปลายปืนบีบีกันจ่ออยู่ข้างหลัง เธอตกใจเล็กๆ แต่แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มแป้นเมื่อเห็นชัดว่าคนถือปืนคือธนุสนั่นเอง
“ถ้าไม่อยากตายก็ส่งแหวนแล้วยื่นมือมา”
ลำเพาอมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ยื่นมือส่งแหวนไปก่อนจะขัดขืนแย่งแหวนคืน สองคนต่อสู้กันไปมาแต่ไม่จริงจัง ออกแนวหยอกล้อประสาคนรักเสียมากกว่า แล้วสุดท้ายลำเพาก็ยื่นมือให้ธนุสสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย ตามด้วยจูบหน้าผากเธออย่างทะนุถนอม
นำพล ดิลก อาคม พิมพ์จันทร์ ดาหน้าออกมาปรบมือพร้อมดึงสายรุ้งและโปรยกระดาษหลากสีสันให้กับคู่รัก ทุกคนยิ้มแย้ม บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข แต่พลายที่แอบมองอยู่อีกมุมหนึ่งของสนาม สายตาของเขาปวดร้าวเพราะแอบหลงรักลำเพามานาน
ธนุสกับลำเพาเดินหัวเราะต่อกระซิกนำทีมออกจากสนามมาที่ลานจอดรถเพื่อไปสังสรรค์ต่อ ธนุสขอเป็นเจ้ามือใครอยากกินอะไรวันนี้เลี้ยงเต็มที่ พิมพ์จันทร์เสนออาหารญี่ปุ่น แต่ดิลกกับอาคมขอเป็นอาหารอีสานแซ่บๆ นำพลเอาด้วย ก็เลยเป็นสามต่อหนึ่ง ธนุสจึงให้ลำเพาตัดสินใจ
“โหวตกันขนาดนี้ ลำเพาจะเปลี่ยนได้ไง อาหารอีสานจัดเต็ม!”
ขณะที่ทุกคนกำลังเฮฮามีความสุขอยู่นั้น จู่ๆพลายเดินเข้ามาบอกลำเพาให้ตามตนมา เสธ.เรียกตัวด่วน ลำเพาอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไร แต่พลายก็ตอบไม่ได้ ให้ไปคุยกับเสธ.เอง
พลายเปิดประตูรถแล้วผายมือ ลำเพาจำใจขึ้นรถไปโดยมีสายตาของธนุสมองตามด้วยความสงสัย
“คงไม่มีอะไรหรอกหัวหน้า คงแค่เรียกไปสอบข้อมูลเรื่องแก๊งเครื่องร่อนนั่นแหละ” นำพลคาดเดา
“แต่ผมสังหรณ์ใจ”
คำพูดของธนุสเล่นเอาทุกคนชะงักไปนิด แต่เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศดิลกจึงเสนอให้พวกเราไปรอที่ร้านก่อน ลำเพาเสร็จธุระจะได้ตามไป...
ooooooo
บรรยากาศภายในรถพลายอึดอัดพิกล สองคนไม่พูดอะไรกันตั้งแต่ออกจากสนามบีบีกัน พลายชำเลืองมองลำเพาหลายครั้งก่อนตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาหลังจากนั่งเงียบอยู่นาน
“แดนขอคุณแต่งงาน?”
“คุณเห็นด้วยเหรอ”
“คุณอยู่ในสายตาผมเสมอ”
“แต่พลายคะ...”
“ครับ...ผมรู้ว่าคุณไม่ได้รักผม แต่ผมอยากจะบอกกับคุณว่า...ผมห้ามตัวเองให้หยุดรักคุณไม่ได้”
“ฉันรู้ว่าคุณดีกับฉันมาตลอด แต่เรื่องของเรามันคงเป็นไปไม่ได้”
“แล้วถ้าตัดแดนออกไป คุณจะรักคนอย่างผมบ้างได้ไหม”
“คุณเป็นคนดี ดีมากๆ แต่เรื่องหัวใจฉันบังคับมันไม่ได้จริงๆ”
พลายอกหักหน้าเศร้าทันใด ลำเพารู้สึกเห็นใจกับความเป็นคนดีของพลาย แต่ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันเพราะเธอรักธนุสคนเดียว
สองคนนั่งเงียบกันไปตลอดทางจนกระทั่งถึงสำนักงานหน่วยบราโว่ซึ่งอยู่ในตึกทำงานย่านธุรกิจทันสมัย โดยหน่วยงานนี้พรางตัวให้เหมือนเป็นบริษัทธุรกิจ ใช้ชื่อว่าบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลล็อปเม้นต์ (ประเทศไทย) จำกัด พนักงานทุกคนในบริษัทแต่งตัวปกติ ไม่แสดงภาพลักษณ์ที่แท้จริงให้คนทั่วไปทราบ
พลายกับลำเพาเดินเข้ามาผ่านมุมต้อนรับมุ่งสู่ด้านใน สาวสวยแผนกต้อนรับมองทั้งคู่เดินผ่านไปแล้วยกโทรศัพท์ติดต่อภายในแจ้งบอสว่านักธุรกิจที่นัดไว้มาแล้ว
เมื่อมาหยุดหน้าห้องทำงานใหญ่ พลายกับลำเพาสบตากันครู่หนึ่งก่อนเปิดประตูเข้าไปเห็นพลโทอัศวิน หรือเสธ.อัศวินยืนหันหลังรออยู่ ทั้งคู่ตบเท้าทำความเคารพแบบทหาร
“ผมพาลำเพามารายงานตัวแล้วครับ”
อัศวินหันกลับมามองทั้งคู่แล้วเอ่ยปาก “ขอโทษที่ขัดจังหวะความสุขของพวกคุณ”
“เสธ.มีอะไรให้รับใช้คะ”
อัศวินไม่ตอบแต่บอกให้พลายออกไปก่อน พลายทำความเคารพแล้วกลับออกไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ได้ยินว่าคุณกำลังจะแต่งงานกับแดน” อัศวินยิงคำถามจนลำเพาคาดไม่ถึง
“ข่าวมาถึงไวจังนะคะ แดนเพิ่งขอฉันแต่งงานเมื่อกี้นี้เอง”
“แดนเขารอที่จะขอคุณแต่งงานหลายครั้งแล้ว แต่ติดที่คุณยังไม่เสร็จภารกิจ”
“เสธ.ทราบ”
“ผมอ่านเขาออก ผมรู้ว่ายังไงวันนี้เขาต้องขอคุณแต่งงานแน่ๆ แต่น่าเสียดาย”
“เสียดายอะไรคะ”
“ถ้าคุณตัดสินใจแต่งงานกับเขา ความช่วยเหลือที่รัฐบาลต่างประเทศขอมาก็คงเป็นหมัน”
“เสธ.มีจ๊อบใหม่มาแล้วเหรอคะ”
“ใช่ ทางต่างประเทศอยากได้ผู้หญิงไทยปลอมตัวเข้าไปในแก๊งมาเฟียใหญ่เพื่อล้วงข้อมูลทุจริตของนักการเมืองไทย งานนี้สายลับคนอื่นยังไงก็คุณสมบัติสู้คุณไม่ได้ บางทีผมคงต้องปฏิเสธจ๊อบนี้ไป”
อัศวินสีหน้าเคร่งเครียด ขณะที่ลำเพาฟังแล้วคิดหนัก ลังเลระหว่างความรักกับงาน
ooooooo
เวลาเดียวกันนั้นที่ร้านอาหารอีสาน กลุ่มของธนุสกำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารรสแซ่บและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งโทรศัพท์ธนุสดังขึ้นทุกคนจึงเงียบเสียงลงให้ธนุสรับสายจากลำเพา
“ว่าไงลำเพา พวกเรารอกันอยู่ที่ร้านแล้วนะ”
“แต่ฉันคงไปไม่ได้แล้วค่ะแดน พอดีมีธุระกะทันหันต้องรีบไป”
ธนุสหน้าเสีย ถามคนรักว่าเสธ.เรียกไปพบเรื่องอะไร ลำเพาปกปิดว่าไม่มีอะไรและไม่เกี่ยวกับเสธ. ธนุสสงสัยแต่ไม่เซ้าซี้ พูดก่อนวางสายว่า “ถ้างั้นโทร.มานะ ผมจะรอ”
ลำเพาน้ำตาคลอเพราะการโทรศัพท์ครั้งนี้คือการสั่งลา เธอต้องบินด่วนไปปฏิบัติภารกิจลับที่ต่างประเทศ ไม่มีกำหนดกลับโดยที่ไม่มีใครรู้แม้แต่ธนุส
ตัดสายจากเขาแล้วลำเพาถอดซิมทิ้งถังขยะทั้งน้ำตา อัศวินยืนอยู่ข้างหลัง ลึกๆรู้สึกเห็นใจ แต่ที่ต้องพรากธนุสกับลำเพาออกจากกันก็เพราะเสียดายไม่อยากสูญเสียสายลับฝีมือดีไปเพราะการแต่งงาน
อัศวินเตรียมพร้อมเรื่องการเดินทางไว้ให้ลำเพาแล้วโดยมอบหมายให้พลายขับรถไปส่งเธอที่สนามบินพร้อมกำชับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้เด็ดขาดโดยเฉพาะแดน
“รับทราบครับผม”
“ฉันสัญญาค่ะ ว่าจะไม่ติดต่อกับใครอีก แดนจะไม่มีวันรู้เด็ดขาดว่าฉันหายไปไหน”
“ขอบคุณมากที่คุณเสียสละ”
ลำเพาทำความเคารพแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมพลาย ระหว่างทางที่ลำเพาขอแวะไปเก็บข้าวของที่คอนโด พลายอยากรู้ทำไมเธอตัดสินใจแบบนี้ ลำเพาตอบสั้นๆว่าตนมีเหตุผลของตน และบางทีนี่อาจเป็นภารกิจสุดท้าย
“หลังจากเสร็จภารกิจ คุณจะลาออกงั้นเหรอ”
“เปล่า ฉันอาจตายก่อนเสร็จภารกิจ”
พลายตกใจเบรกรถทันที พูดจริงจังว่าตนไม่ปล่อยให้เธอตายเด็ดขาด และขอให้เธอสัญญาด้วยว่าเธอจะต้องไม่ตาย ลำเพาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแต่ก็รับปากเขาไป...
ooooooo
หลังอาหารมื้อนั้น ธนุสพยายามโทร.ติดต่อ
ลำเพาแต่ไม่สำเร็จเพราะปิดเครื่อง ดิลกเชื่อว่าเรื่องนี้อัศวินต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง ธนุสจึงโทร.หาเขา
อัศวินไม่รับสายปล่อยให้โทรศัพท์ดังต่อเนื่องยาวนานจนกระทั่งเงียบหายไปเอง ธนุสกับพรรคพวกร้อนใจรีบไปที่ห้องพักลำเพาในคอนโด เคาะประตูห้องเรียกอยู่นานแต่ไม่มีเสียงตอบรับ พิมพ์จันทร์จึงไปสอบถามแม่บ้านและได้ความว่าลำเพามาเก็บสัมภาระเมื่อตอนบ่ายแล้วขึ้นรถออกไป
ส่วนพลาย นำพลก็บอกว่าติดต่อเขาไม่ได้เหมือนกัน ไปดูที่ห้องก็ล็อกประตูไว้ ดิลกแนะนำให้บุกบ้านอัศวินแต่ธนุสบอกว่าไม่มีประโยชน์ คืนนี้เสธ.ไม่กลับบ้านแน่ พรุ่งนี้เช้าตนจะไปพบที่บริษัท
ธนุสทำเช่นนั้นจริงๆ เขาเข้าบริษัทแต่เช้าและได้พบอัศวินทั้งที่เจ้าตัวไม่เต็มใจ อัศวินบ่ายเบี่ยงไม่พูดความจริง กระทั่งถูกธนุสต้อนไปต้อนมาจนถึงทางตัน
“ก็ได้...ผมจะบอกคุณก็ได้ว่าลำเพามีภารกิจด่วนที่ต่างประเทศ”
“เสธ.ทำแบบนี้ได้ยังไง เสธ.ก็รู้ว่าผมกำลังจะแต่งงานกับลำเพา แล้วเสธ.ยังจะส่งลำเพาไปทำงานที่ต่างประเทศโดยไม่ปรึกษาผมสักคำ”
“มันจำเป็น เรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน แล้วก็เป็นความลับ ผมขอโทษที่ต้องตัดสินใจแบบนี้”
ธนุสสะกดอารมณ์โกรธถามว่านานแค่ไหน อัศวินท่าทีหนักใจ ตอบว่าไม่มีกำหนด
เท่านั้นเองธนุสโกรธจัดต่อว่าเสียงดัง “กี่ครั้งแล้วที่เสธ.ทำกับผมแบบนี้ ผมไม่เข้าใจว่าเสธ.ต้องการอะไรกันแน่”
“หน่วยงานบราโว่ตั้งขึ้นมาก็เพื่อความมั่นคงของชาติเป็นหลัก ทุกคนในหน่วยนี้ก็จะต้องคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักเหมือนกัน”
“พวกเราทำงานกับเสธ.มาหลายต่อหลายภารกิจ เสี่ยงตายแค่ไหนเราก็ไม่เคยเกี่ยง เราทุ่มเททุกอย่างก็เพื่อให้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลงไปด้วยดี แต่ผมก็คน ลำเพาก็คน ทำงานติดต่อกันมาสี่ห้าภารกิจแล้วพวกเราควรจะได้เวลาพักบ้าง สายลับคนอื่นที่ว่างอยู่มีอีกตั้งหลายคนทำไมเสธ.ไม่...”
“พอได้แล้วแดน หยุดก้าวก่ายการตัดสินใจของผม ผมเป็นหัวหน้าของคุณ สิ่งที่ผมตัดสินใจลงไปคุณไม่จำเป็นต้องรับรู้ถึงเหตุผล”
น้ำเสียงแข็งกร้าวของอัศวินทำให้ธนุสหยุดนิ่งครู่หนึ่งก่อนทำความเคารพแล้วเดินออกไปเขียนใบลาออกฝากพนักงานหญิงคนหนึ่งไว้ให้อัศวิน
เมื่ออัศวินได้รับใบลาออกของธนุสก็รู้สึกผิดหวังและเสียใจ บ่นตัวเองไม่น่าเดินเกมผิดเลย...
ooooooo
หลังลาออกธนุสเดินทางไปพักผ่อนที่ภูเก็ต แต่ที่นั่นทำให้เขาพบกับยุวดีภรรยาของรัฐมนตรีปราบ นักการเมืองชื่อดัง
ธนุสมาเพื่อพักผ่อนโดยแท้ ผิดกับยุวดีที่ตั้งใจมาเพราะต้องการความช่วยเหลือจากเขา หลังจากเธอแอบรู้ประวัติของธนุสมาก่อนแล้ว
ผู้จัดการโรงแรมให้การต้อนรับยุวดีเป็นอย่างดี คำนึงถึงความสะดวกสบายและปลอดภัย อีกทั้งยุวดีเองก็มีผู้ติดตามสองคน ดังนั้นใครจะเข้าใกล้เธอถือเป็นเรื่องยาก แต่กับธนุสแล้วเธอยอมให้เขาขึ้นลิฟต์โรงแรมมาด้วยกันตามลำพังอย่างมีไมตรี
ยุวดีเป็นฝ่ายชวนธนุสสนทนาและแนะนำชื่อของกันและกัน เมื่อรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของคนใหญ่คนโตธนุสก็อึ้งและวางตัวไม่ถูก
หลังจากยุวดีเข้าห้องพักได้ไม่นาน ปราบก็เดินทางมาถึงโรงแรมพร้อมโภคัย นายตำรวจติดตามนอกเครื่องแบบ ซึ่งก่อนหน้านี้โภคัยได้ส่งสมภพมาคอยจับตายุวดีจนบันทึกภาพการขึ้นลิฟต์สองต่อสองของเธอกับชายหนุ่มรูปหล่อไว้ได้
ปราบเจ้ายศเจ้าอย่างไม่พอใจการต้อนรับของทางโรงแรมที่แสนธรรมดา ไม่มีการติดป้ายหรือพิธีรีตองอะไรเลย เขาตำหนิผู้จัดการไปหลายคำก่อนจะอารมณ์เสียยิ่งขึ้นอีกเมื่อโภคัยนำรูปถ่ายจากสมภพมาให้ดู
“คุณยุวดีเข้าไปในลิฟต์กับผู้ชายคนนี้ ใช้ชื่อว่าธนุสตอนลงทะเบียนที่เข้าพัก ระบุอาชีพเป็นนักธุรกิจ”
ปราบรับข้อมูลนั้นด้วยความหึงหวง ตรงไปที่ห้องพักยุวดี ถอดเสื้อสูทโยนใส่เธอและถอดกางเกงทิ้งเรี่ยราดบนพื้นก่อนเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวไปดินเนอร์ กับเธอตอนหนึ่งทุ่ม
ยุวดีไม่พอใจแต่ยืนนิ่งหน้าชาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทันทีที่ได้ยินเสียงเขาอาบน้ำจึงรีบค้นเสื้อสูทและกระเป๋ากางเกงเพื่อหาอะไรบางอย่าง เมื่อไม่พบสิ่งที่ต้องการก็เลิกสนใจเดินออกจากห้องไป
สมภพคนของโภคัยในชุดพนักงานโรงแรมลอบเดินตามยุวดีไปถึงชายหาด เพียงไม่นานเธอก็รับสายจากปราบด้วยความประหลาดใจ ขณะส่องกล้องทางไกล ดูธนุสวิ่งจ๊อกกิ้งเหงื่อโซมกาย
“เป็นไง แอบมองผู้ชายร่างกำยำ เหงื่อชุ่มๆ กล้ามแน่นๆ แล้วมันเร้าอารมณ์ดีใช่มั้ย”
ยุวดีตกใจที่ปราบรู้ความเคลื่อนไหวของตน เธอหันมองรอบตัวเพราะคิดว่าเขาอาจอยู่ใกล้ ถามกลับไปอย่างหงุดหงิดว่าจะเอายังไงก็ว่ามา
“มาที่ห้องอาหาร ผมหิว”
“แต่นี่ยังไม่ถึงเวลา”
“แต่ผมจะกินเดี๋ยวนี้” ปราบพูดเสร็จก็วางสาย ปล่อยยุวดีให้ตกอยู่กับความกดดันและคับแค้น
ooooooo
ภายในห้องอาหาร ปราบในชุดเรียบหรูนั่งอยู่กับยุวดีท่ามกลางอาหารทะเลดินเนอร์แนวยุโรป โภคัยยืนดูแลความเรียบร้อยอยู่ห่างๆ บริเวณใกล้เคียงถูกกันให้เป็นเก้าอี้ว่างไม่ให้แขกอื่นเข้ามานั่งใกล้ ทำให้แขกหลายคนหันมองโต๊ะวีไอพีด้วยความสนใจ
ปราบและยุวดีไม่สนใจสิ่งรอบข้าง นั่งกินอาหารกันอย่างเดียว กระทั่งปราบทำลายความเงียบเปรยว่าอาหารคงไม่ถูกปาก ท่าทางเธอดูไม่สดชื่นเอาเสียเลย ยุวดีหน้าตึงบอกว่าตนไม่ชอบอาหารฝรั่ง
เป็นเรื่องทันที! ปราบของขึ้นด่ายุวดีว่าไพร่ หญิงสาว ชะงักด้วยความโกรธแต่พยายามสะกดอารมณ์สวนกลับไปนิ่มๆ
“คุณไม่ชอบอาหารจีน งั้นฉันคงต้องเรียกคุณฮวนนั้งด้วยสินะ”
“แปลว่าอะไร”
“คนเถื่อน ไม่มีวัฒนธรรม ไม่ต่างจากคำว่าไพร่นักหรอกค่ะ”
“เธอกล้ามากนะ” ปราบส่งสายตาอาฆาตเชิงข่มขู่แล้วยิ้มร้าย เพราะยุวดีเปรียบเหมือนลูกไก่ในกำมือของเขา
ธนุสเดินเข้ามาในห้องอาหารมองหาที่นั่ง พนักงานคนหนึ่งรีบเข้ามาเชิญไปอีกมุมเพราะตรงนี้กันไว้สำหรับพื้นที่ความปลอดภัยของท่านรัฐมนตรี ธนุสรับฟังและมองไปยังโต๊ะวีไอพีอย่างเข้าใจก่อนเดินออกไปโดยดี
หลังอาหารมื้อนั้น ธนุสออกไปเดินเล่นชายหาดยามค่ำคืน...ความรักและคิดถึงที่มีต่อลำเพายังคงไม่แปรเปลี่ยน เขาหยิบมือถือโทร.หาเธอแต่ไม่สามารถติดต่อได้เหมือนเคย
นับเป็นอีกหนึ่งในหลายร้อยครั้งที่ธนุสพยายามติดต่อลำเพาแต่ติดต่อไม่ได้เลย ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจมอยู่กับอารมณ์เศร้านั้นเอง ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังแว่วมา
“โอ๊ย...ฉันเจ็บนะ ปล่อย”
ธนุสตัดสินใจเดินตามเสียงนั้นไปท่ามกลางความมืด เห็นปราบพยายามปลุกปล้ำย่ำยียุวดีกลางชายหาดที่ปราศจากผู้คน ยุวดีสะบัดหนีแต่ปราบก็ตามเข้ามาตบจนเธอเซถลาล้มลงกับพื้นแล้วโถมตัวกอดจูบรุนแรง
“อย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ ฉันไม่ใช่โสเภณีที่คุณคิดจะทำอะไรก็ได้”
“แต่เธอเป็นเมียฉัน ทำไมฉันจะทำกับเธอไม่ได้”
“ให้เกียรติฉันบ้าง ทำไมต้องบังคับขืนใจฉันอยู่ตลอดเวลา”
“ก็เพราะฉันอยากให้เธอรู้ไงว่าเธอเป็นเมีย และคนเป็นเมียมันจะต้องมีหน้าที่อะไรบ้าง”
ยุวดีน้ำตาไหลพราก ขอร้องอย่าบังคับขืนใจตนอีกเลย ปราบหยุดความกักขฬะแต่บีบคางเธอแรง
“งั้นก็จำเอาไว้ว่าสิ่งสำคัญของคนเป็นเมียต้องทำก็คือต้องปกป้องผลประโยชน์ของผัว และอย่าทำให้ฉันโกรธ ไม่งั้นฉันฆ่าเธอแน่”
ฉาด! ยุวดีตบหน้าเขาสุดแรง ปราบชะงักแล้วตบกลับคืน จากนั้นเริ่มความกักขฬะอีกครั้ง...ธนุสยืนมองเหตุการณ์อยู่ห่างออกไป แล้วตัดสินใจหันหลังกลับโรงแรม ปล่อยให้เป็นเรื่องของสามีภรรยา
แต่แล้วในเช้าวันถัดมา ธนุสก็เจอกับยุวดีตรงสระน้ำ ชายหนุ่มมาว่ายน้ำอยู่ก่อน ส่วนยุวดีมาทีหลังราวกับตั้งใจ อยากเข้ามาพูดคุย
“เจอกันอีกแล้วนะคะคุณธนุส...มาทะเลทั้งที แต่กลับมาว่ายน้ำกันที่สระโรงแรมนะคะ”
“ทะเลกับชายหาดมีเอาไว้ชื่นชม สระว่ายน้ำเหมาะที่สุดสำหรับออกกำลังกายครับ”
“รูปร่างคุณดีมาก ท่าทางคงจะเป็นพวกบ้าพลัง ชอบออกกำลังกาย”
“ครับ ต้องทำทุกวันไม่งั้นนอนไม่หลับ”
“จะรังเกียจไหมคะ ถ้าฉันจะขอเชิญให้คุณมาเป็นเพื่อนร่วมทานข้าวด้วยกันสักมื้อ”
“ผมไม่รังเกียจหรอกครับ เพียงแต่ว่ามันไม่น่าจะเหมาะ เพราะว่า...คุณปราบสามีคุณ”
“เขากลับไปแล้วค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง พอดีฉันมีเรื่องบางเรื่องที่อยากจะขอคำปรึกษา”
ธนุสอึกอักลังเล ยุวดีมองออกรีบรวบรัดตัดความ “เอาเป็นว่าเจอกันเที่ยงตรงที่ห้องอาหารโรงแรมนะคะ ฉันขอตัว”
ยุวดีพุ่งตัวออกจากขอบสระว่ายน้ำไป ทิ้งให้ธนุสรู้สึกยุ่งยากใจเหมือนโดนมัดมือชก
ooooooo
เที่ยงตรงธนุสมาถึงห้องอาหาร ยุวดีขอบคุณเขาที่ให้เกียรติและเชิญมานั่งโต๊ะที่เธอสั่งอาหารไว้แล้ว
“ขออนุญาตนะคะที่ฉันโทร.มาสั่งอาหารโดยไม่ได้ปรึกษาคุณ แต่ถ้าเมนูพวกนี้ไม่ถูกใจก็รบกวนคุณธนุสสั่งใหม่ได้เลย”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมทานได้ทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องสั่งใหม่”
“งั้นเราทานกันก่อนนะคะแล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน เชิญค่ะ”
สองคนเริ่มรับประทานอาหาร ธนุสมองสำรวจใบหน้าและเนื้อตัวของยุวดีก็พบร่องรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้ายและมีการลงรองพื้นปกปิดเอาไว้แต่ยังคงสังเกตเห็นได้ ท่าทางเธอดูไม่ร่าเริงคล้ายกับมีเรื่องวิตกกังวล
สมภพคนของปราบจับตามองเธอและเขาอยู่ในระยะแอบถ่ายภาพได้ ไม่ช้าปราบและโภคัยที่เพิ่งเดินทางออกจากโรงแรมไปสักพักก็เห็นภาพนี้ ปราบหึงหวงภรรยาคนสวย สั่งคนขับรถเลี้ยวกลับโรงแรมทันที
ยุวดีเริ่มต้นสนทนากับธนุสด้วยการขออนุญาตสอบถามอาชีพของเขา ธนุสไม่แน่ใจว่าเธอต้องการอะไรจึงปกปิดตัวตน โกหกว่าทำงานเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิคให้กับบริษัทนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศ
“ขอโทษด้วยนะคะที่ต้องถาม พอดีฉันกำลังมีเรื่องเดือดร้อนที่ต้องการความช่วยเหลือ”
“มีอะไรให้ผมช่วยครับ”
“คือฉันรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในอันตรายและอาจเสียชีวิตได้ แต่ฉันจะบอกคุณไม่ได้ว่าอันตรายอะไร และจากใคร”
“บอกไม่ได้ว่าอันตรายอะไร และจากใคร...แล้วจะให้ผมช่วยได้ยังไงครับ แล้วความจริงเราก็แค่รู้จักกันแค่วันเดียวเท่านั้น ทำไมคุณคิดว่าผมจะช่วยคุณได้ล่ะครับ”
“ก็เพราะคุณเป็นคนเดียวที่ฉันรู้จักที่นี่ ฉันจึงต้องรีบขอความช่วยเหลือจากคุณก่อนที่ฉันจะเป็นอะไรไป ได้โปรดเถอะค่ะ อย่าปฏิเสธคำขอของฉันเลย ฉันขอร้อง”
“คุณต้องการให้ผมช่วยเหลืออะไร”
“ฉันอยากจะฝากของให้คุณเก็บเอาไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วเมื่อพ้นกำหนดแล้วหากฉันไม่เป็นอะไร ฉันก็จะขอของคืน แต่ถ้าฉันมีอันเป็นไปจริงๆอย่างที่สังหรณ์ใจ รบกวนให้คุณช่วยส่งของชิ้นนั้นให้ถึงมือผู้รับตามที่อยู่ที่ฉันให้ไว้ด้วยได้ไหมคะ”
“แต่ผมคิดว่าถ้าคุณบอกความจริงที่เกิดขึ้นให้ผมได้รับรู้บ้าง บางทีผมอาจช่วยคุณได้นะครับ”
“อย่าให้ฉันต้องทำแบบนั้นเลยค่ะ เพราะเรื่องนี้ฉันแค่อุปาทานไปก่อน ซึ่งถ้ามันไม่เกิดขึ้นจริงๆ คนอื่นอาจจะเดือดร้อนได้”
“ก็ได้ครับ ผมจะไม่เซ้าซี้ เอาเป็นว่าจะให้ผมเอาของไปส่งที่ไหนเมื่อไหร่ครับ”
ยุวดีหยิบซองสีน้ำตาลปิดผนึกอย่างดีออกจากกระเป๋าส่งให้เขา “ภายในหนึ่งเดือนนับจากนี้ หากฉันมีอันเป็นไปจริงๆ คุณช่วยเปิดซองออกมาดูแล้วเอาของในซองนี้ไปส่งตามที่อยู่ด้านในนี้”
“แล้วถ้าคุณไม่เป็นอะไรล่ะครับ”
“ฉันจะติดต่อคุณและขอเอาของกลับคืนมา ว่าแต่คุณพอจะมีที่อยู่ติดต่อหรือว่านามบัตรหรือเปล่าคะ”
ธนุสชั่งใจเล็กน้อยก่อนหยิบนามบัตรบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลฯให้เธอไป ยุวดีมองเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ แต่แล้วสีหน้าเธอเปลี่ยนเป็นตื่นตะลึงเมื่อเห็นปราบเดินเข้ามาด้วยท่าทีฉุนเฉียว
ปราบไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เอาแต่หึงหวงพูดจาหยาบคายด่าว่ายุวดีและชายแปลกหน้า ธนุสทนไม่ไหวกับวาจาสบประมาทนั้น จึงเตือนอย่างสุภาพแต่กลับโดนปราบตวาดให้หุบปากแล้วจะชกหน้า แต่ธนุสไวกว่าหลบทันทำให้อีกฝ่ายเซถลาเกือบล้ม
ปราบโกรธและเสียหน้า ชักปืนจะยิงแต่พลาดท่าเสียทีโดนธนุสแย่งปืนมาถือไว้ โภคัยพุ่งเข้ามาใช้ปืนจี้ด้านหลังชายหนุ่ม สั่งห้ามขยับถ้าไม่อยากโดนระเบิดสมอง ธนุสจำยอมปล่อยให้เขายึดปืนคืนและค้นตัว โภคัยถามปราบว่าจะให้จัดการกับมันยังไง ยุวดีร้อนรนแทรกขึ้นมา
“คุณจะทำอะไรไม่ได้นะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เขาแค่นั่งกินข้าวกับฉันแค่นั้นเอง”
โภคัยขอดูบัตรประจำตัวอยากรู้ว่าเขามาจากไหน มาทำอะไรที่นี่ ธนุสส่งบัตรประชาชนให้ไปแต่ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ ทำให้โภคัยไม่พอใจหาว่าเขาอยากลองดี
“ลองหันไปมองรอบๆสิครับ ตอนนี้มีสายตาจากพยานแวดล้อมมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่หลายสิบคู่ แล้วบางคนก็ถ่ายคลิปเอาไว้แล้ว ถ้าคิดจะทำอะไรผม กรุณาคิดให้ดี”
ธนุสรีบดักคอไว้ก่อน ปราบเห็นแขกในโรงแรมจับตามองและเห็นบางคนกำลังแอบถ่ายคลิปจึงสั่งโภคัยให้ปล่อยไป และหวังว่าเขาจะไม่มายุ่งกับเมียตนอีก
“ผมก็หวังว่าเราคงจะไม่ต้องเจอกันอีกเช่นกัน” ธนุสสวนนิ่มๆแล้วเดินออกจากห้องอาหารไป ปราบมองตามชายแปลกหน้าด้วยสายตาอาฆาต
โภคัยเหลียวมองแขกอื่นที่ให้ความสนใจแล้ว
หาทางออกปกป้องชื่อเสียงเจ้านาย อธิบายว่าไม่มีอะไร ทุกอย่างเป็นความเข้าใจผิด พวกตนแค่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ท่านรัฐมนตรีเท่านั้น
ooooooo
เพียงเช้าวันถัดมาปราบก็ส่งสมภพไล่ล่าธนุสที่เช็กเอ้าต์ออกจากโรงแรมอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่เพราะฝีมือเก่งกาจบวกกับสติปัญญาชาญฉลาดทำให้ธนุสเอาตัวรอดหนีไปถึงร้านเหล้าของหลุยส์ที่เพิ่งเซ้งต่อจากเจ้าของเดิมเปิดขายเป็นวันแรก
ที่ร้านแห่งนี้ ธนุสได้รับความช่วยเหลือจากคริสติน่าซึ่งเป็นเพื่อนกับหลุยส์ ทำให้รอดเงื้อมมือพวกสมภพมาได้อย่างปลอดภัย ธนุสรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณหญิงสาวแต่เธอไม่ยอมบอกชื่อให้รู้ อ้างว่าเธอแค่แวะมาเที่ยว
อีกสองสามวันก็จะกลับ ถ้าเราต้องโคจรมาเจอกันอีกถึงจะบอก
สองคนลาจากกันด้วยความประทับใจ แต่คนที่เคียดแค้นและเจ็บใจคือปราบที่สมุนทำงานไม่สำเร็จ เขากำชับต้องตามเก็บธนุสให้ได้
ปราบร่ำรวยเพราะเบื้องหลังชั่วร้ายค้ายาเสพติดโดยอาศัยอำนาจทางการเมืองมาคุ้มครอง เขาเจ้าเล่ห์และเจ้าชู้พอๆกับความโหดเหี้ยม ยุวดีเอือมระอาความเจ้าชู้ของเขาที่เลี้ยงดูหญิงสาวหลายคน แต่ละคนมีเงินเดือนและอยู่คอนโดราคาแพง ซึ่งปราบจะแวะเวียนมาหาไม่เคยขาด
วันนี้พี่หอยโมเดลลิ่งชื่อดังของวงการบันเทิงพาไอรีณสาวสวยหุ่นดีมาเสิร์ฟปราบอีกคน แน่นอนว่าปราบชื่นชอบ ยิ่งฟังข้อมูลว่าสดซิงรักนวลสงวนตัว กำลังจะเซ็นสัญญาเป็นดารา เขายิ่งพึงพอใจ จัดหาห้องในคอนโดให้อยู่ร่วมชายคากับแบมผู้หญิงอีกคนของเขา
ยุวดีมีความกังวลบางอย่างซ่อนอยู่ และพักหลังเธอรู้สึกว่าปราบให้คนสะกดรอยตามตลอดเวลา อีกทั้งคำพูดคำจาของเขาก็เหมือนระแวงแกมข่มขู่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเธอตัดสินใจติดต่อไปยังธนุสที่เคยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือไว้
เธอโทร.ไปที่บริษัทตามนามบัตรที่เขาให้ไว้ จังหวะนี้อัศวิน พลาย และธานีกำลังรับข้อมูลของลำเพาที่ถูกส่งไปทำงานลับต่างประเทศว่าเหม่อลอยไม่มีกะจิตกะใจทำงาน พูดจาจับประเด็นไม่ได้ เมื่อมีสายโอนเข้ามาขอพูดกับธนุส พลายจึงรับแทน
ยุวดีแนะนำตัวเองและขอให้ธนุสติดต่อกลับตนด้วยเพราะกำลังเดือดร้อน พลายคุ้นนามสกุลของเธอ ครู่หนึ่งก็นึกได้ว่าน่าจะเป็นญาติของรัฐมนตรีปราบ ธานีสงสัยว่าธนุสลาออกจากบราโว่แล้วแต่ยังคงให้นามบัตรบริษัทเหมือนปกติ ขณะที่อัศวินคาดเดาว่าบางทีเรื่องนี้ต้องมีนัยอะไรพอสมควร ไม่เช่นนั้นธนุสคงไม่ตัดสินใจแบบนี้
ooooooo
ไม่ทันข้ามวันที่ยุวดีติดต่อหาธนุสแล้วยังไม่ได้คุยกัน เธอโดนอุ้มขึ้นรถตู้หายไปต่อหน้าสาวใช้ แล้ววันถัดมาหนังสือพิมพ์ก็ตีข่าวยุวดีภรรยารัฐมนตรีปราบถูกฆ่าตาย
ฝ่ายธนุสก็ถูกคุกคามจากมือที่มองไม่เห็น พลายกับธานีมาหาเขาถึงบ้านเป็นเวลาที่เกิดเรื่องพอดี หลังจากช่วยเล่นงานจนคนร้ายหลบหนีไปแล้ว สองหนุ่มซักถามธนุสก็ได้คำตอบว่าคงเป็นโจทก์เก่าตามมาเอาคืน แต่พลายกลับพูดโพล่งว่าอาจเป็นโจทก์ใหม่จากภูเก็ตตามมาเจอ
ธนุสหงุดหงิดคิดว่าพลายแอบสืบเรื่องของตน พลายอธิบายอย่างใจเย็นว่าบราโว่ไม่มีนโยบายตามสืบเรื่องส่วนตัวของลูกน้องเก่า เพียงแต่ว่าทางเสธ.อยากพบตัวเขา ตนเลยต้องหาข้อมูล
ด้วยความสงสัยว่าอัศวินอยากพบตนทำไม ธนุสจึงยอมไปพบและพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว อัศวินเกริ่นเรื่องลำเพาที่เปลี่ยนไป ประสิทธิภาพการทำงานของเธอ ลดลง ล่าสุดตนส่งคนไปสัมภาษณ์เพื่อทดสอบสภาพทางจิตใจ พบว่าเธอกำลังมีอาการทางประสาทและต้องการลาออก
ธนุสรับฟังด้วยความแค้นใจ การที่ลำเพาเป็นแบบนี้ก็เพราะอัศวินนั่นเอง
“แล้วเสธ.ต้องการอะไรจากผม”
“ผมอยากให้คุณกลับมาทำงานกับบราโว่อีก”
“เสธ.กำลังจะใช้ผมเป็นเครื่องมือเพื่อยับยั้งไม่ให้ลำเพาลาออก”
“ผมยอมรับว่าใช่ ผมไม่ต้องการสูญเสียบุคลากรดีๆ อย่างคุณกับลำเพาไป”
“จำไม่ได้เหรอครับว่าเสธ.เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมกับลำเพาต้องจากกัน”
“แต่ที่ผมทำแบบนั้นก็เพื่อบราโว่”
“แล้วไอ้องค์กรบราโว่ของเสธ.มันประกอบไปด้วยลูกน้องที่มีเลือดเนื้อ มีชีวิต มีความรู้สึกหรือเปล่า เสธ.ต้องการให้บราโว่อยู่รอดโดยไม่สนใจลูกน้องในองค์กรเลยว่าจะรู้สึกยังไง”
“บราโว่ถูกตั้งขึ้นมาก็เพื่อความอยู่รอดของชาติบ้านเมือง ทุกคนในองค์กรจะต้องมีสำนึกแห่งการเสียสละ”
“เพื่อชาติบ้านเมืองผมเสียสละได้ แต่ผมทำงานให้องค์กรมานาน ผมก็ควรจะมีสิทธิได้พัก ได้มีชีวิตส่วนตัวของผมบ้าง”
“แต่การแต่งงาน ใช้ชีวิตอย่างคู่ผัวตัวเมียมันจะทำลายคุณทั้งสองคน มันจะทำให้คุณกับลำเพามีห่วง มีภาระ มีเรื่องกังวลใจ ประสิทธิภาพการทำงานลดลง แล้วที่สุดมันก็จะนำพาให้พวกคุณตกอยู่ในอันตราย”
“นั่นมันเรื่องของผม”
“แต่เรื่องของคุณ มันมีผลต่อองค์กร มีผลต่อชาติบ้านเมือง ผมจะยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้”
“งั้นเสธ.ควรจะประกาศให้ทุกคนที่จะมาทำงานกับบราโว่รับรู้ตั้งแต่แรก ไม่ใช่มาทำแบบนี้กับพวกเรา”
ธนุสผลุนผลันออกจากห้องปิดประตูดังปัง ทิ้งให้อัศวินนั่งอึ้งรู้สึกเสียใจที่ทำร้ายความรู้สึกของธนุสและลำเพา แต่เขาก็มีจุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั่นคือการเสียสละเพื่อชาติ...
เมื่อกลับมาที่บ้านในคืนนั้น ธนุสเห็นข่าวทางทีวีรายงานว่ายุวดีถูกฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วนทิ้งตามที่ต่างๆ ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุอาจเกิดจากปัญหาการเมือง
ในภาพข่าวนักข่าวต่างรุมสัมภาษณ์ปราบที่สีหน้าเศร้าสร้อยเสียใจกับการตายของภรรยาสาว
“ก่อนหน้านี้ผมได้รับโทรศัพท์ข่มขู่จากนักการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม พวกเขาต้องการให้ผมหยุดลงพื้นที่หาเสียง โดยขู่ว่าจะฆ่าผมหรือไม่ก็ภรรยาให้ตาย ไม่นึกจริงๆว่าจะเล่นสกปรกกันแบบนี้”
“มีสายรายงานมาว่าคุณปราบกับภรรยามีปัญหากันระหว่างไปพักผ่อนกันที่ภูเก็ต เป็นความจริงไหมครับ”
“จริงครับ แต่นั่นก็แค่ปัญหาเล็กน้อยของคนเป็นผัวเมีย ไม่ได้มีอะไรรุนแรง เพราะความจริงแล้วผมรักภรรยาของผมมาก นึกไม่ถึงจริงๆว่าการเมืองจะทำให้ผมต้องสูญคนที่ผมรักที่สุดไป”
ให้สัมภาษณ์แล้วปราบบีบน้ำตาต่อหน้านักข่าว... ธนุสยืนดูข่าวนั้นด้วยความตกใจ นึกถึงเหตุการณ์ที่ยุวดีฝากซองเอกสารและสั่งให้นำไปส่งหลังจากเธอตาย
ด้วยความสงสัยอย่างยิ่ง ธนุสไปหยิบเอกสารนั้นมาเปิดอ่านข้อความที่ยุวดีกำชับต้องส่งจดหมายให้กับมือของนางเคลือบ รูปโอ...เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามที่อยู่ด้านล่าง
ooooooo










